สวัสดีครับ ทุกท่าน



จากหัวข้อกระทู้เลยครับ วันนี้จะขอมารีวิวทริปเปิดประสบการณ์ใหม่ ที่ เกาะเซบู ประเทศ ฟิลิปปินส์ 3 วัน 2 คืน รวมทุกอย่าง ไม่เกินคนละ 15,000 บาท ขอออกตัวก่อนนะครับว่าอันนี้เป็นกระทู้แรกในชีวิตเลย หากมีข้อผิดผลาดประการ ต้องขออภัยด้วยนะครับ



ไม่พูดพร่ำทำเพลง เราไปเริ่มกันเลยดีกว่าครับ สืบเนื่องมาจาก สายการบิน Cebu pacific จัดโปรโมชั่น ล่อตาล่อใจ เสือสิงห์กระทิงแรด ขาเที่ยวทั้งหลาย เส้นทางโปรโมชั่นรอบนี้ออกที่ กรุงเทพ - มะนิลา-กรุงเทพ (BKK-MNL-BKK) ในราคาไปกลับต่อคน คนละ 3,717 บาท บอกเลยเห็นโปรนี้แล้วเกิดกิเลสขึ้นทันที มือสั่นรัวๆ เริ่มแรกมองหาปฏิทิน หาวันหยุดยาวที่จะไม่ต้องลางานหลายวัน อ่ะอ่ะ นั่นไง เดือนกุมภาพันธ์ มีวันหยุดยาวนิ จะรออะไรอยู่ล่ะจัดการจองตั๋วเสร็จสรรพภายใน 5 นาที (ทั้งนี้ต้องขอบคุณ เพจ เพื่อนบอกโปร https://www.facebook.com/friendtellpro/?fref=ts) ที่มีโปรจากสายการบินมาแนะนำให้เราตลอด



มามาต่อกันเลย...เนื่องจากตั๋วโปรโมชั้นมีการกั๊กวันนีสนึง จึงทำให้เราได้ทริปนี้มาแค่ 3 วัน 2 คืน (20-21-22 ก.พ. 2559) แต่เวลาบินสวย ไปถึงเช้า ขากลับ กลับดึก หลังจากจองเสร็จแล้ว ก็มานั่งวางแผนว่าจะไปไหนดี เป็นไงล่ะ บอกแล้วมือลั่นเพราะโปรโมชั่นจริงๆ ไม่มีข้อมูลในสมองเลยว่าฟิลิปปินส์ มีอะไรน่าเที่ยว รู้แต่เพียงว่า ฟิลิปปินส์ เป็นประเทศที่มีเกาะเยอะแยะมากมาย ไม่รอช้า ใช้พี่ Goo ในการหาข้อมูลทันที แต่เนื่องจากในความสามารถของพี่ Goo ในการหาข้อมูล จึง pop up สถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เลือกไม่ถูกจะไปไหนดี เพราะมีให้เลือกเที่ยวครบ ทะเล ภูเขา ธรรมชาติ น้ำตก ดำน้ำ snorkeling แต่ที่เรามาสะดุดก็คือ ว่ายน้ำเคียงคู่กับฉลามวาฬ ตัวใหญ่ยักษ์ที่เมือง Oslob ซึ่ง ณ จุดตรงนี้ จึงเป็นที่มาของ ทริปนี้

รายละเอียการเดินทางของเรา ในทริปนี้


วันที่ 1, 20/02/2016

- 00.35 ออกเดินทาง จาก BKK - MNL เที่ยวบิน 5J 932 ถึง MNL 04.55 น.

- 08.20 ออกเดินทางต่อ จาก BKK - TAG (สนามบbo Tagbilaran ) เที่ยวบิน 5J 617 ถึงสนามบิน TAG 09.45 น.

- 10.00 One day trip Bohol โดยบริษัท Bohalrentacar

- 16.40 นั่ง Fast Ferry ของ จาก Tagbilaran มา ฝั่ง Cebu ( 2 ชม. ในการเดินทาง)

- 19.00 เข้าพักที่โรงแรมในเมือง เซบู Wellcome Hotel, Cebu city

วันที่ 2, 21/02/2016

- 03.30 One day trip Wacthing Whale Shark + Conyoneering Kawasan Falls (รถมารับเช้ามากเพราะต้องออกเดินทางไกล)

- 08.00 ว่ายน้ำกับฉลามวาฬ

- 09.00 Cool down ที่น้ำตก Tamalog Waterfalls

- 10.30 ออกเดินทางต่อไปที่น้ำตก Kawasan Fall

- 12.00 เตรียมตัวไปลุย Canyoneering ที่น้ำตก Kawasan Falls ( ใช้เวลา 4 -5 ชั่วโมง)

- 19.00 ถึงที่พัก นอน

วันที่ 3, 22/02/2016

เป็นวันที่ใช้เวลาหมดไปกับการนอน และเดินทาง ต่อเครื่องบินสิงต่อ เพื่อกลับกรุงเทพ

- 13.00 Check out ออกจากโรงแรม เดินทางไปสนามบิน Cebu

- 16.50 ออกเดินทาง CEB- MNL ด้วยสายการบิน Air Asia Zest เที่ยวบิน Z2-776

- 21.25 ออกเดินทาง MNL-BKK ด้วยสายการบิน Cebu Pacific เที่ยวบิน 5J 931

รายละเอียดทริป 3 วัน 2 คืน มีประมาณนี้ครับ ส่วนค่าใช่จ่ายทั้งหมด 15,000 บาท จะมาสรุปให้ท้ายกระทู้นะคับ เดียวมาต่อให้ครับการเดินทางของเรา เริ่มต้นที่ เกาะ Bohol

อย่างที่บอกไป ทริปนี้มีเวลาแค่ 3 วัน 2 คืน เราเลยปรึกษากับผู้ร่วมทริปของเรา (ซึ่งทริปนี้เราไปกันแค่ 2 คน) ว่าจะไม่เที่ยวเอง เหมือนที่ผ่านๆ มา เพราะหนึ่งเลยคืนแรกเราอดนอนมาทั้งคืน และมีเวลาที่จำกัด ไม่เหมาะกับการหลงทางแน่นอน ก็เลยตัดสินใจ หาข้อมูล เกี่ยวกับ Private tour แล้วส่งอีเมลล์ไปจอง โดยบอกรายละเอียดที่เราอยากไป แล้วให้เค้าจัดทริปมาให้ ซึ่งเราหาข้อมูลและส่งอีเมลล์ไปหลายที่อยู่เหมือนกัน สรุปก็มาเลือกของ Bohol rent A car http://boholrentacar.com/ ซึ่งถูกใจราคา private tour พร้อมคนขับ 1 วันเต็ม ราคา 2,000 เปโซ (คิดเรทเงินไทย ตอนที่แลกไป 1 เปโซ = 0.76 บาท) คิดเป็นเงินไทย สมเหตุสมผล ก็เลยจอง ข้อดuอีกอย่างคือไม่ต้องจ่ายเงินจองล่วงหน้าเลย ไปจ่ายวันเดินทางได้เลยเวลา 09.45 เครื่องลงที่สนามบิน Tagbilaran เครื่องบิน บินตรงเวลาเป๊ะ ไม่มีดีเลย์ Tagbilaran เป็นสนามบินที่เล็กมากๆ เหมือนสนามบินต่างจังหวัดบ้านเรา แต่บ้านเราดีกว่า เยอะ ความเห็นส่วนตัวนะคระบ


เวลา 10.00 คนขับรถมารอรับเราที่สนามบินพร้อมป้ายชูชื่อเรา คนที่ฟิลิปนส์พูดภาษาอังกฤษได้เกือบทุกคน แต่จะฟังยากนิดๆ แต่ถือว่าสื่อสารกันเข้าใจ จึงทำให้ทริปนี้ เราได้คนขับและไกด์ไปในตัวเลย



สถานที่แรกที่คนขับพาเราไป คือ blood monument ไกด์ของเราบอกว่า ที่นี้เป็นที่นิยม ใครจะมาที่นี้ ก็จะมักจะมาแวะที่นี้ก่อน อืมๆๆ ก็จริงอย่างที่เค้าว่า คนเยอะจริง แต่สำหรับเรา คือสนใจวิวทะเลด้านหลัง ที่เป็นหาด Plagloa น้ำทะเลสีสวยมาก บรรยากาศดีสุดๆ แต่เราก็ใช้เวลาที่นี้ แค่ 5 นาที เพราะทัวร์เกาหลี ทัวร์แขก ทัวร์อินโด ลง 555

มาๆ ต่อ สถานที่เราจะไปต่อไป คือ Loboc adventure Park นี่คือ High Light สำหรับเราเพราะเราอยากเล่น Zipline โหนสลิง ผ่านแม่น้ำ Loboc ซึ่งจากที่หาข้อมูลมา ราคาถูกถ้าเทียบกับบ้านเรา วิวสวย ตื่นเต้น และวัดใจมาก สำหรับนี้มี package ให้เลือกอยู่ 3 แบบ


1. ไป Zipline กลับ Zipline ราคา 350 เปโซ/คน

2. ไป Zipline กลับ Cable Car ราคา 350 เปโซ/คน

3. ไป Cable car กลับ Cable Car อันนี้ราคา ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 450 เปโซ/คน

ซึ่งเราเลือกแบบ ที่ 2 เพราะอยากเสียวแค่รอบเดียว ขากลับ เอาแบบสบาย นั่งชมวิว บน Cable car

วิวแม่น้ำ Loboc ด้านล่าง



มันสวดยอดมาก ...


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แคบรูปจาก วีดีโอ คุณภาพที่เห็นคือแย่มาก 55



ขากลับ ก็นั่ง Cable Car ชมวิวด้านล่าง แบบเสียว นิดๆ แต่ก็ไม่เท่ากับตอนอยู่นน Zipline



**หมายเหตุ** ที่นี้มีบริการถ่ายภาพ ซึ่งจะคิดค่าไลท์ CD 250 เปโซ แต่ถ้าจะให้ดี ควรมี action camera ติดไปด้วย คุณจะได้ภาพที่สุดยอดมาก ระหว่างที่คุณโรยตัวอยู่บน Ziplineหลังจาก ผ่านความเสียว 55 มาแล้ว เราก็จะไปทานข้าวกลางวัน ซึง่ไกด์ของเรา ก็จะพาเราไปทานที่ Loboc river cruise ฟังชือแล้ว ดูดี คงป็นเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยาแบบบ้านเราแน่เลย

เมื่อไปถึง มันคือเรือแพ ล่องแม่น้ำแควบ้านเรานี่เอง 55 แต่ทีน้ำใสมาก เป็นสีเขียวมรกตเลยอ่ะ

สำหรับอาหารกลางวันของเรามื้อนี้เป็นบุปเฟต๋ อิ่มไม่อั้น พร้อมมีดนตรีสดเล่นบนเรือ ตลอดระยอเวลา 1.30 ชั่วโมง ล่องไปตามแม่น้ำ Loboc


หน้าตาอาหาร มื้อนี้ รสชาติพอใช้ได้ ไม่ถึงกับอร่อยมาก แต่ก็ทานได้นะ เพราะบรรยากาศดีเลยกลบเรื่องอาหารไม่อร่อยมั้ง



ระหว่างทางที่เรือล่องไป เราจะบอกว่า เราชอบมาก บรรยากาศ วิว สวยสุดๆ และที่ประทับใจก็คือ จะมีสาวน้อยๆ จะมาเต้นร้องลำทำเพลง ระหว่างที่เรือเราล่องผ่าน

**ค่าใช้จ่ายสำหรับที่นี้ ค่าอาหาร 400 เปโซ/คน ค่าบริการเรือ 50 เปโซ /คน**ทานอาหารกลางวัน อิ่มหนำ กับบรรยากาศสวยๆ ไกด์ของเราก็พาเราออกเดินทาง ต่อ ซึ่งไปที่ไหนไม่รู้ เพราะเราบอกไกด์ anyway where you want to go คือเราจะนอน ร่างกายที่เราอดนอนมาทั้งคืน มันไม่ไหวแล้ว การเดินทางของเราไม่ได้ดูวิวข้างทางเลยว่าสวยขนาดไหน บ้านเมืองเป็นอย่างไร เพราะหลับตลอดทาง เดินทางไดสักพัก ไกด์ของเราก็ Excuse me sir !!! ถึงแล้ว อ่อๆๆ เครๆ ถึงแล้วเหรอ รู้สึกไม่อยากลงจากรถ กำลังหลับสบายเลย การมาเที่ยวที่ฟิลิปปินส์ ผู้ชายจะได้เป็น Sir ตลอดการเดินทาง ผู้หญิงก็จะ Madam คือบ้านเค้าเรียกให้เกียรติเราตลอด ไม่ว่าจะไปทางไหนก็ตาม อะเครเข้าเรื่อง สถานีต่อไปที่เรามาก็คือ Taพsier Conservation Area เราจะมาดูตัว Tarsier ถ้าสงสัยว่า Tarsier คือตัวอะไร กดอ่านได้ตาม link เลยครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%8C


คือตัวมันเล็กมากอ่ะ เล็กเท่ากำปั้นมือ เดินไปในป่า กว่าจะหาเจอ ที่เราเจอมี 3 ตัว ที่รู้ว่ามีเพราะจะมีคนมุงดูเยอะ รูปที่ถ่ายมาก็ซูมไปสุดพลังแล้วครับ

**ค่า้ช่าชม คนละ 60 เปโซ**มาต่อกันเลย สำหรับที่สุดท้าย ของวันนี้ ที่จริงไกด์ของเรา แนะนำจะพาเราไปอีกเยอะแยะ หลายที่ แต่ว่าเราไม่ไหวแล้ว คือเหนื่อยและง่วงมาก เลยขอให้เค้าพาไปที่สุดท้าย ก็คือ Chocolate Hill ภูเขารูปทรงนูนบ้าง แหลมบ้าง ต่างๆ นานา เรียงรายสลับกันไปมากันเป็นพันๆ ลูก เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ถ้ามาที่เกาะ Bohol แห่งนี้ ข้างบนอากาศค่อนข้างร้อน แดดแรง อย่าลืมอุปกรณ์กันแดดไปด้วย ถ้าอยากชมวิวแบบพาโนรามา ก็ต้องปีนบันไดขึ้นไป ซึ่งก็เหนื่อยเอาการอยู่นะ แต่ขึ้นไปแล้วคุ้มมาก รูปที่ถ่ายมาสวยไม่เท่าตาเห็นจริง มันทั้งแปลกและสวยมาก ธรรมชาติสร้างสรรค์สิ่งสวยงามรอบตัวเราอยู่เสมอ


** ค่าเข้าชมที่นี้ เค้าเก็บ คันละ 100 เปโซ** แนะนำให้ซื้อน้ำไปจากข้างล่าง ข้างบนขายน้ำแพงมาก Coke กระป่องล่ะ 50 เปโซ เลยอ่ะเสร็จจากที่นี้ เราก็ให้คนขับรถ ตรงไปที่ท่าเรือทันที ซึ่งจาก Chocolate hill ไปท่าเรือใช้เวลา 2 ชม. ได้ เพราะถนนส่วนใหญ่ที่นี้ เป็น 2 เลนส์ แคบๆ และตลอดทางมีการซ่อมแซมถนน สะพาน อยู่ไปจุดๆ เพราะเมื่อ 3 ปีก่อน ที่นี้เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 7.2 ริกเตอร์ จนมาถึงตอนนี้ ก็ยังซ่อมแซมไม่หมด ไกด์ของเราก็พยายามอธิบายให้เราฟังตลอด เราก็กึ่งหลับกึ่งตื่น ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง รู้เรื่องบ้างไม่รู่เรื่องบ้าง 55


เวลา 16.10 น. เราก็มาถึงที่ท่าเรือ Tagbilaran เพื่อข้ามไปยังเกาะ Cebu ซึ่งแพลนเดิมของเรา เราจะมาให้ทีนเรือรอบสุดท้ายก่อนเวลา 17.30 แต่พอมาถึงไม่อยากรอแล้ว เดินหาที่ขายตั๋วทันที รอบต่อไป ของเรือบริษัท Ocean Fast Ferry คือ 16.30

เราวิ่งซื้อตั๋วทันที ซึ่งตอนที่ขายตั๋ว ทางพนักงานก็จะถามเราว่าจะนั่งชั้นไหน มี Business Class, Tourist class และ Open air แต่ตอนเราซื้อว่าง Business Class ราคา 1000 เปโซ กับ Open air ราคา 400 เปโซ เท่านั้น สำหรับเราเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เพลียแล้ว ก็ต้องเลือกแบบที่ดีที่สุด นั้นคือ open air นะสิ ... !!!! ก็เราเน้นประหยัด open air นั่งไปแค่ 2 ชม. เอาก็เอาว่ะ เคยนั่ง Open air ไปเกาะพงัน เกือบ 3 ชม. ก็นั่งมาแล้ว แค่นี้ไหว สบายมาก พอซื้อตั๋วเสร็จเราต้องไป check in ที่เค้าเตอร์ก่อนนะครับเพื่อเลือกที่นั่ง โหลดกระเป๋า เหมือนขึ้นเครื่องบินเลยอ่ะ เช็คอินเสร็จ ก็ต้องไปจ่ายค่า Port Fee อีกคนล่ะ 20 เปโซ เหลือ อีก 10 นาทีเหลือจะออกแล้ว เราเลือกไม่โหลดกระเป๋า เพราะเคยเจอที่พงันตอนลง รอกระเป๋านานมาก เลยไม่โหลด อีกอย่างเรามีเป้แค่ใบเดียว สบายๆ อยู่แล้ว ผ่านคนตรวจตั๋ว ก็ต้องมาแสกนกระเป๋า แล้วก็ต้องไปให้ตรง Gate ที่จะ Boarding ผู้โดยสารด้วย เราก็ใส่เกียร์หมาวิ่ง ไปที่ขึ้นเรือสุดชีวิต กลัวไม่ทัน ไม่มีเวลาได้ถ่ายรูปเลย เสียดาย รีวิวได้แต่คำพูด นะครับ ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.oceanjet.net/fare-and-schedule แต่ถ้าใครมีแพลนและเวลาที่แน่นอน สามารถจองออนไลน์ไปก่อนได้ ราคาถูกกว่าซื้อที่เค้าเตอร์นิดหน่อยเวลา 19.00 น. เราก็เดือนทางมาถึง ท่าเรือ Cebu เช่นเคย ตลอดทางมา เราก็หลับแล้วก็เรา ที่นั่ง open air ค่อนข้างแคบ และนอนไม่ค่อยสบานเท่าไหร แต่โชคดี ที่นั่งไม่เต็มเลยไม่รู้สึกอึดอัดเท่าไร ที่นี้แหละจะไปโรงแรมยังไง อยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ ก็ต้องวัดใจหา Taxi แล้วล่ะ เราก็ใช้ step เดิมในการท่องเที่ยวต่างประเทศ หรือในไทย อย่าเรียกหรือหารถที่มาตามตื้อเรา หรือที่มาจอดรอรับคน เพราะพวกนี้ชอบชาร์จแพง เราก็เลยเดินออกมาจากท่าเรือไกลๆ หน่อย เพื่อเรียก taxi ซึ่งเอาจริงก็เป็นตรรกะที่ไม่ถูกต้องหรอก เพราะคราวนี้ เดินไปได้สักพัก เริ่มเหนื่อยล่ะ ไม่รู้จะเดินไปทางไหน ก็เลยแวะถามคนแถวข้างทาง แต่ที่ไหนได้ ไอ้คนข้างทางมันคือคนเชียร์ Taxi ตกหลุมพลางซะแล้ว มันก็จัดการเรียก Taxi ให้เรา ซึ่งเราคิดว่ามันไม่กดมิเตอร์แน่นอน เอาๆก็เอาว่ะ ดึกแล้ว เหรื่อยแล้ว ตกลงราคา 200 เปโซ ซึ่งTaxi บอกโรงแรมที่เราไปรถติดมาก กดเครื่องคิดเลขอยู่สักพักคิดเป็นเงินไทย 200 เปโซ ก็ไม่กี่บาท แต่สำหรับเรา การทวนค่า Taxi ไม่ต่ำกว่า 3 รอบ และย้ำอีก No per person นะยูว์ all นะ โอเคร สบายใจ ถ้าอัดเสียงได้คงอัด 555 ก็กลัวโดนหลอกอ่ะเนาะ ไปต่างบ้านต่างเมือง ไม่อยากโดนหลอก และถูกเอาเปรียบ ใครจะเอาวิธีนี้ไปใช้ก็ได้นะ ไม่ว่าหัน ถ้าไม่กลัว taxi ด่าเอา 555



ที่พักครั้งนี้เราเลือกจองกับ Agoda.com ใช้บริการเจ้านี้บ่อย เพราะมีส่วนลด 7% กับบัตร CitiBank ใครมีบัตร Citi bank ให้กด link นี้เลย http://www.agoda.com/th-th/citibankth ใช้ได้กับโรงแรมทั้วโลกที่ขายผ่าน Agoda แต่เงื่อนไขจองได้ถึงเมื่อไร อะไรยังไง ก็ไปศึกษากันเอานะครับ



ที่พักของเราที่จอง Wellcome Hotel, Cebu city เป็นโรงแรมระดับ 3.5 ดาว อ่านจากรีวิวแล้ว ดูจากรูป และสถานที่ข้างเคียงมีร้านอาหาร ใกล้ห้างสรรพสินค้า และ ราคาตอบโจทย์ความต้องการเรามากที่สุด ตกคืนละ 576 บาทต่อคนต่อคืน ซึ่งเราก็เลือกพักที่นี้ 2 คืน เลย สำหรับโรงแรมไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ขอแค่มีที่นอน แต่พอก้าวลงจาก Taxi มีพนักงานเปิดประตูรอรับด้านหน้า พนักงานยิ้มแย้ม พุดจาดี อธิบาย ทุกอย่างได้อย่างละเอียด ขึ้นไปบนห้องพัก โอโห้ ทุกอย่างดี เลิศ เกินมาตรฐาน 3.5 ดาวแล้ว Facility ในห้องพักครบครัน ประทับใจมาก กับราคาที่จ่ายไปที่ถูกแสนถูก และการบริการที่ดีมากๆ และความสะดวกสบายของห้องพัก

ปล. รูปจาก Internet นะครับ ห้องที่เราพักวางข้าวของกระจุยหระจายเละเลยไม่ได้ถ่ายมาถึง สถานที่เที่ยว ตามหัวข้อกระทู้แล้ว และแล้วก็ได้เวลาไปดำน้ำ ว่ายน้ำ กับ Giant Whale Shark


สำหรับ One day Trip เราก็จองผ่าน Agent ซึ่งส่วนใหญ่สำหรับ One day trip ที่ฝั่งเซบู มีให้เลือกหลายเจ้า สามารถทำการจองผ่านออนไลน์ได้ คลิกเลือกได้เลยว่าเราอยากไปที่ไหน ไปกี่คน ระบุสภานที่ไปรับ ราคาก็จะโชว์บอกเราเสร็จสรรพ สะดวกดี หลังจากนั้นทาง Agent ก็จะตอบเรามาทาง Email เกี่ยวกับรายละเอียด ต่างๆ ซึ่งครั้งนี้เราเลือกใช้ของ Agent Island trek tours https://www.islandtrektours.com/whale-shark-watching-canyoneering-day-tour/ โปรแกรมทัวร์ที่เลือกคือ WS Whale Shark + Canyoneering Kawasan Fall เป็นแบบ one day trip 16 Hours ค่าใช้จ่ายสำหรับทัวร์นี้ ตกคนละ 6050 เปโซ/คน Package นี้รวมอะไรบ้างเราไปดูกันเลย



Package Includes:

- Private Tour (16 hours duration including travel time, excess is subject for additional fees)

- Air conditioned car for round trip transportation

- Local Tour Guide

- Pick up and drop off Wellcome Hotel

- All Entrance fees

- Native Light Breakfast

- Lunch with one round of drinks (soft drinks or bottled mineral water)

- Entrance and watching fees

- Boat ride and life vest

- Whale shark watching (stay in the boat only) for 30 minutes or snorkeling with the whale sharks if paid add on fee

- Side trip to Tumalog falls

- Canyoning at Canlaob River down stream going to Kawasan Falls

+ Life jacket

+ Aqua Shoes

+ Waterproof Drybag

+ Motorbike ride to starting point

+ Water

+ Helmets

+Swimming at Kawasan water falls

- Government taxes and service charge (except payment transaction charges)



สำหรับเราแล้ว ถือว่าแพงแต่ก็ต้องจอง เพราะ อีกเจ้าหนึ่งที่เราจองไว้ก่อนหน้านี้ โปรแรมคล้ายกัน แต่ก่อนวันเดินทาง 3 วันเราส่งเมลล์ไปถามไม่มีใครตอบอีเมลล์เราเลย และในระบบ Booking เราก็สเตตัส เป็น Cancel เราจึงไม่รอและตัดสินใจยกเลิกไปเลย เพราะเราไม่สบายใจ ก็เลยขอยกเลิก ส่วนใครจะไป แล้วไม่แน่ใจ หลังไมค์มานะครับ

มาต่อกันของ Island Trek Tour เจ้านี้จองออนไลน์มีอีเมลล์กลับมาปั๊ป ส่งอีเมลล์มาคอนเฟริมทันที พร้อมรายละเอียดที่สมบูรณ์และน่าเชื่อถือกว่าเจ้าแรกมาก หลังจากนั้นเค้าก็จะส่ง Link การจ่ายมัดจำ ซึ่งเราจะเลือกจ่าย บัตรเครดิต หรือ Paypal ก็ได้ แต่จะให้เราจ่ายแค่ครี่งนึงก่อนนะครับ เจ้านี้ก่อนที่เราจะจ่ายเงิน เราเข้าไปอ่านใน Trip Advisor มาแล้ว ไว้ใจได้ มีเอกสารยืนยันตัวตน การจ่ายเงิน ก็ดูเป็นระบบที่น่าเชื่อถือ ได้ สำหรับใครจะจองผ่านบัตรเครดิต จะชาร์จ 5 % นะครับ ส่วนที่เหลืออีกครึ่งนึง ก็ไปจ่ายวันที่เค้ามารับเราไปทัวร์ หลังจากจ่ายเงิน ก็มีส่ง Voucher มาให้เราอีกครั้ง เอาไว้โชว์ให้คนขับดูตอนมารับเรา ก่อนวันเดินทาง 1 วันก็ส่ง อีเมมล์ ชื่อคนขับ เบอร์ติดต่อ ทะเบียนรถ เวลาที่จะมารับ ซึ่งตอนเราได้อีเมมล์ก็ชื่นใจว่า ได้ไปแน่นอนเวลา ตี 3.30 คนขับรถมารอเราแล้ว ได้เวลาออกเดินทาง ระหว่างก็หลับเช่นเคย คนขับแจ้งว่า เราจะไปทานอาหารเช้าที่ Oslob และใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 3 ชม. โดยประมาณ จาก Cebu ไป Oslob สถานที่ดำน้ำกับฉลามวาฬ เวลาประมาณ 6 โมงเราก็มาถึง พอมาถึงก็จะมี Local Guide มาต้อนรับเรา เราได้ไกด์ชื่อ Jay-R เป็นสาวสวย หัวโปก แต่จะบอกว่านางบริการดีมาก ดีมากจริงๆ ขนาดเราไปเข้าห้องน้ำ นางยังไปเฝ้า ตอนออกมา ก็ถามตลอด every thing OK เราก็เอ๊ะใจ ก็ตอบ OK แล้วนางก็พาเราไปทานอาหารเช้า อาหารเช้าก็แปลกดี ข้าวเหนียวดำ กับมะม่วง และ Chocolate ร้อน อืมๆ ที่นี้ให้กินของหวานเป็นอาหารเช้า ไม่ได้ถ่ายรูปอีกแล้ว กินอย่างเดียว เสร็จแล้ว นางก็พาเราไปที่สถานที่ ที่ต้องไปขึ้นเรือ ก่อนที่เราจะไปว่ายน้ำกับฉลาม เราต้องไปฟังการบรรยาย และข้อกำหนดในการต่างๆ ก่อน

สำหรับนักท่องเที่ยว จะต้องห้ามทาครีมกันแดด ใครทามาให้ไปล้างออก เพราะมันอาจจะทำร้ายปะการัง รวมไปถึงผิวของฉลามวาฬ ด้วย นอกจากนี้ ยังห้ามเข้าใกล้ ตัวฉลามมากเกินไป และห้ามใช้แฟลตในการถ่ายรูปด้วยนะ



ซึ่งก่อนจะลงเรือ เราต้องไปลงชื่อก่อน และรันคิวหมายเลขในการขึ้นเรือ เราไม่ต้องจัดการเรื่องนี้ สาวสาย J - ray จัดการให้เราทุกอย่าง เรามีหน้าที่แค่ลงชื่ออย่างเดียว อื่นๆ นางจัดการให้หมด เราเลือกที่จะลงไปว่ายน้ำกับฉลามวาฬ จ่ายเพิ่มอีกคนละ 500 เปโซได้เวลาลงเรือแล้ว ไกด์ของเราก็มาเรียกเรา จัดแจงหา สน็อคเกิ้ล ชูชีพมาให้ แล้วก็คุยกับคนรันคิวให้ ซึ่งเราคิดว่าตรงนี้ก็สะดสกสบายดี มีคนจัดการให้ทุกอย่าง แนะนำส่วนตัว ว่าควรต้องทำอย่างไร ในการว่ายน้ำ และอื่นๆ เราโอเครเลยแหละ

เวลาในการว่ายน้ำกับฉลามวาฬ ให้เวลาเรือ 1 ลำ ต่อ 30 นาทีเท่านั้นนะครับ



ได้เวลาลงเรือ ออกเดินทางกันแล้ว


ตื่นเต้นแล้ว มันคงน่ากลัว สินะ ตัวใหญ่มาก ใจเต้นตุ่มๆต่อมๆเมือมาถึงจุดว่ายน้ำกับฉลามวาฬเราไม่รอช้าถอดชูชีพออก โดดลงน้ำทันที่ พร้อมกับกล้อง Action Camera คู่กาย !! พอโดดลง คนพายเรือบอก there !! เราหันไปแม่เจ้ามันตัวใหญ่มาก เข้ามาใกล้มาก ขนลุกไปทั้งตัว รวบรวมความกล้า เอาว่ะต้องถ่ายรูกับมันให้ได้ มาทั้งทีแล้ว ไม่ต้องกลัวมันกินแพลงตอน ไม่กินเนื้อ ต้องบอกตัวเองเราไม่ได้มาเล่นๆ เราต้องสตรอง ฉลามวาฬมันก็สตรองมันไม่ได้มาเล่นๆ มันไม่ได้มาตัวเดียว มันมาหลายตัวมาก ลงน้ำไปได้สัก 5 นาที เราไม่กลัวแล้ว ว่ายออกไปไกลเรือมากขึ้น โดยไม่รู้ว่าเข้าไปไกลจุดที่เรือให้อาหารวาฬ ที่พายวนๆ ไป รอบๆ ระหว่างนั้นเราก็ได้ยินแต่ Sir Sir go go หันหน้าไปอีกทาง คุณพระช่วย เราว่ายอยู่ใต้ท้องมัน ขนลุกไปทั้งตัวเลย ทั้งกลัวทั้งกล้า มัน Amazing มาก ใจเราเต้นรัวๆ เลย คลีบมันผ่านตัวเราไปนิดเดียวเอง ตื่นเต้นสุดเลย


เวลา 30 นาทีผ่านไปเร็วมาก เรายังไม่จุใจเลย เราโชคดีที่ไปแต่เช้าคนไม่เยอะมาก แต่สายๆคนเยอะมากแล้วจะแย่งกันถ่ายรูปกับฉลาม แล้วจะติดคน ตัวคน รูปออกมาไม่สวย ใครจะมาเราแนะนำให้มาแต่เช้าเป็นดีที่สุด เพราะฉลามวาฬจะมาเยอะมาก มันกำลังหิว ถ้าสายมันจะอิ่ม แล้วจะไม่มาแล้ว อาจจะไม่ได้เห็นพอเรือมาเทียฝั่งปุ๊ป Jay-R รีบปรี่มาหาเราเลย เพื่อมารับเรา และก็พาเราไปล้างเนื้อล้างตัว และอธิบายโปรแกรมต่อไปที่เราจะไปคือ เราจะไป Cool down ที่น้ำตก Tamalog Waterfall อยูไม่ไกลจากจุดชมฉลามวาฬ เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเราก็ออกเดินทางกันเลย ซึ่งการไปยังจุดน้ำตกเราต้องนั่งรถมอเตอร์ไซต์ ลงไป ก็เหมือนพี่วินบ้านเราอ่ะครับ มีการรันคิว และมีเบอร์ของคนขับติดไว้ที่หลังเสื้อ เพื่อให้เราไว้ว่าตอนลงมาเราขึ้นมากับเบอร์ไหน ขากลับเราก็ต้องกลับ กับเบอร์ไหน ถ้าลงค่อนข้างชันมาก พี่วินก็ปล่อยรถไหลเลย ไม่มีเบรก ชำนาญทางมาก


ที่นี้เป็นน้ำตกที่ไหลตกมาเบาๆ เป็นขั้นๆ สวยมาก ต้องมาเห็นกับตา เราเองถ่ายรูปออกมาไม่สวยเลย ถ่ายยังไงก็ไม่เห็นสายน้ำริ้วๆ ที่ตกลงมาเป็นชั้นๆ

อันที่จริงสามารถเดินลงไปยังน้ำตกได้ ถ้าไม่อยากเสียค่ามอไซวิน ไปกลับ 50 เปโซ เพราะตอนเรานั่งกลับ เราเห็นฝรั่งเดินขึ้นกันเยอะเลยเราใช้เวลา อยู่ที่ Tamalog แค่ 30 นาที เพราะเราไม่ลงเล่นน้ำ เรามีน้ำตกที่เราอยากไปมากๆ อยู่ข้างหน้า ซึ่งเราจะได้เล่นน้ำอย่างจุใจ 4 ชม.เต็ม ว่าแล้วเราก็เดินทางไปน้ำตก Kawasan falls ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม. ถึงเวลาต้องบอกลา Jay-R แล้ว เพราะนางจะอยู่แค่ที่นี้ นางจัดการ Lunch Boxใส่กล่องให้เรา ไปทานที่ Kawasan Falls ที่ เพราะที่นั้นเราก็จะมีไกด์มารับเมื่อเราไปถึง

นี่ไง ความสวยที่พูดถึง Kawasan Falls


เมื่อเรามาถึง คนขับจะไม่ได้ไปที่น้ำตกทันที จะพาเรามาที่บ้านของ Agent Island Trek Tour เพื่อทำการพักผ่อน ทานอาหารกลางวัน และเราจะมาเตรียมอุปกรณ์ในการ canyoneering กันที่นี้ ไกด์ที่จะนำทางเราจะเตรียมอุปกรณ์ให้เราทั้งหมด แล้วให้เราเซ็นต์เอกสารยินยอมในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ให้ติดต่อใคร และ จะไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายจากเรา เราก๋กรอกข้อมูลและก็เซ็นต์ตาม ซึ่งก่อนไปเราทำประกันการเดินทางไว้แล้วกับ Cigna เลยไม่ต้องเป็นกังวล 55 ก่อนเดินไกด์ก็จะมาอธิยายว่าจะต้องมีตุดกระโดดลงน้ำ จำนวน 3-4 จุดหลัก มีสไลดืเดอร์ที่จะต้องไหลลง และจะมอบหมายให้คนนำทางใครดูแลกลุ่มไหน ซึ่งในกรุ๊ปของเรามีทั้งหมด 8 คน 4 คนเป็นคนฟิลิปปินส์ 2 คนเป็นออสเตรเลีย และเรา 2 คนจากไทย เนื่องจากมีทีมไกด์นำทางจำนวน 2 คน


เมื่อบรีฟเสร็จก็ออกเดินทางด้วยมอเตอร์ไซต์ ไปยังจุดเริ่มต้น ที่น้ำตก Kawasan

เมื่อมาถึงก็ต้องวัดใจกันเลย ด้วยการกระโดด จุดแรก เราอาสา เป็นคนแรกที่กระโดดเลย 55 ที่น้ำตก Kawasan เราใช้ Action Camera เป็นส่วนใหญ่อัดเป็น Video ถ่ายถาพมาน้อยมากเลย เอาเป็นว่าอยากให้เพื่อนๆ ได้ไปลองเที่ยวเองกันนะครับ เป็นประสบการณ์ที่สนุกสุดเหวี่ยง ได้ทำอะไรใหม่ ได้เที่ยวแบบลุยๆ ก็สนุกดีครับ

ตรงจุดนี้ เป็นจุดกระโดดที่สูงมากๆ สูงเทียบเท่าตึก 2 ชั้นเลยได้มั้ง วัดจากสายตา เอาเป็นสูงมากจนเจ้าของกระทู้ ไปยืนแล้วไม่กล้ากระโดด เปลี่ยนใจไปมานับสิบรอบ ทำใจเป็น10 นาที ขำตัวเองหนักมาก สุดท้ายก็เดินลงมาเหมือนเดิม ส่วนเพื่อร่วมทางเจ้าของกระทู้ ใจกล้ามาก ไม่เสียเวลาทำใจ ขึ้นปุ๊ป กระโดดปั๊ป แต่ลงมาผิดท่า ขาช้ำไปหลายวันเลยทีเดียว


ที่ Kawasan fall เป็นน้ำตกหินปูนที่สมบูรณ์มาก เป็นน้ำจืดไหลไปบรรจบกับน้ำทะเล ด้วยเพราะเป็นหินปูน จึงทำให้น้ำเป็นสีฟ้า สวยงามอย่างที่เห็น ระหว่างทางที่ Canyoneering มาก็แสนจะ Amazing มากจริงๆวันที่ 3 ของเราทริปนี้ แรกตั้งใจจะตื่นแต่เช้า เพื่อจะไปเดินดูบ้านดูเมืองเค้าซะหน่อย เพราะไม่ค่อยมีโอกาสได้เดินออกไปนอกโรงแรม เพราะแต่ละวันก็เหนื่อยแหละเพลีย แต่แล้วก็ไม่เป็นอย่างที่หวัง เราตื่นสาย คือตื่นมาก็ถึงเวลาต้องเช็คเอ้า แล้ว เราเช็คเอ้า ออกจากโรงแรมกันตอนบ่ายโมง เพื่อเดินทางไปยังสนามบิน การเดินทางไปยังสนามบินเราต้องข้ามไปเกาะ Mactan ซึ่งไม่ต้องนั่งเรือนะ เพราะ 2 เกาะนี้ มีสะพานเชื่อมถึงกัน จากโรงแรมที่เราพัก ไปสนามบิน เป็นระยะทาง 13 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเดินทางนานถึง 45 นาที เพราะรถติดพอสมควร



การเดินทางกลับของเราวันนี้ เราจะต้องเดินทาง จาก Cebu ไป มะนิลา เราเลือกบินของสายการบิน Air Asia Zest ของฟิลิปปินส์ ซึ่งตารางออกเดินทางคือ 16.50 แต่ก็โดนพิษ ดีเลย์ ไปชั่วโมงกว่า เราไปถึงมะนิลาเวลาหนึ่งทุ่มได้ Air asia ของที่นี้จะไปจอดที่ terminal 2 เราจะต้องขึ้นเครื่องกลับที่กรุงเทพ ที่ Terminal 3 ซึ่งในการไปยัง Terminal 3 จะต้องมาลงชื่อกับเจ้าหน้าที่เสียก่อน และต้องโชว์ booking ให้เจ้าหน้าที่ด้วย เพราะ Terminal ไม่ได้อยู่ติดกัน จะต้องนั่งรถ Shuttle Bus



เวลา 21.50 เดินทางกลับกรุงเทพ ด้วยสายการบิน Cebr Pacific เที่ยวบินที่ 5J 931 เดินทาง 3 ชั่วโมงก็มาถึงกรุงเทพ โดยสวัสดิภาพ เป็นอันว่าจบทริป 3 วัน 2 คืน ที่เหนื่อยกับการเดินทางแต่สนุกและคุ้มค่ากับการมาเยือน การเดินทางครั้งนี้สรุปค่าใช้จ่ายในการเดินทางครั้ง นี้

1. ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าก่อนเดินทาง

- ค่าตั๋วเครื่องบิน เดินทางไปกลับ BKK-MNL-BKK คนละ 3,717 บาท (Cebu Pacific)

- ค่าตั๋วเครื่องบิน เดินทางจาก MNL - TAG คนละ 537 บาท (Cebu Pacific)

- ค่าตั๋วเครื่องบิน เดินทางจาก CEB - MNL คนละ 1.000 บาท ( Air Asia Zest)

- ค่าที่พัก โรงแรม 2 คืน คนละ 1,152 บาท

- ซื้อประกันการเดินทาง Cigna คนละ 209 บาท

- จ่ายค่าอัพเกรด Seat เที่ยวบินขาไป คนละ 480 บาท

รวม ค่าใช้จ่ายก่อนเดินทาง คนละ 7,095 บาท



2. ค่าใช้จ่ายวันที่ 1

- ค่า Zipline คนละ 350 เปโซ

- ค่า CD รูปที่ Zipline คนละ 125 เปโซ

- ค่าอาหารกลางวันที่ Loboc River Cruise คนละ 450 เปโซ

- Entrance fee ที่ Tarsier คนละ 60 เปโซ

- Entrance fee ที่ Chocolate hill คนละ 50 เปโซ

- ค่าเรือ Fast Ferry จาก TAG - CEB - Open air class คนละ 400 เปโซ

- Port fee คนละ 20 เปโซ

- ค่า Private one day tour คนละ 1,000 เปโซ

- ค่า Taxi จากท่าเรือไปโรงแรม 100 เปโซ

- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซื้อน้ำ ซื้อมะพร้าว ค่า tip รวม 112.5 เปโซ

รวมค่าใช้จ่ายวันที่ 1 คนละ 2,267.5 เปโซ คิดเป็นเงินไทย = 1,723 บาท (เรท 0.76 เปโซ = 1 บาทไทย)



3. ค่าใช้จ่ายวันที่ 2

- ค่า Private one day tour WS whaleshark+ Canyoneering คนละ 6,050 เปโซ

- Extra pay สำหรับว่ายน้ำกับฉลามวฬ คนละ 500 เปโซ

- ค่ารถมอเตอร์ไซต์ไปน้ำตก Tamalog คนละ 50 เปโซ

- ค่ารถมอเตอร์ไซต์ขากลับจากน้ำตก Kawasan falls 50 เปโซ

- ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ คนละ 188.5 เปโซ

- ค่าอาหารเย็นคนละ 575 เปโซ

รวมค่าใช้จ่ายวันที่ 2 คนละ 7,413.5 เปโซ คิดเป็นเงินไทย = 5,634 บาท (เรท 0.76 เปโซ = 1 บาทไทย)



4. ค่าใช้จ่ายวันที่ 3

- ค่า Taxi ไปสนามบิน คนละ 125 เปโซ

- ค่าอาหรเช้า คนละ คนละ 294.25 เปโซ

- ค่ามินิบาร์ คนละ 70 เปโซ

- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ คนละ 132.5 เปโซ

รวมค่าใช้จ่ายวันที่ 3 คนละ 621.75 เปโซ คิดเป็นเงินไทย = 473 บาท (เรท 0.76 เปโซ = 1 บาทไทย)



รวมทั้งหมดค่าเสียหายทั้งหมดสำหรับทริปนี้คนละ 7,095+1,723+5,634+473 = 14,925 บาท

Pp Freefly

 วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 09.58 น.

ความคิดเห็น