ในช่วงวันที่ 10 – 11 – 12 ธันวาคม เป็นวันหยุดยาวพอดี

ผู้คนคงต่างพากันเดินทางออกต่างจังหวัด ที่แน่ๆต้องมีภาคแหนือแล้วหล่ะ

เพราะอากาศเย็นๆช่วงปลายปี มันเย้ายวนใจ ให้พวกเราไปสัมผัสมันยิ่งนัก

แต่มีปัญหาอยู่ข้อเดียว คือ “รถติด"

เราเลยเลือกสถานที่ที่คนน่าจะไปน้อยกว่าที่อื่นๆ

แต่ก็ยังอยากได้แนว เดินป่า ส่องสัตว์ ดูของแปลก อะไรทำนองนี้

เราเลยเลือกจังหวัด อุทัยธานี

มีสถานที่ที่หนึ่ง ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็น ดินแดนดึกดำบรรพ์แห่งเมืองอู่ไทย เลยทีเดียว

สถานที่นั้น ชื่อว่า “หุบป่าตาด"



........................................................



ถ้าอ่านแล้วถูกใจ กดLikeเพจให้ด้วยนะครับ :- )))

PageFacebook : https://www.facebook.com/Workingdaysareover



.........................................................

“หุบป่าตาด" ฟังดูอาจจะแปลกสักหน่อย แต่ถ้าหากลองแยกคำคำนี้ออกมา หุบ – ป่าตาด
คำว่า “หุบ" ความหมายคือ แอ่งที่เป็นแนวยาว ๒ ข้างแอ่งขนาบ ด้วยภูเขา
และคำว่า “ป่าตาด" ความหมายก็น่าจะตรงตัวอยู่แล้วว่า มีต้นตาดขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก
และด้วยที่ต้นตาขึ้นอยู่เป็นจำนวนมากนี้เอง จึงทำให้สถานที่แห่งนี้
ดูเหมือนกับเราอยู่ในยุคดึกดำบรรพ์เลยทีเดียว
“หุบป่าตาด" ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน จังหวัดอุทัยธานี
ที่นี่จะมีเจ้าหน้าที่ คอยอำนวยความสะดวก ชี้แจงเรื่องเส้นทาง อุปกรณ์ที่ควรนำติดตัวไป
มีค่าธรรมเนียมค่าเข้า คนละ 20 บาท เด็กคนละ 10 บาท
แค่นี้ก็สามารถไปท่องโลกดึกดำบรรพ์กันได้แล้ว



ทางเข้าเป็นปากถ้ำ ค่อนข้างมืดนะครับ อย่างที่เจ้าหน้าที่บอกให้นำไฟฉายติดตัวมา
อากาศในถ้ำ ชื้นๆ เย็นๆ มีหินย้อนและยังมีน้ำหยดอยู่เลยครับ
เดินประมาณ สัก 50 เมตรก็พ้นปากถ้ำแล้วครับ จะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ 555555555555

ทางอุทยานได้ทำเส้นทางเดิน ให้นักท่องเที่ยวไว้เรียบร้อยแล้ว
เป็นขั้นบรรได สลับกับทางเรียบ
ตลอดทางเดินก็จะได้ยินเสียงบ่นว่า เดินลงไปอะ ห่วงตอนขึ้นด้วยนะ 55555555555



ระหว่างทางก็จะเจอพืชพันธุ์แปลกๆ ขึ้นอยู่โดยรอบครับ
สิ่งที่ผมเห็น น่าจะเป็นเห็ด หรือพืชอะไรสักอย่างที่มีพิษ
เพราะผู้ใหญ่เคยสอนว่า พืชที่มีสีสดๆมักจะมีพิษ
ผมเลยได้แค่ถ่ายรูปครับ ทางที่ดีอย่าไปจับมันเลย

บริเวณกลางหุบ จะมีพื้นที่ ลักษณะคล้ายอุโมงถ้ำครับ สามารถเดินทะลุไปอีกฝั่งได้
ภายในอุโมงค์ จะมีทั้งหินอก หินย้อน หรือก้อนหินที่กองเรียงสลับกัน
ได้บรรยากาศการเดินปีนเขาดีทีเดียวครับ
อากาศบริเวณนี้ โปร่งสบาย มีลมพัดผ่านตลอดเวลา



เส้นทางจะมีลักษณะเป็นวงกลมครับ พอเดินสุดทางแล้ว มันวนกลับมาเอง
ระหว่างทางเดิน จะมีป้ายต่างๆบอกตลอดครับ ว่านี่คือต้นอะไร ชื่อว่าอะไร
และแล้วเราก็เจอของหายากเข้าให้ มันคือกิ้งกือมังกร สีชมพู ที่จะหาได้ ภายในหุบป่าตาดแห่งนี้
ไกด์นำเที่ยวตัวเล็กบอกว่า มันมีหน้าคล้ายกับมังกร
มีขาเหมือนกิ้งกือ มันเลยได้ชื่อว่า กิ้งกือ มังกรสีชมพู



ระหว่างทางเดินจะมีพืชพันธุ์ต่างๆให้เราสงสัยเต็มไปหมดครับ
ผมก็ ได้แต่เดินเก็บภาพไปเรื่อยๆครับ
อากาศเย็นๆ ก็เดินเพลินดีเหมือนกัน

ถ้าหากใครชอบแนวเดินป่า ถ่ายรูปแบบนี้

ผมแนะนำเลยครับ

แต่จะให้ดี น่าจะขับรถมา จะสะดวกกว่านะครับ

เพราะที่ตั้งของที่นี่ อยู่ค่อนข้างลึก เท่าที่ผมดูยังไม่เห็นรถประจำทางเลย

แต่เรื่องความเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องพูดถึงครับ สุดๆไป

ถ้าคุณคิดว่าอยากไปไหนดีวันหยุดนี้ ไม่อยากขับรถไกลๆ คนไม่เยอะมาก

เดินทางมาที่นี่ ไม่มีผิดครับ

ขอบคุณผู้ร่วมเดินทางนะครับ ถ้าไม่มีคุณคงไม่มีการเดินทางดีๆแบบนี้

.

.

.

.

.

"และขอขอบคุณ ที่ไปเดินหลงป่ากับผม จนสุดทาง"



......................................................



ถ้าอ่านแล้วถูกใจ กดLikeเพจให้ด้วยนะครับ :- )))

PageFacebook : https://www.facebook.com/Workingdaysareover



.........................................................



ปล.ติชมได้นะครับ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยครับ


Hexagon169

 วันพฤหัสที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 08.49 น.

ความคิดเห็น