<<<<<<<< ตอน 1 ปายอีกแล้วนะ https://th.readme.me/p/7021

นัดรถตู้มารับ 6.00 น. แต่ต้องตื่นก่อนนานมาก เพราะข้อเสียของการนอนรวม (20 เตียง ก็ 40 คน) ทำให้เวลาใครลุกไปอาบน้ำ ทำให้เราสะดุ้งตื่น เป็นระยะ ๆ เช่น ตี 1 กว่า ๆ ฝรั่งเพิ่งกลับเข้ามา อาบน้ำ กันเสียงดัง เราก็ตื่นมากดเวลาดู และตอน ตี 3 กว่า ๆ พวกที่ซื้อทัวร์ ไปปางอุ๋ง คนขับก็จะมาเคาะประตูเรียก ทำให้ต้องตื่นอีก สรุป นอนไม่ค่อยอิ่มเท่าไหร่ แต่ก็เอาว๊ะ แลกกับ ราคาถูก ๆ ถือว่าเจ๊า ๆ กันไปเนอะ


จากที่พัก ไปที่จุดชมทะเลหมอกไม่ไกล ใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที และรถทุกคันต้องมาต่อรถกะบะของชาวบ้าน เหมาขึ้นไป คันละ 300 บาท (ไป-กลับ) ถ้ามาหลาย ๆ คนก็สบายไป แต่ถ้าใครมาน้อยคนก็แย่หน่อย อิ ๆ (แต่ถ้าขี่มอเตอร์ไซด์มา ขึ้นไปได้เลยจ๊ะ)

พอไปถึงต้องจ่ายค่าเข้าอีกคนละ 20 บาท ไปช่วงเทศกาลไม่ดีเลย เพราะหางบัตรไม่สามารถนำไปแลกน้ำชาได้ทันที ต้องหลังเวลา 11.00 น. แย่จัง...ใครจะอยู่ถึงขนาดนั้น (เราไปตอนเดือนตุลาคม คนไม่มากสามารถแลกน้ำชามาจิบได้เลยเสียดายอ่ะ) แต่อาหารข้างบนก็มีขายนะ พวกชา ข้าวต้ม ปาท่องโก๋ ราคาไม่แรงด้วย แต่เรามาดูทะเลหมอก เลยไม่ได้ซื้อทานค่ะ


ที่นี่ก็คือ จุดชมทะเลหมอกหยุนไหล คนเยอะมาก แถมมาก่อนเราด้วย ทุกคนยืนรอ เพื่อเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นกัน อากาศ หนาวเย็นดี ชอบ ๆ

วันนี้ทะเลหมอกมาตามนัด เยอะและแน่นดีค่ะ สวยสุด ๆ

สบายตา สบายใจ แม้จุดถ่ายรูปจะไม่เป็นส่วนตัวเท่าเดือนอื่น ๆ แต่ทำไงได้ การเที่ยวในวันหยุดก็ต้องทำใจอย่างนี้แหละ อิ ๆ

จะบอกรักใคร คิดว่าตอนนี้คงไม่เหมาะเนอะ 555 อายเค้า

ยิ่งตรงป้าย ไม่ต้องพูดถึง มีแต่คนเต็มไปหมด 55

อากาศเย็น ๆ นั่งจิบน้ำชาร้อน ๆ มันฟินดีเนอะ

มีเต้นท์ให้นอนด้วย น่าสนจัง

อ๊ะ แอบเห็นมีรถเก๋งด้วย ขึ้นมาได้ไงหนอ ???

ไปแล้วนะ ไว้มีโอกาสจะมาอีกจ๊ะ

จากหยุนไหล ถ่ายรูปเต็มอิ่มกัน ก็โทร.เรียกรถคันที่เรานั่งขึ้นมานะแหละ เพื่อส่งกลับที่เดิม คือหมู่บ้านสันติชล

วันนี้มากันหลายคน จัดสิคะ อยากให้น้อง ๆ ได้เสียว ต้องนี่เลย โล้ชิงช้ากันสักหน่อย แค่คนละ 25 บาท ก็เสียวได้

คุณผู้ชายเค้าสะใจมาก ได้แกล้งสาว ๆ เรียกเสียงกรี๊ดซะลั่นเชียว 5555

ชิงช้าที่บ้านสันติชล จะมี 2 จุดนะคะ ตรงที่เราเล่น จะเซฟตี้ที่สุด เพราะมีสายรัดเอว และพนักพิงหลัง ส่วนที่อื่นไม่มีนะจ๊ะเวลาเล่นให้ระวัง ๆ กันด้วยค่ะ อาจเกิดอันตรายได้ค่ะ ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าเนอะ

และก็เดินเข้าไปชมข้างในกัน หมอกเยอะดีจัง มีของฝากจำพวกบ๋วย ชา ให้เลือกชิม และเลือกซื้อมากมายค่ะ

อันนี้เป็นชิงช้าอีกอัน ทีบอกไว้ว่าไม่มีอะไรรัดนะ ..... แต่ถ้าใครจบชั้นประถมแล้ว เมื่อกี้ อาจมาลองชั้นมัธยมได้นะจ๊ะ ไม่ห้าม

น้ำค้างหล่นเป็นสาย ๆ เลย ถ้าประเทศไทยหนาว ๆ กว่านี้ น้ำค้างคงเปลียนเป็นหิมะเนอะ อยากสัมผัสจัง ครั้งหนึ่งในชีวิต ฉันต้องไปสัมผัสหิมะให้จงได้ 555

อะไรเอ่ย ทายสิ

เกาลัดที่นี่เค้าก็อร่อยดีนะ ขอบคุณเจ้ามือต๋อย มา ณ ที่นี้ด้วยจ๊ะ

อยากถ่ายรูปให้มากกว่านี้ แต่ว่าหนทางอีกยาวไกล ไปหาอาหารเช้ากินที่ร้านเดิมดีกว่า ร้านผัดไทยหน้าวินอีกสักมื้อจ๊ะ และเช็คเอ้าท์ ไปบ้านรักไทยของเราดีกว่า รอคอยมาตั้งเกือบปีแล้วนี่

เป็นแพ็คเก็ตเลย ใครมาเส้นนี้ก็ต้องแวะถ่ายรูปที่ ดอยกิ่วลม

อันนี้ชิงช้า ฟรีจ๊ะ อยากเล่นเชิญเลย แต่เสียวตกจัง

และแวะไปทานก๋วยเตี๋ยวกัน ที่บ้านจ่าโบ่ เรามาสายไป ทะเลหมอกกลับบ้านไปหมดแล้ว (ถ้าใครอยากยลโฉมทะเลหมอกสวย ๆ สามารถนอนโฮมสเตย์ของชาวบ้านที่นี่ได้ หรือจะกางเต้นท์นอนก็ได้คะ รับรองเช้ามาได้เห็นสมใจอยากค่ะ)

ที่ร้านคนเยอะมากกก ต้องรอคิวที่นั่งกันเลยทีเดียว ส่วนที่นั่งสวย ๆ ตรงร่มที่เค้าถ่ายรูปกันเต็มหมด แต่เราก็โชคดี ได้นั่งทานกันในร้าน วิวสวยดี (ถ้าได้มาตอนเช้า) และคงเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่วิวสวยที่สุด แต่เรามาสายไป ก็เป็นแค่ร้านธรรมดา รสชาติก๋วยเตี๋ยวก็ไม่ได้เลิศอะไร (คหสต) แต่ถ้าแลกกับวิว ถือว่าคุ้มอยู่ค่ะ ก๋วยเตี๋ยวราคา 35 บาท แต่วิวราคา 3.5 ล้านเลยเธอ อิ ๆ

ใครสนใจอยากนอนโฮมสเตย์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและจองที่พักล่วงหน้า ติดต่อ โทร. 080 677 5794 คุณศรชัย ไพรเนติธรรม ประธานกลุ่มการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชุมชนบ้านจ่าโบ่....... ฝากไว้ก่อน ไว้จะไปเอาคืน จะต้องเห็นทะเลหมอกที่นี่ให้ได้ หุ หุ หุ

และออกเดินทางต่อ แวะจุดชมวิวลุกข้าวหลามกันต่อเลย ที่นี่จะมีของชาวเขาขาย เช่นพวกข้าวสาร ข้าวเหนียว ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ฯลฯ เรากับเพื่อนขนมาเยอะเลย 55 ก็มันถูกกว่ากรุงเทพฯ นี่เนอะ ถ้ามีปัญญาขนจะขนมาให้มากกว่านี้อีก อิ ๆ

ส่วนพวกผ้าทอ กระเป๋า ผ้าขาวม้า ให้ซื้อที่นี่ค่ะเพราะราคาจะถูกกว่าที่อื่น โอ๊ย !!!! เขียนไปก็เจ็บกระดองใจไป แง ๆๆๆ

ที่ต่อไปก็เข้าตัวเมืองแม่ฮ่องสอนไหว้พระกันสักหน่อย ถ้าใครมาแม่ฮ่องสอน แล้วไม่มาไหว้ถือว่ามาไม่ถึงนะเอ้า

วัดพระธาตุดอยกองมู สัญลักษณ์ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ทุกคนต้องแวะเวียนไปเยี่ยมชมและสักการะคือพระธาตุแห่งนี้นั่นเอง ที่นี่ถือเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาช้านาน

เกือบบ่าย 3 แล้ว แวะอีก 1 ที่แล้วเข้าที่พักเลยแล้วกัน เพราะหัวใจของเราคือที่พักมิใช่หรือ

"สะพานซูตองเป้" ซึ่งมีความเชื่อกันว่า หากได้มายืนอยู่กลางสะพานแล้วอธิษฐาน ขอความ ความสำเร็จใดๆ จะสมความปรารถนา จัดสิคะ รออะไร ยิ่งเวลาเราไม่พอด้วย จึงไม่ได้เดินไปถึงปลายสะพาน (เสียดายที่ใครไม่ได้เดินจนสุดอาจต้องมีซ่อม หึ หึ ) ถ้ามาช่วงเช้าจะดีมาก ๆ เพราะตอนบ่าย ๆ แดดแรงสุด ๆ ค่ะ

และที่ซุกหัวนอนของเราในวันนี้คือ "ลีไวน์รักไทย" เราอยากใช้เวลาอยู่ที่นี่นาน ๆ เพราะกว่าจะจองได้ก็ยากเย็นเสียเหลือเกิน แต่ก็ทำไม่ได้ แง ๆ มาถึงก็ 17.00 น. เสียแล้ว เสียดายจัง

ห้องพักของเราอยู่ด้านบน ผู้สูงอายุ อาจลำบากเวลาเดินขึ้น ขนาดเราเป็นสาวสะพรั่งขนาดนี้ ยังหอบเลย ถ้าใครมาพัก แล้วขาแข้งไม่ดี หรือมีผู้สูงอายุมาด้วย ก็จองห้องพักที่อยู่ล่าง ๆ นะ (แต่วิวข้างบนสวยมากกกกกก บอกเลยจ๊ะ)

วิว รอบ ๆ ที่พัก กรี๊ด สวย สุด ๆ อ่ะ

ใครที่จองที่พักไว้ ควรมาถึงก่อน 17.00 น. อย่ามาตอนมึด เพราะเป็นทางขึ้นเขา เกรงจะอันตรายจ๊ะ ส่วนใครคิดจะทานอาหารเย็น ก็รีบ ๆ หน่อย ครัวเค้าจะปิด 19.00 น. แต่สั่งแล้วสามารถนั่งทานได้ ถึง 2 ทุ่มครึ่งอ่ะ เรารีบเอาข้าวของไปเก็บ แล้วลงมาสั่งอาหารเลย คนเยอะค่ะ รีบไปจองโต๊ะกัน

จองโต๊ะ และสั่งอาหารแล้ว ช่วงที่รอ ก็ถ่ายรูปสิคะ

สวยทุกมุม ถ้ามาอีกครั้งหน้า จะตัดทุกที่ไป และมาที่นี่ อย่างเดียวเลย 555

ร้านกาแฟใหม่ของทางที่พักค่ะ (ชั้น 2)

ได้เวลาอาหารเย็น มาดงชา ต้องไม่พลาดชิมชา สารพัดชนิด แต่ที่ขึ้นชื่อที่นี่ต้องชายอดน้ำค้างค่ะ หอมชุ่มคอ ชื่นใจจริง ๆ ค่ะ ....... ดึง ดม อม กลืน .... ชื่นใจสุด ๆ

นอกจากชา ก็มีไวน์นะคะ ที่ขึ้นชื่อ มาทั้งทีต้องโดนจ๊ะ เดี๋ยวไม่ถึง ลีไวน์ อิ ๆ

อาหารเรามา 9 คนก็สั่งเป็นชุดเลยค่ะ ประหยัดและไม่แพงด้วย ส่วนถ้าอยากจะสั่งอะไรเพิ่ม ให้สั่งตั้งแต่ตอนแรกเลยนะ เพราะมาช่วงเทศกาลคนเยอะ อาหารถ้าตกรอบไปแล้วจะรอนานค่ะ

หลังทานอาหารเสร็จ ก็ซื้อของฝากกันได้ (เทียบราคาร้านอื่นกันด้วยนะจ๊ะ เพราะมีขายหลายร้าน หุ หุ ) บรรยากาศยามค่ำคืน ช่างสุขกาย สุขใจเสียนี่กระไร

เดินขึ้นที่พักกัน ใครบอกยิ่งสูง ยิ่งหนาว แต่เรา ยิ่งสูง ยิ่งเหนื่อย 55

และก็เข้าที่พัก ห้องนอนเรา นอนได้ 8 คนนะคะ แต่เรามา 9 คน ไม่สามารถเสริมเตียงได้ เพราะพื้นทีจำกัด ถ้าจะอัดกันนอน 3 คน น่าจะอึดอัดมาก เพราะตัวแต่ละท่านก็ใช่จะเล็ก ๆ กัน เพื่อนต๋อยเลยเสียสละนอนพื้นแทน กราบบบบ น้ำใจพี่ใหญ่อีกรอบจ๊ะ

นอนรวดเดียวถึงเช้าเลย รีบตื่นมารอดูพระอาทิตย์ขึ้นกันดีกว่า และต้องไม่พลาดถ่ายบรรยากาศยามเช้า ของบ้านรักไทย ซึ่งสวยงาม ไม่แพ้ที่ปางอุ๋งเลยนะเธอ

อาหารเช้าที่นี่เค้า 8 โมง (ก็ไม่เช้านะ 555 สำหรับที่อื่น ๆ ) แต่ก็ดี ทำให้เราสามารถถ่ายรูปเล่นได้ก่อนเวลาอาหาร 55

เช้า ๆ ก่อนที่นักท่องเที่ยว ที่พักที่อื่นจะมา

จำไว้นะ .... สถานที่ท่องเที่ยว ใครตื่นก่อนย่อมได้เปรียบ

อยากหยุดเวลาไว้ที่ตรงนี้จัง

เชัา ๆ จะมีพระมาบิณฑบาตรด้วยค่ะ

ลูกศิษย์พระเดินอารักขาเต็มเลย อิ ๆ

เอ้า แย่งซีนซะงั้น 55 อยากออกกล้องก็ไม่บอก น่ารักดีค่ะ

และก็ทานอาหารเช้ากัน จะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์นะ มีข้าวต้ม หมั่นโถทอด ผัดหมี่ ชา กาแฟ ให้เดินตักทานได้ค่ะ และ เช็คเอ้าท์ ประมาณ 10.00 น. และตรงดิ่งกลับเชียงใหม่เลย หนทางไม่ไกล แต่มันทำเวลาไม่ได้จริง ๆ 6 ชม.จากแม่ฮ่องสอน ถึงเชียงใหม่ กลัวรถติดด้วย เพราะต้องไปส่งน้อง 3 คนที่ต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ เย็นนี้ ส่วนพวก สว. อีก 6 คนยังคงอยากเที่ยวต่อ อีก 1 วันบ๊าย บาย บ้านรักไทย รอบ 3 มีแน่นอน แต่ปีไหนยังไม่รู้ ไว้เราจะกลับมาอีกนะ จุ๊ป ๆ

>>>>>>ตอนจบ https://th.readme.me/p/7148

แตงโมเนื้อทราย

 วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15.32 น.

ความคิดเห็น