ยามบ่าย ... พังงามีเพียงฝนกับแดด และ ส่วนใหญ่เป็นแดดแรงเสียด้วย เพราะทั้งสองฝั่งของจังหวัดพังงาติดกับทะเลอันดามันและอ่าวพังงา กิจกรรมอะไรจะเทียบได้เท่ากับการเล่นน้ำใสเย็นๆ ที่น้ำตกแห่งไหนสักแห่ง ^_^
" วังเคียงคู่ " เป็นสายธารน้ำใสไหลจากป่าของอุทยานเขาหลักลำรู่ อยู่ใน ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เดินทางไปง่ายดายโดยรถยนต์ส่วนตัวตามถนนเพชรเกษมสาย 4 และ เลี้ยวเข้าซอยด้านข้างไปรษณีย์ลำแก่น ขับรถไปตามถนนไม่กี่นาทีก็ถึงจุดหมาย
	 
ปลายวังเคียงคู่ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับเล่นน้ำของชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่มักมาหลบร้อนยามบ่าย มีร้านอาหารและรถเข็นขายอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมกับให้เช่าเสื่อสำหรับนั่งริมลำธาร
	 
แม้จะเป็นเพียงปลายสายธารของวังเคียงคู่ ความใสของน้ำทำให้สามารถมองเห็นก้อนหินเบื้องล่างสายธารได้อย่างชัดเจน
	 
แต่กิจกรรมยามบ่ายอันแสนร้อน เราไม่ได้แค่ต้องการแช่น้ำ แต่อยากจะล่องไปตามลำธารใสๆ เลยจากจุดนี้ขึ้นไปไม่เท่าไร มีบริษัทที่ให้บริการล่องแพไม้ไผ่หลายบริษัทฯ ผมเลือกใช้บริการของ โกมล คอร์นเนอร์ Komol's Corner Bamboo Rafting เนื่องจากก่อนหน้านี้มีเพื่อนมาล่องแพแล้วทำกระเป๋าสตางค์หล่นลงในลำธาร (ใส่ถุงพลาสติคไว้) พนักงานแล้วเจ้าของช่วยกันหากันจนได้กระเป๋าคืน และ ที่นี่เจ้าของก็อัธยาศัยเป็นกันเองดี
เนื่องจากมาถึงประมาณบ่าย 3 ใกล้จะหมดเวลาล่องแพแล้ว เลยไม่ทันได้ถ่ายสถานที่ตั้ง ... ขอว๊าบบบบบ มาลงแพเลยละกันครับ
	 
แสงยามบ่ายช่างร้อนแรง แต่ แสงจ้าๆ กับ ป่าเขียวๆ มันก็เข้ากันได้นะครับ ... ส่วนน้ำนั้นเย็นชื่นใจ
	 
บางช่วงต้นไม้ข้างทางโน้มตัวเป็นอุโมงค์บังแสงแดดที่จ้าให้เราได้พักกับกระแสน้ำไหลเอื่อย
	 
บางช่วงไม่มีต้นไม้คอยบัง แสงแดดก็ส่องให้เห็นก้อนหินสีต่างๆ ภายใต้ธารน้ำใส
	 
อุโมงค์ต้นไม้ สลับช่วงกับแสงแดด ไปตลอดทาง ทำให้เราไม่รู้สึกถึงความร้อนในช่วงบ่ายสักเท่าไหร่
	 
แต่สำหรับผม ถึงจะร้อนหน่อยตอนไม่มีต้นไม้บัง แต่ แสงระยิบระยับของสายน้ำล่อตาล่อใจผมมากกว่า
	 
และผมยังชอบมองก้อนหินใต้น้ำใสๆ ด้วย ... พอร้อนก็ตวัดน้ำเย็นๆ มารดหน้ารดตัว ^_^
	 
เสียดายไม่มีแพอีกสักลำ วันนี้ คนพายเลยได้เป็นพระเอกไปคนเดียวเลย (ส่วนตัวผมนั้น นอนเซลล์ฟี่ไปกับสายน้ำบนแพ)
	 
บางช่วงมีน้ำไหลเชี่ยวบ้าง ตามระดับของเส้นทาง แต่ช่วงนี้ไม่มีน้ำหลาก ไม่ตกใจครับ แต่ก็กอดกล้องถ่ายภาพไว้แน่น >_<
	 
	 
	 
เมื่อเข้าช่วงที่มีป่าตลอดริมตลื่ง บางครั้งก็จะพบ "งู" และ "นก" หลายชนิด ... แต่ผมถ่ายสัตว์ไม่เก่งครับ เลยไม่ได้ถ่าย (ชอบถ่ายสายน้ำและแสงแดดมากกว่า)
	 
ยิ่งมีแดดยามบ่ายๆ แบบนี้ ทั้งแสงทั้งเงา ถ่ายสนุกมากกว่า เล่นน้ำเสียอีก
	 
	 
บางช่วงน้ำทะลักมาในแพให้เราเปียกนิดหน่อย (ใครจะมาล่องแพเตรียมผ้ามาเปลี่ยนด้วยนะครับ) แต่ว่า ผมรักน้ำใสๆ ของที่นี่จัง
	 
ใช้เวลาล่องแพประมาณ 40-50 นาที พี่คนพายก็นำเรามาสิ้นสุดที่จุดสุดท้าย
	 
	พี่คนพายนำแพไปขึ้นอีกจุดหนึ่ง และ ตวัดสายน้ำอำลาสะท้อนแสงแดดยามบ่ายเป็นสายสวยงาม
	
	 
	 
	เราขอเล่นน้ำอยู่บริเวณนี้ก่อนเพราะน้ำไม่ลึกสะท้อนแสงจนเป็นประกาย และ ที่สำคัญไม่อยากจะพลาดบรรยากาศดีๆ แบบนี้ 
	
	 
แค่จุดนี้เราวนถ่ายรูปไปได้สักร้อยภาพ ^_^
	
ภาวนาให้มีแพผ่านมาสักลำสองลำ และ ก็มีมาจริงๆ
	 
	ในที่สุดเราก็ได้ภาพที่ผมอยากจะได้ ฮะๆๆๆๆ 
	 
	
	 
อีกประกายหนึ่งผมพบว่า ทรายที่นี่จะมีก้อนหินเล็กๆ ที่ส่องประกายเป็นจำพวกแร่ที่ส่องแสงวิบๆ วิบๆ ใต้น้ำเหมือนกลิสเตอร์อยู่ใต้น้ำ อาจเป็นตัวทำให้ .." วังเคียงคู่ " ยามบ่ายวันนี้สวยเป็นพิเศษก็ได้ ^_^
	 
	ขอบคุณวันดีๆ 
	
	ขอบคุณแสงแดดยามบ่าย
	
	ขอบคุณน้ำใสๆ และ ก้อนหินสวยๆ 
	
	ขอบคุณธรรมชาติ ที่เป็นเพื่อนเราตลอด ..... แม้วันที่เราไม่มีคู่ก็ตาม (ไม่เกี่ยวๆ)
	 
เก็บธรรมชาติดีๆ แบบนี้ไว้ตลอดไปนะ แล้ว จะกลับมาเยี่ยมใหม่ ^_^
	 
	
	สำหรับรายละเอียดการล่องแพ 
	
	 
ราคาแพลำละ 500 บาท นั่งได้ 2 - 3 ท่าน ตามน้ำหนัก (คริคริคริ)
	Facebook ของ โกมล คอร์นเนอร์ 
	
	www.facebook.com/KomolCorner
	อยากถามเรื่องพังงา มาที่ 
	
	www.facebook.com/Khaolak.guru
	แล้วพบกันที่พังงา บ้านผมนะครับ 
	
Hello Phang-Nga
วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 20.34 น.

 Readme before you journey
Readme before you journey



















