สวัสดีปีใหม่ค่ะ

เริ่มต้นปีก็เที่ยวเลย มาทำรีวิวเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ ดีกว่า เผื่อจะได้แพลนเที่ยวสำหรับปีนี้ ^^

,,ทริปนี้ไปมาเมื่อวันที่ 7-11 ธันวาคม 2559 5 วัน 4 คืน,, ด้วยงบรวมทุกอย่าง ไม่เกิน 7,000 บาท

ช่วงต้นปีที่แล้วเราได้รู้จักอาสาสมัครชาวเวียดนาม จากโฮจิมินห์ คนนึง มาอยู่ไทยเดือนครึ่ง ก็จัดการเมคเฟรนด์ซะเลย เป็นเจ้าบ้านที่ดี พาเค้าไปเที่ยวโน่นนี่,,,สาวเวียด เกิดความประทับใจเป็นอย่างมาก เลยเอ่ยปากชวนเราไปเที่ยวเวียดนาม...ได้เลย ไปๆๆๆ สิ้นปีเจอกัน travel with local ชอบเลยยยย

ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าคนไทยกำลังฮิตไปเวียดนาม ไม่มีข้อมูลใดๆ ของเวียดนามเลย แหะๆ พอมาอ่านรีวิวมากมาย จึงได้อ๋ออออ ควรไป โฮจิมินห์ มุยเน่ ดาลัท สินะ

แพลนเราก็เหมือนที่คนไทยเที่ยวทั่วๆ ไป แต่ก็มีความต่างอยู่บ้าง...อยากรู้ว่าคืออะไร ตามมาจ้าาาา

ด้วยความขี้เกียจและไม่ว่างแพลนทริป หลังจากที่กลับจากเที่ยวเกาหลีได้เดือนเดียว เราจึงโยนความหวังทั้งหมดไปให้สาวเวียด 55555 เราบอกว่าอยากไปที่นี่ ที่โน่น ที่นั่น,,,สาวเวียดจัดการแพลนให้เสร็จสรรพ ที่พัก ที่เที่ยว ที่กิน การเดินทาง...เออ สบายไปอีก

>> แพลนคร่าวๆ

Day 1 : บินไปโฮจิมินห์ ตอนดึกนั่งบัสนอนไปมุยเน่

Day 2 : ถึงมุยเน่เช้ามืด

Day 3 : ตอนเช้านั่งบัสไปดาลัท

Day 4 : ตอนดึกนั่งบัสนอนกลับโฮจิมินห์

Day 5 : ถึงโฮจิมินห์เช้ามืด ต่อรถไปสนามบิน

...รูปเยอะนะ อะ เริ่ม!

[[DAY 1 : BANGKOK, HO CHI MINH]]

ทริปนี้ไปกับเพื่อนสาว 1 คน และไปเจอแก๊งชาวเวียดอีก 3 คน ที่นู่น...บินกับสายการบิน Viet Jet ราคาโปรไป-กลับ 2,625 บาท ไม่โหลดกระเป๋า **ชั่งน้ำหนักกระเป๋าที่หิ้วขึ้นเครื่องด้วยนะคะ**

หมวกเวียดนาม Non La /น้อง ล้า/ ที่ฝากเพื่อนซื้อมาหลายปี ได้ใช้งานสักที

ถึงสนามบินเตินเซินเญิ้ต ราวๆ 13.00 ฝนตกจ้าาาา ซิตี้ทัวร์ของชั้นวันนี้ล่ะ!?

สาวเวียดมารอรับและขึ้นรถเมล์สาย 109 ไปด้วยกัน ไปลงท่ารถฟามงูเหลา ค่ารถ 20.000 ดอง แน่นอนว่าให้สาวเวียดจ่ายไปก่อน เพราะเรายังไม่ได้แลกเงินดอง ฮ่าาาาาา



คืนนี้เราต้องขึ้นรถไปมุยเน่ เพื่อให้เดินเที่ยวโฮจิมินห์แบบสบายตัว สาวเวียดจึงจัดการหาที่ฝากกระเป๋าให้ล่วงหน้าโดยไม่ต้องเข้าพัก คือที่ Saigon Backpacker เดินมาจากฟามงุเหลาได้ ไม่ไกลมาก **ที่พักสาวเวียดอยู่ไกลจึงไม่สะดวก**

ค่าฝากกระเป๋าคนละ 10.000 ดอง


อาหารมื้อแรก กินอะไรก็ได้ที่ง่ายๆ เร็วๆ เพราะมีแพลนต้องทำเยอะมาก จึงมาจบที่ร้านเฝอ มื้อนี้เราจ่ายไป 50.000 ดอง

Phở bò /เฝอ บ่อ/ เฝอเนื้อ
Phở gà /เฝอ ก่า/ เฝอไก่
Mì gói bò /หมี่ ก๋อย บ่อ/ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเนื้อ


ระแวกนี้มีบริษัททัวร์เยอะมาก เราก็สุ่มๆ แลกเงินร้านนึง ไม่มีเวลาไปเดินหามากมาย

เราแลกเงิน USD จากไทยมา 200 ดอลล์ เรท 22.000 ดอง แลกได้ 4,400.000 ดอง

ในขณะที่ถ้าเอาเงินไทย 7,150 บาท (= 200 USD) แลกเป็นดอง จะได้แค่ 4,075.500 ดอง!!

ฉะนั้นแลกเงินยูเอสมาโลดดดดดดดดด ส่วนซิมการ์ด ก็หาเอาแถวๆ นี้เช่นกัน ราคา 100.000 ดอง


สาวเวียดพามาร้านเช่าชุดอ่าวหญายใส่เดินเที่ยว!....มีใครเค้าทำกันม้ายยยยย 55555++ จริงๆ ร้านนี้มีไว้สำหรับคนเวียดนามเช่าใส่ออกงาน คิดว่ายังไม่มีธุรกิจนี้สำหรับนทท. เหมือนที่เกาหลี

ค่าเช่าชุด 250.000 ดอง

ค่ะ เสียเวลาเลือกชุดอยู่พอสมควรเพราะเพื่อนเราหาไซส์ที่พอดีไม่ได้ ไม่ใหญ่ก็เล็กไป จริงๆ เราก็โอเคกับชุดที่ใหญ่กว่า แต่เจ้าบ้านไม่โอเค ต้องเป๊ะ! เพราะชุดอ่าวหญายต้องใส่ให้รัดรูปค่ะ


,,,ก็เท่าที่เดินๆ ดู ไม่เห็นมีใครใส่อ่าวหญายเลย ฮ่าาาาา สาวเวียดบอกปกติเค้าไม่ค่อยใส่กันในชีวิตประจำวัน ใส่เมื่อมีงานสำคัญ...มีชาวต่างชาติมาขอถ่ายรูปหลายคนเลย นี่ก็ได้เป็นหน้าตาของประเทศเค้าเฉย ฮ่าาาาาา


ออกจากร้าน คราวนี้ก็จัดซิตี้ทัวร์ในวันฝนตกๆ หยุดๆ เลยค่ะ สาวเวียดพาไปเดินถ่ายรูปร่อนเลย ตลาดบิ่นถัน โบสถ์ ไปรษณีย์ แต่ไปไม่ทันมิวเซียมเปิด พอฝนตกก็แวะเข้าห้าง หาที่หลบฝนตามร้านต่างๆ แลดูทุลักทุเล ฮ่าาาา


แวะกิน Trà Tiên Hưởng /จ่า เตี้ยง เหิง/ ชานม 35.000 ดอง


ช่วงฝนตกก็มีนั่งแท็กซี่ไปมาบ้าง พอฝนหยุดก็ลุยต่อที่จตุรัสลุงโฮ


พูดถึงการจราจรนี่...นรกแตกมากค่ะ ทั้งเสียงแตรและการขับขี่ ทุกคนต้องดูแลตัวเองค่ะ ทั้งคนขับขี่และคนข้าม ไม่มีใครรอใคร เวลาสาวเวียดพาข้ามถนนโคตรสนุกเลยค่ะ ข้ามตัดกลางสี่แยกนั่นแหละค่ะ 555555 คือเราก็แค่เดินไปเรื่อยๆ ชะลอความเร็วตามรถ อย่าหยุดเดิน เดี๋ยวติดอยู่กลางสี่แยกนะ ฮ่าาาา

ถ้านึกภาพไม่ออก ลองดูคลิปนี้ https://www.facebook.com/winya059/videos/vb.651067...

หิวข้าวแล้ว~ ความที่สาวเวียดพอเข้าใจภาษาไทย พอเราบอกว่า "หิวข้าว" นางก็พาเราไปหาข้าวกินจริงๆ ข้าวกับหมูย่าง -.-" ...คือพี่หมายถึงหิวอาหารอ่ะ ไม่จำเป็นต้องมีข้าว 5555++


ข้าวหมูย่างหน้าตาไม่น่ากินไง แต่ก็ได้ประสบการณ์นั่งกินข้าวริมทางกับเก้าอี้ซักผ้า ฮ่าาาา คนที่นี่แต่งตัวดีๆ คนทำงาน วัยรุ่นแต่งตัวทันสมัยก็มานั่งกินกันแบบนี้แหละ


Cơm tấm /เกิม ตั๊ม/ ข้าวหมูย่าง 25.000 ดอง


Bánh mì thịt nướng /ปั๊น หมี่ ถิด นึ๊ง/ ขนมปังไส้หมูย่าง 15.000 ดอง


ใกล้สามทุ่ม เราก็รีบเอาชุดไปคืนร้าน เดินผ่านตลาดบิ่นถันตอนกลางคืน ของขายคล้ายๆ ถนนข้าวสาร


ไปรับตั๋วรถที่สาวเวียดจองล่วงหน้าไว้ให้ เดินทางจาก มุยเน่ - ดาลัท กับบริษัท The Sinh Torist 80.000 ดอง


มาเจอเพื่อนสาวเวียดอีกคน ตอนจะขึ้นรถบัสนอนที่จะไปมุยเน่ สาวเวียดจองล่วงหน้าไว้ ราคา 90.000 ดอง ค่ะ รถออกประมาณสี่ทุ่มครึ่ง ก่อนขึ้นรถสาวเวียดก็นำเสนอให้กินน้ำผลไม้ปั่น ซึ่งหากินได้ง่ายมาก มีขายตลอดทาง

Sinh tố /ซิน โต๊/ น้ำปั่น เราเลือกกินมะม่วงผสมสตรอเบอร์รี่ปั่น มันอร่อยมากกกกก มีหั่นเนื้อใส่ด้านบนด้วย


ประสบการณ์บนรถบัสนอนครั้งแรกนั้น...นอนไม่ค่อยหลับ เพราะแอร์ไม่เย็น ตัวเหนียวมาก คนขับบีบแตรตลอดเวลา แตรรถประเทศนี้ดังลั่นเข้ามาข้างในค่ะ,,,พอกำลังเคลิ้มจะหลับ...ถึงแล้วจ้าาา


[[DAY 2 : MUI NE]]

ตามแพลนสาวเวียดบอกว่าจะมาถึงมุยเน่ 03.30 น. ที่ไหนได้ 02.30 น. ค่ะคุณ!! ไปถึงที่พักก็ไม่มีห้อง แต่สาวเวียดก็ไปจัดการหาห้องมาให้จนได้ เป็นที่พักติดกัน


ไม่ได้นอนนะคะ อาบน้ำแต่งตัวจ้าาาา จอง Jeep Tour ไว้ช่วงเช้า (มีช่วงบ่ายกับเช้า) สาวเวียดจองให้ ราคาคนละ 100.000 ดอง แชร์รถกับอีก 3 คน รถจี๊บมารับ 04.30 น.


ที่แรกพาไป White Sand Dunes ใช้เวลาเดินทางนานพอสมควร วันนี้ฟ้ามัวๆ ครึ้มๆ ไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นจ้าาาา //ร้องห้ายย// เราใช้บริการรถ ATV ให้เค้าขี่ไปส่งด้านบน คนละ 150.000 ดอง อีก 40 นาทีจะกลับมารับ


แต่ก็ดีที่อากาศไม่ร้อน แดดไม่จัด



Next stop คือ Red Sand Dunes สิ่งแรกที่ทำเมื่อมาถึงที่นี่คือ กิน! 55555 มันมีร้านหาบเร่ขายของกินอยู่ ทุกคนพร้อมใจมุ่งหน้าไปหาของกิน เพราะเริ่มเช้าแล้ว หิวแล้ว


Nui /นุย/ มักกะโรนีต้มกับแกงจืด 25.000 ดอง

Bánh bột lọc /ปัน โบด หล็อก/


ทะเลทรายแดงเล็กกว่าทะเลทรายขาว มีเวลาชมที่นี่ประมาณ 30 นาที


ที่ต่อมา Fishing Village จริงๆ ก็ไม่มีอะไร แต่เราชอบนะ ชอบความโลคอล ชอบเรือตะกร้า ชอบความใหญ่ของหอย ไปดูเค้าขายกุ้งหอยปูปลา



เรือตะกร้า เรียกว่า Thuyền Thúng /ถวิ่ง ถ๊ง/ แต่ดูหน้าตาแล้ว เหมาะจะเรียก เรือกะละมัง มากกว่า ฮ่าาาาาา


ที่สุดท้ายของทริป คือ Fairy Stream เป็นลำธารน้ำ เดินเข้าไปลีกเหมือนกันกว่าจะถึง แต่ไปไม่สุด เพราะขี้เกียจละ ก็ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่


นี่เดินเข้ามาเจอของกิน ก็แวะอีกเช่นเคย


Bánh tráng nướng /ปัน จัง นึ๊ง/ 10.000 ดอง

จบทริป กลับห้อง ประมาณ 11 โมง ไม่พูดพร่ำทำเพลงค่ะเรา ตัวใครตัวมัน นอน!! ตื่นอีกที บ่าย 3 ฮ่าาาาาาาาาา

ที่พักคืนนี้ Minh Hung Hotel คนละ 150.000 ดอง


ตื่นมาก็หาข้าวกินสิคะ มื้อนี้คนละ 50.000 ดอง เสร็จแล้วก็เดินไปเรื่อยไปนั่งเ่ล่นริมหาดมุยเน่


คลื่นแรงมากค่ะ เหมาะแก่การเล่นเสิร์ฟบอร์ด


ไปนั่งเล่นอยู่ริมทะเลมุยเน่ตอนกลางคืน นอนดูดาว เม้าท์มอย จนน้ำขึ้น ก็ไปหาซีฟู้ดกิน คือต้องไม่พลาดไง ล็อบสเตอร์ที่เค้าว่าถูกนักหนา เลือกร้าน Mr. Crab เพราะอยู่ไม่ไกลจากที่พักมาก


สิ่งแรกที่มาเสิร์ฟ คือ เกลือผสมพริกไทย+ส้มจี๊ด ไว้กินกับซีฟู้ด! แต่เราขอพริกมาใส่เพิ่ม รสชาติก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย

ไม่นะ!!! ต้องน้ำจิ้มซีฟู้ดสิ มันถึงจะใช่



แต่แล้วสวรรค์ก็เห็นใจ เมื่อน้ำมะนาวโซดาที่สั่งมาเสิร์ฟ ตอนแรกก็คิดว่าผสมมาให้เสร็จสรรพ โนจ้าาาาา มาผสมเอง

เมื่อเห็นมะนาว น้ำตาล พริก...เฮ้ย ขาดแค่น้ำปลา กระเทียมเอง...ขอพนง. สิคะ รอไร แล้วเราก็ได้กินน้ำจิ้มซีฟู้ดอย่างมีความสุข


มื้อนี้เน้นหอย จ่ายไปคนละประมาณ 300.000 ดอง


[[DAY 3 : DALAT]]

เช้านี้รถมารับถึงหน้าที่พัก ไปดาลัท 07.30 น. ดู๊ดูท้องฟ้า มาสวยสดอะไรวันกลับ พูด!



ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 4 ชั่วโมง ก็ค้นพบว่าเราอยู่ตรงที่สูงแล้ว ใกล้ถึงเมืองดาลัทแล้ว


เมื่อถึงบริษัทรถก็ต่อแท็กซี่ไปที่พัก

ดาลัท เป็นเมืองที่อากาศดีมากกกกกกกกกกกก ชอบบบบบบ กลางวันประมาณ 20 องศา กลางคืนประมาณ 16 องศา


สาวเวียดจองที่พักชื่อ Ladophar Hotel ทำเลใกล้กับ Dalat Night Market มาเจอเพื่อนชาวเวียดเพิ่มอีก 1 คน ที่มารออยู่ที่นี่

2 วัน 1 คืนในดาลัท เรา 5 คน ลงขันกันคนละ 500.000 ดอง ให้เพื่อนเวียดถือเงินคอยจ่ายค่าต่างๆ ชาวเวียดจัดการดีลกับรถแท็กซี่ให้พาพวกเราเที่ยวทั้ง 2 วัน

ค่าห้องหารกัน 5 คน คนละ 120.000 ดอง


หน้าโรงแรม


destination แรกคือ กิน... นั่งแท็กซี่มาร้านนี้ มาเวียดนามต้องลองแหนมเนืองแท้ๆ สักหน่อย

//บอกพิกัดไม่ได้ค่ะ เค้าพามา ^^"


ถ้าไม่บอกนี่ไม่รู้จริงๆ ว่านี่คือ แหนมเนือง!!! Nem Nướng /เนม นึ๊ง/ ชุดละ 40.000 ดอง

หน้าตาต่างจากบ้านเราอย่างสิ้นเชิง ทุกอย่างจะหั่นเป็นแนวยาวค่ะ และวิธีกินคือ "ม้วน" ภาษาเวียดนาม เรียกว่า "กุ๊ง" ไม่ห่อแบบบ้านเรา แล้วจิ้มน้ำจิ้ม ถ้วยใครถ้วยมัน

แป้งที่ม้วนไม่ต้องแช่น้ำ กินได้เลย มันกึ่งแข็งกึ่งนิ่ม นึกถึงพลาสติกเข้าไว้ ฮ่าาาา


บ้านช่องที่นี่สวยน่ารักมากค่ะ

ชาวเวียดบอกว่า "ดาลัท เป็นเมืองเดียวในเวียดนาม ที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร" !!!! กรี๊ดดดดดด แค่ลำพังมีสัญญาณไฟก็ข้ามถนนยากจะแย่ แต่การจราจรที่นี่ก็ยังดีกว่าโฮจิมินห์



นั่งแท็กซี่มาเก็บแลนด์มาร์กที่แรก Dalat Railway Station


ด่านแรกก่อนผ่านเข้าไปข้างใน เจอขนมจ้า ลองกินๆ

Kẹo Chỉ Hồng /เก๋ว จี๋ ฮ่อม/ เคยกินขนมหนวดมังกรที่เป็นเส้นๆ มั้ย แบบนั้นเลยเส้นๆ ด้านใน แต่เป็นรสทุเรียน


น้าแท็กมาส่งที่ Crazy House ค่าเข้าคนละ 40.000 ดอง เราชอบที่นี่นะ มีความงงๆ บันเทิงมาก บางจุดไม่เหมาะกับคนที่กลัวความสูง


ออกจาก Crazy House ก็เดินไปเรื่อยๆ เพื่อจะไปโบสถ์ดาลัท ระหว่างทางคุณ! ดอกไฮเดรนเยีย เบ่งบานกันริมทาง เรี่ยดิน อารมณ์ดอกเฟื่องฟ้าบ้านเรา ที่ไร้คนสนใจ อากาศเย็น เบ่งบานกันเต็มที่เลย เราชอบมาก


Dalat Cathedral



เดินจากโบสถ์มาเรื่อยๆ จะเจอซอยค่ะ ซอยนี้มี 2 โรงเรียนตั้งอยู่ ใกล้โรงเรียนเลิกพอดี แน่นอนต้องมีขนมหน้าโรงเรียน

โรงเรียนในเวียดนามเลิกเที่ยงค่ะคุณ เรียนกัน 6 วัน ช่วงบ่ายก็ไม่หาเรียนเสริมกันเอาเอง


เราได้กิน Bánh Tráng Nướng /ปัน แจง นึ๊ง/ พิซซ่าเวียดนาม ของขึ้นชื่อของดาลัท ที่ขายเป็นสิบๆ ร้านใน Dalat Night Market

แต่กินที่นี ได้รับความออริจินอลเต็มๆ ไม่ได้ปรุงแต่งอะไรเพื่อเอาไว้ขายนักท่องเที่ยว

นั่งรอป้าทำประมาณ 2 นาทีต่อชิ้น! ชิ้นนี้ 25.000 ดอง ราคาขึ้นอยู่กับไส้ที่ใส่


เดินย่อยจนไปถึง Lam Vien Square ที่นี่มีจุดเด่นคือ โดมดอก Atiso และโดมดอกทานตะวัน


ชาวเวียดบอกว่าดอกอาติซอ เป็นสัญลักษณ์ของดาลัท ดอกนี้เอามาสกัดเป็นชา และอื่นๆ


อยู่ติด Ho Xuan Huong Lake


โทรตามแท็กซี่มารับกลับเข้าที่พัก พอค่ำๆ ก็เดินมา Dalat Night Market กัน


แนะนำให้กิน Yaourt Phômai /โยเกิร์ต โฟหม่าย/ เป็นโยเกิร์ตชีส อร่อยดี ถ้วยละ 8.000 ดอง เราเบิ้ลไป 2 ถ้วย


Cơm gà lá dứa /ก๊ม ก่า ล๊า เยื้อะ/ ไม่ค่อยอร่อย ไม่ชอบ


ดอกอาติซอของจริง (อ่ออออ หน้าตาแบบนี้นี่เอง) และชาอาติซอ


Bánh Mì Xíu Mại /ปั๊น หมี่ ซิว หม่าย/ อร่อยดี ชอบ เหมือนกินขนมปังกับแกงจืดหมูสับร้อนๆ เผ็ดนิดๆ ใส่มะละกอดิบลงไปด้วย


เดินมานั่งเล่นที่ทะเลสาบ เพื่อให้ย่อยแล้วไปกินต่อ ฮ่าาาาา



เดินกลับมาของเบสิคอย่างกินไข่ปิ้ง แต่ไม่มีซีอิ๊วให้นะ มีเกลือผสมพริกไทย แล้วอยู่ในห่อโฆษณา!!! ฮ่าาาา กินๆ ไป


Bún Bò Huế /บุ๋น บ่อ ฮเว/ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

Bún Riêu Cua /บุ๋น ริว กัว/ ก๋วยเตี๋ยวปู มีความคล้ายขนมจีนน้ำเงี้ยว


หมูยอ


ปิดท้ายคืนนี้ด้วย Sữa đậu nàn /สัว เดอะ หนั่น/ นมถั่วเหลือง และขนมบนโต๊ะที่ไม่อร่อย


วันนี้สิ่งที่สังเกตเห็นได้ชัดคือ แฟชั่นของวัยรุ่นที่นี่ มีความเกาหลีมาก งานโค้ท งานคู่ สาวๆ ขายาว ขาขาว...นี่นึกว่าอยู่เกาหลีใต้ สาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่าาาาา


[[DAY 4 : DALAT]]

แวะมากินมื้อเช้าที่ซอยข้างโบสถ์เมื่อวานนี้


Bánh Cuốn /ปั๊น กุ๊ง/ ปากหม้อญวนไง เป็นเมนูที่เราชอบกินที่ไทย


พี่แท็กพาเราออกมานอกเมือง ไกลมากกก ประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อมา "ฟาร์มนมดาลัท"

ดะ เดี๋ยว คือ แค่เราบอกว่าอยากลองกินนมดาลัท เพราะคนไทยที่เคยมาเที่ยวบอกว่าเป็นของขึ้นชื่อ นี่พามากินถึงฟาร์มเลยหรอ ฮ่าาาาาาา ซึ้ง น้ำตาจะไหล ฮ่าาาาาา

ก่อนเข้าก็ต้องแลกบัตร พี่แท็กก็ตื่นเต้นเพราะไม่เคยมาเหมือนกัน ถ่ายรูปใหญ่เลย ฮ่าาาาา


บรรยากาศดีมากกกกกกกกก แนะนำให้มา หาหนทางมากันนะ


มีออฟฟิสอยู่ด้านหน้า ด้านหลังเป็นป่าเขา อย่าถามหาวัว นี่ไม่เจอเหมือนกัน คาดว่าคงอยู่ด้านใน ไม่ให้ใครเข้าชม


มากันเช้ามาก เราเป็นนทท. กลุ่มที่ 2 ที่มา และร้านขายนมก็ยังไม่เปิด




เดินเรื่อยๆ มาด้านใน มีแปลงดอกไม้นิดๆ หน่อยๆ พอให้ฟรุ้งฟริ้ง


เดินกลับออกมา ร้านขายนมเปิดแล้ว มีโยเกิร์ตด้วยนะ โยเกิร์ตอร่อย เนื้อละมุนมากกกก


สังเกตภาพที่กล่องนมดาลัท...สำเนาถูกต้อง มาถูกที่


ขากลับก็มีคนเริ่มมาเที่ยว มีซื้อนมกลับกันไปเป็นลังๆ


ยังคงเก็บที่เที่ยวรอบนอก คือ วัด Thiền Viện Trúc Lâm


เดินไปด้านล่างได้นะ มีทะเลสาบ แต่ขี้เกียจเดินไง จบแค่ตรงนี้


นั่งรถไปสถานีเคเบิ้ล คาร์ เพื่อมากิน!



สาวเวียดภูมิใจเสนอเมนูนี้มาก บุฟเฟ่ต์ผัก! นางบอกว่าเมื่อวานเรากินเนื้อกันมามากแล้ว วันนี้เรามากินผักนะ

คือก็พอรู้มาว่าคนเวียดนามชอบกินผักมากกกกกกกกก ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ ฮ่าาา


หัวละ 49.000 ดอง ผักเน้นๆ ไม่มีเนื้อ ถ้าอยากกินเนื้อและเห็ดต้องสั่งต่างหาก



วนรถกลับไปน้ำตก Datanla ที่ผ่านมาแล้ว ค่าเข้าคนละ 20.000 ดอง ค่า Roller coaster ไปกลับ 50.000 ดอง

สนุกๆ ชอบๆ พนง. พูดภาษาไทยได้ด้วย "ข้างหน้าไป ข้างหลังเบรค" แล้วหันไปพูดไทยกับเพื่อนเวียด ฮ่าาา


ระยะทางไกลใช้ได้กว่าจะถึงน้ำตก ถ้าเดินนี่เหนื่อยแน่


กลับเข้าเมือง เราบ่นๆ อยากซื้อสตรอเบอร์รี่กลับ นางพามาสวนสตรอเบอร์รี่ แต่ทัวร์มาลงแต่เช้า อดจ้าาาา

เลยพามาซื้อตามข้างทาง แต่ก็ไม่ได้หวานมาก



แยกย้ายกับพี่แท็กที่ร้านไอติมในเมือง จำค่าแท็กซี่ไม่ได้แล้วอ่ะ ขออภัย


ไอติมกะทิ ที่เลือกหน้าผลไม้ได้ สั่งพุดดิ้งเพิ่มด้วย


จากนี้ก็เดินล่ะ แต่ก็ไม่ไกลอะไร เดินไปเรื่อยๆ แวะไปเอาตั๋วรถคืนนี้ที่สาวเวียดจองไว้ ดาลัท - โฮจิมินห์ คนละ 200.000 ดอง

เดินกลับที่พัก เก็บกระเป๋าเตรียมเช็คเอ้าท์ ฝากของไว้ เพราะจะมี Shuttle Bus ของบริษัททัวร์มารับไปขึ้นรถ


นี่ก็กินไม่เลิก มาเจอร้านโลคอล ที่น่าจะเปิดแต่เช้า เราไปกินของก็จะหมดแล้ว

แล้วรอนานมาก ดูสิมีอยู่ 3 เตา


Chả Ram /จ๋า แรม/ ประมาณเปาะเปี๊ยะทอด


Bánh Xèo /ปั๊น เซว/ ขนมเบื้องญวน รสชาติคล้ายหอยทอด ข้างในมีกุ้ง

วิธีกิน ต้องเอาแผ่นแป้ง (แบบแหนมเนือง) มาห่อ แล้วกิน


เดินไป Dalat Night Market อีก คือไม่อิ่มไง มาลองกิน Bánh Mì Xíu Mại /ปั๊น หมี่ ซิว หม่าย/ อีกร้าน


วันนี้วันเสาร์ ที่นี่เค้าปิดถนน คนเดินมากมาย


Shuttle Bus มารับประมาณ สองทุ่ม มาส่งขึ้นรถที่นี่

ไปถึงโฮจิมินห์ประมาณตี 4


[[DAY 5 : HO CHI MINH, BANGKOK]]

ประมาณ ตี 5 นั่งแท็กซี่ไปลงป้ายรถเมล์ เราลาสาวเวียดตรงนี้ แล้วนั่งรถเมล์สาย 119 มาสนามบิน 20.000 ดอง

ขึ้นเครื่อง 8 โมง มากับฝน และ กลับกับฝน


ค่าใช้จ่ายในเวียดนาม จากที่แลกเงิน 4,400.000 ดอง มีเงินเหลือ 1,800.000 ดอง

สรุปใช้ไป 4,225 บาท + ค่าเครื่อง 2,625 บาท = 6,850 บาท สำหรับทริปครั้งนี้

เวียดนาม...ประทับใจนะ ค่าครองชีพถูก ถ้ามีโอกาสจะไปอีกแน่นอน ไปอยู่โฮจิมินห์ให้นานกว่านี้ ไปเก็บภาคกลางและภาคเหนือ

กลับถึงกทม มีเวลาหายใจ 2 วัน แล้วไปกัมพูชาต่อค่ะ,,,ไปเที่ยวเสียมราฐกัน...รอรีวิวนะคะ

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

...วิญย่า


Winya Pawinya

 วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 23.13 น.

ความคิดเห็น