บันทึกการเดินทางในครั้งนี้ พิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะได้รับเกียรติจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้มาเก็บภาพบรรยากาศงานปั่นจักรยานภูซางเสือภูเขา ครั้งที่ 5 รวมถึงการได้สัมผัสบรรยากาศบนดอยสูงและจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว ทั้งภูฟ้าไทยและภูชี้เดือนตามเส้นทางในฝัน สวรรค์แห่งดอยผาหม่น
อีกหนึ่งพื้นที่การเดินทางในแบบฉบับของผม ม่วงมหากาฬLIFE FOR TRAVEL https://www.facebook.com/PEESAT.PANTIP
ผมเริ่มต้นเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติดอยภูนาง อ.เชียงม่วน จ.พะเยา ในวันที่ 24 ธันวาคม 2559 อุทยานฯ เล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่บนเส้นทางสายพะเยา เชียงม่วน น่าน
อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง กับบรรยากาศด้านในที่ร่มรื่นเย็นสบาย มีลานกางเต็นท์ บ้านพัก และร้านอาหารคอยให้บริการกับนักท่องเที่ยว จุดเด่นอีกสิ่งหนึ่งสำหรับที่นี่คือจะมีนกยูงเดินไปมาภายในอุทยานจำนวนหลายตัว
อีกจุดเด่นหนึ่งของอุทยานแห่งชาติดอยภูนาง คือ น้ำตกธารสวรรค์ ยามนี้แม้จะเข้าสู่ฤดูหนาวแต่สายน้ำก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความสวยงาม รอให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมเก็บภาพบรรยากาศในมุมต่างๆ ของน้ำตกแห่งนี้ ซึ่งจากจุดจอดรถจะใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 20 นาที ระยะทางประมาณ 500 เมตร
เช้าวันที่ 25 ธันวาคม 2559 ผมเดินทางมายังที่ว่าการอำเภอภูซาง จ.พะเยาแต่เช้าตรู่ เพื่อเก็บภาพบรรยากาศในงานปั่นจักรยานภูซางเสือภูเขา ครั้งที่ 5 โดยมีนักปั่นจักรยานจากทั้ง จ.พะเยา และจังหวัดใกล้เคียงเข้ามาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้อย่างมากมาย
สำหรับเส้นทางในการปั่นจักรยานภูซางเสือภูเขาในครั้งนี้ เริ่มต้นจากที่ว่าการอำเภอภูซาง ผ่านอุทยานแห่งชาติภูซาง น้ำตกภูซาง และไปเข้าเส้นชัยที่ด่านชายแดนไทย-ลาว บ้านฮวก รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 28 กิโลเมตร เส้นทางค่อนข้างสวยงาม ผ่านสวนยางพาราของชาวบ้าน หมู่บ้านต่างๆ ลัดเลาะไปตามทิวเขาของอุทยานแห่งชาติภูซาง แม้อากาศในช่วงสายๆ จะค่อนข้างร้อน แต่นักปั่นทุกคนก็ยังมีรอยยิ้มตลอดเส้นทางการปั่น
น้ำตกภูซางในวันนี้ ยังคงความสวยงามและร่มรื่น มีนักท่องเที่ยวมานั่งพักผ่อนอยู่บริเวณน้ำตกกันอย่างไม่ขาดสาย จากน้ำตกภูซางไปอีกราว 8 กิโลเมตรก็จะถึงเส้นชัยที่ด่านชายแดนไทย-ลาว บ้านฮวก ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของนักปั่นในวันนี้ และเส้นทางสายนี้ยังเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังดอยผาหม่นจนถึงภูชี้ฟ้าได้อีกด้วย
หลังจากเก็บภาพบรรยากาศงานปั่นจักรยานภูซางเสือภูเขา ครั้งที่ 5 เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ผมได้เดินทางต่อมายังภูชี้ฟ้า อ.เทิง จ.เชียงราย ภูชี้ฟ้าในวันนี้มีไร่สตรอเบอรี่ตั้งอยู่ระหว่างทางหลายแห่ง กลายเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในช่วงหน้าหนาว กับราคาที่ค่อนข้างย่อมเยา และรสชาติหวานอร่อย
ที่พักของพวกเราทั้ง 3 คืนในครั้งนี้ อยู่ห่างจากภูชี้ฟ้าราว 1 กิโลเมตร เป็นลานกางเต็นท์ของที่พักที่ชื่อว่า ภูชี้ฟ้า@Good View จุดเด่นของที่นี่ที่ทำให้ผมประทับใจก็คือวิวทิวทัศน์ที่สวยงามทอดยาวออกไปสุดลูกหูลูกตา และสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกในยามเย็นได้อย่างงดงาม
เช้าวันถัดไปผมออกเดินทางจากลานกางเต็นท์ราวตี 5 เพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่มีชื่อว่า “ภูฟ้าไทย" โดยมีน้องที่ทำงานอยู่รีสอร์ทภูชี้ฟ้า@Good View ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ช่วยนำทางขึ้นไป
เส้นทางไปยังภูฟ้าไทย จะขึ้นทางหมู่บ้านร่มฟ้าไทย ซึ่งห่างจากภูชี้ฟ้าราว 500 เมตร เป็นเส้นทางเก่าเมื่อราว 20-30 ปีก่อนที่ใช้เดินเท้าไปยังภูชี้ฟ้า เมื่อเราขับรถขึ้นมาทางหมู่บ้านร่มฟ้าไทยได้ราว 300 เมตร จะเจอลานจอดรถขนาดใหญ่ หลังจากนั้นจะเริ่มต้นเดินเท้าขึ้นไปด้านบนอีกราว 700 เมตร เส้นทางไม่ลำบากมากนัก
เมื่อขึ้นมาด้านบนจะเป็นลานกว้างในมุมมอง 360 องศา มองออกไปทางฝั่งประเทศลาว เราจะพบกับทะเลหมอกที่สวยงาม ด้านบนยังไม่มีร้านอาหารและห้องน้ำคอยให้บริการ แต่ก็ปรับแต่งสถานที่ไว้คอยรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างลงตัวแล้ว
เช้าวันต่อมา ผมเดินทางไปยังดอยผาตั้ง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ซึ่งห่างจากภูชี้ฟ้าราว 30 กิโลเมตร วันนี้อากาศค่อนข้างหนาวเย็น จากด้านล่างเราจะต้องเดินเท้าไปยังจุดชมวิวต่างๆ ราว 15 นาที จุดเด่นสำหรับที่นี่คงเป็นทะเลหมอกที่สวยงาม มีความรู้สึกว่าเมื่อมาดอยผาตั้งเหมือนได้มาดอยแม่สลอง ด้วยองค์ประกอบต่างๆ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงสินค้าพืชผักผลไม้เมืองหนาวที่คล้ายคลึงกัน
ระหว่างทางจากดอยผาตั้งไปยังภูชี้ฟ้า เราจะพบกับลานกางเต็นท์และรีสอร์ทขนาดเล็กมากมาย เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่น่าท่องเที่ยวในความรู้สึกของผม โดยเฉพาะหน้าฝนและฤดูหนาวที่อุดมไปด้วยสายหมอก
เช้าวันใหม่เริ่มต้นที่ภูชี้ฟ้า ช่วงนี้เป็นช่วงวันหยุดเทศกาล จะมีรถไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวจากจุดจอดรถต่างๆ ขึ้นไปยังจุดชมวิวภูชี้ฟ้า โดยห้ามมิให้นำรถส่วนตัวขึ้นไป วันนี้นักท่องเที่ยวมีจำนวนค่อนข้างเยอะ นับดูด้วยสายตาไม่น่าจะต่ำกว่า 500 คน แม้คนจะเยอะและเบียดเสียดแออัด แต่ภูชี้ฟ้าก็ยังคงงดงามและน่าเที่ยวอยู่เสมอ
หลังจากเก็บบรรยากาศความสวยงามของภูชี้ฟ้าจนเต็มอิ่มแล้ว ผมเดินทางต่อไปยังภูชี้เดือน ซึ่งห่างออกไปจากภูชี้ฟ้าราว 10 กิโลเมตร บนเส้นทางภูชี้ฟ้า-ดอยผาตั้ง
ภูชี้เดือนเป็นจุดชมทะเลหมอกที่เพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมความงามได้เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา การจะขึ้นไปยังด้านบนของภูชี้เดือนต้องใช้บริการรถเช่าของชาวบ้านในราคาคันละ 500 บาท สามารถนั่งได้ 5 คน จากด้านล่างรถจะพาเราลัดเลาะไต่ระดับขึ้นไปยังลานจอดรถด้านบน ระยะทางราว 3 กิโลเมตร เส้นทางค่อนข้างลำบากต้องใช้บริการรถโฟร์วิลของชาวบ้านเท่านั้น ไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวขึ้นไปด้านบน เมื่อมาถึงลานจอดรถด้านบนจะมีร้านค้าและห้องน้ำไว้ให้บริการ จากจุดนี้เราต้องเดินเท้าขึ้นไปอีกราว 150 เมตร เส้นทางเดินเท้าไม่ลำบากมากนัก
เมื่อเดินเท้ามาถึงจุดชมวิวภูชี้เดือนซึ่งเป็นหน้าผาสูง มองออกไปทางฝั่งประเทศลาว เราจะเห็นทะเลหมอกที่หนาแน่นและสวยงามแบบ 360 องศา นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นภูชี้ดาวที่ห่างกันออกไปเพียง 1 กิโลเมตรได้อีกด้วย
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย ขอบคุณสายการบินนกแอร์ จากจุดเริ่มต้นตั้งแต่ อ.ภูซาง จ.พะเยา จนมาสุดทางที่ดอยผาตั้ง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย บนเส้นทางดอยผาหม่น ที่ทุกเรื่องราวมีแต่ความสวยงาม
ขอบคุณสำหรับการติดตามรับชม แล้วพบกันใหม่ในบทบันทึกการเดินทางฉบับต่อไป สวัสดีครับ
อีกหนึ่งพื้นที่การเดินทางในแบบฉบับของผม ม่วงมหากาฬLIFE FOR TRAVEL https://www.facebook.com/PEESAT.PANTIP
ม่วงมหากาฬ
วันพฤหัสที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 22.00 น.