ระหว่างทาง.....
น้ำตกทีลอจ่อ (น้ำตกสายฝน) น้ำตกสายรุ้ง ประทับใจสุดๆ สวยมากกก บ่อน้ำพุร้อน น้ำตกทีลอซู (น้ำตกดำ) ดอยหัวหมด
น้ำตกทีลอซู ภาพจำใหม่หลังโดนน้ำป่าซัดทำลาย ถ่าย ณ วันที่ 6 ธ.ค.2567
ทีลอซูวันนี้ แม้ความงดงามจะไม่เหมือนภาพจำที่เคยเห็น...แต่ ทว่า ความยิ่งใหญ่สง่างามของ ทีลอซู ยังคงอยู่ คงต้องรอให้ธรรมชาติเยียวยาตัวเอง เพื่อฟื้นฟูขึ้นอีกครั้ง คิดว่าคงอีกไม่นานคงได้กลับมางดงามดังเดิม และ ครองแชมป์ น้ำตกที่สวยและยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อีกครั้งหนึ่ง....
กระนั้น ระหว่างทางล่องแก่ง นั่งเรือ ไปราวๆ 3.5 ชั่วโมงก็คุ้มค่ามากมายเหลือเกิน
ขอเล่าการเดินทางสั้นๆ นะคะ แม้จะเดินทางจริงยาวนานกว่า 6 วัน 555
- วันแรก 4 ธ.ค. เดินทางจาก กทม.โดยรถยนต์ส่วนตัว ราวๆ 3 ทุ่ม พักค้างคืนที่ นครสวรรค์ 1 คืน
- วันที่สอง 5 ธ.ค. เดินทางจาก นครสวรรค์ ไป อ.แม่สอด จอดรถ แล้วเหมารถตู้ (เป็นทัวร์รวมอาหารและที่พักพาไปน้ำตกทีลอซู) เดินทางต่อไปยัง อ.อุ้มผาง นอนพักค้างคืน
- วันที่สาม 6 ธ.ค.เดินทางล่องเรือ ไปน้ำตกทีลอซู และกลับมาพักที่อุ้มผาง อีก 1 คืน
- วันที่สี่ 7 ธ.ค. ตื่นตี 5 ไปชมพระอาทิตย์แสงแรกของวันที่ดอยหัวหมด เดินทางกลับไปนอนแม่สอด เที่ยวตลาดริมเมย เที่ยวผับที่แม่สอด (ดีงามมาก)
- วันที่ห้า 8 ธ.ค. เดินทางจากแม่สอด ไปพักค้างที่ ใกล้ๆ หุบป่าตาด จ.อุทัยธานี กินหมูกะทะท่ามกลางหุบเขา
- วันที่สุดท้าย 9 ธ.ค. ไปชมถ้ำความงดงามของหุบป่าดาด และเดินทางกลับบ้านโดยปลอดภัย ....
ลุงพลขับ หรือลุงเบิ้ม มารับจากแม่สอด ไปอุ้มผาง ขับรถดีมากๆ เราเป็นพวกขี้เมา ไม่เมาไม่อ๊วกเลย แต่(อัดยาไปหลับตลอดทาง 555)
รีสอร์ทที่อุ้มผางค่ะ ภูดอยแค้มป์ไซท์ หลังนี้เรานอนกัน 8 คน มี 4 ห้องนอน ไม่เก่าไม่ใหม่ เตียงใหญ่นอนสบายค่ะ
อาหารที่ทางรีสอร์ทจัดให้ ก็อร่อยคุ้มค่า เติมได้ไม่อั้นด้วยนะ
กลางคืนก็นับเลข เมา ตามประสา เช้ามาก็ออกลุยกันต่อ จากที่พัก 10 นาทีก็ถึงที่ขึ้นเรือเพื่อล่องแก่งระยะทางกว่า 3 ชั่วโมง ล่องไปตามลำน้ำแม่กลอง ล่องไปจิบเบียร์เย็นๆไป (แช่ใส่กระติกไปพร้อม) มันชิวมันฟินมากๆ ลมพัดเย็นปะทะหน้า น้ำใสไหลผ่านไปช้าๆ วิวข้างหน้าคือภูเขาสูงสุดแหงนมอง ต้นไม้ และน้ำตกที่ไหลลงมาระหว่างทาง คือ ไม่เรียกว่าความสุขไม่รู้จะเรียกอะไรเลยค่ะ.....
ผาเต่า มองเห็นเป็นรูปเต่ากันมั้ยคะ
ผาช้าง เห็นงวงมั้ยกำลังกินน้ำเลย
ระหว่างทางล่องเรือ มีจุดแวะเข้าห้องน้ำ ช๊อปปิ้งกลางป่า มีหมูปิ้ง ไข่ปิ้ง ข้าวเหนียวปิ้งเหล้าต้ม ไวน์ผลไม้ ยาดอง และแช่บ่อน้ำพุร้อน
การล่องเรือ เพลิดเพลิน อย่างมากด้วยน้ำเมา และการหยอกล้อแซวกัน น้องไกด์ที่พายเรือก็น่ารักมาก หยอดมุกแทบตลอดทาง เรียกว่าเอ็นเตอร์เทนได้สุด บริการได้ยอดเยี่ยม แถมได้ความรู้อีกมากมาย ถ่ายรูปก็สวย ความประทับใจเหล่านี้ จ่ายเงินมาถือว่าคุ้มค่ามากค่ะ จนต้องแถมทิปกันรัวๆ
เมื่อล่องเรือ ถึงบริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าผาเลือด เป็นจุดพักรถ ต้องนั่งรถไปอีก ราว 40 นาที เพื่อเข้าไปอุทยานน้ำตกทีลอซู เส้นทางนี้ต้อง 4 wheel drive เท่านั้น ทางฝุ่นตลบและขับยากต้องชำนาญเส้นทางจริงๆค่ะ ใครนั่งหลัง ได้สีผมใหม่กันเลย 5555
เมื่อถึงที่ทำการอุทยานแล้ว มีจ่ายค่าเข้า ผู้ใหญ่ 30 บาท(มั้ง) พักทานอาหารเที่ยงที่นี่ก่อนเดินเข้าไปชมน้ำตกค่ะทัวร์มีอาหารใส่กล่องซิปล็อคมาให้ ด้วยความที่หิว อาหารอร่อยๆมากๆ ผัดพริกกับไข่ต้ม มีร้านกาแฟ ทีลอซู ให้ได้ลิ้มลอง รสชาติดี บาริสต้าเท่ แถมมีไม้เทรล ให้ยืมสำหรับเดินเข้าไปชมน้ำตกอีกด้วย....พี่จองกะคัลแลนก็มาแล้วนะคะ มาก่อนเราซะอีก
หลังจากอิ่มแล้ว (กาแฟ ต้องกินให้หมดก่อนเดินเข้าไปน้ำตกนะคะ ทางอุทยานไม่อนุญาตให้นำเข้าไป) ถ้ารวดเดียวไม่ไหวค่อยออกมากินก็ได้เดินเท้าเข้าไปอีก 1.5 กิโล ทางเดินสะดวกง่ายมากๆ มีน้ำตกให้แวะพักตลอดทางร่มรื่น
เดินชิวๆมาเรื่อยๆ ก็มาถึงแล้วค่ะ ภาพเบื้องหน้า มีแสงแดดแยงตา มองลอดเงาไม้ เห็นน้ำตกสูงตระหง่าน โอ่อ่า สง่างาม อยู่ท่ามกลางซากปรังหักพังของกองหินดิน และต้นไม้ที่เกิดจากการซัดของน้ำป่า เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้า..
แม้ภาพจริงจะไม่เหมือนภาพจำในใจดั่งที่คิดไว้ ความยิ่งใหญ่ของ "ทีลอซู" ก็ยังคงอยู่สำคัญกว่า คือเรื่องราวระหว่างทาง ความประทับใจที่เกิดขึ้นระหว่างทางนั้น ทำให้ทีลอซู ยังไงก็สวยงามในใจเสมอ..
หลังจากชมน้ำตกจนจุใจก็เดินกลับออกมาถ่ายรุปกับป้ายแบบนักท่องเที่ยว 101 แล้วก็นั่งรถกลับที่พักแบบยาวๆไป 2 ชั่วโมงเลย
ยังไม่จบนะคะ มีแถมท้าย...ดอยหัวหมด ที่อุ้มผาง เดินทางมาไกลขนาดนี้ ก็ต้องตื่นเช้าไปดูแสงแรกให้ได้ค่ะ พาโนรามาแบบ 360 องศา รอตะวันทอแสงมา สวยงามจับใจเลยค่ะ
หลังตะวันเจิดจ้าเต็มดวงแล้ว เราก็กลับไปทานมื้อเช้าที่รีสอร์ท ระหว่างทางแวะวัดที่ทำจากต้นสักแถวนั้น เสาทุกต้นแกะสลักจากไม้ งดงามมาก
จบแล้วค่ะ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ติดตามรับชมนะคะ...บ๊ายบาย จนกว่าจะได้พบกันใหม่ ซักวันอาจจะมีโอกาสกลับไปชมความงามอีกครั้ง วันนั้นอาจจะ หลงรัก "ที ลอ ซู" มากกว่าเดิม...
การเดินทางฝากเรื่องราวความประทับใจไว้ให้เสมอ...
และการเดินทางครั้งนี้ สอนให้รู้ว่า หากใจ กายพร้อม ทำในสิ่งที่อยากทำ ไม่ต้องรอ เพราะเวลาไม่เคยรอเรา บางครั้งมันก็สายเกินไป ดั่งเช่นการมาทีลอซูในครั้งนี้ เราคิดมามากกว่า 10 ปี ตั้งใจอยากมานานแล้ว เป็น 1 ใน Buggetlist สถานทีที่ต้องไปให้ได้
เพราะมัวแต่รอ จึงได้มาเมื่อวันที่ ทีลอซูไม่เหมือนเดิม......
Memoriesวันวาน
วันอังคารที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 16.37 น.