คิดถึง “เขา" มาก....จึงออกเดินทางไปหา “เขา"
“เขาช้างเผือก กาญจนบุรี"
สาวๆหลายคนชอบออกเดินทางคนเดียว ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะอิสระ และท้าทายขีดจำกัดความกลัวของตัวเอง แต่เขาช้างเผือกต้องขึ้นไปเป็นกลุ่มนะ นี่จึงเป็นที่มาของความสนุกและท้าทายสำหรับเราพอสมควร เดินขึ้นเขาและค้างคืนบนเขากับคนแปลกหน้าถึง 10 คน …… เธอช่างกล้า
เขาช้างเผือกขึ้นชื่อเรื่องการจองซึ่งจองยากพอสมควร เราจึงไปขอจอยกับน้องๆ ที่บังเอิญเจอกันในเพชบุ๊ค ซึ่งจองได้ในวันที่ 21 ธันวาคม 2015 โชคดีไป
เรามารู้จักเขาช้างเผือกกันก่อนดีกว่า
เขาช้างเผือก เป็นชื่อยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มีความสูงประมาณ 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจ เส้นทางเดินไปสู่ยอดเขาช้างเผือกเป็นป่าโปร่งสลับกับทุ่งหญ้า มีจุดไฮไลท์ของการเดินทางอยู่ที่ “สันคมมีด" สันเขาที่สวยงามและน่าหวาดเสียวไปพร้อมกัน เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาจะสามารถมองเห็นวิวได้รอบทิศทาง 360 องศา
ข้อกำหนดในการจองขึ้นเขาช้างเผือก
1. จองวันที่จะขึ้นได้ล่วงหน้าไม่เกิน 7 วัน
2. สามารถโทรจองได้ ที่เบอร์ 0 3451 0979 และ 09 8252 0359 ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น.
3. สามารถจองได้ไม่เกิน 10 คน ต่อ เจ้าหน้าที่ 1 คน
4. ต้องแจ้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขบัตรประชาชนของทุกคนทันที แล้วจัดส่งเอกสาร(สำเนาบัตรประชาชน) ของทุกคนทาง
E-mail : [email protected] ภายใน 1 วัน
5. ลงทะเบียนที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เวลา 07.00-08.00 น.
6.ค่ าบริการผ่านเข้าอุทยานแห่งชาติ ดังนี้
- ค่าบริการสำหรับบุคคล 40 บาท (ผู้ใหญ่ชาวไทย) 20 บาท (เด็กชาวไทย)
- ค่าบริการสำหรับชาวต่างชาติ 200 บาท (ผู้ใหญ่ชาวต่างชาติ) 100 บาท (เด็กชาวต่างชาติ)
- ค่าบริการสำหรับยานพาหนะ รถยนต์ 30 บาท จักรยานยนต์ 20 บาท
-ค่าบำรุงสถานที่พักกางเต็นท์ 30 บาท

เรามาเริ่มออกกเดินทางกันดีกว่า


เราเดินทางออกจากพัทยา ตี4.30 ค่าโดยสาร 118 บาท

ถึงหมอชิต 6.30 ทำเวลาได้ดี


เราซื้อตั๋วรถตู้ชานชาลาที่ 3 เพื่อไปกาญจนบุรี 120 บาท รถออก 7.00 น.

เรามาถึงกาญจนบุรี ประมาณ 10.00 น.


และเราไปซื้อตั๋วรถตู้เพื่อไปลงที่ทองผาภูมิ 115 บาท

Zzzzzzzzzzz


หลับตลอดการเดินทาง

เราเดินทางมาถึงทองผาภูมิเวลา 12.30 น.

ตอนนี้เราทำใจแล้วว่าคงไม่มีรถ ขึ้น บ้านอิต่องแล้ว เพราะมีรถสองแถวขึ้นวันละ 4 เที่ยว และหมดเวลา 12.00 พอดี

......ทำยังไงดีหละ สงสัยต้องโบกรถซะละมั้งงานนี้ เลยถามพี่ๆที่ท่ารถ สุดท้ายมีรถเหลือ 1 คันกำลังจะออก

เรานี่วิ่ง 4x4 เลย 55555 สุดท้ายทันจนได้มองซ้ายมองขวา หาเพื่อนคุย สุดท้ายได้เพื่อนใหม่มา 1 คน

มาคนเดียว และจะขึ้นเขาช้างเผือกวันเดียวกับเราเลย โชดดีจัง

พี่พักที่ไหนคะ เราเลยบอกว่ายังไม่ได้จองที่พักเลย คิดในใจพี่กะมาตายเอาดาบหน้าเลยน้อง

เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.แต่กว่าจะถึงพี่นี่แทบอ้วกเลย .....ถ้าอ้วกตอนนี้หมดสวยกันพอดี หุหุหุ ยังห่วงสวยอยู่

และแล้วก็ถึงอุทยาน รถจอดให้เราลงทะเบียน

เราเสียค่าเข้าอุทยาน 180 บาท

เช่าเต็น 120 บาท

และเราต้องกรอกข้อมูลและเซ็นชื่อเพื่อขอขึ้นเขาช้างเผือก ตรงนี้สำคัญเพราะถ้าไม่ลงทะเบียนจะไม่ได้ขึ้นนะคะ

เจ้าหน้าที่ถามไม่เช่าถุงนอนหรือคะ ตอบอย่างมั่นใจว่า ไม่เช่าคะพี่ ( แล้วจะรู้ว่าคิดผิดถนัดงานนี้)

ไม่รู้ชื่อนกอะไรตัวใหญ่มากเราต้องนั่งสองแถวเข้ามาอีก 8 กม. เพื่อจะหาที่พัก


สุดท้ายเราก็เดินทางมาถึงบ้านอิต่อง ประมาณ บ่าย 15.30 น.

ค่ารถ 2 แถว 80 บาท

เป็นการเดินทางที่ยาวนานพอสมควร และที่สำคัญยังไม่มีที่พักเลย

สุดท้ายเพื่อนใหม่เลยชวนให้ไปนอนที่ Pilok Hill House เราจ่ายค่าที่พักคืนนี้600 บาม

ถึงแล้วววววว


เป็นหมู่บ้านเล็กที่สวยสุดๆไปเลย

ที่พักคืนนี้ ดีใจที่เลือกพักที่นี่ พี่เจมส์น่ารักมาก


ดูแลพวกเราเหมือนคนในครอบครัวเลยZzzzzzzzzzzzzzzzzzz

มอนิ่งอิต่อง

เช้านี้เรานัดเจ้าหน้าที่ไว้ 8.00 น.ที่ทางขึ้นเขาช้างเผือก

....รู้สึกตื่นเต้นนิ๊ดๆ ที่จะได้เจอผู้ร่วมเดินทางกันสักที หลังจากที่คุยกันในเพสบุ๊ค

สุดท้ายเราก็แก่ที่สุดใน10 คนนี้ (รู้สึกเป็นป้าแก่ๆไงไม่รู้)



การขึ้นเขาเราสามารถจ้างลูกหาบได้ จะมี 2แบบ

- จ้างส่วนตัวเลย 30 กก. 1300 ลูกหาบจะกางเต็นให้เราด้วย

- ถ้าเรามีของน้อย ก็ชั่งเป็น กก. กก.ละ30บาท



ครั้งแรกเราก็จะจ้างลูกหาบ แต่พอไปชั่ง กระเป๋าเรา 10 กก.

แม่เจ้าคิดเป็นเงินแล้ว ไปกลับ 600 บาท

ตอนนี้ความงกเข้าครอบงำ...สุดท้ายตัดสินใจแบกเอง



....ซึ่งเป็นการคิดผิดอย่างแรง....



สิ่งที่เราขนขึ้นไป

-น้ำดื่มเล็ก 4 ขวด

-หมูปิ้ง 3 ไม้ +ข้าวเหนียว

-ข้าวเหนียวหมูหย่อง 1กล่อง

-เต็น 1หลัง

-เสื้อกันหนาว 1 ตัว

-ยาแก้ไข้



เดินทางกันเลย

บริเวณชั่งน้ำหนักฝากของ


ทางเดินจากหมู่บ้าน


ชิวๆถ่ายรูปกันไป

ลืมแนะนำ...เจ้าหน้าที่ของกลุ่มเราคะ


เดินกันมาสักพักเราจะเจอป้อมตรวจบัตรที่ทางอุทยานให้มาตอนลงทะเบียน


ถ้าใครไม่มีหมดสิทธิ์ขึ้นคะ เจ้าหน้าที่จะฉีกหางตัวไว้

ตรงนี้เราต้องเซ็นชื่ออีก 1 รอบคะต้องบอกว่าเป็นการเดินขึ้นเขาที่วิว สวยมาก

เดี๋ยวเรามาดูรูปกันยาวเลยนะคะ

ตอนนี้เราเดินกันมาได้ครึ่งทางและ


เป้ที่เราแบกมาเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ บ่าเริ่มปวด เท้าเริ่มเจ็บ

อากาศเริ่มร้อน น้ำหมดไป1 ขวดแล้ว

ทางเดินเริ่มเดินขึ้นเขา ต้องปีน และไต่เชือกมากขึ้น



ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะจ้างลูกหาบคะ แต่คิดได้ตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว

สมน้ำหน้าตัวเองสุด ....

เราพักทานข้าวกันที่ป่าไผ่


ตอนนี้เรานอนหมดแรงคะ คิดในใจถ้าเรากลับก็ยังทันนะ

.....................แต่ถ้ากลับตอนนี้คงอายน้องๆในกลุ่มพิรึก สุดท้ายก็เดินหน้าคะ

สู้โว้ยยยยยยยย

เดินข้ามภูเขาลูกแล้วลูกเล่า


สุดท้ายก็มาถึงลานกางเต็นสักที ตอนนี้เกือบบ่าย3 แล้ว

น้ำตาจะไหล....อยากเอากระเป๋าลง แล้วเอนตัวลงนอนที่สุดเลยตอนนี้เราเดินมาถึงที่กางเต็นประมาณบ่าย 3 โมง

สลบแป๋บ ZZZZZZ


ถึงเวลาบ่าย 4 โมงเราก็เริ่มเดินขึ้นไปเพื่อพิชิตสันคมมีดกัน ลุยยยย

สุดท้ายก็เดินทางมาถึงจุดสูงสุด



ด้านบนมองวิวได้ 360 องศา

สวยใช้ได้เลย ^_^

เราใช้เวลาอยู่บนนี้ประมาณ 1 ชม. ก็ได้เวลากลับกันแล้ว เราต้องเดินกลับถึงที่กางเต็นก่อนมืด


แทบจะวิ่งลงเลยคราวนี้ กลัวถึงสันคมมีดมืด ฮุฮุฮู เราไม่ได้ถืออะไรขึ้นมาเลยนอกจากกล้อง

ถ้ามืดมีหวังได้คลานลงกันเลยทีเดียว

สุดท้ายเราก็กลับมาถึงเต็นก่อนมืด


เติมพลังด้วยข้าวเหนียวหมูปิ้งที่เหลืออยู่นิดหน่อย และน้ำที่เหลืออยู่ 1 ขวดเล็ก

นั่งมองวิวที่อยู่หน้าเต็น ด้วยคำถามที่ว่า กรูมาทำไมว่ะเนี่ยยยย

น้ำก็จะหมด ตัวก็เหม็น น้ำก็ไม่มีให้อาบ ห้องน้ำก็ .....ไม่อยากบรรยาย

และทำไมกรูต้องมาคนเดียวด้วยว่ะ......

................................................

เริ่มดึกอากาศเริ่มหนาวลมเริ่มแรง

ถุงนอนก็ไม่มี มีเสื้อกันหนาว 1 ตัว อากาศหนาวจนเริ่มปวดกระดูกเลย

ฮึฮึฮึ.....อยากจะแตะตัวเองสักทีที่เตรียมตัวมาไม่ดี

ลุกขึ้นมาใส่รองเท้าผ้าใบ เพื่อจะอุ่นขึ้นมาบ้าง เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ใส่รองเท้านอน 5555

สุดยอดเลยเรา



หนาวจนนอนไม่หลับ.....เลยมองท้องฟ้า ดาวเยอะมาก เสียดายไม่ได้ถ่ายภาพมา

ซึ้งตอนนั้นภาวนาให้เช้าเร็ว.....

มอนิ่ง ....เขาช้างเผือก


นั่งมองพระอาทิตย์ พร้อมกับดื่มกาแฟหอมๆ นี่คือความสุขของฉัน....สุดท้ายก็ได้เวลาลงจากเขาช้างเผือกแล้วซิ


เก็บเต็น เก็บขยะทุกชิ้นใส่ถุง เพื่อเอาลงมาทิ้งด้านล่าง

เราเดินลงกันแต่เช้า อากาศเย็นสบาย เราเลยเดินถ่ายดอกไม้ลงมาเรื่อยๆ

ชดเชยกับเมื่อวานที่ สนใจแต่วิว

เราเดินลงมาถึงด้านล่างประมาณเที่ยง


สุดท้ายตัดสินใจพักที่ปิล็อกฮิวเฮ้าอีกคืน



เจ้าของที่พักจองทริปเที่ยว น้ำตกจอกกระดิ่ง และเนินช้างศึกให้

และเสียค่าทริปอีกคนละ100บาท ซึ่งรถจะมารับเวลา บ่าย 3 โมง

ไปกันเลยยยยยย



น้ำตกจอกกระดิ่ง

เนินช้างศึก


นั่งมองพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า


แล้วเราจะได้พบกันอีกครั้ง .....เขาช้างเผือก หมู่บ้านอิต่อง

ทริปนี้ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลพวกเราอย่างดี

ขอบคุณน้องๆในทริป ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

แต่พวกเราก็ดูแลกันและกันอย่างดี



ขอบคุณตัวเอง ที่สามารถ เดินทางมาถึงที่นี่ ^_^

Sangjan Yok

 วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.06 น.

ความคิดเห็น