สวัสดีเพื่อนสมาชิกครับผม....เมื่อช่วง 9-16 ม.ค. 60 ที่ผ่านมามีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้ง (ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันตัดใจไปที่อื่นยากจริง ๆ) แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกสำหรับฮอกไกโด ซึ่งทริปนี้เป็นทริปแรกของปีนี้ หลัก ๆ จะเที่ยวเฉพาะซัปโปโรและโอตารุ (เพราะตั๋วรถไฟที่แอบแพง) จริง ๆ ครั้งแรกทริปนี้มีงบสำหรับตั๋วเครื่องบิน และโรงแรม อยู่คนละ 2 หมื่นบาท เลยเล็งนาโกย่า ปรากฎว่าช่วงต้นเดือนกันยายน อยู่ ๆ มีโปรจากสายการบิน Korean Air หลุดมาประมาณ 12,xxx บาท (Economy Class) เห็นปุ๊บไม่ต้องคิดเลยจ้า ใช้เวลาราว ๆ 1 ชม. กดจองตั๋ว พร้อมโรงแรม Apa Hotel susukino ในซัปโปโร ในวันที่ 9 - 16 ม.ค. 2560 รวม 7 คืน มาในราคาสำหรับ 4 คน 75,169 บาท เฉลี่ย 18,792 บาท ต่อคนซึ่งเป็นราคาที่รับได้ ค่อนไปทางถูกใจด้วยซ้ำ อาจเพราะโรงแรมในซัปโปโรนั้นถือว่าไม่แพงเลย ถ้าเทียบกับเมืองใหญ่อื่น ๆ อย่างโตเกียว เกียวโต หรือโอซาก้า


รายละเอียดการเดินทางมีดังนี้

1. กรุงเทพ - โซล 09 ม.ค. 2560 :

Flight KE 660

Departure : Bangkok (BKK/Suvarnabhumi) - 09.50 น.

Arrival : Seoul (ICN/Incheon) - 17.10 น.

Flight : Duration 05H 20M

Aircraft Type : Airbus A330-300


เอาล่ะในเช้าวันเดินทางผมมาถึงสนามบินราว ๆ 6 โมงเช้าเผื่อเวลามัน 4 ชั่วโมงไปเลย เป็นพวกกลัวตกเครื่องจับใจเลยก็ว่าได้ซึ่งสุวรรณภูมิตอนเช้า ๆ นั้นคนเยอะพอสมควรเลย รวมถึงการที่ต้องเดินไปเอาพ็อกเกต ไวไฟที่สั่งเอาไว้กับ Tripizee ซึ่งเค้าเตอร์พี่เค้าอยู่หน้าสถานีรถไฟนู่นเดินเอาหอบเลยฮะ มาว่ากันด้วยเรื่องเช็คอินบ้าง เค้าเตอร์เชคอินของ Korean Air อยู่แถว n มาไวคนน้อยสบาย แป็บเดียวเสร็จ

ตัดเข้ามาในเกทอย่างรวดเร็ว ตม. บ้านเราใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ช่วงนี้ หาขนมนมเนยกินเรื่อยไป หลาย ๆ คนอาจรู้แล้วแต่ผมเพิ่งรู้ครั้งนี้ครั้งแรก ว่าราคาน้ำเปล่าในร้าน Boot นั้นถูกกว่าร้านอื่น ๆ ขวดเล็ก 10 บาท ขวดใหญ่ 25 บาท (อันนี้เล่าสู่กันฟัง) เพราะผมซื้อขวดเล็กมา 40 บาทจากร้านข้าง ๆ ก่อนเดินเข้ามาในร้าน Boot บอกเลยว่าเจ็บใจ ยังไม่ใกล้ถึงเวลาเกทยังไม่เปิดให้ลงไปก็ถ่ายรูปไปพลาง ๆ


เข้ามาในเครื่องสภาพใหม่มากทีเดียว ที่นั่งเป็นแบบ 2-4-2

มีช่องเสียบ USB สำหรับชาร์ตไฟ

ความบันเทิงมีครบทั้งหนัง เพลง รายการทีวี เกมส์ และข้อมูลการบิน

ผมชอบอันนี้นะ มันบอกเกี่ยวกับข้อมูลต่าง ๆ ที่สนามบินปลายทางทั้งการต่อเครื่อง ข้อมูลการเดินทางออกจากสนามบิน โดยเฉพาะการบอกว่าเที่ยวบินถัดไปของเราอยู่เกทไหน

ตัวอย่างหนัง

ที่นั่งกว้างมาก


ในส่วนของห้องน้ำ


มาถึงไฮไลท์สำคัญของสายการบินนี้คือ อาหาร ผมเฝ้ารอที่จะลองกินบิบิมบับ และแล้วมันก็มี ซึงมันอร่อยอย่างที่หวังเอาไว้ไม่มีผิด

ซอสโคชูจัง ดีงามสุด ๆ จริง ๆ แม้จะไม่สั่งบิบิมบับ ก็ขอแอร์ได้เลยนะมีบริการพร้อมอาหารทุกมื้อ
คลุก ๆๆๆๆ ฟินน แต่คือมันมีแค่เที่ยวบินเที่ยวเดียวนอกนั้นไม่มีแล้ว ฮือๆๆ
อันนี้ของคุณแฟน บะหมี่กับไก่ซอสพริกไทย อร่อยเช่นกัน อีกอันที่พีคคือขนมปังกับเนย อร่อยมาก ส่วนที่เฟลคือพวกสลัดไม่มีมื้อไหนอร่อยเลย

อิ่มแล้วก็นอนตีพุง ดูหนัง ฟังเพลง รอไปฮอกไกโดเมืองในฝันกัน


แล้วเราก็ถึงโซลตามเวลาบิน กัปตันประกาศอุณหภูมิ -1 องศา สบาย ๆ รีบเดินออกจากเครื่องให้ไว มีเวลาต่อเครื่อง 1.40 ชั่วโมง พอเดินออกจากงวงช้างมา มีเจ้าหน้าที่มายืนถือป้ายชื่อ 4 คนไทยซึ่งมีแค่พวกผม รอรับที่หน้าประตูราวกับดารามาจากไทย ไอ้เราดีใจนึกว่าจะได้ไปแบบไวเอารถกอล์ฟมารอรับ ที่ไหนได้ โอปปะแกสปีคมาว่า


"วี ซอรี่ อะเบ้า ดิ ไฟล์ท แคนเซิล บีคอส ออฟ เดอะ สโนว์ แอท ดิ ซัปโปโร"

แหม่คือถ้าตอนนั้นมีกล้องแพนหน้าพวกตูพร้อมหมุน 360 องศาอยู่ คงได้ฟิลลิ่งอิ๊บอ๋าย จากหน้าที่ยิ่มยิ้มระรื่นแม่มก็ค่อย ๆ หุบทีละนิด ทีละนิด แล้วก็หน้าเสียไปตามระเบียบ แต่ก็ทำใจมาบ้างพอสมควร เพราะจะเมืองที่หิมะตกทุกวันนี่เน๊อะ โอ้ปปะฮีก็อธิบายอย่างดีว่าต้องทำอะไรบ้าง สรุป คือ

1) ไปเอากระเป๋าที่ Lost & Found เพราะกระเป๋าจริง ๆ จะถูกโหลดต่อ

2) ไปแจ้งที่เคาท์เตอร์สายการบิน (ออกมาจากอาคารขาเข้าเดินมาซ้ายสุดของอาคารเลย) สายการบินจะออกตั๋วใบใหม่ให้ ได้เวลา 09.35 น. ของวันที่ 10 ม.ค. 2560

3) เอา Voucher ที่พักและอาหาร ที่เดียวกับข้อ 2

4) นั่งรอรถไปส่งที่โรงแรม ง่าย ๆ แค่นี้แหละ


ตัดมาที่ ตม. ผมว่าเข้มกับผู้หญิงพอสมควรเลยแหละ เตรียมตัวไว้ดี ๆ ดีกว่าเน๊อะ พี่ ตม. เค้าก็ถามแฟนผมบ้างเล็กน้อยแต่ก็ปล่อยผ่านไปแต่เกือบไม่ให้แม่ผมเข้าละ เพราะก่อนหน้านางมีคนไทยสองคนโดนเข้าห้องเย็น แล้วแม่ก็มองเข้าไปบ่อยด้วยแหละ (แฟนผมเล่าให้ฟังว่าคนไทยไม่ได้เข้ามีเยอะ นางก็มีความเสียว) มาถึงก็ถามแม่ว่ามาด้วยกันหรือป่าว แม่บอก "โนว โนว โนว ไอมากับปั๋วและลูกด้วย พร้อมกับเหตุผลที่ต้องเข้าเกาหลีฯ และชี้มือมาหาพวกเรา พร้อมกวักมือพวกเราเดินเข้าไปเป็นแกงค์พี่แกเลยบอก โอเค้ โอเค้" กว่าจะเข้าได้

สรุปสายการบินจัดโรงแรมพร้อมอาหารเย็น และเช้า ที่ Holliday inn ซึ่งอยู่ในเมืองอินชอนเลยทำให้ได้เที่ยวเกาหลี 1 วัน เป็นไฟลท์แคนเซิลครั้งแรกในชีวิต แต่คือโคตรดีต่อใจ เพราะโรงแรงแรมคือดี๊ ดี และอาหารคือสุดยอดความอร่อย

เรานั่ง shuttle bus ของโรงแรมมาราว ๆ 30 นาทีมาถึงก็ขึ้นไปเช็คอิน โดยใช้ voucher ที่สายการบินให้มานั่นแหละ Lobby จะอยู่ที่ชั้น 9

เนื่องจากเรากินข้าวล่าสุดก็เมื่อ 5-6 ชั่วโมงที่แล้วเช็คอินเสร็จก็เกือบ 2 ทุ่มท้องไส้ นี่ร้องไปหมดวางกระป๋ง กระเป๋าอะไรไว้ที่ล็อบบี้ เช่นเดียวกับผู้ร่วมชะตากรรมอื่น ๆ

อาหารมา ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารเอเซีย และยุโรป (นิดนึงเป็นพวกสเต็ก สลัด ชีส ขนมปัง) ทุกอย่างคืออร่อย หรือหิวมากหรือป่าวอันนี้ยังสงสัย


เล่นซูชิก่อนเลย เพราะฉันฝันไว้ว่าเมื่อถึงซัปโปโรฉันจะไปเดินหาซูชิกิน

หอยแมงภู่ตัวใหญ่มากเอามาทำอะไรไม่รู้อ่าเป็นซอส พิซซ่าก็งานดี

ซุปทะเลแบบเกาหลี

ส่วนพระเอกของที่นี่เป็นใครไม่ได้นอกจากขนมหวาน เทพสุด ๆ เพราะที่นี่มีแปะบุฟเฟต์ขนมหวานอยู่คงเป็นจุดขาย

อิ่มแล้ว ก็ขึ้นห้องเอาของเก็บไปเดินเล่นเมืองอินชอนกันหน่อยไหน ๆ ก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้วนี่นะ

ในส่วนของสภาพห้องคือดี มีความกว้าง มีความหรู

เตียงนุ่ม อยากจะนอนยาว ๆ

วิวเมืองอินชอน จากในห้อง

ในส่วนของห้องน้ำ กว้างมากเช่นกัน


มีที่ฉีดก้น ด้วยนะ

เครื่องอาบน้ำครบ

จากนั้นก็ได้เวลาไปเดินเล่นหาเบียร์กิน กับไก่ทอดกันดีกว่า จากโรงแรมเดินไปโซนเมืองไกลได้เรื่องเหมือนกัน เดินไปมั่ว ๆ ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับที่นี่เลยได้แต่มอง ๆ ตอนนั่งรถผ่านมาที่โรงแรมเห็นว่ามีโซนร้านกินดื่มค่อนข้างเยอะแต่พวกโซนช็อปปิ้งนั้นดึกเกินไปแล้ว เมืองอินชอนนั้นน่าจะเป็นเมืองใหม่ดูจากสภาพตึก อาคาร ที่พัก ที่อาศัยค่อนข้างใหม่ ผังเมืองดูเป็นระเบียบ

อันนี้เป็นโรงแรม และเป็นคล้ายกับ avenue มีร้านอาหารกาแฟหลายร้านเหมือนกัน

เดินเลาะมาเรื่อยเจอกับทางเดินสาธารณะริมแม่น้ำวิวสวยดีเลยจอดถ่ายหลายแชะเลย


เดินมาจนเกือบท้อเพราะความหนาวก็มาเจอย่านกินดื่ม ร้านอาหาร เลยจัดไก่ทอดชีสสักหน่อย อยากมานานแสนนาน
คือเยอะมากกกกกก คิดว่ามาเป็นตัว ราคา 21000 วอน แกล้มกับเบียร์นี่หืมมมม หมดไป 30000 วอน


.

.
จากนั้นก็นั่งแท็กซี่กลับโรงแรม 4000 วอน รีบไปนอนกลัวพรุ่งนี้ตกเครื่องไม่ได้ไปฮอกไกโด


2. โซล - ซัปโปโร 10 ม.ค. 2560 :Flight : KE 765

Departure : Seoul (ICN/Incheon) - 09.35 น.

Arrival : Sapporo (CTS/New Chitose) - 12.55 น.

Flight Duration : 03H 20M

Aircraft Type : Boeing 747-400


เช้าวันที่ 10 ม.ค. 2560 นาฬิกาปลุกร้องดังตั้งแต่ 05.45 น. เก็บของอาบน้ำไปกินกาแฟรอรถเนื่องจากสายการบินเตรียมรถให้มารับตอน 07.33 น. ก็ได้แต่กินกาแฟเพราะง่วงนอนและยังอึดกับไก่ทอดเมื่อคืนอยู่เลย ตอนนั้นก็เอะใจนะว่าบอร์ดดิ้งไทม์ 09.35 น. แล้วออก 7 โมงครึ่งจะทันเหรอเพราะใช้เวลาตั้ง 30 นาทีกว่าจะถึงสนามบิน แต่ใจดีสู้เสือไว้เค้าคงไม่ทิ้งเราไว้หรอก

สุดท้ายความระทึกก็เกิดขึ้น มาถึงสนามบิน 08.10 น. คิวต่อโหลดกระเป๋ายาวสัสใช้ไปครึ่ง ชม.

08.40 น. มาต่อแถว ตม. ไอ้ตรงที่ยืนเอาป้ายมาบอกปักบอกจุดนี้ใช้เวลา ครึ่ง ชม. อึก็ปวด เยี่ยวก็ปวด แต่ทิ้งแถวไม่ได้ไง ค่อย ๆ เคลื่อนตัวอย่างบาดใจทีละขยัก ทีละขยัก มาถึงที่แสกนร่างกาย 09.20 เห็นจะได้พอหลุดมาถึง ตม. มีประมาณแค่ 4-5 ช่อง เค้าเตอร์พี่มีเป็นแสน คนเดินทางมีเป็นล้าน หลุดเข้ามา 09.30 เหลือ 5 นาที วิ่งดิครัช เข็มขัดที่ถอดแสกนก็ยังไม่ได้ใส่ แต่ดีนะที่เกท อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่มาถึง 09.35 พอดีเป๊ะเลย ที่ไหนได้ดีเลย์จาก 09.35 เป็น 09.55 น. เห้อคือถ้าเหลือบตาดูบอร์ดสักหน่อยคงไม่ต้องรีบแบบนี้

ปรากฎว่าเที่ยวบินนี้น่าจะมีคนตกค้างเพียบเลย จึงเปลี่ยนเครื่องเป็นลำใหญ่ ใช้เวลานานพอสมควร

เสริ์ฟสปาเก็ตตี้กับเนื้อ พอกินได้ครับ

ใกล้ถึงแล้ว เที่ยวบินถ่ายภาพน้อยด้วยความง่วงขออภัยอย่างแรงครับ


มาถึงซัปโปโรอย่างปลอดภัย ปูพรมขาวต้อนรับทั้งผืนแผ่นดิน


3. ซัปโปโร - โซล 16 ม.ค. 2560 : Flight : KE 796

Departure : Sapporo (CTS/New Chitose) - 08.40 น.

Arrival : Seoul (ICN/Incheon) - 12.00 น.

Flight Duration : 03H 20M

Aircraft Type : Boeing 737-900 ER

Transit Time : 05H 12M

ด้วยความที่ออกเช้ามาก และรถไฟเที่ยวแรกออกจากซัปโปโร 06.00 น. จะถึงสนามบิน New Chitose 06.40 น. จึงกลัวว่าจะมาไม่ทันจึงย้ายมานอนที่โรงแรมในเมืองชิโตเสะ แต่ปรากฎว่าสนามบินที่นี่เปิด 06.30 น. และ ตม.จะทำการตอน 07.45 น. จริง ๆ ในใจตอนนั้นคิดว่าเอิ่มแล้วจะมาจองโรงแรมที่ชิโตเสะเพิ่มเพื่อ ? แต่ก็คืดว่าก็กันเอาไว้เผื่อมีหิมะทำให้รถไฟไม่สามารถวิ่งได้เอาชัวร์ไว้ก่อน

มีไม่กี่ไฟล์ทช่องเช็คอินก็มีไม่มาก เป็นสนามบินเล็ก ๆ

เช็คอินเสร็จต้องรอ ตม.เปิดก่อน

ตัดเข้ามาในเครื่องบินที่นั่งเป็นแบบ 3-3 ไม่ได้ถ่ายรูปภายในอาคารผู้โดยสารเนื่องจากผ่าน ตม. ก็ได้เวลา บอร์ดดิ้งเลย จะบอกในสนามบินมีของฝากเอาที่เห็นคือ royce, Tokyo Banana และอื่น ๆ แต่ไม่ทันดูว่ามีอะไรบ้าง

มื้อนี้อร่อย เป็นข้าวญี่ปุ่นกับเนื้อเปื่อย แต่มาแบบแมวดมมากก

อันนี้ไม่อร่อยเลย เหลือกันเพียบ

อิ่มแล้วดูจอไปเรื่อย

จะคอยบอกว่าไฟล์ทเราต้องไปเกทเท่าไหร่


พอมาถึงสนามบินอินชอนก็ไปช่อง ทรานสิท แสกนร่างกาย สัมภาระ อีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ต้องรีบแล้วเพราะเรามีเวลาตั้ง 5 ชั่วโมงนั่ง ๆ นอน ๆ กิน ๆ ช็อป ยาว ๆ ไป


4. โซล - กรุงเทพ 16 ม.ค. 2560 : Flight KE 651

Departure : Seoul (ICN/Incheon) - 17.15 น.

Arrival : Bangkok (BKK/Suvarnabhumi) - 17.10 น.

Flight : Duration 05H 20M

Aircraft Type : Airbus A330-300

ที่สนามบินอินชอนนี่เป็นสนามบินที่ค่อนข้างมีสีสันจะมีโชว์วัฒนธรรมเกาหลี ผมว่าน่ารักดี เดินรอบสนามบินเลย

ของเรามีหรือเปล่าผมไม่เคยเจอ แต่ถ้าไม่มีลองเอาบ้างก็น่าตื่นตาไม่น้อย

มาถึงหาราเมงกินดีกว่า Karai Noodle เมนูนี้เผ็ดดี เผ็ดอย่างเดียวหารสอื่นไม่เจอเลย ร้านนี้อยู่แถว ๆ เกท 40 กว่า ๆ ราคา 9000 เยน

กินกับคุณแฟนเสร็จ คุณแม่ชวนไปกินต่อ อ่าวเราก็ไป ซุปกิมจิ (แซบมาก) กับ Taco ร้าน Taco bell อันนี้เคยลองเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วที่อเมริกากินไปคำเดียวจอด วันนี้รวบรวมความกล้าหาญลองกินอีกครั้งเผื่อเปลี่ยนใจ ผลปรากฎว่าไม่ชอบเหมือนเดิม อันนี้กินเป็นศูนย์อาหาร Food Empire มีอาหารหลายชาติมากแต่เสียดายไม่มีไทย เออจะบอกว่านมกล้วยมีขายแทบทุกร้านอาหารเลย ราคา 1300 วอน

กินอิ่มหนำ ช็อปปิ้งเพลิน ๆ ก็มานั่งรอกลับบ้าน ช่วงเวลาเศร้าที่สุดตลอดมาของการเดินทาง

เที่ยวบินนี้เป็นที่นั่งแบบ 3-4-3 แต่จะสามแถวสุดท้ายเป็น 2 ที่นั่ง ซึ่งผมเลือกตรงนั้นลงช้าหน่อยแต่นั่งสบาย

บ๊าย บายนะเกาหลี

อาหารเป็นข้าวกับไก่แบบทั่วไปตามเครื่องบิน (ทุกคนตั้งความหวังว่าจะกินบิบิมบับ ถึงขนาดที่ไม่ยอมกินที่สนามบิน) แต่มีผักเยอะมาก เลยขอซอสโคชูจังมาเพิ่ม ประหนึ่งว่ากินน้ำพริกตาแดงกับผักต้ม อร่อยนะเออ ส่วนอาหารข้างเคียงเป็นเต้าหู้กับซอสถั่วเหลืองอร่อยดี

ส่วนขนมหวานเป็น ไอศกรีม รสชีส คือดี โคตะระดี อยากได้อีก อยากกินอีก มันมีขายทั่วไปใช่มั้ยใครเซียนบอกที

.

.
จบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ครับ ความเห็นส่วนตัวประทับใจสายการบินนี้ในเรื่องการบริการต่าง ๆ แต่ติดเรื่องเวลาที่ถึงซัปโปโรดึก และออกเช้ามากไป แต่ถ้ามีโอกาสและมีโปรถูกใช้บริการอีกแน่นอน
เป็นการรีวิว สายการบินครั้งแรกข้อมูลอาจไม่สมบูรณ์ ครบถ้วนทางเราเข้าใจดี ขออภัยอย่างแรงครับ
และกำลังปั่นรีวิว ฮอกไกโดอย่างขมักเขม่น โปรดติดตามรับชมในลำดับถัดไป


ไปแลกเปลี่ยนพูดคุยเรื่องเที่ยวกับ จงเจอนี่ ได้ที่

FB : https://www.facebook.com/Jongjourney/

IG : https://www.instagram.com/jongkong_jongjourney/

Jongjourney - จงเจอนี่

 วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.17 น.

ความคิดเห็น