13th Oct 2016
ผ่านค่ำคืนที่เหน็บหนาวราว 8 - 9 องศาที่เมืองคินุกาว่า จนสางนั้น จขบ.หลับต่อไม่ไหวแล้ว...เพราะอยากค้นหาเสน่ห์เมืองแห่งนี้ เหมือนมีเสียง ๆ นึงเรียกให้ออกตามหา
เช้านั้นกุลีกุจอ บ้าอยู่คนเดียวใครก็ไม่ตื่น... เพราะกรุ๊ปนัดออกตัวกัน 8 โมง ด้วยความเป็นคนไฮเปอร์ (ระบุเอง) ปล่อยลูกและปั๋วนอนตัวติดกันที่ฟูกต่อไป แต่งตัวจนคิดว่าสวยละ ... ปลุกคู่หูต่างวัย (มาก) ที่ จขบ. บงการให้ตื่นแต่เช้าไปด้วยกัน แฮ่ ๆ .. 6 โมงได้เวลาเดินชมเมืองกันค่ะ
(ปล. ตี 5 แสงมาเมืองสว่างแล้ว ตามธรรมดาของฤดูใบไม้ร่วง)
Kinugawa เมืองคินุกาว่า เรียกตามชื่อแม่น้ำ คุนิกาว่า ตามชื่อเทพเจ้าแห่งความโกรธ ห่างจากโตเกียวไปทางจังหวัดโทชิงิ ราว 2 ชั่วโมง น้ำพุร้อนที่นี่ถูกค้นพบครั้งแรกในสมัยตอนต้นของยุคเมจิ จนเกิดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวขึ้นในปี 1970 และถูกพัฒนามาเรื่อยจนถึงปัจจุบัน แม้จะพบเจอกับปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างมากก็ตาม แต่ปัจจุบันถึอว่า ที่นี่เป็นแหล่งออนเซ็นที่มีชื่อเสียงมาก ที่หนึ่งของญี่ปุ่น เมืองคินุกาว่าอยู่ใกล้ ๆ กับสวนสนุกเอโดะวอนเดอร์แลนด์ อย่างไรก็ตามเมือง ๆ นี้ งดงามอย่างลงตัว เพื่อรอนักท่องเที่ยว นักเดินทางมาสัมผัสชีวิตที่ไม่รีบเร่ง ไม่รีบร้อน เหมาะกับการพักผ่อนอย่างเต็มรูปแบบ ทุกเพศ ทุกวัย เพราะมีกิจกรรมหลากหลายไว้รองรับ จขบ.สัมผัสได้อย่างนั้นจริง ๆ ที่เมืองสงบแห่งนี้... - mariabamboo |
ออกจากโรงแรม สัญชาตญาณ "หลง" บอกให้ ซ้ายหัน บ่ายหน้าไปทางซ้ายกันค่ะ
.
.
.
โรงงานอะไรสักอย่าง เยื้อง ๆ กับ โรงแรมที่พักค่ะ แวะเก็บรูปใบไม้แดง..
..สวย..
ร้านอาหาร
- - กับมุมที่ถูกแอบถ่าย - -
แล้วก็ต้องตัดสินใจเดินเรียบถนนเมนต่อไป หรือเลี้ยวขวาโดยที่ไม่รู้ว่าอะไรรออยู่ข้างหน้าอยู่บ้าง เอาว่ะ... หมาก็หมาว่ะ ตอนนั้นคิดอย่างเดียว คือชินกับทางที่ไทย ลืมไปว่าเดินที่ญี่ปุ่น
กับฟ้า ที่เก็บรูปมา
และหันหลัง... ใครก็ไม่ตามมาสักคน เอาฟร่ะ.. เดินคนเดียวก็ได้ ชิ (กลัวหมาหนักกว่าเดิม)
แต่เจอวิวข้างทางอย่างนี้ ไม่คิดอะไรแล้วล่ะ แทบเดินเข้าไปซะด้วยซ้ำ
หยุดรอที่มุมตึก ทางเลี้ยวหักศอก มันไม่ธรรมดานะ.. ไม่เลย
สายลมที่ปะทะหน้าตลอดเวลา ความหนาวที่ 11 องศา คินุกาว่า เมืองสงบที่ยังไม่ตื่น ทำให้สิ่งของธรรมดา ๆ รอบ ๆ ตัวเวลานั้น "ไม่ธรรมดาเลย"
ได้ยินเสียงคนไทยบอกว่า "รอหน่อย"
เข้าใจว่าคงเป็นคู่หูกับเพื่อนของเขา เดินมาบอกว่าเข่าเสื่อม ให้เดินช้า ๆ เอิ่ม ... จขบ. ก็ลืมไปวัยเราต่างกัน |
หยุดรอ... แล้วตัวเองก็ได้พบกับ คำว่า นิ่ง ๆ ช้า ๆ อย่างที่คนไฮเปอร์ไม่ค่อยจะเข้าใจได้ง่าย ๆ นักหรอก
.
.
.
รอคู่หูเข่าเสื่อมได้ที่แล้ว จขบ.ชักฝีเท้าช้า ๆ เพราะเริ่มเข้าใจว่าเดินช้าบ้างก็ได้ ไม่ต้องแข่งกับเวลานี่นา ... นี่เรามาเที่ยวนี่เนาะ ^^
มาถึงคราวที่ต้องตัดสินใจไปตรง หรือเลี้ยวขวาดีฟร่ะ...
หน้าโรงแรมแห่งนี้ เจอคุณป้ายุ่น 2 คนเดินมา จขบ.ประลองภาษากับเจ้าของภาษา ถามหาศาลเจ้า หรือวัด หรืออะไรก็ได้ที่จะเห็นวัฒนธรรมของคนที่นี่ ป้าบอกไม่มีเลยแถวนี้ ถ้าจะมีต้องไปอีกไกล เดินไหวไหม? จขบ.บอกกลัวเวลาไม่พอมากกว่า ป้าเลยบอกถ้าอยากไหว้ให้มาทางนี้ เลี้ยวขวา.. เราก็ไปตามที่แกแนะนำ
"เทพเจ้าแห่งความโกรธ" เทพเจ้าประจำสายน้ำ คินุกาว่า ปกป้อง ดูแลเมืองแห่งนี้ นี่สินะที่ป้า ๆ บอกอยากไปวัด ไปศาลเจ้าให้เลี้ยวมาทางนี้ก็เจอ เดินมา 5 ก้าวเจอเลย 555+ (สงสัยขี้เกียจบรรยาย) นอกจากเราจะเจอรูปปั้นแล้ว สุดปลายสะพานตรงบันได รูป ๆ นี้มีพลังบางอย่างดึงให้เราไปที่นั่น... |
แต่เดี่ยวก่อน... เถลไถลแป๊บ
จากฟากหนึ่งของสะพานที่เราอยู่ ถึงอีกฟากที่กำลังจะข้ามไป
เขาทำรูปต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเมือง ๆ นี้ไว้ที่พื้น - ทางเดินบนสะพานค่ะ มีหลายรูป อ่านไม่เข้าใจแต่ก็พอเดาได้ว่าสัมพันธ์กับเมืองนี้นะ
เซนส์น้อย ๆ คิดว่าตรูยืนบนสะพาน มันต้องมีแม่น้ำสิ... เออ เนาะ ดูแม่น้ำบ้าง
สวย... จนคิดว่าเสียดายเหลือเกินที่
ไม่ได้พักโรงแรมวิวดี ๆ อย่างนี้
เสียดายที่ไม่มีเวลาค้างที่เมือง ๆ นี้อีกคืน
ใช้ชีวิตช้า ๆ ให้สมใจอยาก
|
.
.
.
เราขี้นบันได เพื่อไปเจอ อะไร ๆ ข้างบนนั่น
แต่ก็ไม่ลืมที่จะหันกลับมาดูทางที่เพิ่งผ่านมา
ศิลป์
อยู่ทุกมุม อยู่ทุกจุดของเมืองนี้จริง ๆ เลย |
ตามธรรมเนียมแล้ว ต้องโพสต์คนละไม่กี่ท่าเนาะ
|
ขี้นมาสุดขั้นบันได เจอห้องน้ำสาธารณะ และถนนอีกเส้นหนึ่ง เรา งง ๆ กันว่าไปทางไหนดีฟร่ะ .. เลี้ยวซ้ายเนาะ
เจอถนนชื่อ ซากุระ ป้ายบอก
เจอรถไฟ แล้วคิดได้ว่าเดินเพลินไปแล้วนะ กี่โมงแล้ว !!
กลับได้แล้วนี่นา จวนเวลาล้อเลื่อนย้ายเมืองแล้ว
สโลว์ไลฟ์ที่อยากสัมผัส จบละ เราเดินย้อนทางเดิม "กันหลง" เพื่อรวมตัวกับกรุ๊ป
Kinugawa |
กลับโรงแรม เก็บกระเป๋าขึ้นรถ
ไกด์พากรุ๊ปขับวนดูเมืองน้ำพุร้อนแห่งนี้อีกรอบ มารู้ว่าไกด์ไม่เคยมาเมืองนี้เลย เขาขับมาตาม GPS นำมาทางเดิมที่เราเพิ่ง ๆ เดินกันไป ที่เพิ่มเติมคือ ถ้าเดินเลยจุดแยกทางรถไฟนั้น จะเจอ อนเซ็นแช่เท้าสาธารณะ แหม... เราพลาดจุด ๆ นั้นได้ไง นี่ถ้ามีจักรยานคงเซฟเวลาเดินได้มากกว่านี้เนาะ... กลับมาเก็บภาพที่สะพาน เพราะหลายคนในกรุ๊ปไม่ได้มา
จากนั้นแวะหาอาหารเช้าในเซเว่น.. จขบ.ได้โอเด้งร้อน ๆ แก้หนาว อิ่ม รองท้องได้แรง ก่อนบ่ายหน้าไปอิบารากิ กันค่ะ
วิวนารวงสีทอง.. ลาก่อนนะคินุกาว่า .. สัญญาว่าวันนึงจะกลับมาให้เวลา 2 คืน
.
.
.
Mariabamboo
วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.27 น.