Hanging around Khao-san road, Thailand

ตามชื่อเรื่องเลย เบื่อบ้านละ ไปไหนดี!

ชีวิตที่ต้องใช้ lifestyle เหมือน freelance มันก็เหมือนจะดีนะ แต่การที่ทำงานอยู่ที่บ้านทุกวัน ไม่ค่อยได้เจอผู้เจอคนนี่มันก็ทำให้ Creativity หายไปเยอะเลยล่ะ ว่าแล้วอาทิตย์นี้ก็ขอเปลี่ยนสถาณที่ ไปรับเราความรู้สึกใหม่ๆ เจอผู้เจอคนใหม่ๆ บรรยากาศใหม่ๆกันหน่อย

ก่อนอื่นเลยอยากได้สถาณที่ ที่รถไม่ติด ไม่ไกลเมืองมาก เดินทางสบายๆ ก็เลยนึกถึงย่านที่โปรดปรานที่แต่ก่อนมาบ่อยมาก "ย่านเมืองเก่า แถวถนนข้าวสาร" Day life ก็ครบ, Night life ก็เด็ด, อาหารอร่อยๆก็มีให้กิน, ฝรั่งล่ำๆก็มีให้เหล่ โอเคเลือกที่นี่แหละ!

หาที่พักกัน

ที่พักนี่ ยังไงก็ได้ ขอแค่
สะดวกสบายไว้ก่อน คิ้วท์ๆ สะอาดๆ ราคาโอเค ออกมาเจอผู้คนเลย และสำคัญที่สุด ปลอดภัย
(อย่างงี้ไม่น่าเรียกว่า "ยังไงก็ได้" แล้วนะ 55)
สรุปก็พักที่ 'บ้านชาติ' นี่แหละ ครบ!! แถมอยู่ห่างจากถนนข้าวสารนิดเดียวเอง ติดถนนรามบุตรีด้วย

> เดินออกด้านซ้ายไปไม่ถึงอึดใจถึงถนนข้าวสารละ
> หรืออยากนั่งดื่มสบายๆก็เดินมาด้านขวา ติดถนนรามบุตรี ของกินดีๆเพียบ
> อยากนั่งทำงานชิลๆก็ ด้านหน้าที่สตาบัคสีฟ้าน้ำทะเล ที่ใครๆที่เคยผ่านไปแถวนั้นต้องคุ้นตาแน่นอน ออกมานั่งทำงานจิบกาแฟได้สบายเลย

> นึกอยากทำบุญก็เดินข้ามฝั่งไป มีทั้งวัดไทย วัดจีน
> หิวๆก็เดินลงมากินร้านอาหารโรงแรมได้เลย หรือจะ Fast food ข้างหน้าก็มี Burger king

> ด้านข้างโรงแรมทะลุไปเป็น FuBar ร้านนั่งดื่มที่มี Life band มาเล่นให้ฟังเพลินๆ อยู่ใกล้กันมากๆชนิดที่ต่อให้เมายังไงก็กลับโรงแรมถูกอ่ะ เพราะมันทะลุออกไปประตูข้างๆร้านได้เลย


(FuBar นี่เป็น chain เดียวกันกับโรงแรม ไม่ต้องกลัวเรื่องความไม่ปลอดภัยนะ)

โดยรวมที่เราพักมาสองสามวันเราชอบนะ ไม่เปลี่ยว ดูปลอดภัย มียามคอยดูแล ไปไหนก็สะดวก
ข้างในก็น่ารักดีด้วย ครั้งหน้ามาก็จะมาพักที่นี่อีก

ps.ใครที่เอารถมาเขามีพี่ยามคอยดูแลเรื่องที่จอดรถให้นะ เราขับมาดึกๆพี่ยามยังอยู่หาที่จอดรถให้เลย น่ารัก

ห้องเขาจะตกแต่งแบบอินโดไชน่า แนวจีนๆหน่อยมีให้เลือก 3 แบบ ที่เราพักคือแบบ amazing Indo-china ชอบดีไซน์นี้มากสุดแล้วมันดูไม่จีนเกินไป เรียบๆ อิฐๆปูนๆ ดูดิบๆดี อีกสองแบบคือ Blue-heritage ก็จะออกแนวฟ้าๆเย็นๆ, Chinese inspire ก็จะออกจีนจ๋าๆไปเลย
(ในเว็บก็มีรูปแบบให้เลือกดูได้ http://baanchart.com/home.php)

ห้องน้ำก็น่าร๊ากก

ข้างบนดาดฟ้ามีสระว่ายน้ำอยู่ สำหรับใครที่ปาร์ตี้เสร็จไม่รู้จะไปไหน ก็เดินขึ้นไปเล่นน้ำกับเพื่อนๆได้
โทรสั่งอาหารข้างล่างหรือเครื่องดื่มจาก FuBar ขึ้นไปกินกันก็ได้นะ

โอเค พักผ่อนเรียบร้อยก็ออกไปใช้ชีวิตยามค่ำคืนกัน

ตรอกข้าวสาร VS ถนนรามบุตรี

สองซอยที่ขนาบข้างเราอยู่นี้ต่างกันยังไง
ถึงจะคล้ายคลึงกันแต่ต่างซอยก็มีเอกลักษณ์ต่างกันอยู่นะ

ถนนข้าวสาร

ก็จะพลุกพล่านกว่า ของกิน(แปลกๆ)มากกว่า คน(แปลกๆ)ก็เยอะกว่า
แต่ก่อนจะมีร้านดีๆมากกว่านี้ เดี๋ยวนี้ร้านที่เพื่อนๆเรามากันก็น่าจะร้าน Muligan
ส่วนร้านเต้นนี่ก็เลือกกันได้ตามสบาย มีให้เลือกหลายแนวนะถ้าหาดีๆ
อย่ามองแค่ด้านล่างล่ะ เพราะด้านบนก็มีร้านเด็ดๆอยู่เหมือนกัน
บางร้านก็จะเปิดเพลงแกนซ์ยุคเก่าๆ ก็มันส์ไปอีกแบบ แล้วแต่คนชอบ

ร้านนั่งๆก็อย่าคิดว่าแด๊นซ์ไม่ได้นะ
ของอย่างงี้มันอยู่ที่บรรยากาศล้วนๆ

ลองหน่อยไหมล่ะ?

เป็นสิ่งที่ชาวต่างชาติชอบท้ากันลองมาก "แมลงทอด" แมงป่องนี่ฮิตที่สุดๆละ
แต่ที่มีรสชาติที่สุดน่าจะเป็นตั๊กแตนนะ เคยลองตอนพาเพื่อนญี่ปุ่นมาเที่ยวทีนึง

แก๊งสาวๆคิ้วท์ๆแก๊งนี้ก็กำลังลองกันอย่างสนุกสนาน




ใครใส่ยีนส์ขายาวมาแล้วไม่สบายดับชีวิตก็ซื้อเปลี่ยนโลด
เสื้อผ้าสบายๆมีให้เลือกซื้อใส่ เพียบ!

หรือจะเด็ทร็อค?

เดินมาเมื่อยๆก็ไม่ต้องกลัว ตรงเข้าไปร้านนวดได้เลย คนใช้บริการแน่นร้านมาก
นวดเสร็จออกไปเดินพริ้วได้เหมือนเดิมละ สบ๊าย

ถนนรามบุตรี

ก็จะพลุกพล่านน้อยกว่า คนจะสงบกว่า อารมณ์เป็นร้านนั่งชิลเฉยๆ ไม่ได้มีแดนซ์มันๆขนาดนั้น
คือถ้าชอบที่จะนั่งชิลๆฟังเพลง กินบรรยากาศ หรือมานั่งสังสรรค์พูดคุยกับเพื่อนๆก็มาซอยนี้เถอะ
ถ้าจะแดนซ์มันส์ๆก็เลือกซอยข้าวสารไปดีกว่า

สองซอยนี้คือเดินแป๊บเดียวก็ถึงกันละ เดินต่อกันได้เลย
ท้ายซอยรามบุตรีก็จะมีของกินอร่อยๆ สุกี้เจ้าเด็ด (ค่อยๆเติมน้ำจิ้มนะ ระวังเผ็ด)
โจ๊ก อาหารตามสั่ง ขนมไทย และร้านน้ำผลไม้ที่ดูเหมือนจะเป็น signature ของท้ายซอยนี้

บรรยากาศในซอยก็จะสงบกว่าตรอกข้าวสารค่อนข้างมาก เหมาะนั่งดื่ม

และเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยชอบผู้คนพลุกพล่านมาก


หมดละกับชีวิตยามดึกแถวนี้ กลับห้องนอนกันเถอะ


เช้าๆที่ข้าวสาร

แถวนี้ไม่ได้มีแต่อะไรดาร์คๆนะ อยากจะบอกว่ารอบๆนี้วัดเต็มไปหมดเลย เอาง่ายๆแค่ออกไปฝั่งตรงข้ามก็เป็นวัดละ นอกนั้นนั่งรถไปอีกหน่อยก็เป็นวัดพระแก้ว, วัดโพธิ์, วัดสระเกษ (ภูเขาทอง)

เมื่อคืน enjoy night life ไปละ เช้านี้ขอตื่นมาตักบาตรให้สบายใจซักหน่อยดีกว่า

เริ่มจากกินข้าวเช้าที่โรงแรมก่อนเลย หิวฮะ

เสร็จแล้วก็หาของกินซักหน่อย เต็มเลยวู้วๆ ซื้อจนแบบว่า ลืมไปเลยว่ากินข้าวเช้าไปแล้ว
โจ๊กก็น่ากิน น้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ก็อร่อยดี ปลากริมไข่เต่าก็ไม่ได้กินมานานมากๆแล้ว หากินยากจัง





สบายใจกันละ

ไหนๆก็เริ่มวันด้วยอะไรดีๆแล้ว วันนี้มาต่อกันด้วยไปไหว้พระ ทำบุญ หาอะไรอร่อยๆกินกันเถอะ

เริ่มจากเดินมาทางขวาจากโรงแรมแล้วเลี้ยวซ้ายที่แยก
ประมาณสิบนาทีก็จะถึงพิกัด "โรตีท่าพระอาทิตย์"
ก่อนถึงก็จะเห็นป้อมพระสุเมรุ (ป้อมพระซู๊ต) ก่อนเลย
เดินมาอีกนิดก็ถึงละ ร้านที่มีต้นไม้อยู่หน้าร้าน


มีทั้งโรตีที่กินกับแกงกะทิต่างๆ มะตะบะที่มีไส้อยู่ข้างใน แล้วก็ของหวานด้วย
คิดถึงตอนไปอินเดียเลยจริงๆ


วัดโพธิ์
(วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม)

เด่นที่พระนอนองค์ใหญ่ และนวดแผนไทยโบราณ สองอย่างนี้เป็นสิ่งที่ห้ามพลาดถ้าจะมาที่นี่


เทวสถาน

น้อยคนที่จะรู้จักโบสถ์พราหมณ์แห่งนี้
ไม่ใช่แค่คนที่นับถือศาสนาพราหมณ์เท่านั้น แต่ชาวพุทธถือพระพิฆเนศ หรือพระศิวะก็เข้ามาสัการะกันที่นี่
ข้างในนี้จัดว่าเงียบสงบกว่าวัดไทยมากๆเพราะด้วยความที่คนรู้จักน้อยกว่าด้วยเลยไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน สงบดีจังเลย

ถ้าใครต้องการที่จะประกอบพิธีของศาสนาพราหมณ์มาติดต่อที่นี่ได้เลย ของแท้แน่นอน
เดี๋ยวนี้มีพวกมิจฉาชีพทำตัวเป็นคนประกอบพิธีพราหมณ์เยอะแยะไปหมด เซิร์ชเจอในเน็ตเยอะมาก
แนะนำว่ามาติดต่อแบบเรียลๆที่นี่ดีกว่า

ถ้าชอบกินต้องไปไหน?

จริงๆแถวนี้ก็มีร้านดังๆที่ต้องมากินอยู่ตามนี้ มาก็ลองไปตามกินกันดูนะ
+ ผัดไทประตูผี (ทิพย์สมัย)
+ นมต์นมสด
+ โรตีท่าพระอาทิตย์ (แต่ถ้าเทียบกับท่าพระจันทร์เราว่าท่าพระจันทร์เด็ดกว่า)
+ พิซซ่าลันตา, พิซซ่าเกาะลันตา พิซเซอเรีย
+ กินลมชมสะพาน

ขออะไรหวานๆหน่อย

เหนื่อยละอ่า ไหนๆก็เดินมาถึงโบสถ์พราหมณ์ละ แถวนี้มีร้านดังอยู่ร้านนึง
"มนต์นมสด" นั่นเองค่า ก่อนจะถึงมนต์นมสดก็เจอร้านขนมไทยก่อนเลย
สโลแกน "ลือลั่นสะท้านโลกันต์" เลยนะ โดนไปซะถ้วยนึง

มนต์นมสด

ร้านที่มีประวัติยาวนานมาก คนเต็มร้านตลอดเวลา
แวะมากินนมสด ขนมปังสังขยา หรือจะซื้อนมสดขวดๆกลับไปกินที่บ้านก็ได้วิธีซื้อก็ต่อคิวซื้อที่เค้าน์เตอร์ซึ่งมันจะแยกกันระหว่าง เค้าน์เตอร์ฝั่งขนมปังกับ ฝั่งเครื่องดื่ม ต้องไปต่อทีละแถว แล้วก็ไปหาโต๊ะนั่งกินได้เล้ย

ต่อด้วยเดินเล่นไปวัดภูเขาทองต่อกันเลย ใกล้ๆนี่เองเดินไปได้เลย

ยามเย็นที่ภูเขาทอง

มาดูเมืองจาก Top view กันเถอะ นอกจากจะได้บุญแล้ว ยังได้ออกกำลังกาย และวิวเมืองเก่าสวยๆด้วย
เอ้าเดินกันกน่อย ฮึบๆ มีพระธาตุอยู่ข้างบนสุดให้สักการะกันด้วยนะ เดินขึ้นไปให้ถึงล่ะ

ล่องเรือยามดึก ริมฝั่งแม่น้ำ

หลังจากที่เหนื่อยมาทั้งวัน ขอร่องเรือชมวิวสองฝั่งแม่น้ำสวยๆหน่อยดีกว่า
เรือที่เราขึ้นคือ Chao Phraya Princess จองได้ในเว็บหรือโทรเข้าไปถามรายละเอียดได้เลย
เราไปเช็คอินก่อนเวลาที่ท่าเรือ 1 สี่พระยา เจริญกรุง 30
ต้องเข้าไปที่ Ticket Checkin ตามรูปเพื่อรับตั๋วขึ้นเรือ

ก่อนขึ้นเรือก็เดินเล่นแถวนั้นก่อนได้ ไม่ต้องรีบไปเบียดต่อแถวหรอก เพราะยังไงโต๊ะก็ fix ไว้แล้วว่าเรานั่งโต๊ะไหน ชิลๆไปดีกว่าจะได้ไม่เสียวันดีๆ ไม่ต้องไปแย่งกันขึ้นเรือ

ขึ้นเรือแล้ว ในเรือก็จะมีเครื่องดื่มต้อนรับไว้ให้
อาหารจะเป็นแบบบุฟเฟ่ ต้องเดินไปตักเอาแล้วมานั่งทานที่โต๊ะ
ขึ้นมาก็ไปต่อคิวตักทีเดียวแล้วมานั่งทานชิลๆดูวิวไปเรื่อยๆดีกว่า
อาหารก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งแกงๆผัดๆ ปลาทอดมันแบบไทยๆ
ซูชิ ข้าวปั้นแบบญี่ปุ่น พาสต้าแบบอเมริกัน
เราว่านักท่องเที่ยวน่าจะลองมาซักครั้งนึงดูนะ ชมบรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำเมืองไทยดู
ผ่านสถาณที่สวยๆและสะพานสำคัญๆหลายที่เลย
พอกินอาหารกันอิ่มแล้วซักพักก็จะเปิดโอกาสให้ออกมาเต้นที่ฟลอร์กันสนุกสนาน
คนต่างชาติก็ดูเอ็นจอยดีนะ

จบแล้วกับ week end นี้ที่เมืองเก่าย่านบางลำภู ช่างดูรวดเร็วจังเลย (เวลาแห่งความสุขมักเดินเร็วเสมอ)
ชีวิตดูเนิบนาบประมาณนึงในตอนกลางวัน แล้วถูกกระชากกลับด้วย night life แสงสีเสียงตอนกลางคืน
สนุกดีเหมือนกันนะ แล้วก็สบายใจดีด้วย ไว้ว่างๆจะหาโอกาสไปใช้ชีวิตชิลๆอีกอย่างแน่นอน

: )



HappyJune

 วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 15.28 น.

ความคิดเห็น