ขอแชร์ประสบการณ์ ขึ้นชมกำแพงหิมะครั้งแรกในชีวิตและแถมท้ายด้วยทุ่งดอกทิวลิป

ผมไปมาตั้งแต่ เมษา ที่ผ่านมาครับเป็นครั้งแรกที่ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นโดยขับรถเที่ยวเองด้วย ส่วนมากผมเขียนเล่าอยู่ในเวบไซต์ของผมเองแล้วก็เพื่อนๆบอกลองเอาไปลงพันทิพย์ดูสิ แชร์ประสบการณ์ก็ได้ จริงๆผมเขียนแชร์ไว้ทุกวันที่ไปแหละครับ แต่อันนี้เอาที่เป็นไฮไลท์ๆแล้วกัน ภาพถ่ายจากมือถือล้วนๆครับ Galaxy Note 3

วันนี้เป็นวันที่ 8 ของทริปนี้แล้ว ขึ้น Murodo ครับ เนื่องจากเมื่อวานมาถึง Tateyama Station เป็นอะไรที่เย็นแล้วไอ้เราก็นึกว่ามันขึ้นง่ายที่ไหนได้ ต่อกระเช้าต่อรถบัสกันเลยทีเดียวและต้องใช้เวลาในการชมบรรยากาศ ดื่มด่ำไปกับมัน อ่ออย่าลืมหยิบแว่นตากันแดด ทาครีมไปด้วยเห็นหนาวๆแบบนี้หน้าลอกนะครับ เครื่องกันหนาวก็ควรจัดเต็มครับ เจอหนาวๆร้อนๆ เดี๋ยวไม่สบายกันจะเที่ยวไม่สนุกนะครับ

เริ่มเลยที่ 6.00 น เวลาประเทศญี่ปุ่น เราชะล่าใจคิดว่าเราพักใกล้ขนาดนี้ใครจะมาแย่งซื้อตั๋วกะเราได้ เปิดหน้าต่างไปกะว่ากระหยิ่มยิ้มย่อง ร้องเฮ้ยขึ้นมาทันใด คนมาเข้าแถวยาวเลย รีบกระโดดจากเตียงใส่เสื้อผ้าได้ไปยืนต่อคิวก่อนเลยครับ

ได้บัตรมาแล้ว 4310 เยน เฉพาะแค่ขึ้นจาก Tateyama ไป Murodo Return Ticket แล้วค่อยไปทานอาหารเช้า

อาการเช้าเป็น Set เช่นเดิมครับ แต่ไม่ค่อยอิ่มครับเช้านี้

น้ำท่าไม่อาบแล้วครับหนาวทานข้าวเสร็จก็ลุยกันเลย เพราะเราซื้อตั๋ว 8.00 น และกำแพงหิมะจะเปิดให้เดินเวลา 10.00 น เผื่อเวลาไว้เพื่อจะได้ชมทิวทัศน์รอบๆพื้นที่

ขั้นแรกไป รอต่อแถวครับเค้าจะมีแถว สำหรับ individual ซ้ายมือครับและ group ขวา อ่ออย่าลืมซื้อน้ำไปสักขวดหรือเตรียมไปครับ เพราะว่าข้างบนมันแพงงงงง

จากนั้นขึ้นรถกระเช้า ทางขึ้นก็ไม่มีอะไรมาก ถ่ายรูปตามสบายแต่ก็จะไม่เห็นอะไร

พอกระเช้าถึงขั้นที่สอง ไปรอต่อแถวอีกครับคือผมมาเที่ยวเช้าเค้าจะต้องรอเวลารถออก ไม่มีการออกก่อนครับ ญี่ปุ่นตรงเป๊ะๆ รักษากฏระเบียบสุดๆ

เมื่อถึงแล้วเราจะขึ้นไปรถบัส ซึ่งเป็นรถบัสที่ low emission เนื่องจากใช้พลังงานไฟฟ้า เป็น Hybrid ครับ เจ๋งมากๆ

ระหว่างทางเค้าจะมีเปิดบรรยายผ่านทีวีในรถ เป็นหลายๆภาษาตามจุดต่างๆ ที่สำคัญๆเช่น ต้นไม้ที่มีอายุกว่า 300 ปี ต้นใหญ่มากจริงๆแล้วในอุทยานนี้ก็ยังมีอีกเยอะครับ

ไปตามทางก็จะเห็นน้ำตกอยู่อีกฟากฝั่งของภูเขา สวยงามครับ คนขับรถเค้าจะค่อยๆจอดทีล่ะมุมเพื่อให้คนในรถ สามารถชมได้ทุกคนครับ ไม่ใช่แค่ชะโงกทัวร์แล้วผ่านไป แต่ที่สำคัญ เค้ารักษาเวลาดีมากๆ วิดีโอที่บรรยายในทีวี ตรงเป๊ะตามจุดต่างๆ เวลาในการเข้าและออกตรงเป๊ะ นี่สินะความมีระเบียบวินัยของคนญี่ปุ่น

นั่งไปเรื่อยๆครับถ่ายภาพความสวยงาม ผมชอบเพราะผมบ้านนอกไม่เคยเจอหิมะเยอะขนาดนี้ ตอนไปเยอรมันรู้สึกเฟลนิดหน่อยแต่มาที่นี่คุ้มแล้ว มองทุกคนมากันเป็นคู่ๆ ผมก็เหงาครับแต่ก็สนุกไปกับมัน

ระหว่างทางเค้าจะแวะรับคนที่ รร ที่อยู่บนอุทยานด้วย แล้วแต่ใครจะมาพักนะครับไว้จะหาข้อมูลที่พักให้อีกที เผื่อจะมาเล่นสกี หรืออยากสัมผัสความหนาวกันใกล้ชิด

พอขึ้นไปถึง Murodo เราก็ขึ้นไปถ่ายรูปกันที่จุดชมวิวกันก่อนเลย เพื่อรอเวลาที่เค้าจะเปิดให้เดินชม กำแพงหิมะเวลา 10.00 น นักท่องเที่ยวเยอะครับ สนุกสนานแต่จีนเยอะเหมือนเดิม

จริงๆด้านบนเค้าจะมีทำกำแพงหิมะย่อมๆทางด้านขวาให้เราลองเดินเล่นก่อนถึงเวลาเจอของจริงด้วยนะครับลองไปเดินดูเลย

พอถึงเวลาเปิด ก็เริ่มกันเลยครับเดินออกไป เค้าจะมีเชือกกั้นให้เราเดินไปตามเส้นทางชัดเจนแล้วแต่เราจะเลือก แล้วก็ตอนออกมา มีสไลเดอร์เล็กๆให้เล่นนิดหน่อยด้วยครับ ลองนะครับ อายุเท่าไหร่ไม่เกี่ยงนะครับ ใครแก่แล้วลองมากลับเป็นเด็กอีกครั้งหน่อยเป็นไรไม่ได้มาเล่นกันง่ายๆนะครับ

เอาล่ะได้เวลามาเจอกำแพงหิมะครับตื่นเต้นดีใจ ครั้งแรกของการมาญี่ปุ่นก็ได้ครบเกือบทุกอรรถรส จริงๆ

แถมอีกรูปครับพอเดินชมทั่วแล้วก็จะวนกลับมาที่เดิม

กำแพงหิมะนี่เค้าจะเปิดทุกๆปี ปีล่ะครั้งเดียวเท่านั้น ใครมาก็มาที่นี่สักครั้งครับ จริงๆแล้วมันมีการนั่งกระเช้าและชมแบบยาวๆ โดยนั่งจาก Nagano ข้ามมา Tateyama ใครอยากจะลองก็ได้ครับแต่ใช้เวลานานหน่อย หรือใครอยากจะพักที่ รร บนเขาก็ดีครับ จะมาเล่นสกีก็ได้เลย แต่ผมชอบที่ hakuba ดีกว่า คือเวลาผมหลงรักอะไรไปแล้วผมก็จะฝังใจเหมือนกันครับ #ความรักก็เช่นกัน

เสร็จแล้วเราลงมาตอนเที่ยงกว่าๆ ก็จะขับรถกลับครับต้องแวะที่ Nyuzen , เพื่อชมทุ่งดอกทิวลิป เค้าได้จัดทุ่งดอกทิวลิปเพื่อให้เราเข้าชมและเข้ามาถ่ายรูป ในบริเวณงานก็จะมีขายทุกๆอย่างเกี่ยวกับทิวลิป คือซื้อไปปลูกได้เลย ตัวผมกับดอกไม้ก็ไม่ค่อยจะเข้ากันเท่าไหร่ แต่ถามว่าชอบมั้ยชอบครับ

มองดอกไม้ก็มองออกไป เห็นวิวภูเขาและ ชินคันเซ็นวิ่งผ่านมาก็ยกกล้องถ่ายรูปสวยงามครับ สาวๆที่ชอบดอกไม้ ไม่ผิดหวังแน่นอน ส่วนผู้ชายดิบๆอย่างผมก็ขอเป็นผู้นำทางครับ