ทริปนี้เป็น one day trip นะคะ เมือง พิษณุโลก สองแคว เป็นเมืองที่มีสถานที่สวยงามทางธรรมชาติหลายแห่ง มี พระพุทธชินราช ปางมารวิชัย เป็นพระพุทธรูปองค์ประธานของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารหรือที่ชาวพิษณุโลกเรียกกันว่า "วัดใหญ่" ค่ะ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ถนนพุทธบูชา ตำบลในเมือง ริมแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออก สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองเมื่อปี พ.ศ. 1900 จัดเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในประเทศไทย จนมีคำขวัญประจำจังหวัดว่า "พระพุทธชินราชงามเลิศ ถิ่นกำเนิดพระนเรศวร สองฝั่งน่านล้วนเรือนแพ หวานฉ่ำแท้กล้วยตาก ถ้ำและน้ำตกหลากตระการตา" เป็นจริงตามคำขวัญค่ะ ถือเป็นความภูมิใจของเราเพราะเป็นบ้านเกิดเมืองนอนค่ะ ทริปนี้ไปช่วงเดือนเมษายน นะคะ^^

สถานีรถไฟพิษณุโลก มีหัวรถจักรไอน้ำสมัยโบราณ ตั้งอยู่บริเวณหน้าสถานี

ยามเช้า อากาศเย็นสบายยยย หาอะไรรองท้องกันหน่อย ทานอาหารในเมืองกันก่อนแวะร้านแถวริมแม่น้ำน่าน จะได้ชมบรรยากาศยามเช้าริมแม่น้ำด้วย

สมัยก่อนตอนยังเด็กๆจำได้ว่าบ้านเรือนแพยังเยอะอยู่มาก เคยมีญาติๆและเพื่อนอาศัยอยู่ที่เรือนแพทั้งสองฝั่งลำน้ำยังเคยโดดน้ำ เล่นน้ำแถวเรือนแพบ้านเพื่อนว่ายน้ำหนีข้าวเม่ากันอยู่เลย5555 เดี๊ยวนี้เรือนแพในเมืองไม่ค่อยมีให้เห็นแล้วจะอยู่ถัดไปแถวลำน้ำนอกเมืองไปหน่อย (ใครรู้มั่งว่าข้าวเม่าหมายถึงอะไร...ไม่รู้ต้องถามเด็กๆที่เรือนแพนะจ๊ะ ^^)

ร้านริมน้ำน่านตอนเช้า แวะร้านประจำของพี่ชาย ร้านเก่งไข่กะทะ ค่ะ ราคาถูก รสชาดอร่อย จานละ 20.- บาท น้ำส้มคั้นสดๆ แก้วละ 10 บาทเอง นอกจากนี้ยังมีก๋วยจั๊บ ฯลฯ เลือกทานกันได้ตามอัธยาศัย

กาแฟโบราณแก้วละ 10 บาท อร่อยหอมๆ มีน้ำชาให้ด้วย

อิ่มหนำกันดีแล้วไปนมัสการหลวงพ่อที่วัดใหญ่กันค่ะ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ใครไปเที่ยวพิษณุโลก จะมีงานวัดประจำปีด้วยนะคะ แวะเที่ยวงานวัดกันได้

กราบพระขอพรหลวงพ่อเสร็จแล้ว เดินทางท่องเที่ยวไปยังถนนสายพิษณุโลก-หล่มสักค่ะ เส้นนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก จัดเป็นถนนสายน้ำตกกันเลยทีเดียว เดินทางไปเส้นอำเภอวังทอง แวะนมัสการ เจ้าแม่กวนอิมหยกขาวหรือวัดราชคีรีหิรัญญาราม อยู่ที่ ต.วังทอง อ.วังทอง เป็นที่ประดิษฐาน "องค์พระแม่กวนอิมหยกขาว" ที่ว่ากันว่า ใหญ่ที่สุดในโลกห่างจากตัวเมืองพิษณุโลกประมาณ 14 กิโล ...และเลยขึ้นไปทำบุญที่โรงเจไซทีฮุกตึ๊ง เจ้าพ่อเห้งเจีย หรือจุดชมวิวดอยสุเทพ 2 อยู่บนเขาสมอแคลงขึ้นเขาไปทางเดียวกันค่ะ

ที่วัดมีจุดชมวิวบนเขาสมอแคลงด้วย ถ้ามาหน้าฝนก็จะเห็นท้องนาเขียวขจี

ขับรถเลยขึ้นไปที่ โรงเจไซทีฮุกตึ๊ง เป็นพื้นที่ที่สงบร่มเย็นและจัดเป็นที่ท่ีชาวจีนถือว่ามีฮวงจุ้ยที่ดีเยี่ยม โรงเจนี้จัดตั้งโดยกลุ่มชาวจีนค่ะ ช่วงเทศกาลกินเจจะมีคนเดินทางขึ้นมาถือศีลกินเจกันเป็นจำนวนมาก สถานที่สวยงาม มีรูปปั้นจีนมากมาย มีให้ทำบุญโรงศพแก่คนไร้ญาติ บริจาคข้าวสารให้คนยากไร้ด้วยค่ะ

พระโพธิสัตว์กวนอิมปางพันเนตรพันกร พระแม่กวนอิมปางพันมือบางพระหัตถ์ทรงถือศาสตราวุธ บางพระหัตถ์ทรงถือคัมภีร์ บางพระหัตถ์ทรงถือดอกบัว บางพระหัตถ์ทรงถือแก้วจินดามณี ล้วนแล้วแต่มีความหมายแฝงไว้ ค่ะ เช่น พระหัตถ์บนสุดทรงถือสุริยัน-จันทรา มีความหมายแทนปัญญาให้รู้เท่าทันอารมณ์ที่มีกุศล-อกุศล เห็นแจ้งถึงเหตุปัจจัยในธรรมชาติของโลกซึ่งประกอบด้วยของคู่กัน เช่น มีสว่างก็มีมืด มีดีก็มีชั่ว

ชั้นบนสุดค่ะจะเห็น เง็กเซียนฮ่องเต้ เป็นเทพเจ้าสูงสุดของจีน จะทรงฉลองพระองค์เช่นเดียวกับฮ่องเต้จีน

ที่โรงเจมีอาหารให้รับประทานฟรีตลอดทั้งวัน ใครมาทำบุญแวะทานอาหารกันได้อร่อย สด สะอาดค่ะ โดยเฉพาะผัดหมี่ซั่วชอบกันมากๆ แม่ครัวที่โรงเจฝีมือขั้นเทพกันเลยทีเดียว

ลงจากเขามา แวะที่อำเภอวังทอง ซื้อไก่ย่าง ส้มตำร้านข้างทางไว้ไปทานที่น้ำตกปอยกัน ไก่ย่างหอมๆๆๆๆๆ เนื้อนุ่มๆ ย่างด้วยถ่านอ่อนๆ อร่อยม๊ากก รับสักตัวไหมคะ^^

เดินทางไป ล่องแพน้ำตกปอยกันนนนนน แพปอย อยู่ที่ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เกิดขึ้นจากชาวบ้านในหมู่บ้านได้รวมกลุ่มได้ต่อแพขึ้น เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชมธรรมชาติของลำน้ำเข็ก และน้ำตกปอยพึ่งเปิดตัวเป็นทางการเดือน ต.ค 59 นี้เองค่ะ เราไปก่อนเขาเปิดตัว ได้ชมธรรมชาติงามๆ นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะ ที่แพมีแพริมฝั่งน้ำตก ให้นั่งเล่นทานอาหารริมฝั่งน้ำปอย หรือจะจ้างให้เขาลากแพไปเล่นน้ำกันได้ค่ะ ค่าแพประมาณ 300-500 บาท ถ้าลากแพเหมาไปทั้งวัน 500.- บาทค่ะ แพนึงนั่งได้ไม่เกิน 8 คนนะคะมีเสื้อชูชีพให้เสร็จ ของเราลากไปเล้ยยยยยยยยยยยย

น้ำใส ชมธรรมชาติสวยๆสองข้างลำน้ำ เดือนเมษาน้ำยังเยอะและใสแจ๋วเลย

เจอสถานที่เหมาะๆแล้ว ให้คุณลุงที่ลากแพแวะจอดผูกแพไว้ให้ ทานข้าว เล่นน้ำกันค่ะ

ที่แพเราสั่งอาหารและเครื่องดื่มได้นะคะจะมีเมนูให้ สั่งคนลากแพเขาไปได้ เสร็จแล้วเขาจะมีชาวบ้านขับเรือเอามาส่งและเก็บตังค์ค่ะ อาหารรสชาดดีทีเดียว ราคาไม่แพง

น้ำใสมาก เย็นสบาย เล่นน้ำกันเพลินเลย^^

นั่งเล่นนอนเล่น เล่นน้ำกันสำราญใจดีแล้ว บ่ายๆก็กลับเข้าฝั่งกันค่ะ

เปลี่ยนเสื้อผ้าบนฝั่ง เสร็จแล้วแวะถ่ายรูปที่สะพานสลิงไม้กันอยู่ใกล้ๆ

เดินทางกลับ แวะ บ้านมุง เนินมะปรางหน่อยค่ะ กำลังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังเลยในปัจจุบัน สงสัยได้แอทมินเพจเก่ง(อิๆ)

เนินมะปรางเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ลักษณะภูมิประเทศประมาณร้อยละ 45 เป็นภูเขาหินปูนอายุกว่า 300 ล้านปีเลยทีเดียว มีถ้ำอยู่มากมาย ห่างจากตัวเมืองจังหวัดพิษณุโลกประมาณ 68 กิโลเมตร มีสถานที่สวยๆเยอะค่ะ เพื่อนพี่ชายเป็นแอทมินเพจเนินมะปราง ช่วยพาเที่ยวสถานที่และถ่ายรูปสวยๆให้ที่บ้านมุง ต้องขอบคุณพี่ตุ่นไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ^^ ไปช่วงหน้าร้อน ต้นไม้ค่อนข้างแห้ง แต่ก็ได้อารมณ์สวยแปลกตาไปอีกแบบ อากาศไม่ร้อนอย่างที่คิดลมพัดเย็นสบายค่ะ

จบรีวิวทริปเมืองสองแคว ปีหน้าฟ้าใหม่ค่อยเจอกันอีกนะจ๊ะ :)

ฝากติดตามเพจท่องเที่ยวเล็กๆในเฟสด้วยนะคะ รวบรวมแหล่งท่องเที่ยวเคยไปมา เพจ: ไปแอ่วกัน Fun Trips ค่ะ กด ไปแอ่วกัน Fun Trip