"รู้ว่าคงลำบาก รู้ว่าคงเหนื่อย รู้ว่าไปแล้วต้องมีอะไรดีๆแน่นอน
เพราะความสุขเกิดขึ้นได้ เพียงแค่ออกเดินทาง"

สวัสดีค่ะเหล่านักเดินทาง วันนี้แจ๊คจะพาไป พิชิตยอดดอยภูแว ชมวิว 360 องศา (ทริป 2วัน 1 คืน) ภูแว
แว=ที่ไหน นั่นดิ่ ภูนี้มันอยู่ที่ไหนกันนะบอกใครก็ไม่ค่อยมีใครรู้จักเลย
ข้อมูลค่ะ
ดอยภูแว เป็นภูเขาในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา อยู่ในพื้นที่ตำบลขุนน่าน
อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ระยะทาง 6 กิโลเมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 1,837 เมตร
ใช้เวลาเดินประมาณ 5 ชั่วโมง
หลังจากต้องยกเลิก เพราะกลัวฝน แจ๊คมาจัดอีกรอบค่ะ เป็น 27-29 มกราคม2560
เอาใจสายลุย ขอพิชิตอีกสักเขาก่อนเข้าหน้าร้อน โดย เพจ My journey by นักเดินทางตัวน้อย
ทริปนี้เกิดจาก ความคิดถึงเขาของแจ๊คเอง เลยประกาศหาเพื่อนเที่ยวในเพจ
จนได้สมาชิกมา รวมทริปนี้เราไปกัน 11 คน มีพี่อีกคนมาสมทบด้วย ชื่อพี่โม เป็น 12 คน
พี่โมบอกว่าโทรมาที่อช.2-3 รอบละ ไม่มีใครขึ้น จนมามีกลุ่มพวกเราขึ้น พี่โมเลยมาแจม
เราจ้างลูกหาบ 2 คน สำหรับแบกเต๊นท์ แบกของส่วนกลาง จ้างเจ้าหน้าที่นำทาง 1 คน


ขั้นตอนการมาเดินดอยภูแว

คือโทรแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคาค่ะ ที่เบอร์ 082 194 1349

แจ้งว่าจะขึ้นวันไหน(ณ ตอนนี้ยังไม่มีกฏระเบียบว่าต้องจองล่วงหน้ากี่วัน แต่แจ๊คแนะนำว่าควรจองล่วงหน้ามากกว่า7วัน)

เจ้าหน้าที่จะถามว่ามีสมาชิกกี่คน และขอแค่ชื่อ เบอร์โทรผู้นำทีมค่ะ

ที่นี่จะจำกัดให้ขึ้นได้ 90 คน ต่อคืน เพราข้างบนมีพื้นที่น้อยค่ะ

จะจ้างลูกหาบกี่คนก็แจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลย พี่เค้าจะจัดหาไว้ให้ค่ะ

ก่อนวันเดินทางสัก 2 วันก็โทรไปคอนเฟิร์มอีกรอบ

ไม่มีเต๊นท์ ไม่มีถุงนอนให้เช่า

จนท. นำทาง 800 บาท

ลูกหาบคนละ 1200 บาทแบกได้ 20กิโลกรัม

ค่าอช. คนละ 30 บาท

จุดสตาร์ทเดินอยู่ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติภูคาที่ 9 (บ้านด่าน)

ระยะทางห่างจากที่ทำการอช.ดอยภูคา ประมาณ 63 กิโลเมตร

บนดอยไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆเลย แหล่งน้ำจะมีท่อส่งน้ำ เป็นปะปาภูเขา เติมได้ตามทางเดิน

แต่พอขึ้นข้างบนไม่มีแหล่งน้ำแล้วนะ ไม่มีน้ำให้อาบค่ะ ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีส้วมหลุม

วันที่เดินทางเราไม่ต้องเข้าไปที่ที่ทำการอช.ดอยภูคา ก็ได้ ให้ไปลงทะเบียน จ่ายเงินที่บ้านด่านได้เลยค่ะ

"รู้จักกันมากขึ้น อยากทักทาย พูดคุย ขอคำแนะนำ


ที่นี่นะคะ เพจการเดินทางและถ่ายภาพของแจ๊ค

นักเดินทางตัวน้อย

https://www.facebook.com/JackSmallTraveler

ขายของเสร็จละ เดินทางต่อค่ะ"



Day-1 ศุกร์ 27/01/60

เรานัดกันที่บิ๊กซีสะพานสะพานควาย เวลา 19.30 รถตู้ออก 20.00น. ทริปนี้ 11 คน

แต่เรานั่งรถตู้กันไป 10 คน น้องโดจากเพจ Isara Backpacker เดินทางไปรอที่น่านแล้ว นัดกันที่ตลาดปัว

ต้องบอกเลยว่าผู้ร่วมเดินทางทั้งทริป แจ๊ครู้จักเจ้าโดนัทอยู่คนเดียว

ส่วนคนอื่นๆ มาจากเพจแจ๊ค มาแบบคู่เพื่อน คู่แฟน มีเพื่อนและรุ่นน้องน้องโด อ้าววววเฮ้ยยยย เรานี่มาเป็นคี่เลย 5555



Day-2 เสาร์ 28/1/2560

ตอนเช้าเราจะเดินทางถึงจ.น่าน แวะตลาดสดเทศบาลปัว รับน้องโด ซื้ออาหารเช้าและอาหารกลางวัน

ซื้อของสดขึ้นไปทำอาหาร

ไปสวัสดีแม่ไก่ แม่คนที่2ของน้องโด แม่ไก่ใจดีมาก ร้านแม่ไก่ขาย ข้าวเหนียว หมูปิ้ง ใส้อั่ว น้ำพริก อาหารเหนือ

แม่ไก่ให้ข้าวหนียวมา น้องโดทำข้าวเหนียวพี่หายไปไหน 555



หลังจากนั้น เดินทางไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยภูคาที่ 9 บ้านด่าน ซึ่งเป็นจุดเริ่มเดิน

ลงทะเบียน ล้างหน้าแปรงฟัน ทานอาหารเช้า

เริ่มเดินเท้าขึ้นสู่ดอยภูแว

วันนั้นทั้งดอยมีแค่กลุ่มเรา เป็นไงล่ะ ไปกับเพจแจ๊คเนี่ย VIP.สุดๆ ปิดดอยเลย ดอยนี้เป็นของเรา 5555


ทางชันตั้งแต่ก้าวแรกเลยค่ะ ชันอย่างเดียวเลย จากตรงจุดเริ่มเดิน

เดินไปประมาณ 500 เมตร จะถึงถนนหลักเข้าหมู่บ้านปู่ดู่ เป็นทางรถวิ่งค่ะแต่ต้องเป็นรถกะบะ


เพราะทางไม่ดี เราไม่มีรถกะบะ เราก็ต้องเดินๆๆๆ ค่ะ

เดินขึ้นเขาตลอดทาง เมื่อเดินสูงขึ้นระดับหนึ่ง เราจะเริ่มเห็นวิวภูเขา ยืนมองกันหายเหนื่อยเลยค่ะ

แต่เดินต่อก็เหนื่อยอีกแหระ 5555 ไม่เหนื่อยได้ไง เดินขึ้นเขามานะเฮ้ยยยยย

แอบคิดว่าถ้ามีรถผ่านมา จะโบกไปที่หมู่บ้าน มีมั้ยล่ะ ก็หามีไม่

เดินกันจนถึงหมู่บ้านเลยค่ะ เมื่อถึงหมู่บ้าน หมายความว่าเราเดินมา 2 กิโลเมตรแล้วนะ


ที่หมู่บ้าน มีน้ำเย็นๆขาย น้ำอัดลม สปอนเซอร์ M150 ขนม เราก็พักกัน ดื่มน้ำจนชื่นใจ แล้วก็ไปกันต่อ



ที่หมู่บ้านปู่ดู่ เราตื่นเต้นกันมากกับความน่ารักของลูกหมูที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้

สังเกตุได้ว่า ที่นี่เลี้ยงหมาและหมู น่าจะทุกบ้าน ชาวบ้านที่นี่ ยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวดีค่ะ



ออกจากหมู่บ้าน เส้นทางต่อไปคือเดินลัดเลาะตามไหล่เขา

ผ่านไร่ข้าวโพด ทางก็ยังขึ้นเขากันต่อไป แต่ไม่ชันมาก วิวสวย


เราหยุดถ่ายรูปกันตลอดทาง ทั้งถ่ายรูปทั้งพักด้วย

ตามทางเดินมีท่อส่งน้ำ เราสามารถเติมน้ำได้ค่ะ


มองย้อนกลับไปตามทางที่เดินมา ทางสวยดีนะ


เดินไปเหมือนไม่มีจุดหมาย อารมณ์ประมาณว่า เมื่อไรจะถึงว๊าาาาา เหนื่อยแล้วน๊าาาา

เริ่มหิวกันแล้วค่ะ หามุมเหมาะๆ แวะกินอาหารกลางวันกัน

เราพักตรงนี้กัน 1 ชั่วโมง แล้วไปต่อ


เส้นทางก้ยังเหมือนเดิม คือลัดเลาะตามภูเขาไร่ข้าวโพด


วิวตลอดทางยังสวยเหมือนเดิม มองไปทางไหนก็มีภูเขา แต่ที่น่าเศร้าใจคือมันเป็นภูเขาหัวโล้น


จากบริเวณนี้เราจะเข้าเขตที่มีรั้วกั้นไว้ ชาวบ้านจะไม่ได้เข้าไปทำไร่ในเขตนี้

มันเป็นภูเขาที่เราต้องเดินข้ามไป โหวววววววว อยากจะร้องไห้ คือทางชันตลอดทางค่ะ

ทางเดินชัน พื้นเรียบ มีใบไม้ ตัวทำให้ลื่นเลย แต่เรามีไม้ท้าว ช่วยได้ค่ะ


คือมองขึ้นไปข้างหน้ามันใจคอไม่ค่อยดี ทางชันมาก ชันยาวๆๆๆๆ แบบนี้ขาหมดแรงกันเลยค่ะ


อยากให้มีป้ายบอกระยะทางจัง จะได้มีกำลังใจหน่อย

และแล้วเราก็ถึงจุดที่ใครมาก็จะต้องถ่ายรูปเก็บไว้ เราก็ต้องถ่ายดิ่ เดี่ยวจะหาว่ามาไม่ถึง

ถ่ายรูปเสร็จก็ยังคงต้องไต่ระดับความชันกันต่อไป


ไม่นานก็ถึงจุดกางเต๊นท์ค่ะ นั่งพักให้หายเหนื่อยแล้วพวกเราก็เริ่มกางเต๊นท์กัน


ต้องขอบคุณพี่โมเลยค่ะที่ช่วยเราตั้งแค้มป์ เอาไว้นั่งกินข้าว

แดดยังร้อนอยู่ ตอนนี้อยู่ในเต๊นท์ก็ร้อนค่ะ เลยออกไปถ่ายรูปเล่นกัน รอเวลา ประมาณ 5 โมงเย็น

เราจะเดินขึ้นยอดดอยเพื่อไปชมพระอาทิตย์ตกดินกัน

ไม่นานก็ได้เวลาขึ้นเขากันอีกรอบ เตรียมอุปกรณ์กันหนาว ไฟฉาย กล้อง แบต เรียบร้อยแล้วก็เดินขึ้นกัน


เดินขึ้นจากจุดกางเต๊นท์ได้ไม่ไกล ก็ต้องหยุด เพราะหันไปเห็นวิวนี้

โอ้ยยยยยยพระอาทิตย์กับเมฆช่างเป็นใจ ปล่อยลำแลงลงมาที่เขา อลังกาลมาก


เก็บวิวตามทางเรื่อยๆ เดินไม่ถึงยอดสักที555



ใช้เวลา 15 นาทีโดยประมาณ ก็เดินถึงยอดค่ะ


อยากจะตะโกนออกไปว่า "ถึงแล้วโว้ยยยยยยยยย"


แสงวันนี้อลังกาลมาก ดีต่อใจ ตื่นตาตื่นใจ



ข้างบน สามารถชมวิวได้ 360 องศา วิวในบนนั้น มีภูเขาล้อมรอบยอดดอย ด้านทิศตะวันออกจะมองเห็นฝั่งประเทศลาว

ด้านทิศตะวันตกฟ้ากำลังระเบิด สะกด สายตาพวกเราไว้ ไม่ให้ไปไหน


ถ่ายภาพกันสนุกเลย มีทั้งช่างภาพ นายแบบนางแบบ ทำหน้าที่สลับกันไป


แอ็คอาร์ตกัน เท่สุดๆ


ทุกคนทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่องทั้งแอบถ่าย ตั้งใจถ่าย โอ้ยยยย งานนี้กล้องเยอะ


ทริปนี้มีแต่คนมีคู่ งั้นเราคงต้องมาอยู่เป็นคี่


ในขณะที่หลายๆคนกำลังวุ่นวายกับการหามุม จัดท่าทางถ่ายภาพ

บางคนก็กำลังวุ่นกับการหาสัญญาณ 555555

เฮ้ยยยย ไม่ใช่ ผมถ่ายพาโนรามาอยู่ ไม่ได้หาสัญญานนะ



ขอบคุณภาพจากน้องพีมและน้องมิว



พอๆๆๆ ไม่แซวน้อง เดี๋ยวน้องงอล

แล้วก็มาถึงเวลาที่พวกเรามานั่งกัน สงบๆ รอดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า

เป็นช่วงเวลาที่พิเศษ ท้องฟ้าเป็นสีส้ม ทริปนี้แจ๊คติด EF-S 10-18 IS STM เลนส์ ultra wide


ได้แฉกพระอาทิตย์ สวยสมใจ ชอบมากๆค่ะ ราคาเบา น้ำหนักเบา

พระอาทิตย์ค่อยๆเคลื่อนต่ำลง


ภาพสุดท้าย ก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า

สมาชิกเริ่มทยอยลงข้างล่าง อากาศเริ่มเย็น แล้วพวกเราก็หิววววด้วย ลงไปทำกับข้าวกัน


ไม่มีใครหุงข้าวเป็นเลย555 โชคดีของพวกเราอีกแล้ว พี่โมช่วยหุงข้าวให้ แจ๊คทำกับข้าว น้องๆช่วยหั่นผัก หั่นหมู

พลาดอย่างหนึ่งคือ ลืมซื้อไข่ จะซื้อที่ตลาดก็กลัวแตก เพราะมันใส่ถุง ไปเซเว่น ไข่แบบแพ็คก็หมดจ้าาาา

กะว่าจะแวะซื้อร้านขายของชำก่อนถึงบ้านด่าน แล้วไงละ ลืมดิ่ กับข้าวเลยมีแค่ ผัดผักใส่หมู กับต้มยำปลากระป๋อง

ไม่มีภาพประกอบนะ คือหิวมากค่ะ นั่งกินกันอย่างตั้งใจ ไม่มีได้ถ่ายรูปเลย



อยู่บนดอย ดาวเต็มท้องฟ้า กินข้าวเสร็จก็พักผ่อน ถ่ายรูป พูดคุย ตามอัธยาไสค่ะ

เอารูปดาว ง่อยๆมาฝาก
ชวนน้องๆมาถ่ายภาพ มีดาวเป็นฉากหลัง แต่พวกเอ็งต้องอยู่นิ่งๆนะ น้องบอกได้พี่
โหววววววว นิ่งมาก เก่งมากน้องๆ ภาพคู่ พี่โมเป็นคนจัดท่าทางให้ 5555 น่ารักดี
Day-3 อาทิตย์ 29/1/2560

เราขึ้นเขากันตอนตี5 กว่าๆ ตื่นมาด้วยความหวังที่จะเจอทะเลหมอก

ขึ้นยอดเดิมที่ขึ้นตอนเย็น เช้านี้หนาวมาก ลมแรง

จะบอกว่ากลางคืนนอนไม่หลับด้วย ทั้งหนาว ทั้งเสียงฟลายชีทปะทะลม ดังรบกวนการนอนมาก

เราขึ้นไปถึงยอด เก็บภาพตอนเช้ามืด ก่อนพระอาทิตย์จะมาทักทาย

ขณะที่รอพระอาทิตย์ขึ้นกิจกรรมของพวกเราคือ ถ่ายรูป ดื่ม กาแฟ ไมโล กินขนม


จริงๆกดไปหลายใบค่ะ แต่เลือกมาแค่นี้ เดี๋ยวคนอ่านจะเบื่อหน้าพวกเราซะก่อน


เวลาผ่านไปไม่นานคุณพระอาทิตย์ก็มาทักทาย ไร้ซึ่งคุณหมอก

เมื่อแสงเริ่มมา ความสนุกก็เกิดขึ้น สนุกจากอะไร เดี๋ยวพาไปดูก้อนหินร้อยมุม


ถ่ายภาพกันสิ่ครับบบบรออะไร!!!!

ช่างภาพ นายแบบ นางแบบก็ยังคงทำหน้าที่กันอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเช่นเคย


รูปเยอะมากค่ะ


คงได้เวลาที่ต้องลงไปที่เต๊นท์แล้วค่ะ สายมากแล้ว เดี๋ยวน้องๆจะหิวกัน

ขอแปลงร่างจากช่างภาพเป็นแม่ครัว5555

#จีบได้ทำกับข้าวเป็น


หลังจากทานข้าว ช่วยกันเก็บสัมภาระ พร้อมลงเขา อำลาดอยภูแว ตอนลงใช้เวลาประมาณ 2ชั่วโมงค่ะ
หน้าตายังสดชื่นกันอยู่ ยังมีแรงกันอยู่ใช้มั้ย อิอิ ขอบคุณนะทุกคนที่ไปเที่ยวด้วยกัน

แจ๊คขอจบรีวิวดอยภูแวไว้แค่นี้นะคะ

สรุป

วิวข้างบนสวยมาก ชมวิวได้ 360 องศา ได้ทั้งพระอาทิตย์ตกดิน พระอาทิตย์ขึ้น จบเลยที่เดียว

ถ้าโชคดีไปในวันที่อากาศเหมาะสมจะได้เจอทะเลหมอกด้วย แต่กลุ่มเราไม่เจอ เจอแต่หมอกไกลๆมากๆ

ขนาดไม่เจอหมอกนะ ยังถ่ายรูปกันซะมันส์เลย ดอยภูแว ที่นี่เป็นอีกที่ค่ะ ที่ถ้ายังเดินไหว อยากให้ไป



ท้ายสุด ขากลับแวะทานข้าวกันที่บ่อเกลือได้ค่ะ ได้เดินดูบ่อเกลือด้วย เป็นทางผ่านที่น่าแวะ



ประสบการณ์ไม่มีขาย อยากได้ต้องเดินทาง

ขอให้ทุกคนสนุกกับการเดินทางนะคะ

นักเดินทางตัวน้อย

https://www.facebook.com/JackSmallTraveler

ความคิดเห็น