|ภูกระดึง| โหด-ฮา-น้ำตาตกใน



กลับมาพบกันอีกครั้งกับกระทู้พันทิปฉบับกากๆ กับเจ้าของกระทู้คนดีคนเดิมเพิ่มเติมคือสอบตก ไม่เอาไม่พูด



คำแนะนำ สำหรับท่านที่ยาวขี้เกียจอ่านให้เลื่อนลงไปท้ายทริป จะมีสรุปทริป และ งบประมาณที่ใช้เพียงน้อยติดกระจิ๊ดมด


ติดตามหรือสอบถามข้อมูลเพื่อมเติม IG : nompracharot

กล้องที่ใช้ : nikon5300 เลนส์ : kit 18-55 [ปล.แม่จ๋านู๋อยากได้เลนส์ตัวใหม่ ]



#nomplainphukarduengtrip


27 - 29 Dec. 2015


สวัสดีสวัสดี หนีห่าว ซัวซะเดย ซินจ่าว ซาลามัดดาตัง ค่ะควรค่าแก่การสวัสดีเรารู้จักกันรึยังน้าาาาา แต่เอ๋...เรารู้จักกันแล้วนิจากกระทู้นี้ไง http://pantip.com/topic/34371131 ทริปนี้เช่นเคยอยากไปก็ไปเลยตอนแรกชวนใครก็ไม่มีคนไปกะจะบินเดี่ยวละค่ะ แต่โชคชะตาฟ้าลิขิตให้ชีวิตมาเจอกับเพื่อนร่วมคลาสที่เป็นสายเที่ยวเหมือนกันแหม่...เข้าทางจริงๆเลย ทริปนี้จึงไม่โดดเดี่ยว วันเดียวกับที่เข้าสัมมนาได้มานั่งเก้าอี้ชิดติดกันกับเพื่อนสาวเพื่อหาข้อมูลเล็กๆน้อยๆพร้อมกับวางแผนกันนิดหน่อย เอิ่ม___สารภาพเลยว่าเข้าสัมมนาวันนั้นหัวข้ออะไรยังจำกันไม่ได้ E'สองคนท้ายคือตั้งหน้าตั้งตาถามอากู๋เรื่องภูกระดึงอย่างเดียว เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีผู้มีอายุต่ำกว่า15ปี ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน



27 . dec. 2015


นั่นไง! เวลาแบบนี้ นาฬิกาชอบไม่ปลุก สุดท้ายแล้วคำว่าสายก็เข้าครอบงำ 7.13 น. ออกเดินทางเพื่อไปยังสถานที่นัดหมายโดยได้ตกลงกันก่อนหน้านี้ละว่านัดเจอกันที่ขอนแก่นขึ้นป้ายแรกฟาดไปแล้ว 140 บาท ถึงขอนแก่นประมาณเก้าโมงเนื่องจากรถจอดเติมน้ำมันระหว่างทางจึงทำให้ช้า ถ้าเราไม่ขึ้นก็ไม่เติม อุ๊บ! ไม่เอาสิไม่พาลนะ 555+



ถึงแล้ว เจอเพื่อนแล้ว ซื้อตัวแล้ว ตอนนี้นั่งอยู่บนรถแล้ว ขอนแก่น-เลย ค่ารถ 85 บาทคร้า นี่มือเพื่อน!ทำอะไรเกรงใจเพื่อนเราด้วย ต้องให้ความเคารพเราไม่ได้มาเล่นๆ เรามากันเป็นทีม(2 คน) รถออก 9.30 น. สถานการณ์ต่อไปนี้หลังจากรถเคลื่อนตัวออกไปได้คือนอนยาว นอนมาราธอน ไปสะดุ้งตื่นอีกทีตอนใกล้จะถึงที่ต่อสองแถวไปอุทยาน นั่นๆแว๊บ รถได้ผ่านร้านเจ้กิมในตำนานไปละ โถว่เสียดายจังไม่ได้เจอหน้าเจ๊กิมที่ใครๆก็พูดถึงกัน แต่ไม่เป็นไรไว้โอกาสหน้า



รถทัวร์จอดให้ตรงนี้ค่าาาาถงประมาณเที่ยงกว่า มีห้องน้ำด้วยค่าาาา เข้าครั้งละ 3 บาทค่าาาา กินข้าวรอรถออกค่าาา ต้องรอให้ครบ 10 คน เฉลี่ยคนละ30บาทถ้าไม่ถึงสิบคนก็ต้องจ่ายเพิ่มโน๊ะ อันนี้รู้กัน อยากจะซื้อของอะไรก็ซื้อซะที่นี่เลยนะคะถูกกว่าเย๊อะ(กรุณาใช้เสียงสูง) ส่วน จขกท. กับเพื่อนนี่ก็จัดมาม่าเพื่อไว้กักตุนกัเลยทีเดียว



อยู่ง่ายกินง่ายแถมโสดด้วย #ประโยคบอกเล่า^^ ปล.ข้าวราดแกงมีให้เลือกไม่กี่อย่างก็กินๆไปแล้วกันเนอะ



คนไม่ถึง 10 หรอก แต่ก็จะออกละถ้าช้าไปเดี๋ยวเจ้าหน้าที่ไม่ให้ขึ้นอุทยานเนื่องจากเปิดให้เดินขึ้น 7.00 น. - 14.00 น. อย่างที่บอกค่ะก็ต้องจ่ายเพิ่มอีกคนละ 10 บาท เป็น 40 บาท



ซานต้ามีครอสมีเครา แต่ใจเรานั้นมีแต่เธอ วิ๊ดวิ้ว...


กระโดดลงจากสองแถวให้ไว ถึงแล้วไงต่อไปนี้ทุกย่างก้าวคือความตื่นเต้นcและท้ายทาย...



________________________________________________________ไปติดต่อซื้อบัตรขึ้นภูกระดึงให้เรียบร้อยซะนะคะ ราคาบัตร 40 บาท แต่ก่อนหน้านี้นิดหน่อยยัง20บาทอยู่เลย



ถ้าเอาเต้นท์มากางเองแบบเราก็เสียค่าใช้พื้นที่ไปคืนละ 60 บาท (2 คืน 120 บาท) แล้วลงชื่อเอาไว้ แต่ลงแค่คนเดียวก็พอค่ะและเขียนลงไปว่าจำนวน2คน



แลกบัตรลงชื่อพร้อมเบอร์โทรศัพท์อีกครั้งก่อนขึ้นจริง ป้ายนี้คือขึ้นจริงละขึ้นแน่ขึ้นนอน



13.20 น. เท้าน้อยๆเหยียบย่างขึ้นไปตามเส้นทางภูกระดึงที่ใครๆหลายคนต่างเล่าขานกันว่าเป็นเส้นทางสายมิตรภาพและเส้นทางพิสูจน์รักแร้ [มิน่าล่ะกลิ่นตุตุ] เย๊ยยยยยยย...'รักแท้'



ตอนแรกที่นอนอยู่บ้านสบายๆก็คิดนะว่ามันเป็นเส้นทางพิสูจน์รักแท้ตรงไหนแล้วเป็นเส้นทางสายมิตรภาพยังไงกัน แต่พอมานี่ เดินยังไม่ถึงซำแฮกด้วยซ้ำรู้เลย รู้ว่าที่นี่คือจังหวัดเลย เอิ่ม...ไม่ใช่ มันคือเส้นทางสายมิตรภาพตรงที่คนที่ลงมาก็จะบอกคนที่ขึ้นไปว่าสู้ๆนะคะ บางคนก็บอกเหลืออีกไกล บางคนก็บอกใกล้ถึงละ เป็นเสียงที่ได้ยินตลอดทางเป็นมิตรภาพระหว่างทางดีๆที่ทุกคนหยิบยื่นให้กันในเส้นทางที่สุดทรหดเช่นนี้ อยากจะบอกว่าคนที่ขึ้นกับคนที่ลงแค่เห็นรอยยิ้มของกันและกันก็ชื่นใจแต่บางเวลาอาจจะหายากเนื่องจากทุกคนเหนื่อยลิ้นห้อย



ส่วนที่บอกว่าเส้นทางพิสูจน์รักแท้คือ ถ้าไม่รักกันจริง นี่มีเลิกกันเลยนะเพราะถ้าเป็นคู่รัก ป้อจายจะแข็งแรงกว่าและจะรีบเดินเพื่อจะได้ถึงเร็วส่วนแม่ญิ๋งนี่กำลังเธอไม่ได้มากมายอะไรขนาดนั้นนะคะ จึงทำให้ต้องเดินตาม แล้วมันเหนื่อยไงบางครั้งจะหยุดแต่แฟนก็เดินไปไกล คนมันเหนื่อยอารมณ์ด้านมืดก็ออกมา ซึ่งไม่แปลกที่จะได้ยินเสียงจางมาจากด้านหน้า ด้านหลัง และรอบข้างบ้าง ว่าจะเลิกกับกรูมั้ยล่ะ นั่นไงเอาแล้วววว เรื่องนี้เราจะไม่ยุ่งนะคะ แต่บางคู่ก็น่ารักดีนะเดินจับมือกันตลอดเลยดูน่ารักกรุ้งกริ้งมุ้งมิ้ง เป็นภาพที่สะเทือนใจคนโสดบริเวณรอบข้างอยู่ไม่น้อย



ซำแฮก จุดหมายแรก เหนื่อยเป็นบ้า พักแปร๊บ



บนเส้นทางภูกระดึงอาหาร เสื้อผ้า เครื่องดื่มที่ซำแฮกนี่ถูกสุดกว่าซำอื่นละค่ะ ถ้ายิ่งสูงยิ่งแพง เวลาเหนื่อยๆแตงโมงชิ้นละ 10 บาท ช่วยได้ หวานชื่นใจ แนะนำให้ซื้อเหอะความรู้สึกกินแตงโมบนภูกระดึงจะไม่เหมือนที่อื่นแน่นอน



ระหว่างทางมีอะไรดีๆเยอะ เหมือนพี่คนนี้ไม่ไหว เจ้าหน้าที่อุทยานช่วยพยุงเดินลงมา บางครั้งจุดหมายปลายทางก็ไม่ได้สำคัญเท่ามิตรภาพระหว่างทางนะคะ แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ววววววววววว ขอทีเถอะยอดภูกระดึงไอ้ที่เรียกว่าจุดหมายปลายทาง



เดินๆกินๆ ยังไม่มีวี่แววว่าจะถึง ขานี่ลากแล้วลากอีกค่ะ



หลังแป!......อีกนิดเดียว นิดเดียวเท่านั้นนิดเดียวจะถึงทางราบ สมองตอนนี้เริ่มไม่รับรู้อะไรละ



วินาที ที่ความหวังด้านปลายอุโมงจะมาถึง ถามคุณลุงลูกหาบว่าใกล้ยัง ลุงบอกใกล้แล้วๆอีกนิดเดียว โถ่วววคุณลุงก็บอกว่าใกล้อย่างนี้ตั้งแต่ขึ้นเขามาแล้วค่ะ ถ้าอีกนิดเดียวของลุงแล้วอีกข้างหน้านี่นู๋ไม่ถึง คุณลุงระวังตัวไว้นะคะ เราได้เจอกันแน่



17.20 น.วิ๊บๆวั๊บๆหลังแปที่รัก ถึงแล้วทิ้งร่างกายน้อยๆอันบอบช้ำลงพื้นหญ้า #เหนื่อยก็พัก[ไม่รักห็หาใหม่] 555++ ถึงหลังแปนี่คิดว่าจะถึงที่พัก โอ๊ยยยยยยยย โอ้ยๆอยากจะกลืนกินเธอทั้งตัวไม่อยากเหลือไว้ให้ใครได้กลิ่น อยากได้ยินเพียงเสียงของเธอเพื่อบอกรักเพ้อเพียงฉันผู้เดียว ยังต้องเดินต่อไปยังลานกางเต้นท์อีก 3 กิโล เคยคิออยากจะเป็นลมแต่ดูท่าละไม่เป็นดีกว่าเพราะบนหลังแปอากาศเย็นในระดับหนึ่ง ขืนเราเป็นลมคนตอื่นคงหนาวกันแย่



ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก็ทำการเช่าถุงนอนแล้วเดินมายังจุดกางเต้นท์ จัดการทุกอย่างเรียบร้อยรออะไรไปกินข้าวสิ ค่าอาหารจานละ 60 บาทขั้นต่ำ ได้กับข้าว 1 อย่าง 70 บาท กับข้าว 2 อย่าง



กินเสร็จแล้วต้องไม่ลืมชื้อปูนขาวไปโรยรอบเต้นท์กันทากด้วย อะเคร๊.. วันนี้เหนื่อยหนักมากควรค่าแก่การนอน พรุ่งนี้ภาระกิจสำคัญระดับชาติยังต้องรอให้ จขกท.กับเพื่อน ทำ



Day 2



28. Dec. 2015



เพื่อนตั้งปลุกที่ 4.00 น. ซื่งนาฬกาก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดีไม่ต่างจากมือที่ใชใ้ระบบออโต้ในการปิดเสียงอันน่ารำคาญแล้วนอนต่อ ผ่านไปสัก 10 นาทีได้ด้วยอากาศที่หนาวเหน็บแต่ก็ต้องต้ดสินใจลุกอออกจากเต้นท์มาทำภาระกิจส่วนตัวเสร็จ ไปต่อแถวชาร์จแบบโทรศัพท์ และเดินตามเจ้าหน้าที่กับมวลมหาชนไปยังจุดชมพระอทิตย์ขึ้นผานกแอ่น



มารอตั้งแต่ตีห้ากว่า



ด้วยคำว่ารอ...



ขึ้นไม้ถึง 10 วิ แล้วหายเข้าไปในหมอกเมฆ



เดินกลับเกือบจะสองคนสุดท้ายละ นี่ก็ยังชิลไป



แวะไหว้พระ


แล้วกลับไปกินข้าว เอาโทรศัพท์ที่ชาร์จไว้ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังผาหล่มสัก ด้วยการเดินเรียบทางน้ำตก



เมื่อสิ่งที่ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นแบตกล้องที่รักมักหมดตอนเหตการณ์สำคัญรูปที่มีจึงไม่มาก เพื่อเซฟแบตไว้ถ่ายที่ผาหล่มสัก



เดินมาถึงทางแยกเป็นเส้นทางที่ต้องตัดสินใจว่าจะไปต่อหรือกลับเต้นท์ แต่ได้มาถึงขนาดนี้ละหันหลังกลับคงไม่ใช่ ถ้ามาเพื่อความสบายคงไม่ขึ้นมาแต่แรก



เดินบ้างพักบ้างจนมาถึงจุดที่เรียกว่าเจ็บเท้าโคตร ทางแก้เดียวนั่นคือ ถอดแม่ม และแล้วเจ้าเป็ดชมพูก็ได้ออกมาชมโลกกว้าง



พอถึงธารน้ำตกเป็ดชมพูได้ผันตัวมาเป็นเป็ดเน่าทันที ไง? ซาบซ่านถึงเท้าดีมั้ยล่ะลูก



ถ้าไม่เดินเรียบทางน้ำตกนี่ถึงนานละ เส้นทางนี่อ้อมเขามาก ยอมใจภูกระดึงเขาเลยจริงๆ บางทีก็เหมือนจะใกล้ แต่ยิ่งไกลออกไป(เหมือนใจเธอ) ร่องลอยแห่งการเดินป่าเริ่มปรากฎให้เห็นเป็นบาดแผลให้เห็นบ้างประปราย มาทรมานตัวเองเพื่ออะไร คำตอบที่ได้คือต้นสนที่ยื่นออกจากหน้าผาเพียงต้นเดียวรึป่าว?






ถึงสักที กินข้าว กินข้าว กินข้าวววววววว พิชิตยอดภูกระดึงได้ยังไม่ภูมิใจเท่าพิชิตผาหล่อมสักได้เลย ณ. จุดนี้



นั่นไงมีร้านกาแฟด้วยแหละแก ร้านแรกและร้านเดียวบนหล่มสัก และนั่น นั่นแก นั่นๆ อร้ายยยยยยยย มีที่ให้ชาร์จแบตฟรีด้วยแหละ สิ่งมหัศจรรย์ล้ำค่าดีใจประดุจหนึ่งเดินท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนฉ่ามาแรมเดือนแล้วมาเจอโอเอซิส อุตส่าห์เซฟแบตกล้องมาตั้งนาน ชาร์จสิ! รออัลไล



อีกอย่างก็มีไดอารี่ให้เขียนระบาย&บันทึกความทรงจำด้วย เขียนฟรีจ้า หลังจากนั้นเอาเสื่อที่ได้ฟรีจากร้านขายอาหารไปปูนอนรอพระอาทิตย์ตก แต่พอจะตกนี่กระแซะตัวเข้าไปถ่ายไม่ได้เลยเหอะคนเยอะแบบจัดหนัก



พี่คนนี้ idol ซะจริงๆ อย่างเฟี้ยว



ขากลับนี่ไม่ต้องพูดถึง ไม่ต่างจากแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง เปิดไฟฉายเดินเรียบหน้าผา ในยามวิกาลทุกแห่งหนถูกปกคลุมไปด้วยความมืด ทั้งยังต้องหลบจักรยานที่ปั่นตามหลังมาติดๆ จักรยานทางซ้ายครับบบบ จักรยานทางขวาคร่าาา วิ่งหลบกันแทบไม่ทัน "คือนู๋ไม่ตกหน้า ไปเป็นนาตาลี แม่มาก็บุญเท่าไหร่" อันนี้ไม่ว่ากัน



กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ข้าจี่ 20 บาท มันเผา 20 บาท



กลับถึงเต้นท์นี่ก็ราวสองทุ่มค่ะ วันนี้อากาศหนาวกว่าทุกวัน ก่อนจะหลับนี่ได้ยินเสียงนี้เลย นักท่องเที่ยวโปรดทราบขณะนี้ ได้ถึงเวลากำหนดงดใช้เสียง อุทยานแห่งชาติภูกระดึง บลาๆๆๆๆ ตะดึดตึดตื่ เสี้ยงช่างเพราะพริ้ง นอนๆไปสักพักได้ยินเสียงเต้นสั่น เอาแล้ววววววว คล้ายกับมีคนมาเขย่าแรงๆ แหม๋อากาศก็หนาวยังจะเล่นอีก ใครนะ(คิดในใจ) เพื่อนก็หลับไปแล้วด้วย เหมือนจะหยุดไปแล้วกลับมาเย่าแรงๆอีกหลายครั้ง ยัง....ยัง....ยังไม่หยุดอีก อย่าให้รู้นะว่าใครแม่จะกระโดดฟรีคลิกให้เลยทีเดียว ภาวะที่ทนไม่ไหว จขกท. รูดซิปเตนท์ออกมาพร้อมกับตีหน้าขรึม ปรากฎว่าสิ่งที่เจอคือ....สิ่งที่เรียกว่าลม จากนั้นถึงได้รูดซิปกลับไปนอนอย่างเงียบๆ



Day 3



29. Dec. 2015



ก่อนกลับเก็บเต็นท์และแวะเดินไปดูของฝากนิดหน่อย พอจะลงเก็บขยะของตัวเองลงมาด้วยนะคะ เอาเครื่องนอนที่เช่าไปคืนเจ้าหน้าที่ด้วยล่ะ ต่อจากนี้ไปก็เดินลงตามสบายเลยค่ะเดินให้ถึงเป็นพอ



ขึ้นว่ายากแล้ว ลงนี่ยากกว่าค่ะ (คหสต.) เพราะแข้งต้องรับน้ำหนักเต็มๆ เท้ากับรองเท้าจะเสียดสีกันแรงมากกว่าปกติ พอเดินถึงซะแฮกถึงว่าทำไมเจ็บๆแสบๆ ถอดถุงเท้ารองเท้อออกนี่ได้รู้กันว่าเท้าเป็นแผล นั่นจึงเป็นอีกครั้งที่ถอดรองเท้าเดิน ด้วยความเจ็บอยากจะร้องไห้แทบตาย แต่ก็อายคน น้ำตานี่ตกในจริงๆ



วินาทีที่ถึงพื้นพูดได้ประโยคเดียว>>> "สวัสดี สยามประเทศ ขึ้นสองแถว 40 บาทไปลงที่เดิมเหมือนตอนมา ลงปุ๊บขึ้นรถทัวร์ที่จอดรอกลับได้เลย



สรุปทริป : นี่คือทริป ภูกระดึงตอนบาดแผล แล้วเจอกันฤดูกาลหน้า กับทริปแก้แค้นภูกระดึง เราจะอยู่รอดปลอดภัยด้วยเสื่อผืนหมอนใบกับชุดชั้นในตัวเดียว ไม่เอาไปเยอะละ"หนัก เหนื่อย" นี่ขนาดเอาไปน้อยๆยังแทปจะปาทิ้งข้างทาง ใครจะร่วมไปแก้แค้น!ด้วยกันลงชื่อไว้นะคะ จขกท.โสด ฮา อัธยาศัยดี 555+



บันทึกพิเศษ : ขอบคุณเพื่อนสาวที่น่ารักไปทุกที่ลุยไหนลุยกัน บางครั้งคุยกันแล้วเงียบไป อย่าเคืองน้าาาาา คือเหนื่อยจนพูดไม่ออกจริงๆ ขอบคุณที่ร่วมเผชิญประสบการณ์ ครั้งนี้ด้วยกัน pla ขอบคุณภูกระดึงเหนื่อยสาสสสส




สรุปค่าใช้จ่าย :



ค่ารถจากบ้านไปขอนแก่น 140 บาท

รถทัวร์กลับขอนแก่น 85 บาท

ค่ารถ ขอนแก่น - เลย 85 บาท

สองแถวออกจากภูกระดึง 40 บาท

ค่ารถสองแถวเข้าภูกระดึง 40 บาท

ข้าวก่อนขึ้นภูกระดึง 40 บาท

มาม่า 35 บาท

ข้าวตอนเย็น 70 บาท

ค่าสถานที่กางเต้นท์คนละ 60 บาท

น้ำคนละ 15 บาท

แตงโม 10 บาท

ข้าวเช้าคนละ 35 บาท

ไอติม 25 บาท

ปลาท่องโก๋+ปังเนย 35 บาท

ที่นอนคนละ 70 บาท

ชาร์จแบต 40 บาท

ปูนขาวคนละ 20 บาท

ข้าวหล่มสัก 90 บาท

ผ้ากางเต้นท์คนละ 20 บาท

ชาเขียว 45 บาท

ห้องน้ำระหว่างทางที่หล่มสัก 10 บาท

โปสการ์ดหล่มสัก 15 บาท

น้ำเปล่าขวดเล็ก 30 บาท

ข้าวที่ซำแฮกก่อนกลับ 45 บาท

รถตู้กลับบ้าน 120 บาท

แป๊บซี่ 35 บาท

มันเผา 20 บาท



รวม 1,275 บาท




แล้วพบกันใหม่ บายยยยย



________________________________________



ความคิดเห็น