โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ (อ.อ.ป) อยู่ที่ อ.กัลยานิวัฒนา จ.เชียงใหม่ การเดินทาง หากใช้รถยนต์ส่วนตัวจากตัวเมืองเชียงใหม่
เดินทางไปอำเภอกัลยาณิวัฒนา แนะนำ 2 เส้นทาง คือ
1. ใช้เส้นทางมุ่งหน้าสู่อำเภอแม่ริม เข้าทางหลวงหมายเลข 107 ไปตามเส้นที่ไปตำบลแม่แตง
เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1095 มุ่งหน้าสู่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮอ่งตอน เลี้ยวซ้ายตรงสามแยกก่อนถึงอำเภอปาย 13 กิโลเมตร
ใช้ทางหลวงหมายเลข 1265 ผ่านบ้านเหมืองแร่ จนเข้าสู่อำเภอกัลยาณิวัฒนา ระยะทางประมาณ 165 กิโลเมตร
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง เป็นเส้นทางที่คดเคี้ยวพอสมควร แต่สภาพดีที่สุด เป็นถนนลาดยางตลอดเส้นทา

2. มุ่งหน้าสู่อำเภอแม่ริม เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1096 ไปทางอำเภอสะเมิง ผ่านตำบลบ่อแก้ว อุทยานแห่งชาติขุนขาน
บ้านยางห้า บ้านแม่ตะละ บ้านแม่แดดน้อย บ้านดงสามหมื่น บ้านแจ่มน้อย เข้าบ้านวัดจันทร์ ถนนเป็นดินลูกรัง 42 กิโลเมตร
ก่อนถึงโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.)
ต้องใช้รถกระบะทั่วไปสามารถไปได้รวมระยะทางประมาณ 155 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

หากเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง จะมีรถโดยสารสองแถวสีเหลืองออกากสถานีขนส่งข้างเผือก อำเภอเมืองฯ จังหวัดเชียงใหม่ วันละ 2 เที่ยว เวลา 09.00 น. และเวลา 11.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง และมีรถออกจากตลาดแสงทอง อำเภอปาย วันละ 1 เที่ยว เวลา 13.00 น.



ทริปนี้เป็นการเดินทางนานมาแล้วเมื่อช่วงฤดูหนาว เห็นว่าใกล้หนาวเข้ามาทุกที ผมเลยหยิบสถานที่เก่าๆ เอามารีวิวให้ชมกัน
เผื่อจะได้เป็นอีกตัวเลืก เที่ยวหนาวที่จะมาถึงนี้ ขอเน้นรูปภายในโครงการนะครับ
....
..

การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางมาคนเดียว และบางครั้งของการเดินทางไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนร่วมเดินทางด้วยเสมอไป
อย่างเช่นการเดินทางครั้งนี้ของผม มอเตอร์ไซค์ 4 จังหวะ เลี้ยวซ้ายก่อนถึง อ.ปาย 13 กม.
ไปตามถนนคดเคี้ยวขึ้นเขาลงเขาผ่านโค้งนับไม่ถ้วน สู่หมู่บ้านวัดจันทร์ อ.กัลยานิวัฒนา
แทนการไปแออัดท่ามกลางมหกรรมคนเมืองในตัวเมือง"ปาย" สถานที่หลายๆคนชอบที่จะไปกัน
บิดเจ้าสองล้อประมาณไม่เกิน 2 ชั่วโมงผมก็มาถึง อ.กีลยานิวัฒนา ซึ่งแยกตัวออกจากอำเภอแม่แจ่ม
อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่บนที่สูง
แน่นอนช่วงฤดูหนาวแบบนี้ือากาศคงไม่ต้องพูดถึง หนาวจับใจแน่นอน
ผมไม่รอช้าที่จะหาอะไรลองท้องก่อนที่แสงตะวันจะพ้นขอบฟ้า แล้วกลับเข้าไปกางเต้นท์ใน"โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์"



ในขณะที่อากาศหนาวเย็น 2 องศาในตอนเช้าคงไม่ใช่เรื่องยากนักที่จะตื่นก่อนตะวันในสถานที่ที่ผมเลือกแล้ว
ไอหมอกแผ่ปกคลุมผืนน้ำเหนืออ่างเก็บน้ำห้วยอ้อบริเวณโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ มองเห็นสนค่อย ๆ
โผล่เหนือหมอกบางๆในเขตป่าสนธรรมชาติผืนใหญ่ที่สุดของประเทศ ผมยืนรอพระอาทิตย์ค่อยๆโผล่ขึ้นมาทีละน้อย
จนฟ้าเปลี่ยนเป็นสีทองอุ่น ๆ ละอองหมอกต้องแดดอ่อน ๆ กำลังลอยเหนือน้ำ
บรรยากาศแบบนี้กับการที่ได้มายืนตรงนี้คนเดียวไม่ใช่ว่าจะทำกันได้ง่ายๆ กับมอเตอร์ไซค์สองล้อเลี้ยวผ่านโค้งอย่างสะบักสะบอบ
จนทำให้ผมมาถึงที่นี่




ผมใช้เวลาเดินลัดเลาะริมน้ำตามทางเล็กๆหามุมถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ใช่เวลาที่มีตรงนี้อยู่ให้คุ้มค่ามากที่สุด ไอหมอกลอยกระทบใบหน้าเย็นยะเยือกกับเสียงใบสนโดนลมพัดโชยเบาๆ มันชังเข้ากันได้ลงตัวจริงๆ ผมใช้เวลาถ่ายรูปที่นี่จนเพลินและหายหนาวไปตั่งแต่เมื่อไหร่โดยไม่รู้ตัว คงจะใช่อย่างที่หลายๆคนบอกว่าการที่ได้ออกมาท่องเที่ยวมันสามารถทำให้เราลืมอะไรได้หลายๆอย่าง ลืมเรื่องงานที่ทิ่งมา ลืมปัญหาต่างๆ ลืมคนทางบ้าน ลืมไปว่าถึงเวลาต้องกลับแล้ว บางคนถึงกับลืมแฟนเลยก็ยังมี 5555....



อากาศหนาวเย็นในตอนเช้า พระอาทิตย์กำลังโผล่ขึ้นสะท้อนผิวน้ำระยิบระยับพร้อมกับไออหมอกอุ่นๆ
ผมพยายามทำตัวกลมกลืนไปกับความเงียบสงบของที่นี่ ไม่ปราถนาที่จะให้มีเสียงดังใดๆ มาทำลายบรรยากาศ
แต่ก็แอบเผอพลำเสียงเพลงเบาๆ ให้เข้ากับบรรยากาศบ้างเป็นบางครั้ง 5555... ก็ที่นี่มีพียงแค่คนเดียวนี่
แตกต่างจากหลายสถานที่ๆผมเคยเจอบางที่ต้องแย่งกันซื่อ แย่งกันกิน แย่งกันนอน ทำให้ความเป็นธรรมชาติที่มีอยู่ของตัวมันเองได้ลดหายลงไปเยอะ บางที่แทบจะไม่เหลือคงความเป็นธรรมชาติไว้อย่างเดิมได้เลย อย่างเช่นคำที่ว่า
"ธรรมชาติไม่เคยเปลี่ยนมนุษย์ มนุษย์เท่านั้นที่เปลี่ยนธรรมชาติ"



เสียงชัตเตอร์เริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆแข่งกลับพระอาทิตย์ที่ส่องแสงกระทบผิวน้ำโผล่ขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผมเดินสลับวิ่งบ้างใช้เวลาอันน้อยนิดที่มีอยู่เพื่อที่จะเก็บภาพและบรรยากาศในมุมต่างๆ ของอ่างเก็บ้ำห้วยบอนให้ได้มากที่สุด
แต่ในความรีบก็ใช่ว่าผมจะแข่งกับเวลา เวลาของผมมันยังเดินช้าๆ เรื่อยๆกับการที่ได้มาท่องเที่ยวถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆ
"ความสุขของการเที่ยว คือการเที่ยวที่ไม่ก้มมองดูนาฬิกา



นอกจากอ่างเก็บน้ำห้วยบอนแล้ว ที่นี่ยังทิวใบเมเปิลเปลี่ยนสี ที่ไม่ต้องไปใกลถึงต่างแดน
ที่โครงการหลวงวัดจันทร์มีให้คุณ



ขอเดี่ยวเท่ๆ บ้างอะไรบ้าง



มาถูกช่วงก็จะเจอซากุระบานที่สวยไม่แพ้ที่อื่น ว่ากันว่ามาที่นี้ได้ครับเลยละ ทั้งหมอกลอยเหนืออ่างวเก็บน้ำยามเช้า ทิวเมเปิลเปลี่ยนสี ดอกนางพญาเสือโคร่ง ป่าสนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ รวมไปถึงดอกไม้เมืองหนาว
แต่ครั้งนี้ ดอกนางพญาเสือโคร่งยังบานไม่เยอะ บอกได้เลยมิวดอกพญาเสือโคร่งที่นี่ เยอะ สวยไม่แพ้ที่อื่น



แสงอุ่นๆ หมอกจางๆ เริ่มหายไปพร้อมกับเสียงชัตเตอร์ที่เริ่มช้าลง นั้นหมายความว่าใกล้ถึงเวลาที่จะต้องลาสถานที่แห่งนี้ไปแล้ว ก็เหมือนหลายๆคนที่ได้มาเที่ยวแล้วรู้สึกว่าเวลามันช่างผ่านไปเร็วเหลือเกินยังไม่อยากกลับ แต่ด้วยเหตุผลต่างๆของแต่ละคน รวมถึงตัวผมเองก็มีเหตุผลที่จะต้องลากลับจากตรงนี้ แต่ใช่ว่าจะไม่กลับมาอีก ครั้งต่อไปผมจะกลับมาอีกครั้งยังเหลืออีกหลายสถานที่ๆ ยังไม่ได้ไป......คงไม่นานเกินรอ



บ้านพักในโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์

บ้านสนเขา 1 – 5 นอนได้ 2 คน ราคา 600 บาท
บ้านสนเขา 6 - 7 นอนได้ 4 คน ราคา 1,000 บาท
บ้านปากะญอ นอนได้ 2 คน ราคา 1,200 บาท
บ้านวิวน้ำ 1 - 2 นอนได้ 2 คน ราคา 1,200 บาท
บ้านวิวน้ำ 3 นอนได้ ๒ คน ราคา 3,000 บาท
บ้านวิวน้ำ 4 - 5 นอนได้ ๓ คน ราคา 3,000 บาท
บ้านรวม 1 - 2 นอนได้ ๖ คน ราคา 2,000 บาท
บ้านรวม 3 นอนได้ 10 คน ราคา 2,000 บาท
บ้านฉางข้าว 1 - 2 (ใหม่ล่าสุด) นอนได้ 2 คน ราคา 2,000 บาท

ที่นอนเสริม 200 บาท ต่อคน, ค่าธรรมเนียมกางเต็นท์ 50 บาท ต่อคน



"ภาพถ่ายของผมอาจจะไม่สวยเหมือนดั่งใครๆ แต่ก็เปี่ยมล้นไปด้วยความทรงจำทุกครั้งที่กดนิ้วลงบนชัตเตอร์ รูปที่ออกมานั้นอาจจะไม่งดงามพอที่จะไปอวดใครๆ แต่ก็ทำให้ยิ้มได้ทุกครั้งที่เปิดดู"

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม

และสามารถติดตามการเดินของผมได้อีกช่องทางที่เพจ สะพายเป้ เท่ทั่วไทย
https://www.facebook.com/saphipae



สะพายเป้ เท่ทั่วไทย

 วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 23.26 น.

ความคิดเห็น