ในวันที่
อา ลม (ดี)
อยู่เหนือ
เหตุผล

--------------------------------------------------------------------------
วันอาทิตย์ ที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๐

เวลา ๑๒.๑๐ นาฬิกา

ช่างเป็นวันอาทิตย์ที่เงียบมาก

หลังจากตากผ้าเสร็จ ก็เพิ่งจะได้มีเวลาเอนหลังนอนพักที่โซฟา ริมหน้าต่าง พลางคิดว่า ....

ทำไมมันเงียบจัง ?!?

อ่อ .... เพราะตรุษจีน เค้าไปสุพรรณฯ ไปรวมญาติ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้บรรพบุรุษกันตั้งแต่วันศุกร์

วันเสาร์ - อาทิตย์ วันเที่ยว เค้าก็คงไปเที่ยวกันต่อ

T.T

แล้วเราหล่ะ ... ?

(แกไป แล้วใครจะอยู่ให้ข้าวหมาเช้า – เย็น)

เฮ้ออออ นี่ถ้าคุณตายังอยู่ ป่านนี้คงได้กินไก่รวนเค็ม จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บๆ ละ

พูดถึงคุณตา ก็คิดถึงถึงบรรยากาศเก่าๆ ตอนยังเป็นเด็ก

มันคือช่วงหนึ่งของชีวิต ที่เราสามารถใช้ โดยไม่ต้องคำนึงถึง “เหตุผล" สักเท่าไหร่ ....



บ้านคุณตาอยู่ที่ปากเกร็ด ติดแม่น้ำเจ้าพระยา

(อิจฉาอะเด่ะ ฮ่าๆ ไม่ต้องอิจฉาหรอก เพราะหลังจากคุณตาไม่อยู่แล้ว เราก็ย้ายบ้านออกมา ไม่ได้ติดริมน้ำเหมือนเดิมละ)



จากระเบียงหน้าบ้านคุณตา สามารถมองเห็นเจดีย์เอียง วัดปรมัยยิกาวาสที่เกาะเกร็ดได้เลย (ฟินเฟ่อร์อะ)

พอบ่ายแก่ๆ ลมโชยเย็นๆ คุณตาชอบพาออกมานั่งรับลมตรงหัวบันได ที่ระเบียงไม้ริมน้ำ

เราก็กระโดดขึ้นตักคุณตา นั่งนับเรือสองตอน เรือหางยาว เรือโยงขนทรายที่แล่นผ่านไปมา

นับไป นับมา เผลอแป๊บเดียว พระอาทิตย์กำลังจะลับทิวมะพร้าวแล้ว

คุณตาชี้ให้ดูนกกระจอกฝูงใหญ่ที่เริ่มทยอยบินกลับรัง

แสงอัสดงสีทอง สะท้อนกับผิวน้ำ เป็นประกายระยิบระยับ ..... คิดถึงคุณตาจัง

ความรู้สึกช่วงนั้นมันคืออะไร?

มันคือ “ความสุข" ใช่มั้ย?

แค่นี้เองหรอ? เฮ้ยยย จริงดิ มันอยู่รอบตัวเราตลอดเวลาแบบนี้เลยหรอ

แล้วจะรออะไร ยังมีเวลาอีกครึ่งวัน กลับมาให้ข้าวหมาทันหน่า

ผมจำได้ว่ามีร้านกาแฟริมน้ำร้านนึง เคยเห็นในรีวิวมาซักพักแล้ว

ร้านนี้ เคยเป็นบ้านเก่า ริมน้ำ

ผมก็ว่าจะ ว่าจะไป อยู่หลายครั้ง แต่ยังไม่มีโอกาสไปซักที

แล้วจะรออะไร ใช้ครึ่งวันบ่ายที่เหลืออยู่ ที่ร้านนี้ดีกว่า



ว่าแล้วก็สตาร์ทรถ เปิด GPS

Search Google map หาร้านกาแฟ “อา ลม ดี" จ.นนทบุรี

จากนั่นก็มุ่งหน้าสวนผัก เราใช้เส้นทาง ถ.ราชพฤกษ์

จากบ้านถึงแถวๆสวนผัก ประมาณ ๔๐ นาที

ลัดเลาะเข้าซอย ลึกระดับนึงเลย แต่ก็ได้อารมณ์ชุมชนแถบชานเมืองดี



… ในที่สุด เราก็มาถึงจุดหมาย ร้าน “อา ลม ดี" เย่

จอดรถเรียบร้อย พอเปิดประตู แทนที่พนักงานร้านจะออกมาต้อนรับ

กลับเป็นเสียงกีตาร์โปร่ง จากดนตรีสด ดังมาจากด้านในร้าน

(เฮ้ย เจ๋งอะ นึกว่าดนตรีสดจะมีแต่ตอนกลางคืนนะเนี่ย)

เดินตามเสียงเพลงเข้ามาเรื่อยๆ จะพบกับโซน indoor ทางด้านขวามือ



เป็นห้องกระจกติดแอร์ ยาวจากที่จอดรถไปจนติดริมน้ำ


เหมาะสำหรับสาวๆ ที่กลัวแดด หรือวันที่มีอากาศร้อน ..... ซึ่งไม่ใช่วันนี้

เดินตรงไปอีกนิด พนักงานหน้าตาจิ้มลิ้ม กำลังคอยต้อนรับเราอยู่

เบอร์โต๊ะที่นี่ไม่ใช้ตัวเลขนะ ใช้พยัญชนะไทย ก – ฮ เรานี่แหละ เก๋อ่า



เนื่องจากเป็นการตัดสินใจมาอย่างกะทันหัน เลยไม่ได้โทรมาจองล่วงหน้า


แต่วันนี้มันเป็นวันของเรา ..... เค้าท์เตอร์ริมน้ำว่างพอดี!!! โอ้ว ขอบคุณพระพุทธเจ้า

ผมได้โต๊ะ โซน outdoor ริมน้ำ เป็นเค้าท์เตอร์บาร์ยาวติดกัน ซึ่งผมคิดว่ามันคือ The Best view ของที่นี่เลยนะ



ได้นั่งริมน้ำสบายใจ ก็หยิบเมนูมาเซอร์เวย์อาหาร


เมนูที่นี่จะเป็นอาหารจานเดียวหรือของทานเล่นง่ายๆ เช่น เบอร์เกอร์ เฟร้นชฟราย สปาเกตตี้

เครื่องดื่มเหมือนร้านกาแฟทั่วไป ทั้งที่มีคาเฟอิน,นอน คาเฟอิน, อิตาเลี่ยนโซดา

แต่ที่ไม่เหมือนใครคือ เมนูเครื่องดื่มที่ทางร้านครีเอทขึ้นมาเอง แอบชำเลืองดูจากที่มาเสิร์ฟโต๊ะข้างๆ

ชื่ออะไรไม่รู้ มีสายไหมก้อนเบ้อเริ่มวางมาบนแก้ว หน้าตาดีเชียวหล่ะ

ส่วนผม วันนี้แปลกๆ ไม่อยากดื่มกาแฟ รู้สึกอยากดื่มอะไรที่มัน แบบ อ่าส์ ..... สดชื่นนน

พลิกเมนูไปมาสี่ห้ารอบ หวยออกที่ เฟททูชินี่ไข่ออนเซน เฟร้นชฟรายชีส ขนมปังกระเทียมชีส และบ๊วยน้ำผึ้งมะนาวโซดา

(เดี๋ยวววววว หิวหรือหิว เอาดีๆ)



ระหว่างรอคาราวานอาหาร ก็มีเวลาสอดส่ายสายตาไปมา สำรวจบรรยากาศโดยรอบ เริ่มจากซ้ายมือ


อ่อ นี่เองที่มาของเสียงกีตาร์ ที่สำคัญเล่นสด ในช่วงบ่ายๆ แถมบรรยากาศติดริมแม่น้ำอีก

โอ้ววววววว ฟินนนนน



จะว่าไปมันก็ได้"อารมณ์"เหมือนตอนเราเด็กๆ นอนฟังซาวอะเบ้าท์ ที่ระเบียงริมน้ำหน้าบ้าน เหมือนกันแหะ


เขยิบสายตาไปทางซ้ายอีกนิด จะเป็นโต๊ะยาว อยู่กลางร้าน มีวัยรุ่นกลุ่มใหญ่กำลังคุยกันอย่างสนานสนุก

ถัดไปอีกนิด เป็นโต๊ะเอน-พิง อีก 3 – 4 ชุด ให้เราได้เอนหลัง ฟังเพลง ชมวิวแม่น้ำที่อยู่ตรงหน้าแบบเพลินๆ



และสิ่งที่ทำให้ผมสตั้นท์ไปชั่วขณะหนึ่ง ก็ตอนที่หมุนตัวกลับมา
ภาพที่อยู่ตรงหน้าของผมเอง ...... เชรดดดดดดดดดด
นี่ไง สิ่งนี้เองที่ผมตามหา ภาพบ้านไม้เก่าที่เรียงรายอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำ
ภาพคุณตากำลังนั่งเหลาไม้ไผ่ ทำเบ็ดตกปลาอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน
ถัดไปบ้านข้างๆ คุณยายสองคนกำลังช่วยกันซักผ้าที่บันไดท่าน้ำ
เสียงเรือหางยาวดังอยู่ไกลๆ จากทางซ้ายมือ และค่อยๆ แล่นผ่านหน้าผมอย่างช้าๆ
ทุกอย่างมันเหมือนภาพที่ flashback ขึ้นมาในหัวผม ทีละภาพๆ
ภาพที่เด็กผู้ชายนั่งตักคุณตา นับเรือหางยาวที่แล่นผ่านไปมา ในวันนั้น มันกลับชัดขึ้นมาอีกครั้ง
แสงแดดสุดท้ายของวัน ส่องผ่านช่วงเสาของร้าน เป็นสัญญาณเตือนว่า ……. ผมต้องกลับไปให้ข้าวหมาแล้ว
ใครว่าจมอยู่กับอดีตเป็นเรื่องที่แย่ ผมนี่เถียงสุดตัว
ผมว่า โอเคนะ กับร้านเล็กๆ ที่ทำให้เราหลุดออกมาจากปัจจุบัน
และจมอยู่กับอดีตในช่วงเวลาสั้นๆ
นั่งปล่อยใจให้ไหลไปกับสายน้ำ โดยไม่ต้องคิดอะไร
ผมว่า เราไม่จำเป็นต้องพยามหาเหตุผลให้กับทุกการกระทำก็ได้
"อา ลม ดี" เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ทำให้วันนี้ของผม เป็นวันที่รู้สึกว่า อารมณ์ อยู่เหนือ เหตุผล
: D

" เ พ ร า ะ ชี วิ ต คื อ ก า ร เ ดิ น ท า ง "



เล่าเรื่องโดย : Terry Soontornpokin (ig : terry_soontornpokin)

ภาพโดย : Chetsada Sangchuto (ig : chetsada29)



รีวิวที่ผ่านมา :

ก า ญ ล่ ะ กั น >> https://pantip.com/topic/36043416

พ บ ก า แ ฟ ใ น ส ว น ส ว ย . . . ที่ เ ด อ ะ 6 6 ค อ จ เ ท จ >> https://pantip.com/topic/36065015

ความคิดเห็น