เพราะช่วง 2-3 เดือนก่อนผมได้อ่านโพสต์ใน Facebok ที่มีคนแชร์มาประมาณว่า “10 ร้านกาแฟ น่านั่งในนครปฐม" หรืออะไรประมาณนี้นี่แหละครับ มันก็เลยทำให้ผมฝังใจในชื่อของหลายๆ ร้านในนั้น และคิดว่าถ้ามีโอกาสได้ผ่านไปแถวๆ นั้น ผมจะหาโอกาสเข้าไปลองกินซักร้านสองร้าน และในที่สุดเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาผมต้องเดินทางไป จ.ราชบุรี ซึ่งต้องผ่านนครปฐมพอดี ผมก็เลยเลือก 1 ร้านที่คิดว่าน่าสนใจที่สุดเป็นเป้าหมายในการพักระหว่างทางในทริปนี้ครับ



และเมื่อถึงเช้าวันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ ผมกับภรรยาก็ขับรถออกจากบ้านและตรงไปตาม ถ.บรมราชชนนี โดยปักหมุดเป้าหมายใน Google Map ว่า “Pomelo Café"



หลังจากที่ผมขับตาม ถ.บรมราชชนนีมาซักพัก เจ้าโทรศัพท์ผมก็เริ่มส่งเสียงร้องให้ผมเลี้ยวออกจากเส้นทางประจำที่ผมวิ่งไปนครปฐม จากนั้นก็เริ่มลัดเลาะไปตามทางหลวงชนบทและถนนสายที่เล็กลงไปเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไปราวๆ 1 ชั่วโมง และเข็มไมล์ที่รถผมแจ้งว่าขณะนี้เราเดินทางออกจากบ้านมาได้ประมาณ 40 กม. แล้ว ผมกับภรรยาก็มาถึงหน้าร้าน “Pomelo Café" ซึ่งเป็นเป้าหมายระหว่างทางของเราในทริปนี้ครับ


หน้าตาของร้าน Pomelo Café ก็ตามในรูปเลยครับ เป็นร้านชั้นเดียวขนาดไม่ใหญ่มาก มีที่จอดรถหน้าร้านประมาณ 7-8 คัน ซึ่งหากที่จอดรถไม่พอเราก็สามารถจอดรถริมถนนไปเรื่อยๆ ได้ครับ ทั้งนี้สำหรับคนที่กังวลเรื่องเส้นทางในการขับรถมาที่ร้าน ผมอยากจะบอกว่าไม่ต้องกังวลครับ ถนนตลอดเส้นทางดีมาก จำนวนรถก็ไม่เยอะ และ Google Map ก็สามารถพาเรามาได้ถูกที่ไม่มีผิดเพี้ยน



เมื่อเราเดินเข้ามาในร้าน ก็จะเจอส่วนของร้านที่เป็นโซนทำกาแฟและเครื่องดื่ม โดยตรงนี้จะมีโต๊ะอยู่ 2-3 โต๊ะ แล้วก็ที่นั่งริมระเบียงที่สามารถมองเห็นสวนของทางร้านได้ครับ โดยเท่าที่ผมสอบถามเจ้าของร้านเค้าบอกว่าเนื้อที่ทั้งหมดของร้านนั้นมีประมาณ 8 ไร่ พืชที่ปลูกก็มีอยู่หลายอย่างเหมือนกัน ซึ่งจากทำเลที่เค้าตั้งร้านติดกับสวนที่มีการยกร่องแบบนี้มันก็เลยทำให้อากาศภายในร้านค่อนข้างเย็นสบายกว่าภายนอกพอควร แม้ว่าวันที่ผมไปนั้นแดดจะร้อนเปรี้ยงๆ ก็ตาม T_T



ถัดจากโซนที่ร้านเค้าใช้ทำเครื่องดื่ม หากเราเดินไปทางซ้ายมือก็จะเจอที่นั่งอีกโซนนึงซึ่งจะมีจำนวนโต๊ะอยู่ราวๆ 10 โต๊ะได้ โดยโต๊ะและเก้าอี้ส่วนใหญ่จะทำมาจากไม้ ดูสวยงามดี รวมทั้งยังมีม้านั่งยาวบริเวณริมร่องสวนที่ให้เราสามารถนั่งชมวิวชิลๆ ได้อีกราวๆ 15 คน แต่ม้านั่งนี้คงจะเหมาะสำหรับการนั่งในวันที่บรรยากาศดีๆ หรือไม่ก็ช่วงเช้าๆ เย็นๆ ที่แดดไม่แรงครับ เพราะหากไปตอนกลางวันราวๆ 11 โมงแบบผม ผมว่านั่งอยู่ที่โต๊ะใต้ร่มดีกว่าเยอะครับ ><



นอกจากบรรยากาศโดยทั่วไปของร้านที่อยู่ริมสวน มีโต๊ะที่ทำจากไม้แล้ว ผมว่าการตกแต่งอื่นๆ ในร้านก็ทำออกมาได้ดีนะครับ มีเปล มีชิงช้า มีม้าโยก ให้เด็กๆ ตัวเล็กๆ ได้เล่นกันด้วยครับ



เอาล่ะครับ ดูบรรยากาศไปเรียบร้อยแล้ว ทีนี้มาดูเมนูอาหารกันดีกว่า เมนูอาหารของร้านนี้จะเรียบๆ ง่ายเป็นกระดาษขนาด A4 และพิมพ์หน้าหลังครับ หน้านึงจะเป็นอาหารส่วนอีกหน้าจะเป็นเครื่องดื่ม



จากการสำรวจราคาคร่าวๆ ราคาอาหารของที่นี่ดูไม่ค่อยแพงเมื่อเทียบกับร้านใน กทม. แต่ผมไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับว่าถ้าเทียบกับร้านในเขตนี้แล้วจะเป็นยังไงครับ โดยเมนูที่ผมกับภรรยาสั่งก็ตามนี้ครับ

- พอร์คช็อป 129 บาท

- ไข่กระทะ 35 บาท

- สปาเกตตี้ขี้เมาทะเล 60 บาท

- น้ำมะม่วงปั่น 40 บาท

- โยเกิร์ตรวม 45 บาท



นั่งรอซักพักน้ำมะม่วงก็มาเสิร์ฟครับ ต้องบอกตามตรงว่าแว้บแรกที่ผมเห้นนั้น ผมคิดว่าทางพนักงานร้านเสิร์ฟผิดเพราะเห็นน้ำในแก้วเป็นสีเขียว จึงสอบถามทางพนักงานไปและพบว่าที่นี่เค้าใช้มะม่วงดิบมาทำน้ำมะม่วงครับก็เลยเป็นสีนี้ สำหรับรสชาติผมว่าแปลกๆ ออกจะคล้ายๆ กับน้ำฝรั่งที่เค็มๆ มันๆ หน่อยครับ ไม่ค่อยเหมือนน้ำมะม่วงอื่นๆ ที่ผมเคยกินมา



ส่วนโยเกิร์ตรวม แก้วนี้อร่อยดีครับ ผมกับภรรยาชอบทั้งคู่เลย



หลังจากเครื่องดื่มมาไม่นาน อาหารก็เริ่มทยอยมาครับ เริ่มจากไข่กระทะ จานนี้อร่อยเลย ความสุกของไข่กำลังดี ไข่กรอบ น้ำไม่เยิ้ม เป็นเมนูที่ประทับใจเลยครับ



ต่อด้วยพอร์คช็อปครับ เนื้อหมูชิ้นกลางๆ ค่อนไปทางใหญ่ ความนุ่มอยู่ในระดับที่ดีเลย แต่รสชาติของเนื้อไม่ได้เข้มข้นมาก เรียกว่านุ่มแต่ยังไม่จัดจ้าน ต้องใช้การปรุงด้วยพริกไทหรือซอสต่างๆ เข้าช่วย ซึ่งใครชอบทานสไตล์ไหนก็จัดไปครับ



ส่วนสลัดผัก, น้ำสลัด และขนมปัง อยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้มีอะไรประทับใจเป็นพิเศษครับ



ปิดท้ายกันที่สปาเกตตี้ขี้เมาทะเล จานนี้ได้ปริมาณน้อยไปนิด แต่รสชาติที่ได้จัดจ้านดีครับ ส่วนความสดของเนื้อที่ใส่มาอยู่ในระดับกลางๆ



และสำหรับคนที่สงสัยว่า เออ....ร้านนี้มีดีอะไร ทำไมถึงบอกว่าน่ามา และทำไมถึงติดอันดับร้านกาแฟน่านั่งตามที่มีคนแชร์ๆ กันมา ผมว่าจุดเด่นของร้านเค้าคือทำเลที่ตั้งที่อยู่ริมสวนนี่แหละครับ เพราะนอกจากจะทำให้อากาศดีแล้ว มันยังแปลกตาสำหรับคนกรุงเทพหลายๆ คนด้วย ที่สำคัญทางร้านเค้ายังมีเรือและเปิดโอกาสให้เราไปพายเรือเล่นในร่องสวนด้วยนะครับ แต่วันที่ผมไปนั้นแดดมันร้อนมากประกอบกับเดี๋ยวผมต้องไปทำธุระต่อผมกับภรรยาก็เลยไม่ได้ไปพายเรือเล่นครับ



เอาล่ะครับ มาดูค่าเสียหายของอาหารมื้อนี้กันดีกว่า ค่าเสียหายทั้งหมดก็คือ 309 บาทครับ โดยราคาที่เค้าแจ้งในเมนูนั้นเป็นราคา net แล้วนะครับ ส่วนข้อสรุปของร้านในประเด็นต่างๆ ก็ตามนี้เลยครับ



รสชาติอาหาร : รสชาติอาหารส่วนใหญ่ถือว่าดีเลยครับ แม้จะไม่ดีเลิศเลอ อร่อยเว่อร์สุดๆ แต่ถือว่าหลายๆ เมนูกินแล้วประทับใจ และไม่มีเมนูไหนที่สอบไม่ผ่านเลย



ความหลากหลายของอาหาร : ถึงขนาดร้านจะไม่ใหญ่มาก แต่เมนูอาหารที่เค้ามีให้เลือกก็ถือว่าไม่น้อยและน่าสนใจอยู่ครับ อย่างอาหารก็จะมีทั้งข้าว, สเต็ก, สปาเกตตี้, ไข่กระทะ และของทานเล่น ส่วนเครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลายสไตล์เหมือนกัน ดังนั้นสำหรับคนที่พึ่งแวะมาทานครั้งแรกก็คงมีอะไรให้เลือกทานอยู่พอควรครับ



ความสะอาดของร้าน : สอบผ่าน ไม่มีปัญหาในข้อนี้ครับ ร้านตกแต่งได้ดี ไม่ได้สวยเว่อร์ดูหรูหรา แต่สวยงามตามแบบที่มันควรจะเป็นครับ



การบริการของพนักงาน : พนักงานบริการดีและรวดเร็วดีครับ ไม่มีปัญหาอะไรในข้อนี้เช่นกัน



ความสะดวกของการเดินทาง : ด้วยตำแหน่งที่ตั้งแบบนี้ เลยทำให้ต้องเป็นคนที่มีรถส่วนตัวเท่านั้นถึงจะมาที่ร้านได้ และก็ตำแหน่งร้านนั้นยังถือว่าห่างไกลจากถนนเส้นหลักอยู่พอควรเลยครับ เรียกว่าต้องเลี้ยวเข้ามา 10-20 กิโลเมตรได้ ทำให้ต้องเป็นคนที่บ้านอยู่แถวนี้เท่านั้นถึงจะรู้จัก หรือไม่ก็คนที่ตั้งใจมาสุดๆ แบบผมครับ



ความคุ้มค่า : หากเทียบกับราคาร้านอาหารแบบนี้ ใน กทม. ผมว่าร้าน Pomelo Café เป็นหนึ่งในร้านที่มีความคุ้มค่านะครับ อาหารอร่อย และปริมาณส่วนใหญ่ที่ได้ก็โอเคเลย มีแค่สปาเกตตี้ขี้เมาทะเลเท่านั้นที่ผมมองว่ามันได้น้อยไปนิด แต่ถ้ามองว่าตำแหน่งของร้านอยู่ไกลจนถึง จ.นครปฐม แถมไม่ได้อยู่ในอ.เมืองอีก ก็อาจจะมองว่าเป็นร้านที่ราคาสมเหตุสมผลแบบที่ควรจะเป็น คือไม่ได้แพงแต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันถูกและคุ้มค่ามากนักครับ



สรุป : หากคุณต้องการหาร้านกาแฟที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง อยากจะกินสเต็ก จิบกาแฟ ในบรรยากาศริมสวน และไม่เกี่ยงว่าต้องขับรถออกนอกเส้นทางไกลเป็น 10-20 กิโลเมตร ผมว่าร้าน Pomelo Cafe ก็ถือเป็นหนึ่งในที่พักผ่อนระหว่างทางที่ดี เพราะอาหารอร่อย ราคาไม่แพง และคนไม่เยอะ และจะน่าสนใจมากขึ้นสำหรับคนที่มีแฟน หรือมีเด็กๆ ที่อยากจะลองพายเรือเล่นในสวน แต่ทั้งนี้ผมว่าต้องเลือกช่วงเวลาในการไปที่ร้านดีๆ ด้วยครับ เพราะหากไปช่วงกลางวันแดดเปรี้ยงๆ ก็คงจะไม่เหมาะที่จะลงไปพายเรือซักเท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่คาดหวังตัวร้านไว้สูงเพราะเคยเห็นคนแชร์มาและคิดว่าว่าร้านจะบรรยากาศดีมากๆ อาหารอร่อยเว่อร์ สามารถไปถ่ายรูปชิคๆ นั่งโพสต์ท่าคูลๆ อะไรแบบนี้ได้ทั้งวัน ผมอยากให้ลดความคาดหวังลงเพราะร้านไม่ได้สวยงามและคุ้มค่าขนาดที่เราจะต้องขับรถไปกลับร่วม 100 กิโลจาก กทม. ครับ ยังมีอีกหลายร้านที่ใกล้กว่านั้นและตอบโจทย์ต่างๆ ได้คล้ายๆ กัน โดยส่วนตัวผมก็เลยขอสรุปว่าร้าน Pomelo Café เค้าดี เก๋ มีสไตล์ แต่ดีแค่ในระดับที่คนที่บ้านอยู่แถวนั้น หรือจำเป็นต้องผ่านแถวนั้นควรไปเท่านั้นครับ ส่วนคนที่ตั้งใจเดินทางเพื่อไปร้านนี้โดยเฉพาะนั้น มันยังไม่คุ้มค่าพอครับ



ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้ หากผมรีวิวขาดตกบกพร่องประการใดต้องขออภัยด้วยและการรีวิวนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมจากวันที่ไปใช้บริการเท่านั้น แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการหรือรสชาติที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ



สำหรับใครที่ชอบการรีวิวของผม ก็สามารถไปติดตามหรือแนะนำข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ https://www.facebook.com/amazingcouples



ภรรยาหา สามีใช้

 วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 17.23 น.

ความคิดเห็น