“ไปภูทับเบิกกัน" หมอยา พูดชวนไป หลายรอบมาก พยายามบิ้วท์ มันสวยนะ มีหมอกเต็มเลย อย่างกับสวรรค์ ส่งรูปสวยๆมาให้ดูเต็มไปหมด



ในใจก็คิด มีแต่แปลงกะหล่ำ ไปดูไรกันว๊า ขับรถขึ้นเขาอีก หมอยาก็ยังขับรถไม่เก่ง จะไหวมั๊ยเนี่ย

แล้วช่วงนี้ก็ยุ่งๆ ไปดี ไม่ไปดี คิดอยู่นาน นั่งทำทริปให้ แต่ก็ยังไม่รับปากว่า จะไปด้วยหรือเปล่า

สรุปว่าพอจะว่าง เลยตัดสินใจไปด้วย เผื่อจะได้ช่วยขับรถ......กะหล่ำก็กะหล่ำ

ตอนจัดกระเป๋า พกหลวงพ่อโสธรไปด้วยเลยค่ะ เผื่อหลวงพ่อจะช่วยขับรถขึ้นภูบ้าง



ออกเดินทางจากบ้าน ฝนก็ตกกระหน่ำ ต้อนรับเช้าวันจันทร์ คว้ารองเท้าแตะได้คู่นึง ก็รีบขึ้นรถแท็กซี่ไปจุดที่นัดไว้ ระหว่างทาง นั่งไป มองดูท้องฟ้า แล้วก็ภาวนาว่า ขอให้เพชรบูรณ์ฝนตกด้วยเถอะ หมอกจะได้ขึ้นเยอะๆ จะได้สวยๆ ฟินเว่อร์ๆ ยังไปไม่ถึงบ้านหมอยาเลยค่ะ ถนนแห้งเชียว ชิชะออกเดินทางจากรามอินทรา ประมาณ 7:30 แวะกินมื้อเช้ากันที่ ร้านข้าวแกงบ้านสวน 2 (พิกัด GPS 14.279032, 100.808710) ของกินละลานตามาก พวกเราสามคน เลือกกินโจ๊กหมูกันจะได้ไม่อิ่มมาก เพราะมื้อเที่ยงมีนัดจะไปกินของดังเมืองวิเชียรบุรี



ขับรถกับไปเรื่อยๆ พอเลยสามแยกวิเชียรบุรีไปนิดนึง ก็จะเจอ ไก่ตัวใหญ่ ยืนโบกมืออยู่ เอ๊ะ ต้องยืนกระพือปีกสินะ หันหัวรถ เลี้ยวเข้าจอดเลยค่ะ



ร้านไก่ย่างบัวตอง (พิกัด GPS 15.647690, 101.041530) ร้านดังของถิ่นนี้เค้าล่ะ ใครผ่านเส้นนี้ ถ้าไม่ได้กิน น่าเสียดายมาก



ห้องน้ำที่ร้าน ก็น่ารักมาก มีเพิ่มมา 1 เพศ สำหรับเพศทางเลือกเข้าได้เลยจ้า ดีจัง ส่วนห้องน้ำชาย หมอยา เล่าว่า ไอเดียดีมาก คือ พอทำธุระเสร็จ ก็ต้องล้างมือ แล้วน้ำล้างมือ ก็จะไหลไปล้างโถ ตามรูปเลยค่ะ



กินกันอิ่มแล้วก็มุ่งหน้าสู่ภูทับเบิกภูทับเบิก (พิกัด GPS 16.897529, 101.105541) เตือนนิดนึงนะคะ ก่อนขึ้นภู อย่าลืมเติมน้ำมันก่อน เพราะเคยมีประสบการณ์น้ำมันหมดตอนขึ้นดอยกับเพื่อนมาแล้วค่ะ ค่าน้ำมันบนดอยแพงมาก



ทางไปภูทับเบิกไม่ยากค่ะ มีป้ายบอกตลอดทาง หมอยาขับไป เราก็นั่งเฉยๆ กลัวเค้าจะตื่นเต้น พอเริ่มทางชันๆ ไม่ไหวละ หยิบหลวงพ่อมาไว้ที่ตัวดีกว่า อุ่นใจกว่ากันเยอะ 555555



จริงๆแล้ว ทางก็ไม่ได้ยากอะไรนะ มีซ่อมถนนบ้างเล็กๆน้อยๆ นอกนั้น ลาดยางดีหมดแล้ว ค่อยๆขับขึ้นไป ใช้เกียร์ต่ำๆ ไม่นานก็ถึงค่ะ เช็คสภาพรถมาก่อนให้มั่นใจ ก็ขับกันมาได้เลย

พอถึงทางเข้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จะมีทางเลี้ยวขวาลงไปภูทับเบิก ขับไปอีกไม่ไกล ก็ถึงภูแล้วจ้า

หมอยาขับรถ ตัวนิ่งมากเลย ตอนแรกนึกว่าไม่ตื่นเต้น มาเฉลยตอนลงจากภูแล้วว่า จริงๆตื่นเต้นมาก จนเหงื่อออกมือเลย



พอลงจากรถมาก็ตกใจ เคยมาเมื่อสี่ปีที่แล้วมันไม่ใช่แบบนี้นี่นา ยืนมึนๆอยู่แปปนึง ก็ไปติดต่อเช่าเต็นท์ที่ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูทับเบิก เต็นท์นอนได้สี่คน ราคา 700 บาท มีผ้าห่ม หมอน และเสื่อให้ ค่าประกันเต็นท์ 1000 บาท เต็นท์กางไว้เรียบร้อยแล้ว เดินไปเลือกได้เลย อยากนอนตรงไหน ส่วนคนที่เอาเต็นท์มาเอง คิดค่าบริการ คนละ 50 บาท ต่อคืน



พอจัดที่นอนเรียบร้อย ก็เดินไปสำรวจห้องน้ำ เสียค่าเข้าคนละ 5 บาท มีห้องน้ำ กับห้องอาบน้ำแบบตักอาบ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดไรนะ 5 บาท พออยู่ไปซักพัก อากาศเย็น เข้าห้องน้ำบ่อยนี่ดิ แป๊บแปบ 5 บาท เดินไปแลกมาเลย 50 เข้ามันให้สะใจไปเล้ย



ปล่อยหมอยาถ่ายรูปไป เราก็เดินสำรวจ รำลึกความหลัง จำได้ว่า ที่เคยมา มีแปลงกะหล่ำ กับแปลงดอกกระดาษ สมัยก่อน เคยนึกว่า ที่นี่ไม่เห็นจะมีอะไร มีแค่กะหล่ำ พอมาวันนี้ นึกอยากจะให้กะหล่ำกลับมาอยู่แทนบรรดารีสอร์ทสีสันสดใส ร้านอาหารมากมาย ขอเปลี่ยนเป็นมันปิ้งเหมือนเก่าได้มั๊ย คงไม่ทันแล้วสินะ เศร้าจัง เฮ้อ



ข้างบนภูทับเบิก จะมีหมอก พัดขึ้นมาเป็นระยะๆ ขนาดตอนบ่ายๆ หมอกก็เยอะนะคะ นั่งดูหมอก เพลินดีเหมือนกันค่ะ



ตกเย็นลมพัดมาเย็นๆ เลยเลือกนั่งกินจิ้มจุ่มกัน เผื่อจะช่วยให้อุ่นขึ้นได้บ้าง แอบอิจฉาคนมีไขมัน แบบคุณหมอยา เราหนาวมาก แต่คุณเค้าบอก เฉยๆ ประโยชน์ของไขมันสินะร้าน “แตะขอบฟ้า" ป้ายร้านโดดเด่นด้วยรองเท้าแตะคู่ยักษ์ เลือกร้านนี้เพราะใกล้เต็นท์ที่สุด แค่นั้นเอง จิ้มจุ่มรสชาติดี แค่บริการช้ามาก ทั้งๆที่มีคนนั่งแค่สาม สี่โต๊ะ ร้านไม่มีห้องน้ำนะ ต้องไปเข้าตรง 5 บาทค่ะ ทางร้านบอกว่า วิสาหกิจชุมชนเค้าไม่ให้ทำห้องน้ำ



ขออนุญาตทางร้านเอาไก่ย่างวิเชียรบุรีมานั่งกินด้วย ขนาดมีไก่ จิ้มจุ่มชุดเดียวยังกินไม่พอ เพิ่มอีกชุดนึง พอดีมีภาระกินให้น้ำหนักขึ้น เพิ่งไปตรวจสุขภาพมา หมอจะได้ไม่บอกว่าน้ำหนักน้อยไป กินไปกินมา ถ่านหมด ขาดตอน กว่าถ่านจะมา อิ่มเลย สุดท้ายก็กินไม่หมด โถเสียดาย


จิ้มจุ่มหมู ราคาชุดละ 290 บาทค่ะ



กินอิ่ม อาบน้ำเย็นเจี๊ยบ (เตรียมตะขอตัวเอส มาด้วยนะคะ เพื่อความสะดวก ในการแขวนของเครื่องใช้ ตอนอาบน้ำ)


พรุ่งนี้เรามีนัดกันนะสายหมอกนะ อย่าลืมนัดเราล่ะ นอนละ........ครอกฟี้........หลับกันตั้งแต่สองทุ่ม รู้สึกตัวอีกที เที่ยงคืน ออกมายืนดูหมอกนอกเต๊นท์ เริ่มมานิดๆ ให้ใจชื้น แต่ยังไม่ถึงเวลานัด นอนต่อ ตั้งนาฬิกาปลุกตีห้า ปล่อยหมอยาไปเก็บภาพคนเดียว ตื่นไม่ไหว 555



นาฬิกาปลุกแล้ว ออกไปหา หมอยา หาไม่เจอ แฟนหาย เดินหาข้างเต็นท์ ที่หอดูดาว ที่ศาลา ไม่มีเลย หายไปไหนหว่า กลับเต็นท์ไปนอนต่อ เอ้ย!! ไปกับถามแม่แฟน คุณแม่บอกอยู่ข้างล่าง ล่างไหนหว่า เมื่อกี้ก็เดินหา ตรงลานจอดรถข้างล่างแล้วนะ


มองไปมองมา โน่นนนนนนน ยืนโดดเดี่ยวจะตกเขาอยู่ข้างล่าง

หมอกมาน้อย ไม่สมใจหมอยาเท่าไหร่ ถ่ายไปบ่นไป ได้หมอกมาแค่นี้เอง สงสัยต้องกลับมาซ่อม



ถ่ายรูปจนพอใจ ก็ไปกินมื้อเช้ากันที่ร้านเดิมเมื่อวาน สั่งข้าวต้มหมู ซาลาเปา ขนมจีบหมู รสชาติก็พอกินได้ แต่ไม่อร่อยเดินเล่นกันเล็กน้อยก็ตัดสินใจย้ายที่พัก หมอยาเค้าอยากถ่ายภาพ วัดผาซ่อนแก้วกับหมอก ก็เลยกะจะไปหาห้องพักที่ร้าน Pino Latte ( พิกัด GPS 16.794313, 101.042263) ปรากฏว่าเต็มหมด ห้องพักมีแค่ 5 ห้องเอง อด...จ๊ะ เปลี่ยนแผนเป็นนั่งกินขนมกันนิดหน่อย ก่อนออกไปหาห้องพักใกล้ๆ แถวนั้นแทน



ร้านวิวสวยมาก คนถ่ายรูปเต็มเลย



เข้าไปในร้าน สั่งขนมกิน ได้แก่


Fancy rocky brownie 145 บาท กินกับไอติมอร่อยดี

Green apple Italian soda 75 บาท /Honey lemon soda 85 บาท เปรี๊ยวจี๊ด โดนใจ

Mania milkshake 125 บาท โกโก้เข้มข้น หวานมัน แย่งกินคอร์นเฟล็กซ์ซะเลย 555



กินเสร็จ ออกตระเวนหาที่พักกันต่อ แวะลงไปถามที่พักใกล้ที่ In and Out Valley ปิดปรับปรุงห้องพักอีก



อย่ายอมแพ้ ไปต่อที่ The blue sky resort khao kho (พิกัด GPS 16.779384, 101.020015) สอบถามห้องพัก ได้คำตอบว่ามีทัวร์ลง เต็มอีก เศร้า T T

วันธรรมดาน่าเที่ยวสินะ เต็มกันหมด



ไหนๆ ก็ใกล้เที่ยงพอดี กินซะเลยซะที่ The blue sky resort khao kho นี้แหละ



ได้ข่าวว่าสลัดบลูสกายอร่อยมาก สั่งซะเลย ราคา 220 บาท รสชาติ ไม่ผิดหวัง อร่อยค่ะ ผักสด กรุบกรอบ น้ำสลัดเปรี้ยวๆหวานๆ ไม่รู้เรียกน้ำสลัดอะไร อร่อยดี


สปาเก็ตตี้เขียวหวาน 220 บาท ก็อร่อยดีนะ ปรุงออกมา น่ารับประทานมาก

หมอยาไม่ชอบเมนูเส้น ชอบเนื้อๆเน้นๆ เลยสั่ง สเต็กเนื้อเซอร์ลอย 380 บาท บ่นใหญ่เลย ว่าแห้ง แข็ง ไม่ถูกปาก

น้ำเปล่าที่นี่ แอบแพงนะ ขวดเล็ก ขวดละ 25 บาท สงสัยจะเป็นน้ำแร่มั้ง ลืมสังเกต



กินกันอิ่ม อยากนอนแล้ว แต่ว่า....ยังไม่มีที่นอน เลยตัดสินใจกันว่า หาที่ใกล้ๆวัดแล้วกัน เมื่อกี้ตอนขับมาเห็นอยู่หลายที่ขับไปเจอ ภูฟ้าใส รีสอร์ท (พิกัด16.770402, 101.049361) ตรงทางเข้า รีสอร์ท จะมี 7-11


ในรีสอร์ทจะเห็นวิววัดผาซ่อนแก้วนิดหน่อย ดูแล้วขับไปถ่ายรูปที่วักผาซ่อนแก้วก็ไม่ไกล เลยเข้าไปสอบถามห้องดู ปรากฎว่ามีห้องว่าง แถมช่วงนี้ลดราคา เหลือ 1200 บาท ถ้า High season 2700 บาท นอนได้ 4 คน ไม่มีอาหารเช้า สรุปเข้าพักที่นี่แหละ…..เย่ กินมาอิ่มๆ นอนผึ่งพุง พักผ่อนกันช่วงบ่ายก่อนดีกว่า



นอนเล่นกันถึงสี่โมงเย็น ก็ออกไปเที่ยว Route12 (พิกัด 16.791096, 100.986875) ร้านน่ารัก มีมุมและของเล่นให้ถ่ายภาพเยอะเลย บรรยากาศดี อยู่ติดริมทางหลวง 12 วันหยุดคนคงจะแน่นทีเดียว



คุณแม่หมอยา ขอ 1 รูปเท่ๆ บอกเอาไปโม้เพื่อนหน่อย คุณแม่เปรี้ยว จริงๆ อายุ 51 แล้วยังดูไม่แก่ ดูแลตัวเองดีจริงๆ คืนนี้ขอไปกระซิบถามเคล็ดลับหน่อยแล้ว ว่ากินอะไรบ้าง ดูไม่แก่เลย



เมื่อคุณแม่ ถ่ายรูปจนพอใจแล้ว ก็เริ่มหิว จนต้องถามตัวเองว่าหิวบ่อยไปมั๊ย หาที่กินอีกแล้ว หมอยาตัดสินใจ ขับรถเข้าไปร้านที่หมอยาเคยไปกิน คือ เขาค้อ ไฮแลนด์ ( พิกัด 16.747526, 101.025680 )แต่ว่าด้วยความโชคดีของเรา แม่ครัวหยุดไปทำบุญจ้า อดกินไก่ทอดเกลือเลย เห็นบอกว่า อร่อยมากกกก.....เสียดายยยย



ก็เลยหันหัวรถ ออกไปตามหาของกินกันต่อที่ ไร่จันทร์แรม รีสอร์ท ( พิกัด 16.662512, 101.023120) ถ้านับจากที่พักก็ขับออกมาไกลอยู่เหมือนกัน แต่เพื่อของกินไกลแค่ไหนก็ยอมมมม......ปอลอ จริงๆ แถวนั้น ไม่ค่อยมีอะไรให้กินเท่าไรตั้งหาก ฮ่าๆๆๆๆๆ



กว่าจะขับมาถึง หิวมากกกกกก......แต่ก็คุ้มระยะทาง เพราะรสชาติอาหารไม่ผิดหวังเลย อร่อยทุกอย่าง ถึงขั้นต้องสั่ง มะระหวานผัดไข่ เบิ้ล หมอยาติดใจมาก


วิวก็สวยท่ามกลาง หุบเขา ถ้ามีหมอกซักนิดน่ะ คงฟิน ใครมาเขาค้อ แนะนำร้านนี้เลยค่ะ รสชาติไม่ผิดหวังคอนเฟิร์ม ให้ 5 ดาวเลย



กลับที่พัก รีบอาบน้ำนอน พรุ่งนี้มีนัดกับหมอกอีกแล้วตื่นตีสี่ไป รอหมอก แถวๆ Pino Latte ยืนด้อมๆ มองๆ จนยาม ออกมาทักเลย ฮ่าๆๆๆ ก็ยังไม่สว่างนี่เนอะ ยังไงก็ทักทาย บอกกล่าวกันซักหน่อย


ส่วนคุณหมอยา พาเดินฝ่าดงหญ้า ใจก็กลัวงูออกมามาก สุดท้าย ลุยดงหญ้าต่อไม่ไหว หญ้าสูงมาก ก็ตัดสินใจ ยืนถ่ายรูปอยู่ข้างๆแท็งก์น้ำนี้แหละ โชคดี...เตรียมเสื่อมาด้วย ปูนั่งรอตรงพื้นแถวนั้น เราก็รออออ.....กว่าจะเช้า หมอกก็ไม่มาอีกแล้ว หนาวจะแย่ ตัวต่อบินหึ่งๆอยู่บนหัวอีก แต่ในความโชคร้ายที่ไม่มีหมอก ก็โชคดีที่ได้เห็นแสงสวยๆ ของเช้าวันนั้นแทน มันสวยมากกกกกกก



หลังจากถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นจนพอใจ ก็ไปที่วัดผาซ่อนแก้ว ในวัดปิดปรับปรุงหลายจุดเลย โดยเฉพาะ อุโบสถพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ยังเข้าไปไม่ได้ ถามพี่ๆแถวนั้น บอกว่า ทำพื้นอยู่เลยยังปิดห้ามเข้า เลยไปเดินเที่ยว ฝั่งตรงข้ามแทน พระธาตุผาแก้ว



เมื่อ 3-4 ปีก่อน กำแพงวัดพระธาตุผาแก้ว ที่ทำจากจาน แก้ว และถ้วยชามต่างๆ แตกหมดเลย มีคนหัก แกะและเก็บกลับบ้านด้วย ไปครั้งนี้ เลยเห็นป้าย อ่านแล้ว รู้สึกกึ่งๆบอกเตือนและสาปแช่ง ยังไงไม่รู้ ป้ายเขียนว่า “มาวัดอย่าเอาบาปกลับบ้าน" หรือ “อย่าจับ เดียวหลุด บาปนะ" ยังไงฝาก เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ไปวัดช่วยกันรักษาของดีกว่า อย่าไปทำลาย เลยค่ะ เสียดาย แบ่งปันความงามให้คนอื่นได้เห็นบ้างนะคะ



ข้อดีของการมาเช้าๆแบบนี้ คือ คนไม่เยอะ เดินสบายๆ ตัวปลิวเลย เดินซักพัก ก็เริ่มหิว หาข้าวเช้ากินกัน ที่ ครัวเขาค้อ ( พิกัด GPS 16.769667, 101.044469)



คุณแม่สั่งข้าวต้มกุ้ง ไม่ค่อยถูกปาก รสชาติธรรมดามาก ไม่แนะนำให้สั่งเลยค่ะ


ส่วนเราสองคนสั่งกับข้าว เมนู 1 ปี มี 1 เดือน คือ ดอกขิงผัดหมูกรอบ แปลกดี ไม่เคยกินมาก่อน ลองซะหน่อย ดอกขิง มีรสคล้ายขิงอ่อนแบบจางๆ อร่อยดีและไข่เจียวหมูสับเมนูสุดคลาสสิคแบบคิดอะไรไม่ออกว่าจะกินอะไร



อิ่มแล้วกลับที่พักไปเก็บของ เช็คเอาท์ ไปเที่ยวแถวเขาค้อ ซักนิด


ระหว่างทาง ก็บอกให้หมอยา พาไปไปรษณีย์เขาค้อหน่อย ( พิกัด 16.639744, 100.996972 ) ตอนแรกหมอยาก็คิดไปว่าเขาค้อมีไปรษณีย์อันใหญ่ๆให้ถ่ายรูปหรือไงนี้แหละ พอมาถึง ที่ทำการไปรษณีย์เขาค้อ ก็งงว่าให้พามาทำไม เลยบอกไปว่า....ก็แค่จะมาดูวิว แค่นี้ล่ะ เห็นว่าเป็นจุดกางเต็นท์ยอดนิยมเหมือนกัน พอมองๆแล้ว คิดว่าช่วงหน้าหนาว ก็น่ามาพักนะ มองลงไปถ้าหมอกขึ้นเยอะๆ สวยแน่นอน เพราะข้างล่างเป็น อ่างเก็บน้ำรัตนัยด้วย หมอกน่าจะขึ้นเยอะอยู่นะ



จากนั้นไปสักการะพระบรมธาตุเจดีย์ ( พิกัด 16.640998, 101.000851 )



พระบรมธาตุเจดีย์ จะมีห้องอยู่ด้านใน 1 ห้อง ที่ควรจะเข้าไป มีแปะป้ายหน้าห้อง บอกว่าห้ามบอกว่าข้างในมีอะไร ถ้าเพื่อนๆไป ลองเข้าไปดูนะคะ ว่ามีอะไร11 โมงแล้ว ใกล้เที่ยงอีกแล้ววววว....สมองเริ่มนึกเรื่องปากท้องอีกครั้ง กินไรกันดี คุณแม่บอก อยากกินขนมจีนหล่มสัก ได้ข่าวว่าอร่อยมากกกก.....แต่ยังไม่มีที่กินเลยตอนเที่ยง เปิด Google เลยคะงานนี้ Google แนะนำมา 1 ร้าน แต่ต้องขับย้อนไป ที่อำเภอหล่มเก่า หาข้อมูลในเน็ตแบบเฉพาะหน้ามาก ร้านแนะนำคือ ร้านขนมจีน แม่บุญมี ( พิกัด GPS 16.864373, 101.244574 ) อยู่ติดถนนใหญ่เลย



ขับรถประมาณ 20 นาที ก็ถึง ที่หน้าร้าน มีจอดรถสะดวกสบาย มีช่องจอด Big bike ด้วย intrendจริง ขนมจีนที่นี่ สีสวย สีทำมาจากสีธรรมชาติค่ะ เราก็เลือกกินเฉพาะที่มีสีๆ ส่วนสีขาวให้หมอยากินไป ฮ่าๆๆๆ



กินกันจนอิ่ม ขนมจีนสองถาด ได้ข้อสรุปว่า เด็ดที่เส้นขนมจีนเล็กๆนุ่มๆนี่ล่ะ อย่างอื่นรสชาติกลางๆ หากินได้ทั่วไป



ก่อนกลับแวะซื้อของฝากที่ร้านไร่กำนันจุล 2 (พิกัด GPS 16.262232, 101.048459) หมอยาซื้อมะขามแบบแกะแล้วมากล่องนึง



ขากลับสลับกันขับบ้าง หมอยาก็ป้อนมะขามใหญ่เลย กินเพลินๆ ติดฟันหนึบหนับ ขับรถไปเรื่อยๆ ชะแว๊บ สระบุรี คุณแม่หมอยา นึกขึ้นมาได้ว่ามีร้าน puff อร่อย ชื่อร้าน puff stick (พิกัด GPS 14.525772, 100.913919)



ซื้อ puff เสร็จ ขึ้นรถ นั่งกินมะขามต่อเรื่อยๆไม่หยุดหย่อน สุดท้าย ไปท้องเสีย ก่อนถึงบ้าน ระหว่างแวะกินข้าวต้ม


ดีนะ ร้านข้าวต้มมีห้องน้ำสองห้อง ไม่งั้นอาจต้องตบตีกันแน่ ข้าศึกประชิดเร็วมากกกกก...สงสัยเป็นเพราะกินมะขามไปเยอะแน่ๆเลย ในเนื้อมะขามมีกรดทาทาริก ช่วยระบายท้อง ขนาดเรา เป็นคนที่ถ่ายยาก ยังระบายได้ง่ายๆ เลย อาหารเสริมบางตัว จึงเอามะขามเป็นส่วนประกอบของยาระบายด้วยนะ แต่รับรองเลย มะขามเพชรบูรณ์ ของเค้าดีจริง กินปุ๊บ เห็นผลปั๊บ ฮ่าๆๆๆๆ



พอกินอิ่ม ฝนตกใหญ่เลย ก่อนจะถึงบ้าน แหม....ตอนอยู่เพชรบูรณ์ อยากให้ฝนตก ฝนเจ้ากรรมไม่ตกซักนิด ทำกันได้ ชิ

ยังไงถ้าเพื่อนๆ คนไหนไป ลองดูกรมอุตุ ให้ดีๆนะ ทิ้งช่วงฝนซัก 1 วัน จะกำลังดีมาก มีรุ่นน้องเพิ่งไปมา ได้หมอกสวยๆเลย วันนี้พอแค่นี้แหละค่ะ บะบาย



—————————————————————————————

สามารถติดตาม ข้อมูลต่างๆได้ที่ เพจหมอยา พาเที่ยว ตรงนี้เลยค้าบ

https://www.facebook.com/pharmatraveller/

หมอยา พาเที่ยว

 วันพฤหัสที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 09.25 น.

ความคิดเห็น