เห้ย ฉันเบื่อว๊ะ ฉันอยากไปเที่ยวพักผ่อน ไปนั่งโง่ๆไม่ต้องคิดอะไรปล่อยใจไปตามสายลม สูดอากาศให้เต็มปอด ได้ทั้งธรรมชาติ และร้านกาแฟชิคๆ เกร๋ๆ งั้นไปจัดของกัน น้ำมันเต็มถัง ขับไปเรื่อยๆๆ ชอบที่ไหนก็แวะพัก Let's go……

ติดตามเรื่องเที่ยวของเราได้ที่ Facebook Fan Page : https://www.facebook.com/baagfan/
เพจ : แบกแฟนเที่ยว ไปกดไลค์กดแชร์เป็นกำลังใจให้เรากันนะ

DAY 1 :
ขับรถออกจากกทม มุ่งหน้าสู่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
ใช้เวลาราวๆ5-6 ชั่วโมงจาก กทม เราก็มาถึงตัวที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
ทางเข้าอุทยานสามารถเข้าได้สองทางคือ มาจากฝั่งภูทับเบิก อ.หล่มเก่า
และอีกฝั่งหนึ่งคือ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก
โดยมีถนนทางหลวงหมายเลข 2331 (หล่มเก่า-นครไทย) ตัดผ่านกลางอุทยานฯ
จึงเป็นอุทยานที่สามารถขับรถขึ้นไปเที่ยวได้ง่ายและที่ท่องเที่ยวจะกระจายตามสองฝั่งของถนนใหญ่

.จุดแรกของเราคือ โรงเรียนการเมืองการทหาร
ตั้งอยู่บริเวณหลักกม.ที่ 4 ถูกปกคลุมด้วยป่ารกครึ้มหนาแน่นเมื่อปี2513 เป็นที่ตั้งของคณะกรรมการเขต 3 จังหวัด คือ จังหวัดเลย จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดพิษณุโลก ปี พ.ศ. 2520 ก่อตั้งเป็นโรงเรียนขึ้น ให้การศึกษาตามแนวทางลัทธิคอมมิวนิสต์ หากมาเที่ยวใน ช่วงเดือนมกราคมจะได้พบกับบรรยากาศของใบเมเบิ้ลเปลี่ยนสีและร่วงหล่นมาต้องบ้านไม้เก่าแก่งดงามคล้ายกับ ต่างประเทศ

จุดที่สองที่ต้องไปคือ"เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ลานหินปุ่ม-ผาชูธง"

เส้นทางนี้ใช้เวลามากหน่อยสักราวๆ 2 ชั่วโมง และจะต้องเดินเท้าเข้าไป

แต่แนะนำให้ไปเที่ยวกัน เพราะตลาดเส้นทางจะมีความหลากหลายของ
พันธุ์ไม้ ดอกไม้ และลักษณะทางธรณีวิทยาที่สวยแปลกตา
อีกทั้งยังมีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์อีกด้วย
เดินประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะถึง "ลานหินปุ่ม" ตั้งอยู่ริมหน้าผา
ลักษณะเป็นลานหินขึ้นเป็นปุ่มขนาดไล่เลี่ยกันจำนวนมาก
คาดว่าเกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติของหิน และเป็นสิ่งที่บอกว่า
ในหลายล้านปีก่อน ดินแดนแถบนี้เคยอยู่ในทะเลลึกมาก่อน
ที่จะยกตัวสูงขึ้นเป็นแผ่นดินที่ราบสูงอย่างปัจจุบันนี้

อีกประมาณ 500 เมตรก็จะเจอกับ "ผาชูธง"

สภาพเป็นหน้าผาสูงชัน ที่สามารถมองเห็นวิวทัศนียภาพได้อย่างสวยงาม

และยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามแห่งหนึ่งในอุทยานนี้

เดินไปถ่ายรูปไป

พอเย็นๆๆเข้าไปที่อุทยานฯเพื่อกางเต็นท์เต้นเสียค่ากางเต็นท์ 30 บาทต่อคนต่อคืน ส่วนเต็นท์ก็มีให้เช่าจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวราคาตั้งแต่ 200 บาทถึง 800 บาท รวมไปถึงถุงนอน ที่รองนอน ผ้าห่ม ส่วนห้องน้ำมีห้องอาบน้ำแยกหญิงชาย (ห้องน้ำสะอาดมาก)

DAY 2 :
ตื่นเช้าๆหน่อยเดียวค่อยมาเก็บเต็นท์ ไปรอดูพระอาทิตขึ้นที่ภูแผงม้าก่อนเสร็จแล้วกลับมาเก็บเต้น ที่ภูแผงม้า

ตรงนี้เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของภูหินร่องกล้า

สูงจากระดับน้ำทะเล 1,775 เมตร วิวเบื้องหน้าคือเส้นทางถนนคดเคี้ยว

และหมู่บ้านน้ำเพียงดิน เส้นทางที่ทุกคนจะต้องผ่านก่อนจะขึ้นมายังภูทับเบิกและภูหินร่องกล้าก่อนออกจากตัวอุทยานฯฝั่งทับเบิกประมาณ 400 เมตรฝั่งขวามือ


จะมีทางขึ้นไปจุดชมวิว เรียกว่า "ภูแผงม้า" ทางเข้าต้องสังเกตดีๆที่นี่เป็นจุดเที่ยวเปิดใหม่ของภูหินร่องกล้าถนนทางขึ้นค่อนข้างทุลักทุเลเพราะเป็นทางชันดินแดงรถขับเคลื่อนสี่ล้อถึงจะขึ้นไปได้ระหว่างที่ตื่นเต้นกับการขโยกตัวนั่งอยู่ท้ายรถขับขึ้นไปนั้นก็ไม่คาดคิดเลยว่า จะได้ขึ้นมาชมวิวที่สวยงามที่สุดของภูหินร่องกล้าได้เห็นวิวพาโนราม่าด้านหน้า สายหมอกกับฟุ้งต่อสู้กับแสงแดดวิวที่เห็นต้องหน้า ทุกคนต้องร้องว๊าว!! ว่าทำไมมันงดงามได้ถึงเพียงนี้

พอชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จก็เข้าไปหาไรลงท้องในภูทับเบิกแปปนึงพร้อมกับชมวิวสวยๆๆของภูทับเบิก


แล้วก็กลับไปเก็บเต็นท์(เราออกมาจากที่กางเต็นท์ประมานตี5เลยคิดว่าเดียวค่อยมาเก็บดีกว่าเพราะถ้าเก็บตอนนั้นคิดว่าจะไม่ทันแสงสวยๆตอนดวงอาทิตย์ขึ้นแต่ถ้าคัยทันให้เก็บไปก่อนเพราะวนรถไปเสียเวลา)

จุดต่อไป ของเรา คือ ทุ่งกังหันลม เขาค้อ


อีกหนึ่งแลนด์มาร์คใหม่ล่าสุดแห่งเขาค้อที่สวยงาม ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านเพชรดำ จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อเข้ามาในบริเวณแคมป์สนเพื่อไปยังเส้นทางท่องเที่ยวหลักบนเขาค้อ

จะสามารถมองเห็นกำหันลมโดดเด่นได้อย่างง่ายได้ เนื่องจากจุดที่ตั้งของโครงการทุ่งกังหันลม อยู่บนเนินเขาสูง บนระดับความสูงกว่าน้ำทะเลประมาณ 1,050 เมตร ตระหง่านบนที่ราบยอดเขาเนื้อที่ 350 ไร่ จึงสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกล

มีมุมให้เราถ่ายรูปเยอะมากๆๆ

คัยที่ผ่านไปอย่าลืมแวะไปถ่ายนะ


จุดมุ่งหมายสุดท้ายของทริปนี้ก็คือ
พิโน่ ลาเต้ รีสอร์ท แอนด์ คาเฟ่ (Pino Latte Resort and Cafe) ร้านกาแฟดีไซน์เก๋ที่ดัดแปลงมาจากตู้คอนเทรนเนอร์ ท่ามกลางวิวภูเขา 180 องศา ร้านกาแฟซึ่งมีจุดเด่นเป็นวิวของ "วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว" ที่ตั้งโดดเด่นอยู่เบื้องหน้าได้อย่างชัดเจนเป็นอีกร้านที่ ขอแนะนำว่าหากมาเที่ยวเขาค้อ ไม่ควรพลาดแวะมา เช็คอิน ขึ้น Facebook

วิวสวยๆมากๆๆๆ


กินไปชมวิวไปมันฟินฝุดๆๆ

มุมถ่ายรูปเยอะมากๆ

การเดินทาง
การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
1.รถยนต์ส่วนตัว
การเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้ามีหลายเส้นทาง แต่ที่นิยมกันคือ ใช้ทางหลวงหมายเลข 12 สายพิษณุโลก-หล่มสัก ถึงสามแยกบ้านแยง มีป้ายบอกทางแยกขวาผ่านบ้านห้วยตีนตั่ง-บ้านห้วยน้ำไซ-ฐานพัชรินทร์ สู่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ภูหินร่องกล้า ระยะทางประมาณ 31 กิโลเมตร

อีกเส้นทางหนึ่งคือ จากเพชรบูรณ์ตามทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านอำเภอหล่มสัก อำเภอหล่มเก่า บ้านวังบาล บ้านเหมืองแบ่ง บ้านทับเบิกถึงอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า รวมระยะทางประมาณ 104 กิโลเมตร เป็นทางลาดยางค่อนข้างชันและคดเคี้ยว ควร-ขับรถด้วยความความระมัดระวังอย่างมาก

ค่าเสียหาย
อัตราค่าเข้าอุทยานฯ ผู้ใหญ่ ราคา 40 บาท เด็ก ราคา 20 บาท
ส่วนเต็นท์ก็มีให้เช่าจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวราคาตั้งแต่ 200 บาทถึง 800 บาท รวมไปถึงถุงนอนที่รองนอนที่นอนผ้าห่ม
ส่วนห้องน้ำมีห้องอาบน้ำแยกหญิงชาย (ห้องน้ำสะอาดมาก)



ความคิดเห็น