สวัสดีทุกๆคนที่เข้ามาอ่าน มาเยี่ยมชมนะครับ
ต้องขอบอกก่อนเลยนะว่ากระทู้นี้ไม่ได้เป็นกระทู้รีวิวแต่อย่างใด
เป็นเพียงกระทู้ที่ตั้งขึ้นเพื่อแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยว เผยแพร่ที่ท่องเที่ยวที่คนอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักกัน
โดยจุดหมายที่พวกผมเดินทางไปในครั้งนี้ คือที่นี่

"จังหวัดพัทลุง"


มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ!!!
      ในการเดินทางครั้งนี้ผมตั้งใจที่จะไป "เขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุง" โดยจะเดินทางไปกับรถไฟฟรี ซึ่งทุกครั้งก็จะไปคนเดียวตลอดไปแบบเหงาๆ
แต่ครั้งนี้ดีที่มีเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วย 4 คน หายเหงากันไปครับ ^^
      

__________________________________________________________________



เริ่มแรกเลย เราโดยสารโดยรถไฟฟรี (รถท้องถิ่น) ขบวน 445 โดยมาขึ้นที่สถานีสุราษฎร์ธานี
อ่ออ!! ลืมบอกไปครับรถไฟขบวนนี้จะวิ่งเฉพาะส่วนของภาคใต้ เริ่มตั้งแต่ชุมพรครับผม

ได้ตั๋วฟรีมาละ 5 ใบ

รถไฟมาตรงเวลาเลย 09.45 น. ออกเดินทางงงง

ภายในรถไฟก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ BTS แบบ Slow life  นั่งกันตูดแฉะเลยละ สุราษ - พัทลุง 5 ชม.

โผล่หน้าออกไปนิด

แน่นอนอยู่แล้วครับ ขึ้นรถไฟก็ต้องมีของกินขายมากมาย พวกเราก็ไม่พลาดจัดไปหลายอย่างเลย
มัวแต่กินกันล่ะครับ ไม่ถงไม่ถ่ายละรูป 5555

กินเสร็จและเช็ดปากอันมอมแมมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เดินเก็บภาพไปเรื่อยๆ คั่นเวลา

บรึ๊นนน ๆ  ๆ  ๆ ๆ  ๆ

หนูๆ มองหน้าพี่คิดไรกับพี่รึเปล่า เขิลจุง

นางพ้อยท่าให้ถ่ายรูปให้นิดหน่อย อย่านะอย่ามายั่วพี่

กลับมานั่งที่ เก็บกล้อง หลับบบบ z z Z Z
.
.
.
.
ยังครับ ยังหลับอยู่ z z Z Z
.
.
.
ตื่นล่ะครับตื่นแล้ว ตื่นมาเจอกับภาพครอบครัวที่มีแม่กับลูก ก็แอบคิดถึงบ้านเบาๆ

ลองหันออกไปนอกหน้าต่างบ้าง ว้าววถึงพัทลุงแล้ว
....วิวสองข้างทางใช้ได้เลย สวยๆ

ประมาณบ่ายสามโมง รถไฟก็มาถึงชานชลาพัทลุง

มีเด็กน้อยมายืนรอต้อนรับ แบบหน้ามึนๆ

หลังจากลงรถแล้วก็ไปหาอะไรลองท้องก่อนเลย แถวหน้าสถานีรถไฟนั่นล่ะครับ
.....จัดขาหมูไป 1 จาน

หลังจากนั้นก็เตรียมตัวไปขึ้นเขาอกทะลุ เดินหาที่รับฝากสัมภาระ หาเท่าไรก็ไม่มีสุดท้ายไปฝากไว้ที่ป้อมตำรวจหน้าสถานีเลย 555
พี่ๆตำรวจก็ใจดีรับฝากครับ แต่เห็นหน้าผม เลยถามกลับมาว่า พกระเบิดรึเปล่า -.-

ในส่วนของเส้นทางนะครับถ้าถึงสถานีพัทลุงแล้ว เดินตรงมาตามรางรถไฟเลยครับแล้วจะเจอทางแยกให้เลี้ยวซ้าย
แล้วก็เดินตรงมาเรื่อยๆเลย หลังจากนั้นจะเห็น 7-11 แวะก่อนเลยครับซื้อน้ำซื้อขนมตุน ออกมาก็เดินตรงต่อไป
จะเห็นป้ายชี้เข้าไปอกทะลุเลี้ยวซ้าย ตรงเข้าไปเลยครับไม่ต้องกลัวหลงแต่ทางเปลี่ยวนิดหนึ่ง

มีเป็ดบินนำทางด้วยยยยยยยย

แล้วก็จะเจอทางขึ้นเขาครับ เขาอกทะลุมีบันไดทั้งหมด 1,066 ขั้น เรียกเหงื่อได้เลยล่ะ

ไหว้พระเป็นสิริมงคล หลังจากนั้นก็ขึ้นเขาเลยครับไม่รอช้า ฮึบ!!!

วิวระหว่างขึ้นเขาสวยทีเดียวครับ แต่พอดีภาคใต้ได้รับควันจากอินโด เลยมองได้ไม่ไกลมาก

ตรงนี้จะเป็นทางแยกไปสำนักสงฆ์ครับ แต่ผมไม่ได้ไป

มุ่งขึ้นเขาต่อ ฮุ้ย เล่ ฮุ้ยยย!!

มองลงไป อื้อฮือออออ

ถึงแล้วๆใช้เวลาประมาณ 40 นาที ไหนมองลงไปสิ -_- อะเฮื้อออ

พอถึงยอดจะเจอพระพุทธรูปตั้งสง่าอยู่ครับ เอ้าา!! กราบบบ

นี่ครับ ไฮไลท์อยู่ตรงนี้ที่มาของคำว่า "เขาอกทะลุ" เป็นช่องบะเริ่มเทิ่มเลยยย

หลังจากเสพธรรมชาติข้างบนเป็นเวลาพอสมควรแล้ว พวกเราจึงตัดสินใจลงจากเขาเนื่องด้วยจากความหิวกระหายและแสงอาทิตย์ที่กำลังจะหลบหายไปจากท้องฟ้า ซึ่งขาลงนั้นเราใช้เวลาเพียงไม่นาน โดยลงมาถึงตีนเขาประมาณหกโมงเย็นได้ พักเหนื่อยอยู่ครู่หนึ่งก็ออกเดินต่อไปยังป้อมตำรวจเพื่อที่จะเอาสัมภาระและไปหาอะไรกินที่ตลาดหน้าสถานี
แต่...........................ฝนก็เทลงมา มิได้แดร๊กอะไรเลย

       ส่วนเรื่องที่พักของเราตอนแรกก็หากันให้วุ่นเลยทีเดียว แต่มีพี่ที่มหาลัยให้ความอนุเคราะห์เรื่องที่พักและมื้อเย็น สบายไปเลยย 555

ผมเลยไม่ขออธิบายอะไรต่อไป กด [ Skip ] ข้ามไปตอนเช้าเลยละกันนะครับ ^^สวัสดีเช้าที่แจ่มใส รู้สึกมีแรงเต็มเปี่ยมเพราะเมื่อคืนได้หลับนอนอย่างเต็มที่แถมเช้านี้พี่สาวที่มอบที่พักและอาหารมื้อเย็นให้
ยังใจดีมีคอมโบมื้อเช้าให้ด้วย อิ่มอร่อยกันเลยทีเดียวแถมราคายังไม่แพงด้วยนะครับ (เพื่อนแอบฟังราคาาแล้วบอกมา)
และที่นี่คือ "ร้านติ่มซำ ต้นตำรับ"

ด้วยความถ่อมเนื้อถ่อมตัว และเกรงใจพี่เขาเลยสั่งแต่พอตัวครับ นิดเดียวจริงๆครับ 5555

ชาร้อนก็สวยดี เอ้ย!! อร่อยดี

หลังจากรับประทานอาหารเช้าเป็นที่เรียบร้อยแล้วผมและเหล่าเพื่อนๆก็ออกเดินทางไปไหว้ "พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัตน์จตุรทิศ" หรือ "พระพุทธรูปสี่มุมเมือง" ซึ่งมีอยู่แค่ 4 องค์ในประเทศไทย ถูกจัดสร้างขึ้นตามความเชื่อและโบราณประเพณีของบ้านเมืองที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่จะต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องขอบขัณฑสีมาทั้งสี่ทิศ โดยการสร้างพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศนั้นเป็นการสร้างพระพุทธรูปแบบ "จตุรพุทธปราการ" กล่าวคือเป็นการนำเอาวัดหรือพระพุทธรูปเป็นปราการทั้งสี่ด้าน เพื่อปกป้องภยันตรายจากอริราชศัตรู ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย เสริมสร้างดวงชะตาแก่บ้านเมืองและคุ้มครองพสกนิกรทั้งมวลให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข (ขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย)

ซึ่งองค์ที่ประจำอยู่ทางทิศทักษิณหรือภาคใต้ ก็อยู่ที่นี่ที่จังหวัด "พัทลุง"

สวยงามครับสวยงาม

องค์เล็กนะครับ

ดอกไม้หน้าทางเข้าก็สวยดี 5555

แผนที่ครับแผนที่

>>>> สถานีต่อไปยังเป็นการไหว้พระอยู่ครับโดยเราจะไปกันที่ "วัดคูหาสวรรค์" ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากจากพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัตน์จตุรทิศเราจึงใช้การเดินทางด้วยวิธีการเดินครับ กิโลนิดๆ

ก็เรียกเหงื่อยามเช้าได้ดีเลยครับเดินไปกลางแดดร้อน ชั่วอึดใจก็เดินทางมาถึงแล้วครับ
"วัดคูหาสวรรค์" เป็นวัดเก่าแก่ที่เงียบสงบอีกวัดหนึ่งเลย

ในส่วนของตรงนี้ พอเดินเข้ามาแล้วจะเห็นครับ

จุดมุ่งหมายที่เรามาคือไปไหว้พระพุทธรูปภายในถ้ำที่วัดแห่งนี้ครับ ไม่อธิบายละดูรูปเลยละกัน

บรรยากาศอึมครึมดีครับ ฮึๆๆๆ

แถมมีทางเดินลงไปชมหินงอกหินย้อยด้วยนะครับ

สวยงามๆ

เดินชมสักพักก็ขึ้นมาแล้วครับ มันวังเวงมากเพราะมีแต่พวกเราเตรียมพร้อมที่จะไปสถานที่อื่นต่อไป

>>>>สถานีต่อไป "วัดวัง" ซึ่งอยู่ในตำบลลำปำ อำเภอเมือง เป็นวัดเก่าแกของที่นี่อีกวัดหนึ่ง
ผมเลยพาเพื่อนๆไปไหว้พระเช่นเคย.....

การเดินทางไม่ยากเลยครับโดยส่วนใหญ่แล้วเป็นทางตรง

แต่เนื่องด้วยจากระยะทางประมาณ 8 กม.และเราไม่มีรถก็เลยค่อนข้างลำบาก คุยกับเพื่อนๆว่าจะเอายังไงกัน
และในขณะนั้นเอง เป็นช่วงเวลาพอดิบพอดีรถสองแถวลำปำก็ผ่านมา

ค่ารถไปลำปำคนละ 20 บาท แต่ลองคุยกับคุณลุงดูแล้วแกว่าวันอาทิตย์ไม่ค่อยมีรถสองแถววิ่ง
งานเข้าสิครับ ยังต้องไปอีกสองสามที่แล้วขากลับต้องไปสถานีรถไฟอีกจะเดินก็คงไม่ไหว
พวกเราก็เลยจัดการเหมารถไปเลยในราคา 250 บาท ถือว่าถูกและคุ้มครับเพราะคุณลุงจะมารับไปส่งตามที่ต่างๆ
แล้วก็รับกลับไปที่สถานีด้วยก็โอเคเลย เฉลี่ยคนละ 50 บาทเอง

นั่งรถมาเราจะผ่านเขาอกทะลุที่ขึ้นไปเมื่อวานน่ะครับ เห็นมั้ยครับช่องที่เป็นรูๆบนเขา นั่นแหล่ะที่ขึ้นไปเมื่อวาน



วัดวัง



นั่งรถมาสักพักก็ถึงแล้วครับวัดเก่าแก่จริงๆ เงียบมากกกกกก
.....ไปดูภาพภายในกันดีกว่าครับ

ปากทางเข้าวัด อื้อฮือออออ

เราจะเข้าไปชมโบสถ์กันนะครับ อันนี้คือประตูไม้ที่อยู่ที่กำแพงเราก็เปิดเข้าไป
แอ๊ดดดดดด

บริเวณหน้าโบสถ์

บริเวณรอบโบสถ์

เดินชมเสร็จแล้วก็เข้าไปกราบพระภายในโบสถ์

ภายในก็ดูขลังๆดีครับ

ไหว้พระเสร็จแล้วก็เตรียมตัวที่จะไปที่อื่นต่อไปครับ แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นครับ หลังจากเราก้าวออกมาจากกำแพงโบสถ์เท่านั้นล่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หมามันจ้องหน้าอยู่ครับ 5555

เดินออกมาหน้าวัด จะเห็นเจดีย์สีขาวตั้งตระง่านอยู่ครับ

สถานที่ต่อไปเราจะไปชม วังเก่า - วังใหม่ อยู่ไม่ไกลจากวัดวังเท่าไรครับประมาณ 200 ม. (ออกมาจากวัดแล้วเลี้ยวขวา)



วังเก่า - วังใหม่



มาชมกันเลยดีกว่า ไม่รู้จะอธิบายอะไร มาเริ่มที่วังเก่ากันก่อนนะครับ

ขึ้นมาดูสภาพภายในกัน ตามมาๆ

หลอนดีเหมือนกันครับ ขนาดกลางวันนะเนี่ยย

อื้อหือออออ

ภาพรวมถือว่าสวยมากครับ ชอบๆๆ

ชมวังเก่าไปแล้ว มาลองชมวังใหม่กันบ้างดีกว่า

มีท่าน้ำข้างๆด้วย เก๋ๆ

เห็นคุณลุงคุณตากำลังทำมาหากินกันอยู่ ก็แอบถ่ายนิดหน่อย

มาชมภายในวังใหม่กันต่อดีก่าาา

ให้ความหลอนไม่ต่างกัน

หืมมมม หีบในเรืองอาปัติ รึเปล่า

มาดูภาพรวมวังใหม่กันบ้าง ก็สวยไม่แพ้วังเก่าเลยล่ะ

หลังจากเที่ยววังเก่าวังใหม่พอใจแล้ว ก็โทรเรียกคุณลุงสองแถวให้มารับเพื่อที่จะไปที่สุดท้าย ที่นั่นคือ



หาดแสนสุขลำปำ



พอดีวันนี้เป็นวันอาทิตย์มีตลาดน้ำลำปำ เลยพากันเดินเที่ยวจับจ่ายใช้สอยหาของกินกันตามประสา (ตลาดจะมีทุกเสาร์-อาทิตย์นะครับ)

เราต้องข้ามสะพานไปนะครับเพราะว่าตลาดจะอยู่บนเกาะกลางน้ำ ผมชอบสะพานจัง สวยดี

ร้านค้าก็ถือว่าไม่เยอะมาก แต่ก็มีของกินให้เลือกละลานตาเลยทีเดียว

มีร้านยิงตุ๊กตา 20 บาท จัดสักหน่อย

และผลที่ได้คือ......ตัวเดียว T_T

ไม่ลงไม่เล่นละ หิววหาไรกินก่อน

แม่ค้าตะโกนว่า ถ่ายแม่ค้าบ้างก็ด้ายยยยยยย 5555 จัดไป

แล้วก็เลยซื้อมาแก้วหนึ่ง น้ำส้มโดเรมอน

หลังจากนั้นก็นั่งพัก หาของหนักท้องกินกับเพื่อนๆเพื่อรอรถมารับกลับไปที่สถานีรถไฟตอนบ่ายสาม
.......ก็เดินเก็บภาพไปเรื่อยๆฆ่าเวลา

ขอปิดท้ายไปด้วยภาพนี้ละกันครับ เพราะถึงเวลารถมารับแล้ว
.......แล้วก็กล่าวจบทริปไปในตัวเลย ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านมาเยี่ยมชมนะครับขอบคุณครับ

ทริปนี้ไปเป็นเวลา 2 วัน 1 คืน
........อาจจะเล่าเรื่องไม่สนุกก็ต้องขออภัยไว้ด้วยนะครับ ^^

ขอฝากกระทู้อื่นๆของผมไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ 555

หนีความทุกข์ . . . ไปเสพสุขที่ "คีรีวง" หมู่บ้านที่มีอากาศดีที่สุดในประเทศไทย  http://pantip.com/topic/34149779
"แวะเที่ยว...ริมทาง" เสพธรรมชาติบนถนนสาย สุราษฎร์ธานี-พังงา  http://pantip.com/topic/34310176
ใครว่า" กระบี่ ". . . มีดีแค่ทะเล ( ลองไปหนองทะเลกับวัดถ้ำเสือดูดิ่ )  http://pantip.com/topic/34269519
หนีความวุ่นวาย แบกกระเป๋าขึ้นรถไฟ ไปยลโฉมเมืองตรัง . . . แบบชิวๆ  http://pantip.com/topic/34087150
แบกเป้ลุย เขาล้อมหมวก - เขาช่องกระจก 2 วัน 1 คืน แบบสบายกระเป๋า  http://pantip.com/topic/34065031
ฝึกงาน & เที่ยว ไปพร้อมๆกัน ในเวลา 2 เดือนที่ "เชียงใหม่"  http://pantip.com/topic/33861567
ฝึกงาน & เที่ยว ไปพร้อมๆกัน ในเวลา 2 เดือนที่ "เชียงใหม่" (ภาค 2)  http://pantip.com/topic/33968119

ขอบคุณครับ ^^

Sirichai Chaimunkong

 วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 07.58 น.

ความคิดเห็น