ไทเป Chilling trip

ทริปนี้เป็นทริป Outing ชิลๆ เป็นช่วงที่ชีวิตวุ่นวายและเพิ่งออกจากโรงพยาบาลพอดี

เลยไม่ได้พยายามเก็บรายละเอียดอะไรมาก หรือพยายามหาเหตุผลอะไรกับมันนัก

อยากไปพักผ่อนชิลๆ แล้วมันก็ชิลอย่างที่หวังจริงๆ



ทั้งบ้านเมือง ผู้คน และอากาศ

เราไม่รู้คนอื่นไปอากาศเป็นยังไงนะ แต่ตอนเราไปเราขอเรียกไทเปว่าเป็น Rainy town เลยดีกว่า

ฟ้าอึมครึมตลอดวัน หมอกลงหนาบริเวณหุบเขา ฝนตกปรอยๆบ้างบางเวลา

เป็นเมืองแห่งสายฝนจริงๆเลย ถึงอากาศจะเป็นแบบนี้แต่แปลกที่เรากลับรู้สึกอบอุ่นเล็กๆ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สำหรับเพื่อนๆที่อยากอ่านแบบเต็มและติดตามทริปอื่นๆ

สามารถอ่านและติดตามได้ที่ blog & page ด้านล่างนะคะ

https://www.facebook.com/mymithuna27

http://www.mithuna27.com



First Night in Teipei


เรามาถึงกันตอนดึก รถตู้ที่โฮสเป็นคนช่วยหามารอรับอยู่แล้ว

ระหว่างทางมาบ้านโฮสนึกถึงสิงคโปร์เลย บ้านเมืองสะอาดเป็นระเบียบสุดๆ

แต่พอเข้ามาในเขตชุมชนปุ๊บ กลายเป็นเหมือนหมู่บ้านมารุโกะอย่างงั้น

ทางมันแคบๆ รถก็ดูจิ๋วๆ น่ารักไปหมด



Jimmy, the host

โฮสชื่อจิ๋มมี่ ไม่ระบุเพศแน่ชัด แต่เจ๊จิ๋มแกจะมีเอกลักษณ์ชัดเจนมากจาก Outfit ของแก

จิ๋มมี่เป็นผู้ชายขาวตี๋แบบฉบับหนุ่มไต้หวัน พูดภาษาอังกฤษสำเนียงน่ารักๆแบบอาม่าอาเจ็ก

ใส่เสื้อแขนกุดโชว์แขนขาวๆ กางเกงบอลพริ้วๆ ใส่แว่นตาอันนึง แต่ที่เด็ดสุดคือ กระเป๋า!

กระเป๋าแกจะเป็นกระเป๋าที่ได้ฟรีจากการซื้อ Laptop ซึ่งด้านนึงขาดรุ่งริ่งออกมาประมาณสิบเซ็นได้ Cool~



เจ๊พาเราไปกินก๋วยเตี๋ยว ก็อร่อยดีนะ แต่ไม่พีค ยังไม่ recommend

โดยเจ๊เป็นคนสั่งเป็นภาษาจีนให้ ไม่งั้นบอกเลยว่าลำบากกว่าจะเข้าใจกัน

เส้นก็มีให้เลือกเป็นวุ้นเส้น เส้นอุด้ง เส้นหมี่ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ น้ำซุปมีทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา พวกเราเหมามาทั้งทะเล

มันก็โอเคหมดยกเว้นหอย หอยเหม็นนน แบบว่าพูดแล้วขมคอขึ้นมาเลยเนี่ย

ต้องขอโทษเพื่อนๆพี่ๆด้วยค่ะ คือบางคนอาจไม่อยากให้เห็นหน้าในที่สาธารณะ พอเอาอะไรมาปิดแล้วฮาเลย ฮ่าๆ so sorry T-T


ps Jimmy คือคนเสื้อแดงค่ะ



ชอบที่มีกระดาษพับเก๋ๆให้ดึงออกมาใส่เศษขยะ ไม่ต้องวางเลอะเทอะเหมือนที่ไทยแค่ไอ้กระดาษแค่เนี้ย มีแล้วชีวิตดีขึ้นเลยอ่ะ ทำไมเมืองไทยไม่ทำกันนะ (หรือเปลืองกระดาษ?)Homestay


ในที่สุดก็ได้เข้าห้องพัก จิ๋มมี่พาไปที่ดึกแถวโทรมๆ ขึ้นไปด้วยทางเดินแคบๆถึงชั้น 4 ไอ้เราก็ เอ้อ อะไรก็ได้อ่ะ นอนได้หมดละวินาทีนี้ แทบจะทิ้งดิ่งลงสลบกับพื้นถนนละ



แต่พอเปิดลูกกรงเล็กๆตรงหน้าบันไดนั่งเข้ามาเท่านั้นแหละ ก็พบว่าด้านในใช้พื้นที่ได้ดีมาก แบ่งเป็นห้อง 5 ห้องมีทางเดินด้านหน้าเชื่อมกัน ดูอบอุ่นและน่ารัก น่านอนเป็นที่สุด ที่พักถูก ห้องก็ดี๊ดีย์ ทุกห้องมีห้องน้ำส่วนตัวขนาดถือว่าใหญ่ และมีเครื่องซักผ้าให้ทุกห้อง มีตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า ทีวี ไดร์เป่าผม เครื่องกดน้ำเปล่าร้อน,เย็น ซิ้งค์ล้างจาน และ DVD ให้ดูฟรีจำนวนหนึ่ง



ps. ที่พักเราคือ Central cozy apartment by designer! Chángshòu Street Sanzhong District, 241 Taiwan เจ้าของชื่อ จิมมี่ : ) แนะนำเว็บที่เราใช้ตลอดเวลาไปต่างประเทศ Airbnb เดี๋ยวนี้คนคงรู้จักกันดีแล้วล่ะ

นอนห้องละ 2 คน เก๊านอนกับรุ่นน้องอีกคน ห้องก็เรียบร้อยตามประสาสาวๆ (เหรอ..)


เอาจริงๆมันดีกว่าที่เห็นมากนะ คือง่วงเลยถ่ายมาแค่มุมนี้จิตใจจดจ่อแต่กับเตียงเท่านั้นจริงๆ T-Tเดินเล่นๆ

เดินเล่นแถวบ้านกันดูความนั่ลลัคของตรอกแคบๆที่น่าจะสกปรกแต่ดันสะอาดสะอ้าน (แต่บางทีก็มีสิ่งที่ควบคุมไม่ได้เช่น poo หมา) จากที่พักเมื่อวานก็ทำให้เรามองที่อยู่อาศัยที่นี่เปลี่ยนไป ได้แต่คิดว่าภายในบ้านเล็กๆพวกนี้ ด้านในจะน่ารักกันขนาดไหนนะ

Every single space!..



is a precious space.

ในย่านชุมชน การจอดรถนี่นึกว่าไม่คิดจะเอาออกมาใช้กันอีกแล้ว

แม้แต่เซนติเมตรสุดท้ายก็ยังเอาอ่ะคิดดู แม้รถจะคันเล็กๆกัน แต่ใช้ที่จอดรถกันประหยัดมากอ่ะ

กว่าเราจะเข้าใจนาย.. กว่าเราจะเข้าใจกัน


การสื่อสารอันยากลำบากของที่นี่ ทำให้เราได้ใช้สกิลเกมส์ใบ้คำตอนเด็กๆอีกครั้ง.. จะไปไหน ต้องชี้ map เอา ชัวร์สุด ภาษาอังกฤษอย่าหวังมากว่าจะได้ใช้ Grammar ลืมไปได้เลย เรียนมาจากไหน คืนครูไปให้หมด ขนาดจะบอกว่าเอาเบอร์เกอร์ไก่ยังพูดว่า Chicken ไม่ได้ ทำยังไงน่ะเหรอ ก็ตีปีกใส่เขาเสะ ชิคเค่นๆ ยูโน๊วๆ (ตีปีกๆ) วินาทีนี้ภาษามือ ทักษะการเต้นประกอบเพลงตอนอนุบาล ทักษะการวาดรูป ทักษะการเล่นเกมส์ใบ้คำ ขุดมาใช้ให้หมด

Taiwanese


คนไต้หวันน่ารักดีนะ หมายถึงการให้ความช่วยเหลือนะ เค้าพูด eng ไม่ค่อยได้กันก็จริงแต่เค้าพยายามจะช่วยเรามากๆ ยังไม่เจอพนักงานที่ทำหน้ารำคาญที่เราสื่อสารกันไม่รู้เรื่องเลย อย่างพนักงานที่รถไฟฟ้าคนนี้ก็พยายามอย่างมากที่จะช่วยเรา แม้จะเกิดปัญหาตั๋วไม่พอ เขาก็พยายามบอกเราให้เข้าใจ ว่าเข้าไปก่อนได้เลยแล้วไปเอาที่สถานีนี้นะ อธิบายกันจนกระจ่างคิดไม่ออกว่าจะไปไหน ให้มองมาที่ฉัน..



ฉันในที่นี้คือ 'ตั๋วรถไฟ'

มันจะมีรูปการ์ตูนโนเนะๆของอะไรเด่นๆในไทเป

เห็นไม๊ๆ วัดหลงซาน ชาไข่มุก กระเช้าลอยฟ้า แช่น้ำร้อน นวดกดจุด ไก่แผ่นยักษ์ และตึก101

ใช้ติ๊ดขึ้น Bus ก็ได้นะใบนี้

เรื่องของรถไฟฟ้า


ที่นี่ชอบขีดเส้นงอๆไปด้านข้างให้รอคิวกัน ก็เป็นระเบียบดี แต่เค้าจะไม่รอคนออกก่อนแล้วค่อยเข้าเหมือนของเรานะ ส่วนใหญ่ที่เจอจะเข้าทางนึง ออกทางนึง พร้อมๆกัน

ส่วนด้านในรถ ให้ระวังอย่างเดียวคือ 'เก้าอี้สีแปลก' ถ้าเผลอไปนั่งเก้าอี้ที่สีแปลกกว่าตัวอื่นๆล่ะก็ ระวังโดดมนุษย์ป้า มนุษย์อาม่าอากงบ่นเอา(แบบเรา)แน่ๆ เพราะมันเป็นที่เฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ คนท้อง และผู้พิการจ้าาา


อดคิดถึงสิงคโปร์ไม่ได้จริงจริ๊งง ดูวิวดิ ยิ่งมองยิ่งคิดถึงGu Gong National Palace Museum


พิพิธภัณฑ์กู้กง ใครไม่ชอบเดิน mesium ก็ skip part นี้ไปได้เลยนะ

เอาจริงๆใครไม่ได้อยากรู้ความเป็นมาและประวัติบ้านเมืองเขา ไม่ต้องมาหรอก คนไม่อินยังไงก็ไม่อินอ่ะ

ส่วนเรา เราค่อนข้างจะชอบเดินมิวเซียมนะ ไป NYC, DC ก็ไปเดิน musieum มาเป็นสิบๆที่

ชอบประเทศที่มีประวัติศาสตร์จริงๆให้จดจำและเรียนรู้สิ่งที่ดีและสิ่งที่พลาด ในต้นตอและศิลปะวัฒนธรรมความเป็นมา

ถ้าในเรื่องของ Asian Art ที่เราค่อนข้างชอบใช้เวลาดูคือภาพวาดจีนที่วาดถึงความเป็นอยู่สมัยก่อน

โดยเฉพาะแผ่นยาวๆหรืออันที่มีรายละเอียดเยอะๆ เราจะชอบดูว่าเขาวาดเรื่องอะไรอยู่ คนกลุ่มนี้กำลังทำอะไร เขาคือใคร

มันน่ารักและสนุกดี นักวาดบางคนก็จะแทรกอะไรตลกๆลงไปในภาพด้วย

อย่างเช่นภาพงานวัด มีคนชกกันในงานวัดด้วย มีหอหญิง มีโจร อะไรแบบนี้ เพลินดี



ที่นี่เค้าโชว์ Asian Art สมัยราชวงศ์จีนซะส่วนใหญ่ ข้าวของเครื่องใช้ ภาพวาด งานเขียน ให้เห็นถึงความเจริญในสมัยนั้น

ค่อนข้างเด่นเรื่องหิน เอาหินมาทำเป็นรูปทรงแปลกๆ ความละเอียดอ่อนของการสกัดหิน



item เด็ดที่คนต่อแถวยาวมากเพื่อเข้าไปดูคือ หยกผักกาดขาว สมัยราชวศ์งชิง

แกะสลักจากหยกสองสีที่หายากให้เป็นรูปผักกาดขาวที่มีความเหมือนจริงมาก และมีตั๊กแตนเกาะอยู่บนใบด้วย

หยกนี้ใช้เป็นของหมั้นในราชวงศ์สมัยก่อน อีกอันคือ หินเนื้อหมู ที่มีความเหมือนจริงมาก

ps. เค้าบอกศักดิ์ศรีเทียบเคียงกับพิพิธภัณฑ์ลูฟที่ฝรังเศสเลยน้าา

ถ้าจะดูให้ครบทุกชิ้นจริงๆ (6 แสนกว่าชิ้น) ต้องใช้เวลาถึง 4 เดือนเลยแหละ

ที่นี่ทัวร์มาลงเยอะมาก โดยเฉพาะทัวร์จีน อาม่า อาอึ้ม ไม่ค่อยจะมีวัยรุ่นซักเท่าไหร่


Chiang Kai-shek Memorial Hall


อนุสรณ์ เจียงไคเช็ค บุคคลที่เกิดวันฮาโลวีน ตายวันเชงเม้ง..

สาระจงมา จงมา…

โอเค.. ท่านเจียง คือใคร?? ขอท้าวความไปถึง 'บิดาของชาติ' ดร. ซุน ยัตเซน ผู้ตั้งคณะชาติ(นิยม) พรรคก๊กมินตั๋ง ที่เป็นผู้บุกเบิกการปฏิวัติประชาธิปไตยในจีน แต่ต้องมาเสียชีวิตไปก่อนที่จะได้เห็นผลของการปฏิวัติที่ตัวเองทุ่มเทมาทั้งชีวิตสำเร็จ



ส่วนท่านเจียงนั้นก็คือจอมพลของคณะชาติ ที่สืบทอดอำนาจต่อมา และพยายามรวบรวมอำนาจที่กระจายอยู่จากพรรคต่างๆ ต่อมาแพ้สงครามกลางเมืองให้กับพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่นำโดยเหมาเจ๋อตุง จนต้องหนีไปตั้งรัฐบาลแห่งชาติอยู่ที่เกาะไต้หวัน และได้เป็นประธานาธิบดีคนแรกของไต้หวัน จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐจีน หรือ ประเทศไต้หวัน จึงเป็นบุคคลสำคัญที่ได้รับความเคารพรักจากคนไต้หวันตลอดมา



การเดินทางก็มาลงสถานี Chiang Kai-shek Memorial Hall เลย สะดวกม๊าก บริเวณเดียวกันนี้จะประกอบด้วย อนุสรณ์เจียงไคเช็ค, โรงละครแห่งชาติ และ โรงคอนเสิร์ตแห่งชาติ อยู่ด้วยกัน มาไทเป 3 วันนี้ Cloudy มากก ฟ้าไม่สวยเลยซักวัน อากาศขมุกขมัว เลยถ่ายรูปออกมาได้หม่นๆแบบนี้ ทำใจ~

National Theater


ด้านหน้าฝั่งติดถนนจะเป็นโรงละครแห่งชาติ หลังคาสีส้ม ด้านในทำเป็นชั้นๆสีเขียว

National Concert Hall


ตรงหน้าลานโรงคอนเสิร์ตนี่แหละที่คนจะชอบมาทำกิจกรรมกัน จัดบูธซ้อมเต้น ออกกำลังกาย เป็นพื้นที่เอนกประสงค์ดีจริงๆ

ประตูชัยด้านหน้าที่เขียนเป็นภาษาจีน แปลได้ว่า “Liberty Square"


ส่วนใหญ่คนจะถ่ายรูปจากด้านนอกประตูชัยเข้ามา เพราะจะมองเห็นอนุสรณ์เจียงไคเช็คพอดี (ps ด้วยความขี้เกียจ เราดันถ่ายจากข้างในออกไป)

Maokong Gondola


นั่งกระเช้าคริสตัลขึ้นภูเขาที่เหมากงกัน เริ่มจาก นั่ง monorail ไปลงสถานี TAIPEI ZOO

ถึงแล้ว


จากสถานีก็ลงเดินอีก 700 เมตรก็ถึงละ FYI * ที่นี่ปิดทุกวันจันทร์นะ *

ด้านล่างนี่คือจักรยาน Ubike จักรยานให้เช่าปั่นเล่นชมเมืองแต่ต้องมีมีเบอร์โทรศัพท์กับบัตร EZ card เพราะต้องใช้รหัสมันเพื่อเช่าจักรยาน (ใครจะขึ้นเขา XiangShan ไปดูวิวตึก 101 ก็มักจะเช่าจักรยานแบบนี้แหละค่ะ)

กระเช้าสองแบบ


หลังซื้อตั๋วด้านล่างแล้วก็ขึ้นมาต่อคิวขึ้นกระเช้ากัน กระเช้าจะมีสองแบบ แบบธรรมดา กับแบบคริสตัล (พื้นใสมองเห็นด้านล่าง) ราคาต่างกันนิดหน่อย แต่ไม่แพงเลยขึ้นไปสถานีบนสุดก็ประมาณ 100 บาทเท่านั้น ต่อคิวเป็นสองแถวคือแถวกระเช้าธรรมดากับแถว คริสตัล ตอนเราไปมีแก๊งคุณตา คุณยายจูงมือกันมาขึ้นกระเช้า น่ารักมากๆ : )

View from Crystal Gondola


สถานีที่กระเช้าไปจะมีทั้งหมด 4สถานี ราคาต่างกันไป แต่อย่างที่บอก ขึ้นไปบนสุดก็แค่ไม่เกิน 100 บาท คุ้มสุดๆ แต่ละสถานีก็มีสถานที่เด่นๆต่างกันไป มีสวนสัตว์ วัด และร้านน้ำชา The must ของที่นี่คือร้านน้ำชาด้านบนสุด จะมีร้านขายของกิน คาเฟ่ และร้านน้ำชาน่ารักๆ เอาแค่วิวก็คุ้มละจริงๆแล้ว ถ้ามาวันที่แสงดีกว่านี้ก็คงจะดี ลมเย็นๆพัดเข้ามาทางช่องลม สบายดี



จากตรงนี้มองเห็นไทเปทั้งเมืองเลย เห็นตึก 101 อยู่ไกลๆด้วย ถ้าเอากล้องโปรไปถ่ายจากมุมนี้จะสวยมาก (ประสิทธิภาพกล้องเราทำได้แค่นี้จริงๆค่ะ ซอรี่ 5555)

The last station


เราขึ้นไปสถานีสุดท้ายแล้วกะเดินลงกัน ข้างบนลมเย็นมากก คล้ายๆหมู่บ้านย่อมๆ มีร้านขายอาหารโลคอลคิ้วท์ๆทางซ้ายมือส่วนอีกด้านเป็นร้านชา เพราะหมู่บ้านนี้เขาปลูกไร่ชากันเลยทำเป็นนร้านชาซะเยอะ ถ้ามีเวลาเราว่าลองมาเดินชิลๆที่นี่ซักวันนึงก็ถือเป็นวันที่คุ้มอยู่นะคะ มันต้องใช้เวลาเดินอยู่เหมือนกัน



ขนมหวานอร่อยดี ไอติมอะไรพวกนี้ แต่อาหารที่ขายทางด้านซ้ายเราว่า @#$%^&* สตันน์อ่ะ.. เอาเป็นว่าที่ชิมๆมา อร่อยอยู่อย่างเดียวคือมันเผา.. นอกนั้นคือบับ มันไม่ใช่อ่ะ ส่วนพวกคาเฟ่อะไรแบบนี้ปลอดภัยค่ะ เซฟๆ ไม่ค่อยมีของรสชาติไม่อร่อย แช๊มกินติมแล้วบอกว่าอร่อย เก๊ากินมะได้เพราะท้องไม่ค่อยดี เพิ่งเข้าโรงบาลเพราะทางเดินอาหารติดเชื้อ เลยกินอะไรนมๆไม่ได้ เจี๋ยจัยยยย T-T

แล้วเราก็กลับกันโดยที่ไม่ได้เดินเล่นเลยเพราะอากาศไม่เป็นใจ ฝนตกปรอยๆ ไม่เหมาะกับการเดินเล่นเลยTAMSUI STATION


ต่อจากตอนเช้า ที่ขึ้นกระเช้าไปแล้วต้องลงมาเพราะฝนตก เราจะไป Fisherman wharf กัน เลยนั่งรถไฟมาที่สถานี TAMSUI เพื่อมาต่อ Bus ไป จะบอกว่าถ้าเวลาเหลือ นั่งมาลงที่นี่แล้วเดินเล่นก็ชิลดี โดยเฉพาะตอนเย็นๆจะมีลานทำกิจกรรมของคนที่นี่อยู่ใกล้ๆ Bus station มีเด็กมาซ้อมเต้น มีคนมานั่งวาดรูป มีสวนอยู่ด้านหลัง มีร้านรวงอยู่บ้าง ซึ่งเดินแล่นแล้วน่าจะเพลินๆดี

Fisherman Wharf


ต่อ Bus สาย R26 จากสถานี TAMSUI เมื่อกี๊มาลงที่ Fisherman wharf ได้เลย

ที่นี่เหมือนยังสร้างไม่เสร็จดี แต่โดยรวมก็เป็นที่เดินเล่นที่ดี ถ้ามากับคนรักแล้วซื้อหนมมานั่งชิลๆที่ทางเดินด้านบนก็โรแมนติกอยู่ อากาศเย็นสบาย

Walk way


ทางเดินด้านบนเป็นอะไรที่ชิลลล มาเดินเล่นนั่งเล่นรับลมบนนี้ได้เลย แต่นอกนั้นก็ไม่มีอะไรให้ทำละนะ นอกจากลงไปหาอะไรกินด้านล่าง ซึ่งเราแนะนำว่ามาเดินชิลๆแล้วไปนั่งกินอะไรที่บริเวณใกล้ๅตึก 101 จะเพลินกว่า คนคึกคักกว่า หรือถ้าอยากใช้เวลาคุยกันเงีบยๆ ตรงนี้ก็เหมาะละล่ะ

HOT-STAR


Large fried chicken



มานี่ต้องกินไอ้ไก่ทอดแผ่นใหญ่ๆนี่ให้ได้ กินคนเดียวหมดนี่เมพมาก (ซึ่งเรากินหมด ฮ่าๆ) ชิ้นนึงมันกินได้สองคนเลย เก็บท้องไว้กินอย่างอื่นด้วยดีกว่า

ให้เขาใส่ผงปาปริกามาให้หน่อยด้วยก็จะอร่อยดี ไม่งั้นจืดไปหน่อย ร้านจะอยู่ใกล้กับบันได้ขึ้นไปเดินเล่นข้างบนเลย

Around 101 building


ปิดท้ายวันนี้ด้วยการหาร้านนั่งกินเบียร์กัน

ใกล้ๆตึก 101 แถวๆโซนโรงหนัง V show จะมีห้าง ร้านค้า ร้านนั่งกินดื่มให้เลือกเพียบเลย

ถ้ามาหาที่ชิลกันกับเพื่อนๆก็มาแถวนี้ก็ได้อาหารอร่อยดี จะเดินช๊อปหรืออะไรก่อนก็ได้ แล้วมานั่งจิบเบียร์สบายๆ

จบไปอีก 1 วันด้วยบทสนทนาที่ดี ทำให้เราได้รู้จักกันมากขึ้นอีก : )



แต่ตรงนี้จะราคาแพงหน่อยนะ มันรอบๆที่ท่องเที่ยวก็จะแพงงี้ ถ้าอยากถูกๆชิลก็แนะนำพวก night market

แถว Ximending จะถูกกว่านี้หน่อย

Yehliu Geopark & Chiufen (the lovely) villege


วันนี้ออกเดินทางโดยรถตู้ ซึ่งขนาดใหญ่เหมือนรถทัวร์เลย (จิ๋มมี่เป็นคนติดต่อให้อีกแล้ว น่ารักมาก)

นั่งออกมาจากตัวเมืองที่สะอาดดูเป็นระเบียบได้นิดนึงก็เป็นภูเขาแล้ว ซึ่งเอาจริงๆ ขนาดต้นไม้ยังดูเป็นระเบียบเหมือนโดนจับวางเลยอ่ะ

Wanli town


มาถึงเมือง Wanli แล้ว เป็นเมืองชาวบ้านๆเหมือนหมู่บ้านชาวประมง เรียกได้ว่าเป็นเมืองบ้านนอก แต่เป็นบ้านนอกที่โคดจะดูสะอาด

Yehliu Geopark


ขอเรียกว่า เย่หลิว หินประหลาด ฮ่าๆ

เป็นหนึ่งใน the most famous wonders of the world เลยน้า

หินพวกนี้เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเล หินที่ป๊อปที่สุดจะเป็นอันที่มีคอคอดเล็กมากเหมือนจะหักอยู่แล้ว

ซึ่งเขาจะเอาหินเล็กๆมาล้อมรอบๆไว้แล้วให้นักท่องเที่ยวต่อแถวเข้าไปถ่ายรูป



ด้านซ้ายนี่คือหินที่ป๊อปที่สุดค่ะ คนต่อคิวถ่ายรูปเต็มเลย ส่วนเราน่ะเหรอ อ้อมมาถ่ายข้างหลังก็พอค่ะ จบ ความพยายามในการต่อแถวไม่พอจริงๆค่ะ



ขึ้นมาดูวิวจากด้านบนก็ชิลดี ลมเย็นมาก มีละอองทะเลพัดเข้ามาหน่อยๆ

ที่นี่มีเสื้อกันฝนขายถูกๆอยู่ด้านนอกซื้อเผื่อๆเข้ามาก็ได้เพราะฝนตกบ่อย แล้วยังละอองทะเลอีก ถ้าเอามาเองได้ก็จะดีค่ะ เพราะบางเจ้าจะมีอะไรเหนียวๆติดมือ มีกลิ่นพลาสติกที่ไม่โอเคด้วย

Chiufen Villege


เราชอบที่นี่มากสุดในไทเปละ มากพอๆกับหมู่บ้านชาที่ต้องนั่งกระเช้าขึ้นไปเมื่อวาน มันน่ารักจัง

จิ่วเฟิ่นนี่เป็นหมู่บ้านโบราณ ทางเป็นทางคดเคียวขึ้นไปบนเขา มีวัด มีของขาย

ตรงนี้ต้องนั่งแท๊กซี่เข้ามาเพราะรถเมลไม่สามารถเข้ามาได้

ps.ฝนยังคงตกตลอดเวลาในการเดินเล่นที่นี่

Lovely Landscape


ขอยอมรับเลยว่าชอบความสะอาดและ Landscape ของที่นี่มากๆ เราหมายถึงโดยรวมนะไม่ใช่แค่หมู่บ้านนี้

ด้วยความที่ Landscape เขาเป็นเกาะ เป็นหุบเขา ภูเขา มันเลยเป็นพื้นที่ขึ้นๆลงๆ เลี้ยวลดคดเคี้ยว และประกอบกับความสะอาดและการจัดวางตึกอาคาร บ้านช่อง มันทำให้ดูน่าร๊ากน่ารัก ยิ่งในเมืองตรงที่มีทางขึ้นลงเยอะๆ (ex. ตรง Beitou Hotspring อ่ะ) จะน่ารักมาก เหมือนในการ์ตูนเลย แล้วยิ่งอากาศแบบนี้ยิ่งดูฝันๆเข้าไปใหญ่ ชอบจัง ถึงแม้จะทำให้ลำบากและถ่ายรูปไม่สวยก็ให้อภัย

The village


เดินเข้ามาข้างในหมู่บ้านก็มีของขาย ใครที่ชอบส่ง Postcard ในนี้ก็มีขาย แล้วก็มี stamp ให้เลือกหลายลายหลายราคาด้วย ฟินนน ขนมก็อร่อย ไดฟุกุเต็มเลย อร่อยด้วย มีหลายไส้ให้เลือกมากๆ ไส้แปลกๆก็เยอะ เราชอบที่เป็นสีเขียวข้างในไส้ถั่วแดงกับครีม นุ๊มมม ฟินนนน~

ขนมไอ้นี่



คือขนมอะไรไม่รู้แต่ขายดี คนต่อคิวแน่นเลย เขาเอากบไสไม้ ไสถั่วก้อนเหลี่ยมๆที่เหมือนถั่วตัด ออกมาเป็นฝอยๆผงๆ แล้วเอามาก่อกับแป้งบางๆ ใส่อะไรไม่รู้ผสมลงไปอีก ที่นี่ขนมอร่อยเยอะมากก รักที่นี่สุดในไทเปละเรื่องของกินเนี่ย

Don't forget


มาถึงจิ่วเฟิ่นแล้วก็อย่าลืมขึ้นไปข้างบนมีร้านน้ำชาให้นั่งมองวิว เห็นวิวทั้งเมืองเลย

เราว่าครั้งหน้าถ้ามีโอกาสมาอีกอาจจะมาพักที่นี่ซักหน่อย บรรยากาศตอนเทศกาลตอนกลางคืนคงน่ารักดี

แล้วก็กลับกันเถอะ การเที่ยวท่ามกลางสายฝนนี่มันเหนื่อยเป็นสองเท่าจริงๆนะOn the way back

สรุปนะ..



Where to go

เราแนะนำขึ้นกระเช้าที่ Maokong Gondola แล้วใช้เวลาเดินลงมาเรื่อยๆ

ไป Beitou แช่ Hot spring ซักหน่อย

แล้วเดินลงมาข้างล่าง Shida night market กินเสี่ยวหลงเปาเจ้าอร่อย

Spend the night at Fisherman wharf กิน ไก่ทอดแผ่นยักษ์

เข้าตึก 101 ไปเดินเล่นให้ได้ฟิลแบบว่ามาถึงแล้ว จะขึ้นดูวิวหรือไม่ดูก็ได้แล้วแต่

ใกล้ๆจะมีโรงหนัง V Show บริเวณนี้เหมาะเดินเล่น ช๊อปปิ้ง กินเบียร์ชิลๆ ดูผู้คน

(แต่ตรงนี้ราคาแพงหน่อยนะ)

เดินเล่นที่ Ximending 'ซิเหมินติง' (The Harajuku district of Taipei)

ที่จะมีตึกแดงสวยๆอยู่ดึกนึงเป็นเอกลักษณ์ (เรายังไม่พบอะไรอร่อยเช่นกัน)

ไหว้ขอพรที่ วัดหลงซาน Longshan และ วัดเบ๋าอัน Bao'An Temple

ใครชอบประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ให้ไป National Palace Museum

กับ Chiang Kai-shek Memorial Hall

ขึ้นเขา XiangShan ไปดูวิวตึก 101



นั่งรถออกไปนอกเมือง

ไปเสพความคิ้วท์ของหมู่บ้านโบราณ Chiufen villege

อาจจะแวะไปดู one of famous wondersหินประหลาดที่ Yehliu Geopark ก่อนก็ได้



ไกลออกไปอีกที่ต้องจองรถไฟไป

Taroko Gorge หนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของเอเชีย ทัศนียภาพสวยงามเกินคำบรรยาย

(บรรยายไม่ได้จริงๆเพราะเราไม่ได้ไป จองรถไฟไม่ทัน ใครจะไปให้จองไปก่อน มันเต็มเร็วมาก)

ดูพระอาทิตย์ขึ้น ล่องเรือชมทะเลสาป Sun moon lake ไปต่อจาก Taroko gorge เลยก็ได้

เพราะมันอยู่ตอนกลางของเกาะนู่นแน่ะ เลย Tarokoมาอีก

มาเช้าเย็นกลับจะเหนื่อยไปหน่อย และอาจไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

ค้างซัก 1 คืนกำลังดี รอดูพระอาทิตย์ขึ้นชิลๆ



What to eat

สำหรับเรา

อาหารอร่อย(หายาก)มากกก ที่อร่อยคือเสี่ยวหลงเปา ไอติมที่หมู่บ้านชา

ชานมไข่มุกร้านชุนสุ่ยถัง (Chun Shui Tang) ขนมที่หมู่บ้านจิ่วเฟิ่น That's all



What to bring with

เสื้อกันฝน และเปิดเน็ตไปเพื่อ search หารูปประกอบเวลาคุยกันไม่เข้าใจ

น่าจะหมดละล่ะ

บ๊ายบายยยSCHEDULE

22-26 October 2014

22 Take off (night), Check in the home stay

23 Gu Gong National Palace Museum, Chiang Kai-shek Memorial Hall

24 Maokong Gondola, Tamsui station, Fisherman wharf,101 area (Vshow cinema area)

25 Yehliu Geopark, Chiufen villege, Beitou Hotspring

26 Back to Thailand



BUDGET

Air ticket9,520 THB

Travel insurance450 THB

Transportation2,355 THB(แพงตรง mini bus กับรถตู้รับส่งสนามบิน)

Living3,121 THB

Accommodation2,843 THB



Entrance ticket

Gondola ticket100 THB

Yehliu park80 THB

Total18,469 THB

ความคิดเห็น