♫ ♪ ♪ ♫ โรคภูมิแพ้กำเริบจนทนไม่ได้ หมอก็ขอให้หนีจากกรุงเทพไป พี่เลือกมาจังหวัดนี้เพราะเห็นว่าอากาศดีกว่าที่ใด ♫ ♪ ไม่มีเหตุผลอะไรมาก ก็แค่อยากจะพาตัวเองออกนอกเขตกรุงเทพฯ ประจวบเหมาะกับรู้ข่าวว่าดอกเสี้ยวบานที่ลำปาง ทริปนี้เลยมาในคอนเซป ท่องเที่ยวิถีไทย เก๋ไก๋ ในแบบเรา กับชีวิต สายกิน สายชิล และสายสุขภาพ จุดหมายคือ ดอกเสี้ยวบาน ที่บ้านป่าเหมี้ยง อ.เมืองปาน จ.ลำปาง ไม่ไกลเกินเราจะขับรถไปกันเองได้ในเวลา 2 วัน 1 คืน ไปเที่ยวเท่าที่ได้ ตามสภาพ (อีกแล้วเหร๋อ อิอิ)

คีย์หลักของทริปนี้ ดอกเสี้ยวบาน บ้านป่าเหมี้ยง ฟังนกขับขาน ที่ลานกิ่วฝิ่น อุทยานฯ แจ้ซ้อน นครลำปาง แหม่ะ คล้องจองได้ที่เลย เป็นงานประจำปีของที่บ้านปาเหมี้ยง เทศกาลดอกเสี้ยวบาน จัดขึ้นในทุกปีตามช่วงที่ดอกเสี้ยวบาน ประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมติดตามที่นี้ได้นะคะ ชุมชนบ้านป่าเหมี้ยง นครลำปาง

ขับรถไปถึงเช้าที่ลำปาง แล้วก็ไปเปลี่ยนเป็นรถกะบะของเพื่อน เริ่มต้นเดินทาง สถานีแรก "วัดพระบาทปู่ผาแดง" หรือ "วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์" ที่บ้านทุ่งทอง ตำบลวิเชตนคร อำเภอแจ้ห่ม ตั้งอยู่ภายในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท ด้วยภาพที่เห็นคือมีเจดีย์เล็กๆ สีขาวหลายองค์บนยอดเขาสูง และจุดชมวิว 360องศา การเดินทางขึ้นไปบนวัด จะไม่อนุญาตให้รถส่วนตัวขึ้นไป ต้องจอดรถไว้ที่ลานจอดแล้วใช้บริการรถท้องถิ่นชาวบ้าน ไปกลับคนละ 60 บาท หรือเหมาคันละ 600 บาท รถมาส่งถึงจุดเริ่มเดินขึ้นไปสู่ยอดเขาซึ่งทางขึ้นบันได ด้วยระยะทาง 1 กม. ใช้เวลาประมาณ 30 นาที และควรเตรียมน้ำดื่มให้พร้อมนะคะ

สภาพถนนขึ้นมา

จุดจอดรถมีร้านขายกาแฟ ซื้อน้ำจากตรงนี้พกขึ้นไปได้ค่ะ

เริ่มเดินๆ

ทางขึ้นยอดเขาระยะ 800 เมตร

บันไดๆๆ

เห็นภาพนี้แล้ว อดยิ้มไม่ได้ ดูแลกันจนแก่เฒ่า เราไม่ทิ้งกัน :)

สภาพทางเดิน

หากไม่มีใครคอยบอกให้กำลังใจ ก็ให้อ่านป้ายตามทางเดินเรื่อยๆ นะคะ เหนื่อยนัก พักหน่อย ไม่มีคู่ก็อ่านป้ายสร้างกำลังใจเองก็ได้ฟะ ;)

ต้นไผ่ก็ไม่เว้นเนอะคนเรา จะรักกันอะไรเบอร์นั้น

แหมนิดเดียวก็ถึงแล้วเจ๊า...

แวะถ่ายรูปเรื่อยๆ พักเหนื่อยไปในตัว

สำหรับผู้พิชิต การชนะใจตัวเอง คือการชนะที่ยิ่งใหญ่แล้วค่ะ

มาถึงยอดเขาข้างบนวัดแล้วนะ

บริเวณด้านบนแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือทางขวาจะได้ขึ้นไปนมัสการองค์พระธาตุ ซึ่งต้องเดินขึ้นบันไดเล็กๆ ชันๆ ขึ้นไป แต่วิวสวยเป็นอย่างยิ่ง มองเห็นวิวของอำเภอแจ้ห่ม และมองเห็นอีกฝั่งของวัดด้วย

ยอดเขาแห่งนี้มีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่ เป็นที่เคารพบูชาของชาว อ.แจ้ห่ม มาอย่างยาวนาน มองเห็นวิวรอบตัวได้ 360 องศา

ทางเดินไปฝั่งซ้าย

ทางฝั่งซ้าย เรียกว่า ศาลาสวดมนต์ บนศาลาจะมีพระพุทธรูปประดิษฐานให้ได้กราบไหว้กัน จุดนี้เห็นมองเห็นเจดีย์องค์เล็กประดิษฐานอยู่บนยอดเขา

มองเห็นองค์พระธาตุฝั่งด้านขวา

เจดีย์บนยอดเขาเกิดจากแรงศรัทธาของชาวบ้าน ประดิษฐานอยู่บนยอดเขามากกว่า 10 องค์ ภายในบรรจุไปด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่สร้างด้วยแรงศรัทธาของพระสงฆ์และชาวบ้าน ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างยาวนานนับ 10 ปี

เจดีย์ 5 องค์ริมชะง่อนผาหินไกลๆ

>> ไปบ้านป่าเหมี้ยงกันต่อนะคะ ไปให้ทันพระอาทิตย์ตก

จุดนี้ก่อนจะถึงบ้านป่าเหมี้ยง

แวะถ่ายรูปกันก่อนนะ

มีคุณลุงมาเล่นกีตาร์ให้ฟังด้วย พร้อมกับขายสตอเบอร์รี่ แอบมีดรายไอซ์จากกองไฟประกอบการเล่นกีตาร์เพิ่มความโรแมนติค ^_^

มีรถมอเตอร์ไซต์ให้ขี่เล่นและถ่ายรูปได้อีก โชคดีคนไม่ค่อยมี เลยเป็นที่ของเรา ฮาๆ พี่เสื้อเขียวคือเจ้าของรถมาสอนวิธีใช้

สตาร์ทรถได้ก็ไปได้จริงนะ 555+ สนุกเค้าละ

เก๊กสวยกันไป

ผลัดกันเท่ห์

*** ดอกเสี้ยวป่า เป็นดอกไม้ลักษณะ ดอกสีขาว มี 5 กลีบ มีสีชมพูที่กลีบใหญ่ จะขึ้นบนภูเขาที่มีระดับความสูง 1,000 เมตรขึ้นไป มีขึ้นมากที่สุดที่ บ้านป่าเหมี้ยงนี้

คืนนี้เรานอนที่บ้านป้าแดง เป็นโฮมสเตย์ที่มี 2 ห้องนอน คนละ 500 บาท รวมอาหารเย็นและเช้า สนใจติดต่อป้าแดงได้นะคะ ที่เบอร์ 0963540840

แบบว่าลืมถ่ายรูปสภาพบ้านมา แต่ถ่ายรูปป้าแดงมาแทนละกันเนอะ อิอิ

บรรยากาศตอนเช้าที่หมู่บ้าน อากาศดี ขึ้นชื่อได้ว่าปอดเมืองไทย อากาศเย็นสบายทั้งปี ตื่นแต่เช้า เดินเล่นในหมู่บ้าน ชมวิถีชีวิตชาวบ้าน และออกไปวิ่งออกกำลังกายให้หมาวิ่งเห่าตาม ;)

เช้าๆ มีพระมาบิณฑบาตร เราก็ซื้อของใส่บาตร

มีเด็กวัดติดตาม

วิธีและอุปกรณ์แบบบ้านบ้าน

วิ่งออกกำลังกาย เบาๆ

แวะซักกำ กับร้านกาแฟหลักสิบ วิวหลักแสน ^_^ (วิวตรงระเบียงหลังร้านจะมองเป็นลำธารเบื้องล่างที่ไหลมาจากหุบเขาเบื้องหน้า จินตนาการตามเองนะคะ แบบว่าไม่ได้ถ่ายรูปมา หิวจัด อิอิ)

กลับบ้านกินข้าวเช้า ระหว่างเดินกลับก็แวะร้านค้าซื้อของกิน ชาวบ้านก็ให้กับข้าวมากินด้วยบ้าง มาแบบนี้ต้องกินอยู่แบบพื้นบ้านเนอะ

จากนั้นเก็บของก็ลาป้าแดงกลับไปเที่ยวจุดอื่นกันต่อ จากบ้านป่าเหมี้ยงนี้ไปจุดชมวิวกิ่วฝิ่นประมาณ 6 กิโลเมตร ทางเขา แคบและชัน ต้องขับรถด้วยความระมัดระวังนะคะ

กิ่วฝิ่นเป็นเขตรอยต่อระหว่างเชียงใหม่และลำปาง

*** ดอยกิ่วฝิ่น สูงจากระดับน้ำทะเล 1,517 เมตร ถ้าฟ้าเปิดจะมองเห็นทิวทัศน์ได้ถึง 4 จังหวัด ก็คือ ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ และเชียงราย

ไม่มีไรทำก็กระโดดกันไป

ให้สุดๆ นะ

ขอโดดเดี่ยว

ฟ้าขาวเชียว

กลับดีกว่า ฟ้าไม่ยอมใส :)

จากดอยกิ่วฝิ่น เรามุ่งหน้าไป น้ำพุร้อนที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร

แอ่งน้ำร้อน น้ำแร่ที่มีอุณหภูมิสูง ถึง 70 – 80 องศาเซลเซียส สามารถแช่ไข่ให้สุกได้ภายใน 17 นาที

ธารน้ำ จากน้ำตกแจ้ซ้อนไหลมาบรรจบกับธารน้ำร้อน จากน้ำแร่ กลายเป็นธารน้ำอุ่น ที่มีอุณหภูมิเหมาะแก่การแช่ และอาบ ช่วยบำบัดความเมื่อยล้าของร่างกาย ช่วยให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น

พกไข่มาแช่

แช่ไข่ประมาณ 17 นาที ผลที่ได้ ไข่แดงจะสุก ส่วนไข่ขาวจะสุกเหลว

ได้เวลากลับเข้ากรุงเทพฯ แล้วววววว ไม่ค่อยอยากกลับเลยอ่า งอแงขี้เกียจขับรถกลับ อิอิ

เที่ยวแบบวิถีไทย เข้าถึงชุมชน ทั้งวิถีความเป็นอยู่ อาหารท้องถิ่น ช่วยกระจายรายได้ด้วยนะคะ และหวังว่าทริปนี้คงจะสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนออกเดินทางมาเที่ยวไทย เก๋ไก๋ในแบบของคุณนะคะ

... เที่ยววิถีไทยเก๋ไก๋ตามสายที่คุณชอบ ไม่ว่าจะ สายกิน สายบุญ สายชิล สายสุขภาพ ... หรือจะสายหลง ไปให้ถูกจริตของตัวเองและเพื่อนร่วมเดินทางนะคะ :)

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ตามไปพูดคุยกันได้ที่ Facebook เที่ยวแล้วยัง กับ มิตรภาพ : www.facebook.com/welikejourney

#welikejourney #เที่ยวแล้วยัง #เที่ยวแล้วyoung

เรื่องโดย ลิงเปิ้ล | LingPle Mayuree : [email protected]

ถ่ายภาพโดย : ลิงเปิ้ล | LingPle Mayuree , Nawapon Punpeng , Premchai Laolaem , Marut Mailumyad

IG : lingple