เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างนี้ สถานที่ท่องเที่ยวที่ติดอันดับต้นๆในการตัดสินใจ คงไม่พ้น "เกาะหลีเป๊ะ" แน่นอน ก็คงเหมือนกันกับเราทั้ง 4 คน ที่ตัดสินใจเลือกทริปหลีเป๊ะในซัมเมอร์ปีนี้ และแน่นอนเมื่อช่วงนี้เป็นช่วงเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น อาจจะหาของถูกได้ยากมาก เราจึงเลือกทริปนี้โดยการซื้อทัวร์แบบไพรเวทแทน ไม่งั้นแล้ว งบของเราทั้ง 4 อาจจะบานปลายก็เป็นได้ ซึ่งทริปนี้เราซื้อทัวร์จากบริษัท อันดามัน บลู ซี ทัวร์ ในราคาแพคเกตแบบไพรเวท จำนวน 4 คน ๆ ละ 5500 บาท

รายละเอียดของทัวร์ ก็มีตั้งแต่ รับ-ส่งที่สนามบิน ห้องพักแบบแฟมิลี่ของวาริน บีช รีสอร์ท รวมค่าธรรมเนียมทุกอย่างตั้งแต่ไปจนกลับ ได้เรือเที่ยวแบบไพรเวท ดำน้ำเกาะนอกเกาะใน อาหาร 6 มื้อ (มีซีฟู๊ดด้วย 1 มื้อ) มีไกด์ส่วนตัว เราหาทัวร์นี้ได้จากงานไทยเที่ยวไทย แนะนำประมาณนี้นะคะ เดี๋ยวจะหาว่ามาโฆษณา ^^

08/03/60

เราเดินทางโดยสายการบิน AirAsia เที่ยวบินเวลา 14.00 ถึง 15.30 น. คืนแรกเราตั้งใจอยากจะเที่ยวในเมืองหาดใหญ่ก่อน เพราะอยากได้บรรยากาศยามค่ำคืนในตัวเมืองหาดใหญ่ ถึงสนามบินหาดใหญ่ นั่งรถสองแถวสีฟ้าเข้าเมือง คนละ 30 บาท เดินออกมาโบกที่ถนนหน้าสนามบินได้เลย พวกเราเลือกพักที่โรงแรม แปซิฟิก ก็ลงรถสองแถวป้ายตลาดกิมหยงแล้วเดินต่อประมาณ 200 เมตรได้ เข้าที่พักเสร็จก็ลงมาดื่มด่ำบรรยากาศยามค่ำคืนของที่นี้ Hat Yai พร้อมกับชิมของขึ้นชื่อที่มีชื่อว่า "บะกุ๊ดเต๋"



09/03/60

ตื่นเช้า รถตู้มารับที่โรงแรม แปซิฟิก มุ่งหน้าไปยัง ท่าเรือปากบารา เรือออก 11.30 น. จะแวะเกาะตะรุเตา และเกาะไข่ เจอไกด์ตั้งแต่ตรงนี้ เรือเป็นสปี๊ดโบทก์ ใครที่อาการไม่ค่อยถูกกับเรือก็เตรียมยาไว้ด้วยเลยนะจ๊ะ....


เที่ยงตรง ถึงเกาะตะรุเตา ที่นี้ทรายขาวทะเลสวย กราบไหว้ศาลเจ้าพ่อตะรุเตา และเสด็จพ่อรัชกาลที่ 5 ขอพรให้การเดินทางราบรื่น ...

ออกจากตะรุเตาก็มุ่งหน้าไปยังเกาะไข่ พอเรือดับเครื่องยนต์ลุกขึ้นมองออกไปที่น้ำทะเล พูดได้คำเดียวว่า "ขอบคุณธรรมชาติ" น้ำใสมาก ทรายขาวละเอียด โขดหินก็งาม จุดที่มหัศจรรย์ของเกาะไข่ จะเป็น "ซุ้มรักนิรันดร์" ที่เชื่อกันว่า หากใครมาลอดซุ้มนี้ จะสมหวังในความรัก....... ไปลอดกัน ^^


ดื่มด่ำกับความสวยงามของเกาะไข่แล้ว ก็มุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางสุดท้ายของวันนี้ "หลีเป๊ะ" ที่รอคอย ดูน้ำใสๆ เรือสวยๆ กัน...



ถึงแล้วววววววว

"หลีเป๊ะ...."

พักที่ Varin Beach Resort แปลกตากว่าในรีวิวที่ดูมา เพราะทางโรงแรมกำลังปรับปรุงใหม่ มาถึงทานข้าวเที่ยงที่นี้ฟรีตามแพคเกตของทัวร์ เป็นอาหารตามสั่งจานเดียว อยากทานอะไรสั่งได้เลย งานนี้สั่งกระเพราทะเล กับไข่ดาว ง่ายๆ มาลองชิม ปรากฎว่า รสชาติอร่อยมาก ยกนิ้วให้เลย

ท้องอิ่มแล้ว ก็เดินย่อยกันสักหน่อย ดื่มด่ำกับความสวยงาม ยาวไปพร้อมกับรอดูพระอาทิตย์ตกดิน



ลาลับขอบฟ้าจากเราไปแล้ว พรุ่งนี้เช้าพบกันใหม่นะจ๊ะ พระอาทิตย์


ค่ำคืนนี้ สถานที่ที่ไม่ควรพลาดเลย ก็คือ ที่นี้ Walking Street.... ขอเรียกเป็นภาษาไทยว่า ถนนคนเดิน ล่ะกันนะคะ

มื้อค่ำของเราอยู่ที่นี้ "ร้านรักษ์เล" มื้อนี้ยังไม่ใช่อาหารซีฟู๊ด เป็นอาหารพื้นบ้านของภาคใต้ (ฟรี รวมในแพคเกตทัวร์)


Walking Street บรรยากาศไม่ครึกครื้นมาก เสียงเพลงไม่ดังกึ่งก้อง เดินสัมผัสบรรยากาศร้านอาหารทะเล ร้านขายอุปกรณ์ดำน้ำ บาร์ร้านนั่งดื่ม สปา คนไทยกับต่างชาติครึ่งต่อครึ่งได้เลย สำหรับร้านอาหารจะเป็นลักษณะ ให้ลูกค้าเลือกตักชนิดทะเลเอง จะให้ย่าง เผา นึ่ง ต้ม ร้านจะสร้างสรรค์รสชาติให้




10/03/60

เริ่มเข้าสู่โปรแกรมที่ทัวร์โฆษณาไว้จนทำให้เราสนใจเดินเข้าบูธและซื้อมา อาหารเช้าวันนี้ฟรี ทานที่โรงแรม เป็นอาหารแบบบริการตนเอง เมนูก็มีหลากหลายให้เลือก กระเพาะปลา ไข่ดาว (ชอบมาก โด๊บไปเลย) ออมเล็ต สลัดทูน่า ข้าวผัด ผัดหมี่ ข้าวแกง ขนมปังปิ้ง แพนเค้ก กาแฟสด คอนเฟลก น้ำส้ม แตงโม สับปะรด รสชาติยกนิ้วให้อร่อยไม่ต้องปรุง ติดใจฝีมือแม่ครัวทางใต้เลย


สมกับคำว่า "กองทัพต้องเดินด้วยท้อง" เรานัดกับไกด์ไว้ แปดโมงครึ่ง เรือจะออก 9 โมง ช่วงเช้าไปดำน้ำโซนนอก ช่วงบ่ายกลับเข้ามาโซนใน ลงเรือมุ่งหน้าสู่ปลายทาง ระหว่างทางดื่มด่ำบรรยากาศ กลางทะเลอันดามัน...


จุดที่ 1 คือ " เ ก า ะ หิ น ซ้ อ น " ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ...



จุดที่ 2 " เ ก า ะ ไ ผ่ " ที่แรกของการดำน้ำ



จุดที่ 2 นี้ เล่นกันเพลินมาก เกือบจะชั่วโมง ชอบที่ไกด์ไม่ฟิกเวลาเรา คือแบบ ตามใจสุดๆ ไม่มากำหนดเวลาว่าต้องอยู่เกาะนี้เท่านั้น เท่านี้ ไม่เลย ให้อิสระเราเต็มที่ แถมยังพาไปจุดสวยๆ ให้ถ่ายภาพด้วย ยกนิ้วให้อีกรอบ



จุดที่ 3 " เ ก า ะ ด ง " ประทับใจจุดนี้มาก

มาชมภาพใต้ทะเลกันบ้าง...

อะไรเอ๋ยยยย น่าร๊ากกกกก

นี่คือ หอยมือเสือ เห็นตอนแรกนึกว่า หอยเชล 5555+

ดอกไม้ทะเลจ้าา

ว่ายตามตัวสีม่วงๆนี้ไปเลย

จุดนี้เป็นจุดที่ประทับใจมากๆ ถ้าใครได้มา อย่าลืมแวะ เกาะดง กันนะจ๊ะ...



จุดที่ 4 " เ ก า ะ ร อ ก ล อ ย " อ่านว่า (รอ-กลอย)

เป็นอีกจุดที่ชื่นชอบสีของน้ำทะเล ไม่รู้จะใสไปไหน ไม่รู้ว่าหินใต้น้ำคืออะไร อยากจะเอามากรองน้ำที่บ้านกิน ใสมากกกกก จุดนี้ลงเล่นน้ำได้ชิวๆ เลยนะจ๊ะ



จุดที่ 5 " เ ก า ะ ร า วี "

พักกินข้าวเที่ยงที่นี้ ... อาหารข้าวกล่อง (ฟรีตามแพคทัวร์) บรรยากาศเงียบสงบ ทราบขาวละเอียด น้ำใส ลมเย็น เดินเข้าในป่ามีธารน้ำที่ไหลมาจากน้ำตก รู้สึกได้ถึงการพักผ่อน


หลังจากกินข้าวเสร็จพักสูดอากาศจากคลื่นทะเลสวยๆ พี่ไกด์ของเราก็พาเข้าป่า ไปสัมผัสธรรมชาติอันเขียวขจี เล่นน้ำจืดเพื่อให้ร่างกายสดชื่น...

สดชื่นนนน อาการเมาคลื่น เมาเรือ หายได้ ช่วยได้เยอะ ขอแนะนำเลยนะคะ



จุดที่ 6 " เ ก า ะ ย า ง "

ที่นี่จุดเด่นคือ ชมปะการัง ผักกาด

มาชมภาพใต้ทะเลกัน ปะการังผักกาด

ที่นี้ทำให้เราได้รู้จักปลาดาวอีกสายพันธ์ มีชื่อว่า "ปลาดาวขนนก" ตอนแรกที่เห็นนึกว่า เฟริน

ธรรมชาติ สร้างสรรค์สิ่งมหัศจรรย์ จริงๆ .....



จุดที่ 7 " เ ก า ะ หิ น ง า ม "

งามปะล้ำปะเหลือ งามคักงามแหน่ .... งามอิหลีเด้อพี่น้อง อิอิ

ฝากคำเตือนตามป้ายเลย "ห้ามเรียงหิน" นะจ๊ะ.... เนื่องจากว่า ที่ผ่านมาเรียงกันไว้แล้วไม่เอาลงไว้เหมือนเดิม พอน้ำซัดเข้ามา หรือเจอลมพัด หินที่เรียงไว้ก็ล้มกระแทกกัน สุดท้ายหินแตก.... ความงามของหินก็จะลดน้อยลง ช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาตินะจ๊ะ... ถ้าเราไม่อนุรักษ์ไว้ตั้งแต่ตอนนี้ ก็จะไม่เหลือหินงามๆ ให้เราได้ดูอีก....


จุดที่ 8 จุดสุดท้ายของโปรแกรมวันนี้ " ร่ อ ง น้ำ จ า ปั ง "

จุดที่เราจะได้พบกับ ปะการัง 7 สี (มณีเจ็ดแสง) อิอิ

ใครจะไปรู้ว่า กลางทะเลลึก จะมีความสวยงามให้เราได้สัมผัสได้เพียงนี้ ขอบคุณธรรมชาติ จบโปรแกรม 7 จุด ที่รอคอย สร้างความประทับใจได้อย่างมาก หลงรัก ทุกๆที่ ขอบคุณธรรมชาติจริงๆ



กลับมาถึงโรงแรม 5 โมงกว่าๆ พักกายพักใจ นัดไกด์ทานมื้อเย็น 1 ทุ่ม ข้าวเย็นมื้อนี้ก็สร้างความประทับใจกับรสชาติอีกครั้ง มันช่างวิเศษจริงๆ รสชาติอาหารทุกเมนูคือดีมาก ที่ชอบมากคือรสชาติของน้ำจิ้ม ขอชื่นชมฝีมือการทำอาหารของคนภาคใต้จริงๆค่ะ เมนูของพวกเรามี ผัดปลาหมึกพริกไทยดำ ต้มยำกุ้ง ปูย่าง ปลาหมึกย่าง ปลาหางแข็งเผา ผัดผัก และก็ผลไม้แตงโมกับสับปะรด


กินเสร็จก็เดินย่อยอีกตามเคย ก่อนจะกลับโรงแรมก็จัดชาชักกับโรตีของขึ้นชื่อที่นี้ซะก่อน ถ้าไม่ลองก็คงจะมาไม่ถึงหลีเป๊ะ.... คิวยาวมากนะคะ แต่ก็คุ้มค่ากับการรอคอย

ใครสนใจจะนั่งบาร์เอาบรรยากาศชายทะเลต่อ ก็ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ มีเยอะมาก.... เลือกเอาบรรยากาศร้านที่ชอบได้เลย... แต่สำหรับเราแค่เดินเอาบรรยากาศหน้าที่พักก็ดีต่อใจแล้ว.... คืนนี้หลับฝันดี


11/03/60

วันเดินทาง ลาเกาะหลีเป๊ะ.... อาหารเช้าฟรีที่โรงแรม อาหารแนวเดิม เราก็โดปเหมือนเดิม เรือออก 9 โมง นั่งสปี๊ดโบ๊ทกลับท่าเรือปากบารา ก่อนจะกลับขอเก็บความประทับใจเป็นภาพถ่ายแบบทั่วๆไป พร้อมแล้วเอ้า!!! 1...2....โดด

บ๊ะบายยยยยยจ้าาาา "หลีเป๊ะ"


นั่งเรือกลับมาถึงปากบาราเกือบๆ เที่ยง อย่าลืมของฝากที่หาซื้อที่จังหวัดอื่นไม่ได้นะคะ นั่นก็คือ "บุหงาปูดะ" ขนมท้องถิ่นของที่นี้

(รถตู้จะไปส่งที่สนามบินฟรี ตามแพคทัวร์) ขอบคุณไกด์ (พี่ขวัญ) ผู้ใจดีของทริปนี้ ... ไม่เคยขัดใจอะไรลูกค้าเลย... ตามใจให้อิสระมาก ขอบคุณกับการบริการ....


กลับเข้ามาในเมืองหาดใหญ่ประมาณบ่าย 2 ไฟท์กลับกรุงเทพคือ 4 ทุ่มครึ่ง ก็หาที่เที่ยวในหาดใหญ่กัน... ได้ว้อยเชอร์เช่ารถราคาถูกในงานไทยเที่ยวไทยมา ก็ใช้มันวันนี้เลย มีพิกัดอยู่ 2 ที่ คือ "ตลาดกิมหยง" และ "สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่" ได้รถบ่าย 2 ครึ่ง ก็มุ่งหน้า..... หาข้าวกินกันเลยจ้าาาาาา

มันดีมากที่มีรถขับ เพราะกระเป๋าแต่ละคน ... น้ำหนักเบาๆกันทั้งนั้น ไม่ต่ำกว่า 10 โล 55555555+

กองทัพต้องเดินด้วยท้องคะ (แอบถามคนขับรถตู้ระหว่างมาส่งที่สนามบินว่ามีร้านอาหารแนะนำมั๊ย ขออร่อย เป็นอาหารพื้นบ้านของภาคใต้เลย) พี่เขาก็แนะนำร้านนี้เลย อยู่ทางผ่านระหว่างสนามบินเข้าเมืองหาดใหญ่จ๊ะ ชื่อร้าน "เนินขูมทอง"

และนี่คืออาหารที่เราสั่ง ขอบคุณสำหรับการแนะนำ ถูกใจมาก รสชาติอร่อย... ชื่นชมฝีมือการทำอาหารอีกแล้วจ้าา

เดินได้ด้วยท้องจริงๆ อิ่มกันแล้วก็มุ่งหน้าไปยังพิกัดแรกที่เราปักหมุดไว้จ้าาา นั่นก็คือ "ต ล า ด กิ ม ห ย ง"


ถึงแล้ว " ต ล า ด นิ ว กิ ม ห ย ง"

วนหาที่จอดอยู่ 2 รอบ โชคดีมาก พอจะได้ ได้หน้าทางเข้าตลาดเลย.

ไม่ขอบรรยายสินค้านะคะ อยากรู้ต้องไปเอง อิอิ

หลังจากที่เราทำการช๊อปกันอย่างสนุกสนาน เวลาก็ล่วงเลยไปเกือบจะ 4 โมงเย็น รีบเหยียบเครื่องไปสวนสาธารณะกัน เพราะว่ากลัวจุดขายตั๋วจะปิดเสียก่อน สุดท้ายเราทำได้.... เรามาทันเวลาขายตั๋วนั่งกระเช้าจ้าาาา



พิกัดที่สองของเรา " ส ว น ส า ธ า ร ณ ะ เ ท ศ บ า ล น ค ร ห า ด ใ ห ญ่ "

ข้ามมาอีกฝั่ง กราบไหว้พระพรหม


พอลงจากกระเช้าก็ลงมากราบพระพุทธมงคลมหาราช

หลังจากนั้นก็มานั่งรับวิวเมืองหาดใหญ่ พร้อมกับรอส่งพระอาทิตย์ลาขอบฟ้าไป ก่อนที่พวกเราจะลาเมืองหาดใหญ่ในวันนี้

ขอบคุณผู้สร้างสรรคบรรยากาศดีๆแบบนี้ไว้ในตัวเมือง ขอบคุณ นครหาดใหญ่ ที่ทำให้เราได้พักผ่อน เก็บภาพสวยๆ ขอบคุณจริงๆ ก่อนกลับวันนี้ ถ้ายังไม่ได้ลอง ไก่ทอด ก็คงไม่ถึงหาดใหญ่.... ขอส่งท้ายทริปนี้ ด้วยภาพ ไก่ทอดหาดใหญ่ ที่อร่อยสมชื่อเจ้าของเมนูนี้นะคะ .... แล้วพบกันใหม่ ในทริปหน้า....

.......................................................................Goodbye Hat Yai ..................................................................



จ๊ะจ๋า - ตาตีบ

 วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.23 น.

ความคิดเห็น