.. หากเหนื่อย ก็จงหาที่ผ่อนคลาย .. สำหรับผมแล้ว ที่ไหนก็ได้ที่ทำให้สบายใจผมก็จะไปที่นั่นแหละ ทะเลจึงเป็นคำตอบสำหรับการเดินทางในครั้งนี้ ไม่ไปไหนไกลแค่ .. เกาะช้าง .. ก็พอ
การเดินทางในครั้งนี้ก็เพื่อต้องการพักผ่อนอย่างจริงจัง เพราะปกติจะเน้นเชิงท่องเที่ยวซะมากกว่า แต่ก็มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าเหมือนเดิมนะครับ คือจะออกเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวจากกรุงเทพฯ ประมาณเที่ยงคืนของวันศุกร์แล้วไปถึงท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติเพื่อเดินทางไปยังเกาะช้างในรอบเรือเที่ยวแรกเวลา 06.30 น. ครับ
แต่ในความเป็นจริง เราออกเดินทางกันตั้งแต่ 5 ทุ่มครึ่ง และมาถึงท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติเวลา 03.45 น. ดังนั้น ก็เป็นเวลานอนรอเรือเที่ยวแรกกันอีกประมาณ 3 ชั่วโมง แต่ไม่เป็นไรครับ ครั้งนี้มาเพื่อการพักผ่อนจริง ๆ ก็เลยปล่อยให้เป้นอิสระต่อกัน 555+
06.30 น. เรือเที่ยวแรกเริ่มเคลื่อนตัวออกจากท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติเพื่อมุ่งหน้าสู่อ่าวไทยที่เกาะช้าง (ค่าผู้โดยสารคนละ 80 บาท , ค่ารถยนต์คันละ 120 บาท ต่อเที่ยวนะครับ) ความผ่อนคลายกำลังจะมาเยือนเราแล้ว ฮึบ ๆ (เป็นเสียงที่บ่งบอกตัวเราเองว่า พร้อม จะพักผ่อนแล้วนั่นเอง)
ใช้เวลาเดินทางไม่นานครับ ประมาณ 30 นาที พวกเราก็มาถึงยังฝั่งท่าเรือบนเกาะช้างครับ นี่ไงเกาะช้างของเราตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าเราแล้ว เย้ ๆ
จากท่าเรือ เรามุ่งหน้าไปยังที่พักของเราเป็นลำดับแรกนะครับ (ไปดูเฉย ๆ นะ ยังไม่ได้เข้าพัก เพราะต้อง Check in เวลา 14.00 น.) จากท่าเรือมายังที่พักระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตรนะครับ ไม่ถือว่าไกลมาก สามารถเดินทางได้ครับ .. Elephant Bay Resort .. คือที่พักของเราในค่ำคืนนี้ ที่พักเราตั้งอยู่บริเวณใบลานนะครับ อยู่ติดทะเล มีสระว่ายน้ำอยู่บริเวณพื้นที่สนามหญ้ากลางโรงแรม บรรยากาศดี เงียบสงบ มีศาลาไว้นั่งหย่อนขาอ่านหนังสือ มีเก้าอี้ที่มีเม็ดโฟมอยู่ข้างในสำหรับนั่งหรือนอนเล่นสบาย ๆ มีโต๊ะพูลที่ล็อบบี้ รวมทั้งมีเจ้าของที่น่ารัก เป็นกันเอง (ปล.จากการที่ดูเพื่อนผมสนทนากับเจ้าของนะครับ เพราะเรื่องภาษาต่างประเทศนี่ผมไม่ถนัดจริง ๆ) เราเลือกพักแบบบังกะโลพร้อมวิวทะเล ราคา 1,437.50 บาท/คืน (ราคาจองวันที่ 04/03/2017 ผ่าน Booking.com)
มีสระว่ายน้ำด้วยนะครับ
มีศาลาสำหรับนั่งผ่อนคลายได้แบบชิลล์ ๆ
ดูผมสิ
บริเวณอาคารที่พักนะครับ มีแบบเป็นห้องด้วยนะครับ ราคาไม่แพงครับผม
บรรยากาศโดยรอบนะครับ ช่างเป็นสถานที่ที่น่ามาพักผ่อนหย่อนใจจริง ๆ (ที่สังเกตุจะมีแต่ชาวต่างชาติเข้ามาพักที่นี่และมาพักจำนวนหลาย ๆ วันนะครับ อาจเนื่องด้วยบรรยากาศของที่นี่เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นที่สุด เมื่อมาแล้วจึงได้สัมผัสถึงความรู้สึกของการผ่อนคลาย จึงเลือกมาที่นี่พันนะครับ)
หลังจากชมบรรยากาศที่ .. Elephant Bay Resort .. พวกเราก็เดินทางไปริมทะเลกันบ้างครับ อยากไปเอนหลัง นั่งริมทะเล จิบกาแฟสักแก้ว แล้วพักสายตาสักหน่อยเพื่อจะได้โล่ง โปร่ง สบาย และเราก็ได้เลือก .. Lonely Beach .. เป็นคำตอบสุดท้าย ต้นไม้ ต้นนี้ผมว่าน่าจะเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของหาดนี้กะว่าได้นะครับ เพราะเป็นต้นไม้ที่ยื่นออกไปในทะเลเพียงต้นเดียว และดูเหมือนว่าโดนลมทะเลพัดพาเหมือนไร้ที่พึ่งพิงจึงทำให้ลำต้นโน้มเอียงได้ถึงขนาดนี้อะครับ แต่จริง ๆ น่าจะล้มเพราะดินทรายบริเวณนั้นทรุดตัวก็เป็นไปได้นะครับ55+
พอดีบริเวณนี้เป็นบริเวณที่มีหินค่อนข้างมาก ไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำนะครับ เราจึงเดินเลีบยเลาะผ่านที่พัก 2 -3 แห่ง เพื่อไปยัง .. Nature Beach Resort .. ที่นี่นอกจากจะมีบาร์ริมชายหาดแล้ว ยังมีที่พักด้วยนะครับ บรรยากาศที่นี่ดีมากครับ นั่งชิลล์ ๆ ริมทะเล พร้อมรับประทานอาหารมื้อกลางวัน ฟังเพลงเพราะ ๆ คลอเคล้ากับเสียงคลื่นและลมกระทบกัน ผมนี่ผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง
จริง ๆ ทานกันหลายเมนูนะครับ แต่ระหว่างรอก็เลยจัดมาเท่านี้ก่อนอะครับ
นั่งได้สักประมาณ 2 ชั่วโมง ฟ้าเริ่มไม่เป็นใจ กลับกลายต้องย้ายเข้ามานั่งด้านบนแทน แต่บรรยากาศก็ได้อีกแบบนะครับ ชิลล์ไปอีก
พอฝนเริ่มตกก็กลับระครับ กลับไป Check in แล้วก็นอนพักผ่อนก่อน เดี๊ยวช่วงเย็นค่อยมาดูบรรยากาศยามค่ำคืนของ Lonely Beach ว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้าง เนอะ
ไม่นานก็กลับมาที่เดิมอีกระครับ .. Lonely Beach .. ยามเย็น แต่คราวนี้นั่งที่ร้านใกล้ ๆ กับต้นไม้เดียวดายของผมนะครับ ชื่อร้านอะไรผมไม่แน่ใจนะครับ แต่บรรยากาศได้มากครับ นั่งยาวด้วยนะครับจนถึงเกือบ ๆ 5 ทุ่มอะครับ บรรยากาศแบบว่า ผ่อนคลายอีกจริง ๆ ดูจากสีหน้าผมนะ 55+
หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงเพลงตึ้ด ๆ จากร้าน .. Can Cun Bar Koh Chang .. ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน ก็เลยอยากไปฟังใกล้ ๆ บ้าง ติดใจระสิครับทีนี้ คนในร้านนะ 55+ ไม่ใช่ ๆ ครับ บรรยากาศโดยรวม มีการโชว์ควงกระบองไฟ มีกระโดดเชือกไฟด้วย ผมก็เลยลองกระโดดเชือกด้วยเหมือนกันนะ สนุกดีครับ ก็ฟังเพลงไปดึก ๆ เหมือนกันนะครับ ก็เลยกลับกัน ดีที่พักอยู่ไม่ค่อยไกลก็เลยขับไปไม่นานนะครับ หลังจากนั้นก็สลบกันทีเดียว มารู้ตัวอีกทีก็เกือบจะ 9 โมงเช้าเพราะอะไรเหรอครับ ฝนตกตอนเช้าและก็เปิดแอร์หนาวจนผ้าห่มไม่สามารถปกป้องความหนาวได้ ก็เลยต้องตื่นนอนและอาบน้ำแต่งตัวพร้อม Check out และเดินทางกลับเพื่อไปทำงานกันนะครับ
แต่ยังครับ ระหว่างทางกลับพอดีเพื่อนของผมเคยซื้อกาแฟที่ร้าน .. Sleepy Owl Cafe & Hostel .. แล้วนางติดใจ พวกเราก็เลยแวะจิบกาแฟกันก่อนกลับ แต่ก็ไม่ใช้แค่กาแฟนะครับ จัดข้าวผัดมาด้วย อร่อยใช้ได้นะครับ บรรยากาศร้านก็แบบว่าอยากนั่งนาน ๆ ได้ไหมอะไรประมาณนี้ แต่เพราะว่าต้องกลับไปเผชิญโลกแห่งความเป็นจริง วันนี้จึงได้แค่พอหอมปากหอมคอระกัน โอกาสหน้ามีฉันใด ฉันจะไม่ลืมเธอ .. Sleepy Owl Cafe & Hostel ..
ก่อนกลับได้ขึ้นไปกราบและชมวิวทิวทัศน์บริเวณพระตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตนเอง และแล้วก็ต้องเดินทางกลับจริง ๆ แล้วสินะ
และนี่ก็เป็นอีกช่วงวันหยุดแบบสั้น ๆ ที่จะมาเพื่อเดินทางมาพักผ่อนกันอย่างจริงจัง เราใช้ร่างกายเรามาหนักพอแล้ว เราก็ต้องตอบแทนสิ่งเหล่านั้นคืนกลับให้บ้างเช่นกันนะครับ
*** ขอบคุณที่เกาะช้างให้บริการ .. ขอบคุณครับ ***
FreelyThailand
วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.26 น.