หัวหิน เป็นถิ่นที่มีอาหารอร่อย ของอร่อยให้เราทานเยอะมากๆ และยังมีหลากหลายประเภท หลากหลายเชื้อชาติด้วย แต่ผมว่าแทบจะทั้ง 100% เวลาที่เราไปเที่ยวทะเลแล้วเจออากาศร้อนๆ สิ่งแรกที่เราจะมองหาและจะหยิบมันเข้าปากก็คือไอศครีมนั่นเองงงงงงงง



สำหรับวันนี้ผมนาย “ภรรยาหา สามีใช้" จะพาทุกท่านไปชิมเจลาโต้โฮมเมดแท้ๆ ของร้านที่ชื่อว่า Bello Dolce (เบลโล ดอนเช่) โดยร้านนี้ผมได้คำแนะนำจากน้องที่ทำงานว่ามันอร่อย เด็ด หากมีเวลาอยากให้ไปลองซักครั้ง เอ๊า...รุ่นน้องอุตส่าห์แนะนำมาแบบนี้ เรามันคนชอบชิมอยู่แล้วก็จัดไปสิคร้าบบบบบบ



แต่ก่อนที่จะไปรีวิวร้านนี้ ผมขออนุญาตนำสาระน่ารู้เกี่ยวกับเจลาโต้มาฝากกันก่อนนะครับ

Gelato (เจลาโต้) ในภาษาอิตาเลี่ยนมีความหมายว่า "แช่แข็ง" หรือ "ไอศครีม" โดยมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี และเจาลาโต้นั้นมีจุดเด่นที่แตกต่างจากไอศครีมทั่วไปดังนี้


• เจลาโต้เป็นไอศครีมที่ไขมันต่ำกว่าไอศครีมทั่วๆ ไป เพราะเจลาโต้ใช้นมโคสดเป็นส่วนประกอบหลักและใช้ครีมในปริมาณที่น้อยกว่าไอศครีมทั่วไป โดยเจลาโต้จะมีไขมันอยู่ที่ประมาณ 3-8% เท่านั้น ส่วนไอศครีมทั่วๆ ไปจะมีไขมันอยู่ในช่วง 10-17% หรืออาจจะมากกว่านี้อีกแล้วแต่ชนิดและสูตร

• เจลาโต้มีปริมาณอากาศในเนื้อไอศครีมน้อยโดยปริมาณอากาศในไอศรีมนั้นจะเกิดขึ้นในขณะที่เครื่องปั่นไอศครีมกำลังปั่นส่วนผสมของไอศครีม โดยทั่วไปแล้วเจลาโต้จะมีอากาศแทรกอยู่ในเนื้อไอศครีมประมาณ 20-40% ส่วนไอศครีมทั่วๆไปจะมีปริมาณอากาศอยู่ที่ 50-80% และจุดนี้นี่แหละที่ทำให้เจลาโต้แตกต่างจากไอศครีมทั่วไปอย่างชัดเจน รวมทั้งมีรสชาติที่เข้มข้นกว่าไอศครีมทั่วๆไป

• เจลาโต้ มีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้เครื่องปั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับผลิตโดยเฉพาะ รวมไปถึงการเก็บรักษาให้อยู่ที่ระดับอุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส ในขณะที่ไอศครีมทั่วๆ ไปนั้นจะเก็บรักษาอยู่ที่อุณหภูมิต่ำกว่านั้น ดังนั้นเนื้อไอศครีมทั่วไปจึงแน่นและแข็งกว่าสำหรับร้าน Bello Dolce นั้น จะเป็นร้านเจลาโต้โฮมเมดที่มีสาขาในหัวหินหลายสาขามาก แต่สาขาที่ผมไปนั้นจะอยู่ที่ถนนพูลสุข ในซอยหัวหิน 59 โดยตำแหน่งของร้านจะอยู่กับข้างๆ กับร้านหัวหินจานร้อน (Hua Hin Hot Pan) ใกล้ๆ กับวัดหัวหิน ซึ่งเราสามารถจอดรถแถวๆ วัดหัวหินแล้วเดินมาก็ได้ครับ เพราะแถวหน้าๆ ร้านหาที่จอดรถยากมาก



หน้าตาหน้าร้านแบบนี้นะครับ เป็น Open Air มีทั้งส่วนที่เป็น Outdoor กับ Indoor โดยในส่วน Indoor ผมว่าเค้าตกแต่งสวยดีนะครับ โดยเฉพาะตรงห้องน้ำและผนังด้านนึงที่มีภาพวาดใหญ่ๆ มันทำให้ได้บรรยากาศของความเป็นอิตาลีมากๆ



อันนี้เป็นบรรยากาศโต๊ะและเก้าอี้หน้าร้านบริเวณ Outdoor ครับ กลางวันออกจะร้อนไปหน่อย โซนนี้ผมว่าน่าจะเหมาะกับช่วงเย็นๆ ค่ำๆ มากกว่าครับ



ทั้งนี้จำนวนโต๊ะในร้านทั้งหมดน่าจะมีซัก 10 โต๊ะ นั่งได้ราวๆ 40 คนครับ



เอาล่ะ ทีนี้เราไปดูเมนูของร้านกันดีกว่าครับ ร้าน Bello Dolce นั้นนอกจากจะมีเจลาโต้แล้วเค้ายังมีของหวาน, ขนมปัง, กาแฟ และเครื่องดื่มขายด้วยนะครับ ซึ่งเมนูแต่ละอย่างก็ดูน่ากินมาก และราคาไม่แพงด้วย แต่วันนี้ผมจะมาพิสูจน์ถึงความอร่อยของเจลาโต้ร้านนี้กันว่าจะอร่อยสมคำร่ำลือแค่ไหน ดังนั้นผมกับภรรยาจึงสั่งเป็นไอศครีมกันมาคนละรายการครับ



ตัวผมสั่งเป็น Waffle with Ice-Cream ส่วนภรรยาผมสั่งเป็น Wood Cup แต่ยังไงเดี๋ยวลองดูเมนูอื่นๆ ของทางร้านตามภาพด้านล่างก่อนได้นะครับว่ามีรายการมากมายและน่ากินแค่ไหน



รอซักพักไอศครีมที่ผมสั่งไปก็มาเสิร์ฟครับ แต่เหมือนผมจะสื่อสารกับพนักงานไปผิดเล็กน้อยทำให้ Waffle with Ice-Cream กลายมาเป็นไอศครีมใส่โคนแทน แต่ก็ไม่เป็นไรกินได้ครับ



ทั้งหมด 2 รายการที่ผมสั่งไป จะได้ไอศครีมทั้งหมด 5 ลูก แต่ผมกับภรรยาสั่งกันมาซ้ำกัน 1 รสชาติ ก็เลยมีทั้งหมด 4 รสตามนี้ครับ

Wild Berry : รสชาติเปรี้ยวนิดๆ ครับ แต่อร่อยดี

Cherry : อร่อย มีเนื้อผสมในไอศครีมเยอะดี

Strawberry : อร่อยถูกปาก

Raspberry : อร่อยเช่นเดียวกันครับ



ต้องบอกเลยว่าไอศรีมทั้ง 4 รสที่เราได้ทานนั้นอร่อยถูกปากมาก ส่วนหนึ่งที่มันอร่อยถูกปากทุกรสขนาดนี้ก็เพราะพวกเราขอไปลองชิมที่ตู้ก่อนที่จะสั่งครับ ดังนั้นมันก็เลยถูกปากแบบนี้แหละ >< แต่นอกเหนือจากรสชาติแล้วสิ่งที่ทำให้ผมประทับใจเจลาโต้ของที่นี่ก็คือความเนียนของเนื้อไอศครีมที่เนียนนุ่มมาก แต่จุดด้อยของมันก็มีคือมันละลายไวมาก เรียกว่ายังถ่ายรูปไม่เสร็จดีก็เริ่มละลายแล้วครับ T_T



สำหรับเมนู Wood Cup นั้น จะได้ไอศรีมทั้งหมด 3 ลูก และก็ได้ทอปปิ้งมาเยอะดีครับ ผลไม้หลากหลายชนิดเลย แต่เสียดายที่ผลไม้เหล่านี้มาเป็นผลไม้แช่แข็ง ไม่ใช่ผลไม้สด T_T



ทีนี้เราไปดูหน้าตาของเจลาโต้แต่ละรสดีกว่าครับ โดยที่ร้านเค้าจะแบ่งออกเป็น 2 หมวด ได้แก่ หมวดครีม กับ หมวดผลไม้ เราสามารถที่จะไปดูใกล้ๆ และขอชิมทุกรสชาติได้ครับ เพื่อที่เวลาสั่งมาทานเราจะได้รสชาติที่ถูกใจที่สุดครับ



ขอชิมไปหลายๆ รสเลยก็ได้ เพราะผมเองก็ขอชิมแทบทุกรสเลย @_@



มาดูค่าเสียหายของอาหารมื้อนี้กันดีกว่า ค่าเสียหายทั้งหมดก็คือ 320 บาท ตัวโคนพร้อมไอศครีม 2 ลูก ราคา 110 บาท ส่วน Wood Cup ราคา 210 บาท และน้ำเปล่าทางร้านมีบริการฟรี สำหรับช่วงท้ายนี้ผมขอทิ้งท้ายด้วยข้อสรุปต่างๆ ตามเดิมนะครับ



รสชาติอาหาร : ดีเลยครับ เป็นเจลาโต้ที่เนื้อเนียนอร่อยถูกปากมาก คิดว่าถ้ามีโอกาสเหมาะๆ ก็คงจะแวะกลับมาทานอีก



ความหลากหลายของอาหาร : แม้ทางร้านจะเน้นขนายเฉพาะไอศครีมเป็นหลัก แต่ทางร้านก็มีเมนูอย่างเค้ก ขนมปัง ของหวาน เครื่องดื่มให้เลือกอีกหลายชนิดเลย ที่สำคัญเมนูของไอศครีมนั้นมีให้เลือกเยอะมากๆ หน้าตาก็น่าทานทั้งนั้น ดังนั้นผมว่าร้านนี้มีความหลากหลายของเมนูเยอะพอดู ชนิดที่สามารถรองรับคนกลุ่มใหญ่ได้สบายๆ เลย



ความสะอาดของร้าน : สอบผ่าน ไม่มีปัญหาในข้อนี้ครับ และนอกจากจะสะอาดแล้วยังตกแต่งได้สวยงามในพื้นที่จำกัดด้วย



การบริการของพนักงาน : พนักงานบริการดี ไม่มีปัญหาอะไรในข้อนี้ครับ



ความสะดวกของการเดินทาง : เท่าที่ทราบร้าน Bello Dolce ตอนนี้มีเฉพาะสาขาในหัวหิน โดยสาขาที่ผมไปนั้นหากคนมีรถขับไปก็คงไม่ได้ยากอะไร สามารถหาร้านได้ง่ายๆ และสามารถตาม Google Map ไปได้เลย แต่จุดที่เป็นปัญหาหลักก็คือ เรื่องที่จอดรถนี่แหละครับ ที่หาที่จอดยากซักหน่อย



ความคุ้มค่า : ราคาเจลาโต้ 69 บาท/ลูกนั้น ผมว่าเป็นราคามาตรฐานนะครับ เพราะโดยเฉลี่ยแล้วราคาของอีกหลายๆ ยี่ห้อก็จะอยู่ประมาณนี้หรือแพงกว่านี้อีกเล็กน้อย และเมื่อเทียบราคากับความอร่อยที่ได้รับแล้ว ผมว่าเจลาโต้ของร้าน Bello Dolce นี่อร่อยคุ้มค่าเลยครับ



สรุป : หากคุณได้มีโอกาสไปทำธุระหรือพักผ่อนแถวๆ หัวหิน และอยากจะหาอะไรเย็นๆ ทานแก้ร้อน หรืออยากจะลองชิมเจลาโต้โฮมเมดอร่อยๆ ผมอยากให้ไปลองร้านนี้ดูครับ อาจจะเดินทางไปยากนิดนึงสำหรับคนที่ขับรถไป เพราะหาที่จอดรถลำบาก ใครที่ไม่ค่อยอยากจะไปปวดหัวกับที่จอดรถก็ลองดูสาขาอื่นก็ได้ครับ เค้ามีหลายสาขา และผมคิดว่าบางสาขาน่าจะมีที่จอดรถสะดวกสบายกว่านี้ เอาเป็นว่า...ถ้ามีโอกาส อยากให้ลองชิมดูซักครั้งครับ ไม่แน่อาจจะประทับใจมันเหมือนผมก็ได้ครับ



ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้ หากผมรีวิวขาดตกบกพร่องประการใดต้องขออภัยด้วยและการรีวิวนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมจากวันที่ไปใช้บริการเท่านั้น แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการหรือรสชาติที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ



สำหรับใครที่ชอบการรีวิวของผม ก็สามารถไปติดตามหรือแนะนำข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ https://www.facebook.com/amazingcouples



แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ

ความคิดเห็น