หากว่าวันนี้โชคดีได้พบกับเธอ.......ปา ดั๊ป ป้า


คงจะไม่พร่ำเพ้อคิดถึงเธอคนเดียวเรื่อยไป.......ปา ดั๊ป ป้า



นี่น่าจะเป็นเพลงที่ผมคิดว่าเหมาะที่สุดหลังจากที่สายตาผมได้เห็นน้ำทะเลใสๆ และทรายที่สุดนุ่มของหาดมาดาม เกาะนาวโอพี ประเทศพม่า เพราะนานมากๆ แล้วที่ผมไม่ได้เจอเกาะไหนที่มีน้ำทะเลใสๆ หาดทรายนุ่มๆ แบบนี้ ไม่รู้นะขนาดตอนที่ผมไปเกาะตาชัยครั้งแรกสมัยที่ยังไม่ได้มีนักท่องเที่ยวไปมากมายนัก ผมก็ยังนึกไม่ออกเลยว่าที่เกาะตาชัยในตอนนั้นจะสู้เกาะนาวโอพีนี้ได้หรือเปล่าเลยครับ



และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ผมจะพาทุกคนไปเที่ยว 1 Day Trip หาดมาดาม เกาะนาวโอพี ประเทศพม่ากันเลยดีกว่าครับ รีบไปกันตั้งแต่ตอนนี้แหละ เพราะคนยังน้อยอยู่ ถ้าไปช้ากว่านี้แล้วคนเยอะไม่รู้ด้วยนะ ><



ก่อนอื่นมาทำความรู้จักเกาะนาวโอพีกันก่อนดีกว่าครับ เกาะนาวโอพีนั้นเป็นเกาะที่อยู่ในประเทศพม่าโดยชื่อภาษาอังกฤษของมันเขียนว่า Nyaung Oo Phee ซึ่งหากอ่านมันด้วยสกิลภาษาอังกฤษอันแสนง่อยของผมแล้วล่ะก็มันก็คงไม่ได้อ่านว่านาวโอพีหรอกครับ แต่เอาเถอะเค้าเรียกแบบนี้เราก็เรียกตามเค้าแหละ มันน่าจะถูกแล้วแถมยังเรียกง่ายอีกด้วย



แว้บแรกที่หลายๆ คนเห็นว่าเกาะนี้อยู่ที่ประเทศพม่า อาจจะคิดว่ามันไกล หรือเดินทางยาก ซึ่งจะบอกว่าจริงๆ แล้วมันเดินทางไปง่ายกว่าที่คิดนะครับ เพราะเราสามารถขึ้นเรือจากท่าเรือที่จ.ระนองได้ โดยใช้เวลานั่งเรือไปแค่ราวๆ 1 ชั่วโมงกับ 15 นาทีเอง และก็จากทริปนี้ทำให้ผมรู้ว่าระนองนั้นใกล้กับพม่ามาก!! มากจนเกาะของพม่าที่ใกล้ท่าเรือระนองที่สุดนั้นใช้เวลานั่งเรือแค่ 10 นาทีก็ถึงแล้ว!!



สำหรับการเดินทางจาก กทม. เพื่อไประนองนั้นเราสามารถไปได้หลายทางมากทั้งรถยนต์ส่วนตัว, เครื่องบินแล้วก็รถทัวร์ โดยตัวผมเองเลือกไปรถทัวร์แบบ VIP ของสมบัติทัวร์ ซึ่งบอกเลยว่านั่งสบายและหรูหรามาก รถออกจากสายใต้ใหม่ตอน 20.50 น. และไปถึงระนองประมาณ 6.15 น. ซึ่งก็คือตอนเช้าพอดี แล้วก็ยังมีเวลาเหลือๆ ให้เราเปลี่ยนชุด, ล้างหน้าแปรงฟันที่ บขส. ระหว่างที่นั่งรอบริษัททัวร์มารับไปท่าเรือต่ออย่างสบายๆ ด้วยครับ



ระยะเวลาในการนั่งรถทัวร์ไประนองนั้นจะใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมงนิดๆ โดยเส้นทางช่วงสุดท้ายก่อนที่จะเข้าสู่ระนองนั้นค่อนข้างคดเคี้ยวพอควร ดังนั้นใครที่เมารถง่ายควรหลับให้สนิทหรือไม่ก็กินยาแก้เมาไปก่อน ส่วนใครที่เมารถขั้นสุดจริงๆ หรือไม่อยากนั่งรถนานๆ ก็เลือกไปด้วยเครื่องบินก็ได้ ซึ่งตอนนี้มันมีแค่สายการบินเดียวเท่านั้นที่บินจาก กทม. ไประนอง ดังนั้นก็ต้องทำใจเรื่องราคาหน่อยนะครับ แต่โดยส่วนตัวผมกับภรรยาพอใจมากกับการนั่งรถ VIP ของสมบัติทัวร์ในครั้งนี้ คือเบาะดีมากกกกกก นั่งสบายสุดๆ ปรับเอนได้เยอะมาก ฝั่งนึงจะมี 2 เบาะและอีกฝั่งนึงจะมีแค่เบาะเดียว ซึ่งตอนที่เราซื้อตั๋วรถเราสามารถเลือกได้ว่าจะนั่งตรงไหนครับ ที่นั่งทุกที่จะมีหมอนรองคอ, ผ้าห่ม และจอ TV พร้อมหูฟังให้ โดยหูฟังทางพนักงานจะแจกให้ตอนที่รถออกจากสายใต้ใหม่แล้ว และจอ TV ที่อยู่หน้าเรานั้นจะทำอะไรได้เยอะมากทั้งดูหนัง, ฟังเพลง แล้วก็เล่นเกมส์ โดยหนังที่มีให้เลือกดูนั้นก็มีทั้งแบบพากษ์ไทยแล้วก็แบบซับไทย ความใหม่ของหนังก็ถือว่าดีเลย สรุปว่าคืนนั้นผมจัดไป 2 เรื่องเต็มๆ ครับ ><



ส่วนเรื่องอาหารการกินบนรถนั้น ก็จัดหนักมากทั้งน้ำเปล่า, น้ำหวาน, ชา-กาแฟ, ขนมนมเนย ยันผ้าเย็น และที่ประทับใจสุดๆ ก็คือจุดจอดรถกินข้าวระหว่างทาง ที่จะจอดรถตรงจ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากออกจาก กทม. มาประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าๆ ครับ อาหารการกินตอนจอดรถนี่ดีมากเป็นอาหารเป็นเซ็ตนั่งทานกัน 8 คน ทำเอาอิ่มหนำสำราญเลย ใครที่ไม่กินก็ไปเดินเล่นชอปปิ้งซื้อของฝากได้ ของเค้ามีให้เลือกเยอะมาก



สรุปเลยว่าสำหรับการเดินทางโดยรถทัวร์ VIP ของสมบัติทัวร์ในครั้งนี้ผมประทับใจมาก คุ้มค่าตั๋วรถราคา 627 บาทสุดๆ และก็เสียดายมากที่ตอนกลางวันไม่มีรถทัวร์ VIP แบบนี้วิ่ง จะมีเฉพาะรถปรับอากาศชั้น 1 ธรรมดาเท่านั้น โดยขากลับจากระนอง ผมต้องออกจากระนองตอนประมาณ 8.00 น. ก็เลยจำเป็นต้องนั่งรถปรับอากาศชั้น 1 กลับ กทม. แทน และก็เห็นความแตกต่างของการนั่งมากๆ และบอกเลยว่าส่วนต่างรถสองแบบนี้แค่ประมาณ 100 บาทเอง ดังนั้นเป็นอะไรที่แนะนำเลยว่าถ้าเวลาที่เราจะเดินทางนั้นมีรถให้เราเลือกนั่งสองแบบ ให้เราเลือกนั่ง VIP เลยครับ คุ้มและดีกว่ามากๆ



หลังจากที่ผมถึง บขส. ระนอง ในช่วง 6.15 น. แล้ว ผมก็ทำภารกิจต่างๆ โดยเฉพาะการเปลี่ยนชุดเป็นชุดที่พร้อมจะเล่นน้ำทะเลได้อย่างสบายๆ หลังจากนั้นไม่นานรถตู้ของ Love Andaman ก็มารับผมกับภรรยาที่ บขส. โดยก่อนหน้าที่เราจะเดินทางหนึ่งวัน จะมีเจ้าหน้าที่ของทาง Love Andaman โทรมา Confirm เรื่องเวลาและสถานที่นัดหมายกับอีกรอบเพื่อป้องกันความผิดพลาดครับ



รถตู้ของ Love Andaman ตระเวนรับนักท่องเที่ยวท่านอื่นๆ อีกในระนองอีกซักพัก จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ประภาคารเฉลิมพระเกียรติซึ่งเป็นสถานที่ที่ขึ้นเรือของเราในวันนี้ รวมทั้งยังเป็นจุดที่เราต้องทำเอกสารในการข้ามแดนไปยังพม่าด้วย โดยการมากับ Love Andaman นั้น เราไม่ต้องยุ่งยากอะไรในการทำเอกสารข้ามแดนเลย เพียงแค่ส่งสำเนาบัตรประชาชนของเราให้เค้าทาง E-mail ก่อนวันเดินทาง และพอถึงวันเดินทางเราก็เพียงนำบัตรประชาชนตัวจริงมาแนบกับเอกสารที่ทาง Love Andaman ทำไว้ให้เสร็จสรรพแล้ว เรียกว่าสะดวกและง่ายมากครับ



อันนี้เป็นโต๊ะลงทะเบียนของ Love Andaman ครับ เจ้าหน้าที่ที่โต๊ะร่าเริงและเป็นกันเองมาก โดยหลังจากที่เราลงทะเบียนเสร็จเราก็จะได้ Wrist Band , เอกสารสำหรับการข้ามแดนที่ต้องไปแนบกับบัตรประชาชนตัวจริง แล้วก็ขนมครับ



สำหรับวันนี้กลุ่มที่จะเดินทางไปเกาะนาวโอพีแบบผม จะได้ Wrist Band สีฟ้า โดยตอนนี้ทาง Love Andaman เปิดบริการ 1 Day Trip ไปหาดมาดาม เกาะนาวโอพี แค่วันละ 1 ลำเท่านั้น หรือราวๆ 40 คนต่อวัน ซึ่งเป็นจำนวนคนที่น้อยมาก ดีต่อใจจริงๆ ที่ไม่ต้องเจอคนเยอะๆ ^^



สำหรับใครที่ใช้การเดินทางแบบเดียวกับผมคือมาลงรถที่ บขส. ตอนเช้าและมาที่ท่าเรือต่อเลย เราก็สามารถฝากกระเป๋าเดินทางไว้ที่ท่าเรือแห่งนี้ได้ครับเค้าจะมีที่เก็บให้ โดยมีการผูก Tag ไว้อย่างดี



ตัวขนมที่ได้มาจะหน้าตาแบบนี้นะครับ เปิดมาข้างในจะมีน้ำผลไม้กับแซนด์วิช วันที่ผมไปมีให้เลือก 2 ไส้ คือแฮมชีสกับทูน่า โดยใครที่กินแล้วไม่อิ่ม ลองขอเค้าเพิ่มดูนะครับ เจ้าหน้าที่เค้าใจดีครับ ^^



อ้อ ลืมให้ดูสภาพทั่วๆ ไปของการนั่งรอลงเรือ คือจุดนี้เป็นสถานที่ราชการและก็ที่ผ่านมาอาจจะไม่ได้มีคนมารอเป็นจำนวนมากแบบนี้ ดังนั้นพวกเก้าอี้ต่างๆ จึงอาจจะยังไม่พร้อมเท่าไหร่ ระหว่างรอขึ้นเรือหลายๆ คนก็เลยต้องยืนหรือนั่งพื้นกันไปก่อน โดยเมื่อถึงคิว Wrist Band สีของตัวเองเราก็ถือเอกสารและก็บัตรประชาชนตัวจริงไปต่อคิวแล้วก็ลงเรือครับ



ออกจากท่าเรือที่ระนองได้ราวๆ 10 นาที เราก็มาถึงเกาะสองซึ่งเป็นเกาะของประเทศพม่าแล้ว ที่เกาะนี้เรือจะจอดประมาณ 5 นาที เพื่อนำส่งเอกสารข้ามแดนของเรา รวมทั้งรับไกด์ชาวพม่าขึ้นเรือ โดยเราจะไม่สามารถขึ้นเกาะได้นะครับ เพราะมันใช้เวลาในการดำเนินการแป๊บเดียวเอง เดี๋ยวจะเสียเวลากันไปปล่าวๆ



ที่เกาะสองนี่มีสิ่งก่อสร้างหลายอย่างที่แสดงถึงความเป็นพม่ามากๆ รวมทั้งยังมีอนุสาวรีย์ของบุเรงนองที่อยู่บนยอดเขาด้วย



ออกจากเกาะสองราวๆ 1 ชั่วโมงก็ถึงจุดดำน้ำจุดแรกของเรา โดยระหว่างทางนั้นจะมีหลายจุดที่ไกด์จะห้ามเราถ่ายรูปนะครับเพราะเป็นเขตทหารของพม่า



จุดดำน้ำจุดแรกนี่น้ำใสดีครับ มีพวกดอกไม้ทะเลสีม่วงๆ เยอะดี ส่วนปลามีพอประมาณ แต่ปะการังจะไม่ค่อยมีสีและเป็นปะการังเขากวางที่หักค่อนข้างเยอะ ซึ่งมันเกิดจากการที่เมื่อก่อนประเทศพม่าทำการประมงด้วยการใช้ระเบิด คงต้องใช้เวลาอีกซักพักในการฟื้นฟูมันกลับมา แต่โดยรวมๆ ก็ถือว่าเป็นจุดดำน้ำที่ดีจุดนึงแล้วครับ



จุดนี้เราดำน้ำกันอยู่ราวๆ ครึ่งชั่วโมง และเมื่อพวกเราขึ้นเรือกับครบหมดแล้ว ทางพนักงานของ Love Andaman ก็ได้นำพวกน้ำเปล่า น้ำเย็นต่างๆ มาให้ทาน ซึ่งพวกเครื่องดื่มแบบนี้จะมีให้ตลอดวันเลยแต่จะสับเปลี่ยนชนิดไปเรื่อยๆ เราจะได้ไม่เบื่อกัน



เรือวิ่งจากจุดดำน้ำจุดแรกประมาณ 10 นาทีก็ถึงหาดมาดาม เกาะนาวโอพี โดยทางเรือจะจอดนำของลงที่หาดประมาณ 10 นาทีก่อนที่จะพาไปดำน้ำในจุดที่สองต่อ ซึ่งถ้าใครไม่อยากจะดำน้ำต่อแล้วก็สามารถที่จะลงที่เกาะได้เลย โดยที่หาดมาดามเองก็สามารถที่จะดำน้ำได้เหมือนกันครับ



และต้องบอกเลยว่าวินาทีแรกที่สายตาผมเห็นหาดมาดาม ของเกาะนาวโอพีนั้น ผมต้องอุทานออกมาเบาๆ เลยว่ามันสวยมากกกกกก น้ำใส ทรายขาวสุดๆ โดยเฉพาะน้ำทะเลบริเวณใกล้ๆ ชายฝั่งสีสวยและใสมากๆ ครับ



พอเรือขนของลงที่หาดเสร็จ ก็พาเราไปยังจุดดำน้ำจุดที่สองทันที ระยะทางไม่ไกลมากใช้เวลานั่งเรือไม่เกิน 15 นาที จุดนี้เรือจะจอดให้เราลงก่อนและไปจอดรอเราอีกที่นึงซึ่งไม่ห่างกันมาก ซึ่งเราจะต้องว่ายน้ำ ดำน้ำไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่เรือจอดอยู่เพื่อขึ้นเรือกลับครับ



ไฮไลท์ของจุดนี้ก็คือจะมีปะการังที่มีรูปร่างคล้ายๆ ดอกไม้ขนาดใหญ่อยู่เต็มไปหมด แต่เป็นปะการังที่ไม่มีสีนะครับ และก็ตอนที่เรือเรามาถึงตอนแรกๆ นั้น กัปตันของเรามองเห็นเต่าทะเลด้วยแต่เป็นที่น่าเสียดายว่ากว่าที่เรือจะถึงที่จอดและพวกเราพร้อมจะลงน้ำกัน น้องเต่าทะเลก็ว่ายน้ำไปไกลเสียแล้ว



เราใช้เวลาในการดำน้ำที่จุดนี้ราวๆ ครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นกัปตันก็พาเรากลับไปยังหาดมาดาม เกาะนาวโอพี เพื่อไปทานอาหารกลางวันกัน



เรากลับมาถึงหาดมาดามกันตอนเกือบจะบ่ายโมง และวินาทีแรกที่เท้าผมเหยียบทรายบนเกาะ ผมถึงกับร้องว้าว เพราะว่าทรายมันนุ่มและเนียนมากๆ ครับ



นี่คือภาพหลังจากที่เท้าผมเหยียบไปบนทรายของหาดนี้ บอกเลยว่าดีมากๆ ไม่ต้องกลัวว่ามันจะหยาบเลย ทรายเนื้อเนียน นุ่ม เดินสบาย สมแล้วที่ทาง Love Andaman ยึดรองเท้าพวกเราไว้ที่ระนอง ไม่ให้เราเอามาด้วย เพราะมันไม่จำเป็นต้องใช้เลย



ที่หาดมาดามนี้เราจะมีเวลาอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ ในการทานอาหารกลางวันแล้วก็เล่นน้ำ ถ่ายรูปต่างๆ เพราะว่าตอน 15.00 น. จะเป็นเวลาที่เราต้องรวมพลเพื่อเดินทางกลับ ดังนั้นใครที่อยากอยู่บนเกาะนานๆ ผมแนะนำว่าให้ดำน้ำแค่จุดแรกจุดเดียวพอแล้วก็ขึ้นเกาะเลย ทีนี้คุณก็จะมีเวลาอยู่บนเกาะเกือบ 3 ชั่วโมงเลย และก็ตอนที่เรือพาคนอื่นๆ ไปดำน้ำจุดที่สอง หาดมาดามนี้ก็จะเป็นของคุณทันที!!



สำหรับไลน์อาหารกลางวันก็ถือว่าดีงามตามสไตล์ของ Love Andaman โดยทุกคนจะได้ข้าวกล่องคนละ 1 กล่อง แล้วก็มีซีฟู้ดส์อย่างกุ้งและปลาหมึกให้เรากิน โดยเค้าจะย่างกันสดๆ ตรงนั้นเลย รสชาติอร่อยเลยครับ น้ำจิ้มก็แซ่บดี



นอกจากข้าวกล่องกับซีฟู้ดส์แล้วก็จะมีส้มตำ......ใช่ครับส้มตำ อ่านไม่ผิดแน่นอน และบอกเลยว่าห้ามประมาทฝีมือนะครับ เพราะมันอร่อยกว่าที่ผมคาดไว้เยอะมาก เป็นรายการอาหารที่แนะนำเลย ส่วนใครที่ไม่อิ่มก็จัดพวกสลัด, ขนมนมเนย และก็เครื่องดื่มไป เค้ามีให้ทานกันหลายอย่างเลยครับ



กินข้าวเสร็จแล้วก่อนที่จะไปดูความสวยงามของทะเลกัน ลองแวะไปดูหน้าตาห้องน้ำห้องท่ากันก่อนดีกว่า



ห้องน้ำที่นี่มีทั้งหมด 4 ห้อง สร้างมาอย่างดีเลยเลย โครงสร้างแข็งแรง โดยจะแบ่งเป็นห้องอาบน้ำ 2 ห้องและก็ห้องสุขา 2 ห้อง มีสายฉีดชำระเรียบร้อยเสร็จสรรพ ส่วนใครที่ขี้เกียจรอต่อคิวอยากจะรีบล้างตัวเลย ก็มีที่ล้างตัวด้านนอกอีก 1 จุดครับ



ทีนี้เราไปดูทะเลสวยๆ น้ำใสๆ กับทรายนุ่มๆ กันดีกว่า หาดมาดาม เกาะนาวโอพี เวลาดูไกลๆ นี่เหมือนหาดจะไม่ยาวมากนะครับ แต่พอได้มาอยู่บนเกาะแล้วจะพบว่ามันยาวเหลือเฟือมากเกินพอสำหรับคนประมาณ 40 คนครับ โดยว่ากันว่าช่วงที่น้ำลดลงสุดๆ นั้นหาดแห่งนี้จะยาวถึง 1,400 เมตรเลยทีเดียว



ระดับความใสของน้ำที่นี่นั่นสุดๆ ไปเลย รวมทั้งความนุ่มของทรายด้วย ที่สำคัญคนน้อยมาก อย่างภาพพวกนี้ผมเดินออกมาจากจุดที่กินข้าวเที่ยงแค่ไม่กี่เมตรก็สามารถถ่ายรูปได้สบายๆ โดยไม่ติดคนเลยครับ



สำหรับกิจกรรมหลักๆ ที่หลายๆ คนมักจะทำหลังกินข้าวเสร็จก็คือ


• นอนชิวๆ บนเปล

• ดำน้ำที่หน้าหาด โดยเราสามารถยืมหน้ากากและชูชีพจากเรือได้

• เล่นน้ำทะเล

• ถ่ายรูปเล่น

สิ่งที่ผมประทับใจที่สุดก็คือการถ่ายรูปเล่นกับเล่นน้ำทะเลนี่แหละครับ เพราะทาง Love Andaman เค้ามีการเตรียม Air Bed หรือ โซฟาลมไว้ให้เราเป็นสิบอันเลย ซึ่งโซฟานี้สามารถใช้นั่งเล่นบนหาดหรือจะเอาไปลอยในทะเลก็ได้ โดยเค้าจะมีให้เลือกสองสีคือสีน้ำเงินและสีส้ม หากใครอยากจะถ่ายรูปสวยๆ เด่นๆ ก็ให้รีบคว้าสีส้มไว้ก่อนเลย ส่วนผมกับภรรยาพลาดไป เลือกช้าไปหน่อยเลยได้สีน้ำเงินมาแทน T___T



ระหว่างที่เรากำลังเล่นน้ำและถ่ายรูปนั้น หากเราอยากจะได้รูปเดี่ยวของเรา, รูปคู่กับแฟน หรือรูปกลุ่มของเพื่อนสนิทแบบครบๆ เราสามารถให้ทางพนักงานของ Love Andaman มาถ่ายรูปให้ได้นะครับ ทีมงานเค้าเต็มที่ในการดูแลตรงนี้มากๆ ผมเห็นทีมงานแต่ละคนยืนตากแดดตระเวนถ่ายรูปให้ทุกกลุ่มแบบไม่มีหยุดเลย อันนี้ปรบมือให้รัวๆ เลย ประทับใจมาก โดยเฉพาะคนที่ไม่มีขาตั้งกล้องหรือไม่มีเพื่อนไปด้วย รับรองว่าได้รูปสวยๆ กลับบ้านเยอะแน่ๆ ส่วนใครที่มีปัญหาเรื่องนั่งๆ อยู่แล้ว Air Bed ฟีบ ลมซึมออกก็สามารถบอกเจ้าหน้าที่เค้าได้เช่นกัน เดี๋ยวเค้าจะวิ่งมาเติมลมให้ครับ



หลังจากการสนุกสนานที่ชายหาดเป็นเวลาชั่วโมงกว่าๆ ในที่สุดนาฬิกาก็แจ้งว่าเป็นเวลา 15.00 น. ซึ่งเป็นเวลารวมพลที่เราต้องกลับระนองกันแล้ว บอกตามตรงว่าผมรู้สึกเสียดายมากและอยากจะอยู่ที่หาดแห่งนี้ต่ออีกซักชั่วโมง แต่ก็เข้าใจในโปรแกรมดีเพราะมันใช้เวลาในการนั่งเรือกลับไปนานเหมือนกัน โดยหลังจากเรือออกจากหาดมาดามไม่นาน ทาง Love Andaman ก็นำขนม, เครื่องดื่ม แล้วก็น้ำผลไม้มาให้เราทานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันช่วยฟื้นฟูพลังที่เสียไปจากการเล่นที่ชายหาดเมื่อกี้ได้เป็นอย่างดีเลย



ในการนั่งเรือขากลับนั้นเรือของเราต้องจอดแวะที่เกาะสอง ประเทศพม่าเหมือนกับขาไปเพื่อจัดการเอกสารข้ามแดนต่างๆ ให้เรียบร้อย ซึ่งเมื่อยิ่งเข้าใกล้ระนองมากขึ้นเท่าไหร่ คลื่นก็ยิ่งแรง และบรรยากาศก็อึมครึมมากขึ้นทุกที ซึ่งต้องบอกเลยว่าผมโชคดีมากๆ ที่วันนี้เกาะนาวโอพีไม่เจอบรรยากาศแบบนี้ ไม่งั้นคงเป็นวันที่แย่แน่ๆ เลย ><



หมายเหตุ : จากการสอบถามพี่ที่อาศัยอยู่ระนอง เค้าบอกว่าระนองเป็นจังหวัดที่ฝนตกบ่อยมาก และบางครั้งก็ตกแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเลย หลายๆ คนจึงขอบแซวว่าระนองเป็น “เมืองฝนแปด (ชั่วโมง) แดดสี่ (นาที)" แล้วก็ใครที่มาระนองแล้วไม่เจอฝน ถือว่ามาไม่ถึงระนองครับ ^^



หลังจากที่ผมกลับมาถึงท่าเรือประภาคารเฉลิมพระเกียรติแล้ว ผมก็ใช้เวลาอีกซักพักในการต่อคิวยื่นบัตรประชาชนทำเรื่องกลับไทย, นำกระเป๋าที่ฝากไว้ออกมา หลังจากนั้นก็ยืนรอซักพักเพื่อรอเจ้าหน้าที่ Love Andaman ประกาศบอกว่าผมต้องไปขึ้นรถตู้คันไหนเพื่อที่จะไปยังที่พักของผม โดยการรับส่งจาก บขส. ในตอนเช้า และพาไปส่งยังที่พักในตอนเย็นนั้นเป็นบริการที่ทาง Love Andaman ดูแลให้ทุกคนที่จองโปรแกรม 1 Day Trip หาดมาดาม เกาะนาวโอพี อยู่แล้วครับ ไม่เสียค่าบริการใดๆ เพิ่มเติม เพียงแต่เราต้อง confirm วันเวลาและสถานที่กับผู้ประสานงานให้เรียบร้อยก่อนด้วยครับ



เอาล่ะครับ นี่ก็จบการเดินทาง 1 Day Trip ของผมในวันนี้แล้ว แต่เรื่องราวของการเที่ยวระนองของผมยังไม่จบ ยังจะมีอีกหลายตอนเลยเพราะตลอด 3 วัน 2 คืนที่ผมไปที่นั่น มันทำให้ผมได้ประสบการณ์อะไรกลับมาเยอะมากมาย เอาไว้ผมจะมาเล่าให้ฟังอีกทีนะครับ และสำหรับทริปนาวโอพีนี้ ผมขอทิ้งท้ายรีวิวสั้นๆ ให้คนที่กำลังลังเลใจอยู่ตอนนี้ว่าจะไปดีหรือไม่ดีตามนี้ครับ

• เกาะแห่งนี้คือเกาะที่น้ำใสและหาดทรายนุ่มมากกกกกกกก หาเกาะอื่นในตอนนี้มาสู้ได้ยากมากครับ

• ระยะเวลาในการนั่งเรืออาจจะนานไปนิดนึงสำหรับบางคน แต่ก็ยังอยู่ในช่วงเวลาที่ผมรับได้ เพราะหลายๆ เกาะในไทยก็ใช้เวลาในการนั่งเรือประมาณนี้

• อาหารการกินดี มีเครื่องดื่มตลอดการเดินทางบนเรือ ส่วนอาหารบนเกาะอาจจะไม่ได้พีคอลังการเท่าบางเกาะในเมืองไทย แต่ก็ถือว่าดีมากแล้วครับ

• ห้องน้ำ ห้องท่าบนเกาะดี ไม่มีอะไรน่ากังวล

• โลกใต้น้ำ อยู่ในระดับกลางๆ น้ำใสดี แต่โดยส่วนตัวคิดว่าปะการังและจำนวนปลายังสู้ที่หลีเป๊ะไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้นะว่าเป็นเพราะผมดวงไม่ดีหรือเปล่า เพราะเห็นภาพจากหลายคนที่ไปวันอื่นๆ ก็สวยงามดีครับ

• คนไปเที่ยวที่หาดนี้ต่อวันน้อยมาก!! หาดโล่ง สบายตาสุดๆ ไม่ต้องแย่งเล่นกับใคร บอกเลยข้อนี้สำคัญที่สุด!!

• เกาะนี้จะเปิดให้เที่ยวแบบ 1 Day Trip จากระนองเป็นช่วงๆ เท่านั้น โดยจะเปิดถึงวันที่ 15 พ.ค. เท่านั้น และจะกลับมาเปิดให้เที่ยวอีกทีในเดือน ต.ค. ครับ ใครที่วางแผนจะไปก็ดูช่วงวันเดินทางดีๆ นะครับ



ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้ หากผมรีวิวขาดตกบกพร่องประการใดต้องขออภัยด้วยและการรีวิวนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมจากวันที่ไปใช้บริการเท่านั้น แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการหรือรสชาติที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ สำหรับใครที่ชอบการรีวิวของผม ก็สามารถไปติดตามหรือแนะนำข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ https://www.facebook.com/amazingcouples



แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ



หมายเหตุ : วันที่ผมเดินทางไปคือวันศุกร์ที่ 17 มี.ค. 60 ครับ



ความคิดเห็น