รถไฟปู๊นๆ ลอยน้ำชมเขื่อน 1 ปีมีครั้ง..เด้อค่าเด้อ...

รถไฟลอยน้ำเที่ยวชมเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่ง 1 ปีมีครั้งหนึ่ง

เนื่องจากเป็นโครงนั่งรถไฟ เที่ยวชมเขื่อน ที่เป็นความร่วมมือระหว่างการรถไฟแห่งประเทศ และการท่องเที่ยว จะจัดพานักท่องเที่ยวนักรถไฟ ชมเขื่อนป่าสักชนสิทธิ์ ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงต้นปีของทุกปี และปี 2560 ก็มาถึง เขาจะเริ่มเปิดให้บริการในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี แต่จะเปิดให้จองในช่วงเดือนมกราคม ของทุกปี การจองนั้นง่ายมาก คือไปจองที่สถานีรถไฟ และการจองอีกวิธี คือการจองผ่านโทรศัพท์

(เบอร์ติดต่ออาจจะจำไมได้ ต้องขออภัย พิมไปเลยการรถไฟ หรือไปที่สถานีจะง่ายกว่า)

การจองลักษณะนี้ บอกได้คำเดียวยากมาก คนจองเป็นล้าน แต่รองรับการท่องเที่ยวได้แค่พันงี้ ทั้งนี้ ก็เป็นเพราะคนเข้าไปจองเยอะมาก กว่าจะโทรติด รับสาย ก็ใช้เวลานาน (การรถไฟต้องปรับปรุงคู่สายน่อยนะ) ซึ่งมันเป็นปีละครั้ง สำหรับโครงการที่จัดขึ้น แต่นอกโครงการอันนี้ไม่แน่ใจว่าเขามีไหม นั่งผ่านอาจจะได้ แต่หยุดจอดเพื่อถ่ายภาพท่าจะยาก

สรุปการจองก็มีประมาณนี้ ง่ายไปไหนทำแบบนั้น เพราะคนไปเยอะมาก สำหรับขบวนตู้ที่เขาจัดให้มีมากกว่า 10 ตู่ 1 ตู้ก็จุคนได้เกือบร้อยคน ส่วนเที่ยวของการไปเที่ยว ก็เฉพาะเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเหมาะมาก ตั้งแต่วันรุ่น ครอบครัว เนื่องเป็นวันหยุด ไม่มีวันธรรมดานะจ๊ะ..(เห็นใช่ไหมคนถึงเยอะ จองจึงยาก) เมื่อได้วันแล้ว คนไฟแล้ว ที่นั่งพร้อม (ไม่มีตั๋วยืนนะจ๊ะ ตามที่นั่ง)

ก็ออกเดินทางได้เลย การเดินทางนั้นไม่ยาก คุณใกล้สถานที่ไหนก็ไปขึ้นที่นั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องไปขึ้นที่หัวลำโพง เพียงอย่างเดียว (สำหรับราคานั้น อยู่ที่ 270 บาทต่อคนต่อไปกลับ และราคาก็ขึ้นอยู่ระยะทางที่ขึ้นด้วย หากขึ้นที่อยุธยา สระบุรี ก็จะถูกไปอีก)

เมื่อเราได้ตั๋วและก็ดูว่าเราจะขึ้นที่ใดได้บ้าง

นี้เป็นจุดที่เราจะดักขึ้น สะดวกที่ใดขึ้นที่ไหน ตามเวลาและสถานี เมื่อเรารู้แล้วก็ไปโลด

วันนี้เราขึ้นที่ดอนเมืองกันจ้า คนเยอะมาก มาเป็นคู่ เป็นกลุ่ม เป็นครอบครัว

เมื่อเราขึ้น..ไปแล้ว ระหว่างการเดินทางก็ใช้ระยะเวลาไม่นาน และระหว่างนั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยเข้ามาสร้างความสนุกสนาน แจกของรางวัล เป็นระยะ เพื่อสร้างความบันเทิง เล็กๆน้อย

และในบางสถานีก็จะมีขายของ ขาดอะไรก็ซื้อกันไปคลายหิวระหว่างทาง หรือจะอยากกินอะไรถูกใจก็แนะว่า นำติดตัวไปด้วย น้ำ ขนม ข้าว ประหยัดไปในตัว เพราะเราไปกันเช้ามาก การซื้อของกินไปกินระหว่างทางก็ดี อีกอย่างแว่นตา หมวกเตรียมไปด้วยก็ดี แดดดี ลมแรง

นอกจากนี้ เขายังแจกแผนที่ให้ด้วย เพื่อกำหนดว่าเราจะไปไหน ทำอะไรกันบบ้าง รวมถึงกำหนดทาง กิจกรรม คร่าวๆ อีกด้วย

จุดเที่ยว คือ จุดที่เขาจะจอดกลางเขื่อนเพื่อให้เราได้ถ่ายรูป ชมวิว สวยๆ อารมร์ เหมือนเราอยู่กลางแม่น้ำ ลอยอยู่อะไรเบอนั้น ออกจากชมเขื่อน กลางน้ำ ก็จะมีจุดนั่งรถชมเขื่อน นั่งรถไฟไหว้พระ พิพิธภัณฑ์ สัตว์ การให้มีบริการมีทั้ง รถสำหรับให้บริการของเขื่อน รถก๊อป (1 ชั่วโมง 400-500 แพงมาก ไปเป็นกลุ่มยอมรับว่าคุ้ม จักรยาน เช่าที่ไหน หาดีๆๆ นะ มันแอบอยู่ อีกทางคือ เดิน)

ถึงกันแล่วจ้า..เมื่อถึงเขาก็จะจอดให้สำหรับคนที่ รอขึ้นที่นี้ ระหว่างนั้น เราก็เอาเวลาอันน้อยนิด ถ่ายรูปกันไป ลงไปไม่ทันถ่ายข้างบนกันแล้วกันนะ ระหว่างนั้นเวลาหมด...รถไฟ ไปแล้วจ้า สักพัก เราก็ไปถึงกลางเขื่อนกันแล้วค่า ซึ่งเรามาถึงที่นี้ก็ เกือบเที่ยว และเขาจอดให้เราใช้เวลา 30 นาที ดูเหมือนไม่นาน แต่ถือว่านานมากแล้ว เพราะว่ามันแค่ถ่ายรูป เดินไปมาก็หมดแล้ว เหลือเวลาอีกมากมาย

ระหว่างรถไฟวิ่ง

ลมแรงมาก

ถึงเวลาลงไปถ่ายกันแล้วเด้อค่าเด้อ

อีกสักนิด

มุมอีกฝั่ง

เด็กๆก็มา

สองข้างทาง

สวย.....

ถึงเวลาแล้ว...เขาก็จะไปส่งเราที่ จุดเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์...เพื่อให้เราไปกินข้าว ชมเขื่อน ไหว้พระ

น่าคือ ค่ารถนั่งชมเขื่อน ไว้พระ

นี้ คือรถที่เราจะนั่ง ใช้ระยะเวลา เที่ยวไป-กลับ เพียง 30 นาที ใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากไม่ไกล ระหว่างทางเขาไม่จอดให้ชมขื่อน ตรงกลางเขื่อนนะจ๊ะ ชมบนรถไป ระหว่างนั้น ก็มีมัคขุเทศน์ คอยให้ข้อมูล ความรู้ระหว่างนั้นด้วย

เที่ยวพอ..สมควรก็ถึงเวลากลับแล้ว ซึ่งเขาจะกลับในเวลา 15.00 น. ซึ่งดีงาม เพราะกลับถึง กทม. ก็ไม่ดึกมากเกินไป (อ่อ...ลืมไป ระหว่างบริเวณนี้ ก็จะมีร้านชาวบ้าน ร้านอาหารของเขื่อน คอยให้บริการ สามารถซื้อข้าว ขนท น้ำได้ ของฝากก็มี เมื่อถึงเวลาที่เราจะกลับ เขาก็เก็บของกลับเช่นกัน)

ระหว่างที่เรากำลังจะกลับนั้น....เจ้าหน้าที่ รถไฟ การท่องเที่ยวเขื่อน เขาก้จะรำวง ตีกลอง ส่งเราที่สถานี ด้วย

คือดีงาม จะหาที่ไหนได้นอกจากประเทศไทย

พวกเรากลับละนะ

เจอกันใหม่ทริปหน้า.....

ทิ้งท้ายอีกสักรูป

ความคิดเห็น