ต่อจากรีววิวที่แล้วนะครับ https://th.readme.me/p/8545 หลังจากที่เดินทางออกจากเมืองปีนัง ก็มาต่อกันที่นี่เลยครับ

กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

เดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติปีนัง สู่ ท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ KLIA2 กับสายการบินแอร์เอเซีย ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง และอยากบอกว่าราคาตั๋วถูกมาก แค่ 45 ริงกิตเอง

จากท่าอากาศยาน KLIA2 ไปยัง KL Sentral ต้องต่อรถบัส สามารถซื้อตั๋วไปตรงประตูทางออกได้เลยจะเป็นเคาเตอร์ ราคาคนละ 12 ริงกิต ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง รถจะไปจอดสุดสายที่ KL Sentral ใต้ห้าง Nu sentral ซึ่งจุดนี้จะเป็นจุดศูนย์กลางของการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นรถบัสหรือรถไฟ สามารถเริ่มต้นได้จากจุดนี้เลย สะดวกมากๆเลย และที่พักของผมคืนนี้อยู่ไม่ไกลจากห้าง Nu Sentral ที่พักคืนนี้เราพักกันที่...

PODs Backpacker

คืนนั้นที่กัวลาลัมเปอร์ฝนตกทั้งวันทั้งคืน ผมไปถึงที่พักประมาณ 2 ทุ่มแล้วคืนนี้คงออกไปไหนไม่ได้ เอาเป็นว่าหาไรกินแล้วพักผ่อนดีกว่า คืนนี้ของฝากท้องที่ศูนย์อาหารในห้างที่อยู่ใกล้ที่พักเลยละกัน

อาหารมื้อนี้ถือว่าผ่านรสชาติกลางๆราคาค่อนข้างสูงนิดนึงแต่ก็ยังพอรับได้ อิ่นแล้วกลับที่พัก พักผ่อน

พรุ่งนี้มีนัดกับเพื่อนชาวมาเลย์ที่จะพาเราเที่ยวตั้งแต่เช้า

---

สวัสดีเช้าวันสุดท้ายที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ วันนี้อย่างที่บอกมีนัดกับเพื่อนที่สถานี Serdang ต้องนั่งรถไฟไปขึ้นจากสถานี KL Sentral คล้ายๆกับ BTS บ้านเรานั่นแหละ แต่ต้องดูสายให้ดีนะ มีทั้งสายสีแดง สีน้ำเงิน สีเขียว ถ้าไม่ชัวร์แนะนำให้ถามที่เคาเตอร์ตอนซื้อตั๋วเลยครับ

มุ่งหน้าสู่เมืองปุราจายา วันนี้มีเพื่อนเป็นไกด์ให้ ที่แรกที่จะไปคือ.....

มัสยิดสีชมพูหรือมัสยิดปุตรา

มัสยิดปุตรา (Putra Mosque) หรือมัสยิดสีชมพูเป็นสัญลักษณ์สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย ตั้งอยู่ริมทะเลสาบปุตราจายา ด้านหน้าของมัสยิดปุตรา คือ ปุตราสแควร์ (Putra Square) ลานกว้างแห่งนี้มีรูปดาว 13 แฉกหมายถึงรัฐทั้ง 13 ของมาเลเซีย มีธงของแต่ละรัฐตั้งอยู่ตามแฉกต่างๆ โดยตรงกลางเป็นธงชาติมาเลเซีย ภายในยังมีห้องสมุด แกลเลอรี และพิพิธภัณฑ์ให้ชมอีกด้วย
นอกจากนี้มัสยิดปุตรายังมีหอคอยสูงที่สวยงามสร้างขึ้นโดยได้รับอิทธิพลมาจากมัสยิดชีคโอมาร์ (Sheikh Omar mosque) ในกรุงแบกแดด โดยตัวหอคอยมีความสูงถึง 116 เมตร และยังเป็นหนึ่งในหอคอยที่สูงที่สุดในภูมิภาค มีห้ายอดเป็นสัญลักษณ์ของเสาหลักทั้งห้าในศาสนาอิสลาม ( ข้อมูล http://www.govivigo.com )

เวลาเปิด - ปิด: เปิดทุกวันแต่สามารถเข้าชมได้เป็นรอบๆ ตามเวลาดังนี้

วันเสาร์ - วันพฤหัสบดี เวลา 9:00 - 12:30 / 14:00 - 16:00 / 17:30 - 18:00

วันศุกร์ 15:00 - 16:00 / 17:30 - 18:00

เปอร์ดานาปูตรา ทำเนียบรัฐบาลมาเลเซีย

เปอร์ดานาปุตรา คือกลุ่มอาคารที่ใช้เป็นทำเนียบรัฐบาลของคณะรัฐมนตรี เป็นที่ตั้งของสำนักงานรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐมากมาย เปอร์ดานาปุตราตั้งอยู่บนเนินเขาปุตราจายา สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1997 การผสมผสานลักษณะสถาปัตยกรรมมาเลย์ อิสลาม และยุโรปไว้ด้วยกัน ทำให้ตัวอาคารดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ กลุ่มอาคารเหล่านี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของปุตราจายา ด้านบนของตัวอาคารมีโดมสีเขียวเด่นสะดุดตา อาคารมีสีอิฐ ( ข้อมูล http://www.malaysia.travel/th-th/ )

สะพานปุตราจายา

พระราชวังแห่งความยุติธรรม

พระราชวังแห่งความยุติธรรมหรืออิสตานา เคฮาคิแมน คืออาคารขนาดใหญ่ เป็นที่ตั้งของฝ่ายพิจารณาคดีและศาลต่างๆ ประกอบด้วยอาคารห้าชั้น ใช้เป็นสถานที่พิจารณาคดี ส่วนอาคารสองชั้นอีกหนึ่งหลัง เป็นที่ตั้งของศาลและสำนักงาน
เนื่องจากกลุ่มอาคารตั้งอยู่บนพื้นที่กว้างขวาง ดังนั้น จึงมักกลายเป็นสถานที่จัดงานระดับชาติ เช่น เทศกาลสีสันแห่งมาเลเซีย และงานอื่นๆ อีกมากมาย ที่นี่เหมาะกับการเดินถ่ายรูป อาคารมีหอคอยรูปโดมที่สวยงามเป็นจุดเด่น

( ข้อมูล http://www.malaysia.travel/th-th/ )

แม่น้ำปุตราจายา

มุมภาพถ่ายจากสะพาน Gemilang Bridge ใกล้กับตึก Convention Centre

Kuala Lumpur City Gallery

เป็นสถานที่จัดแสดงประวัติและแสดงข้อมูลของกัวลาลัมเปอร์ และห้องแสดงเป็นภาพเคลื่อนไหวของเมืองกัวลาลัมเปอร์ในปัจจุบันและอนาคต ยังมีจุดจำหน่ายของที่ระลึกแต่ของบอกว่าแต่ละชิ้นงานปราณีตมากราคานี้พุ่งทะลุเพดานเลย และมีอาหารของว่างแต่ทุกอย่างล้วนทำมาจากทุเรียนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เค้กทุเรียน เครปทุเรียน ทาร์ตทุเรียน

อาคารสุลต่านอับดุล ซาหมัด

อาคารสุลต่านอับดุลซามัด สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2440 ตั้งชื่อตามพระนามของสุลต่านแห่งสลังงอร์ โดยใช้เป็นที่ทำการของหน่วยงานราชการในยุคที่อังกฤษเข้ามาปกครอง ปัจจุบันเป็นอาคารสำนักงานของศาลฎีกา อาคารสุลต่านอับดุลซามัค และ หอนาฬิกาสูง 40 เมตร เป็นตัวอาคารเก่าแถบ Merdeka Square ซึ่งเป็น สถาปัตยกรรมแบบมัวร์ (Moorish) ส่วนที่เป็นหอนาฬิกาสูง 40 เมตรทมักจะเรียกกันว่าเป็น บิ๊กเบนของมาเลเซีย ส่วนด้านบนจะเป็นโดมขนาดใหญ่สีทอง อาคารนี้สร้างเมื่อเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ เพื่อใช้เป็นศูนย์บริหารอาณานิคมของอังกฤษ ปัจจุบันใช้อาคารที่ทำการของรัฐบาล

ข้อมูล https://sites.google.com/site/mmaraysia5701/

ถึงเวลาพักเบรคก่อนแล้วอากาศก็ร้อนแทบไหม้ ขอพักกินข้าวกินน้ำกันก่อนละกันนะ ใกล้จากจุดนี้จะมีตลาดคือ

Central Market เป็นตลาดขายของทั่วไป เสื้อผ้า ของที่ระลึก อาหาร ประมาณพลาซ่าในบ้านเรา อาหารที่นี่ค่อนข้างราคาถูก

ท้องฟ้าวันนี้สวยมากเลย ลุยกันต่อเลยครับ

KLTower หรือ หอคอยกัวลาลัมเปอร์

เป็นหอคอยที่ใช้ชมเมืองกัวลาลัมเปอร์สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก เป็นหอคอยชมวิวที่สูงที่สุดในกรุงกัวลาลัมเปอร์อาคารท่องเที่ยวถูกออกแบบให้สะท้อนวัฒนธรรมอิสลามของมาเลเซีย ห้องโถงหลักมีเพดานที่ตกแต่งด้วยโดมที่เคลือบด้วยกระจกอันประณีตซึ่งส่องประกายเหมือนเพชรเม็ดใหญ่ วันที่ไปไม่ได้ขึ้นไปเพราะเวลาไม่พอไว้โอกาสหน้าละกัน

จุดสุดท้ายจุดสำคัญเมื่อมามาเลเซียแล้วต้องไปพลาด ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คสำคัญเลย นั่นคือ...

ตึกแฝดหรือตึกปิโตรนัส Petronas Twin Towers

เป็นตึกที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีความสูง 452 เมตร มีทั้งหมด 88 ชั้น ซึ่งตึกนี้เป็นที่ทำการของบริษัทน้ำมัน Petronas นั้นเอง ตึกนี้มีความสูงรองมากจากตึก KL Tower สามารถขึ้นไปชมด้านบนได้แต่ราคาค่อนข้างแพงเลย เอาเป็นว่าชมด้านล่างก็พอเนอะ

หมดเวลาแล้วสำหรับทริปครั้งนี้ 4 วัน กับ 2 เมืองในประเทศมาเลเซีย พบเจอปัญหาเยอะเยะมากมาย ทุกสิ่งที่เจอมาล้วนเป็นประสบการณ์ทั้งสิ้น การออกเที่ยวแต่ละครั้งสิ่งที่เสียไปคือเงิน สิ่งที่ได้กลับคือประสบการณ์ ประสบการณ์ที่ต้องค้นหาด้วยตัวเอง และไม่จำเป็นต้องมีเงินมากก็เที่ยวได้แล้ว เดี๋ยวจะสรุปให้ตอนท้ายครับ ออกเที่ยวเถอะครับแล้วคุณจะรู้ว่าโลกนี้กว้างกว่าที่คุณคิดที่อะไรเยอะเยะที่รอให้คนไปชมไปเจอ

สรุปค่าใช้จ่าย (โดยประมาณ) 4 วัน 2 คืน 1 คืนบนรถ

ค่ารถ หาดใหญ่-ปีนัง 400 บาท

ค่าที่พักที่ปีนัง 400 บาท

ค่าเครื่อง ปีนัง-กัวลาลัมเปอร์ 450 บาท

ค่ารถ กัวลาลัมเปอร์-หาดใหญ่ 500 บาท

ค่ากินกับค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด 1,200 บาท

รวมแล้วทั้งหมดไม่เกิน 3,000 บาท

---

ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ สมุดบันทึกการเดินทาง https://web.facebook.com/PKimage/