Trip at Surat Thani....3 day 2 night Budget 2,800 baht

>>เขื่อนเชี่ยวหลาน - เขาสามเกลอ (กุ้ยหลินเมืองไทย) - แพนางไพร - เขาเทพพิทักษ์ (เขารูปหัวใจ)

"เพราะการเดินทางทำให้เราได้ออกไปสัมผัสโลกกว้าง และทุกการเดินทางมักมอบประสบการณ์และความทรงจำที่ดีเสมอ"


การเดินทางครั้งนี้เกิดขึ้น เนื่องจากโปรชั่นของสายการบิน Air Asia ที่มักออกมาล่อตาล่อใจเป็นประจำ ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นพวกเที่ยวแบบ low cost เที่ยวแบบประหยัดแต่ชอบสบาย (งบน้อยแต่อยากเที่ยว) ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จองตั๋วไปเที่ยวด้วยเครื่องบินและไปภาคใต้ ชวนเพื่อนได้แล้วก็กดจองกันเลย

โดยราคาที่ได้มาคนละ~ 755 บาท/ไป-กลับ ถือว่าคุ้มมากสำหรับเรา

วันเดินทาง คือ 22-24 ธันวาคม 2559

My plan : แผนการเดินทาง

ด้วยความที่เป็นครั้งแรกเราจึงต้องวางแผนการเดินทางหารถ ที่พักกันล่วงหน้า โดยเป้าหมายของเรา คือ เขื่อนเชี่ยวหลาน (เขื่อนรัชชประภา) หรือกุ้ยหลินเมืองไทย สถานที่เป็นจุดหมายของใครหลายๆ คน

เดินทาง

- นั่งเครื่องบินจากดอนเมือง-สุราษฯ
- เหมารถตุ๊กๆ นำเที่ยว รับ-ส่งสนามบิน
- เหมาเรือรับ-ส่ง ที่พักแพนางไพร นำเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน, เขาสามเกลอ (กุ้ยหลินเมืองไทย)

ที่พัก

- คืนแรกพักที่ "บ้านพักริมเขื่อน"
- คืนที่สองพักที่ "แพนางไพร" (จองที่พักพร้อมเรือเหมา รวมอาหาร 3 มื้อ)
*อาหารการกิน : หิวไหนกินนั่น!

กิจกรรม

- ชมวิวและถ่ายรูปสันเขื่อน
- นั่งเรือไปชมวิวเขาสามเกลอหรือกุ้ยหลินเมืองไทย
- พักแพนางไพร กินลม ชมวิว ใช้ชีวิต slow life
- เล่นน้ำ พายเรือคายัค บริเวณแพ
- นั่งเรือชมวิวพระอาทิตย์ตก
- ชมวิวและถ่ายรูปเขาเทพพิทักษ์หรือเขารูปหัวใจ
>>เตรียมแผนการเดินทางแล้วรอวันเดินทางกันเลย

[ DAY 1 ] 22.12.59

เราออกเดินทางด้วยไฟท์บินเวลา 15.40 น. จากสนามบินดอนเมืองถึงสนามบินสุราษฯ 16.55 น. (ช่วงเวลาราคาโปรโมชั่นที่ได้มา) เนื่องจากเราไปถึงเย็นจึงเลือกไปพักในเขื่อน เพื่อจะได้เที่ยวบริเวณรอบๆเขื่อนแต่เช้า โดยให้รถเหมามารับที่สนามบินให้ไปส่งที่พักที่จองไว้

นกยักษ์ที่พาเราไปยังสนามบินสุราษฯ ในวันนี้ เช็คอินแล้วก็ขึ้นเครื่องไปกัน let go...

วิวบนฟ้านี่สวยจริงๆ

"เราไม่รู้หรอกว่าทางข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่เมื่อเลือกที่จะไปก็ต้องก้าวไปให้ถึงจุดหมายแค่นั้นเอง" ฝนตกต้อนรับเราซะแล้วสิ 555

ลงเครื่องปุ๊ป ก็โทรหาคุณลุงรถเหมา ซึ่งมารอรับเราแล้วไปที่พักกัน ก่อนถึงที่พักก็แวะทานข้าวเย็น แล้วเข้าพักที่ "บ้านพักริมเขื่อน" (เนื่องจากไปถึงมืด และออกแต่เช้าเลยไม่ได้ถ่ายรูปที่พักมา แอบเสียดาย...แต่ขอบอกว่าเจ้าของบริการดีมาก)

[ DAY 2 ] 23.12.59

Morning Day...เช้าวันที่ฝนพรำ

นี่ไงโฉมหน้ารถเหมาที่พาไปทุกที่ที่อยากไป เฟี้ยวฟ้าวสุดๆ บอกเลยคุณลุงใจดี บริการดีมาก อยากลงไหนบอกได้เลย เช้านี้อากาศกำลังดีไม่ร้อน อาจจะครึ้มฟ้าครึ้มฝนบ้าง แต่ก็ไม่สามารถขัดขวางทริปของเราได้ 😁 เช้านี้เราจะแวะไปถ่ายรูปตรงสันเขื่อนก่อนที่จะลงเรือไปที่แพนางไพร

เขื่อนเชี่ยวหลาน : วิวสันเขื่อน

ระหว่างที่ถ่ายรูปฝนก็ตกลงมาประปราย เราก็วิ่งหลบฝนกันวุ่น สักพักก็หยุดตก เป็นทริปที่สนุก มันส์ ฮา ชุ่มฉ่ำกันมาก 555

"ฝนหรอจะกลัว...กลัวไม่ได้ถ่ายรูปมากกว่า 555"

จากนั้นก็ไปลงเรือเพื่อไปชมวิวภายในเขื่อน โดยจุดที่ทุกคนต้องไปกัน คือ เขาสามเกลอ ที่เป็นเหมือน signature ของเขื่อนเชี่ยวหลาน ที่ซึ่งได้รับขนานนามว่า "กุ้ยหลินแห่งเมืองไทย" นั่นเอง

เราให้คุณลุงมาส่งที่ท่าเรือ คุณลุงก็ถามว่าจองเรือกับใครแล้วก็ช่วยโทรหาคนขับเรือให้มารอรับ ก่อนลงเรือก็ไปจ่ายค่าธรรมเนียมอุทยานคนละ 40 บาท พร้อมแล้วก็ไปกันเลย...

ตื่นเต้นสุดๆ สำหรับทริปนี้ ฝนก็ทำท่าจะตกอีก...555 แต่เพราะฝนที่ตก ทำให้เราได้เจอมุมที่แตกต่าง มีหมอกจากๆ บรรยากาศเย็นสบาย เหมือนกำลังล่องเรือผจญภัยท่ามกลางขุนเขาและสายน้ำที่รายล้อม รอให้เราไปสัมผัสกับความงดงามมหัศจรรย์ของสถานที่แห่งนี้ ฟินสุดๆ 😊

เขาสามเกลอ : กุ้ยหลินเมืองไทย

เขาหินปูนสามลูก ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางเขาหินปูนทั้งหลายอย่างสงบ บนผืนน้ำสีเขียวครามเป็นความงดงามที่รอให้นักท่องเที่ยวไปเยือน ซึ่งมีลักษณคล้ายกับกุ้ยหลินเมืองจีน จึงได้รับขนานนามว่า "กุ้ยหลินเมืองไทย" Amazing Thailand เมืองไทยมีที่เที่ยวสวยๆ เยอะเลย เก็บกระเป๋าแล้วออกไปเที่ยวกันเถอะ ^^

จากนั้นก็ไปยังที่พักนั่นคือ "แพนางไพร" ซึ่งเป็นแพของทางอุทยานเป็นแพที่อยู่ใกล้เขาสามเกลอมากที่สุด และวิวที่สวยงาม นอกจากจะมานอนพักที่แพแล้ว ยังสามารถมาแวะเที่ยวแบบไป-กลับได้ด้วย และที่นี่ยังมีปลาชุกชุมเป็นจำนวนมาก เรียกว่า "วังปลา" จึงมีผู้มาแวะเวียนทั้งแบบค้างคืนหรือไป-กลับจำนวนมาก

เรามาถึงสักพักก็ถึงมื้อเที่ยงพอดี ด้วยความหิวมากจึงไม่ได้ถ่ายรูปอาหารมาอีกแล้ว แต่รสชาติอร่อยใช้ได้เลย จองที่พักรวมอาหารจึงไม่ต้องกังวลว่าจะกินอะไร เพราะที่แพมีเตรียมให้ แต่ถ้าใครไม่เอาอาหารก็สามารถจองแพแบบไม่เอาอาหารได้เช่นกัน

กิจกรรมอยู่บนแพเราก็ถ่ายรูป กินลม ชมวิว ให้เวลาผ่านไปช้าๆ ไม่รีบร้อนเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก แต่มีความสุขมาก สุขที่ได้หยุดนิ่ง สุขที่ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ตกเย็นก็ไปพายเรือคายัค เล่นน้ำกับเพื่อน บอกเลยว่าน้ำใสมาก และเย็นมาก 555

กล้องพร้อม...วิวพร้อม

ลงเรือกับเราไหม? เราเพิ่งเคยพายครั้งแรก 555 บอกเลยทั้งกลัว ทั้งขำ...แต่ก็รอดมาได้นะ

พายเรือเสร็จ กิจกรรมต่อไป คือ กระโดดน้ำจ๋อมแจ๋ม ^^ Let go

ถามว่าสนุกไหม...ตอบเลยสนุกมากกกก ถามว่าหนาวไหม...หนาวมากเช่นกัน 😂 รีบไปอาบน้ำเลยค่ะ

อาบน้ำเสร็จแล้ว คุณลุงเรือเหมาก็ถามว่าไปดูพระอาทิตย์ไหม? เราก็ไปอย่างเดียวเลย...พอออกจากแพเท่านั้นแหล่ะ ฝนตกค่าาาา...แล้วที่เราอาบน้ำมาล่ะ เปียกสิคะ 555 พระอาทิตย์ตกหรอ! ไม่เห็นเลย 🌄😂 เหมือนไปนั่งเรือตากฝนสนุกสนานไปอีก

กลับมาถึงแพก็กินข้าวแล้วก็อาบน้ำนอน... บรรยาศตอนกลางคืนก็เรียกความฟินได้ไม่แพ้กัน หมู่ดาวเปล่งประกายเต็มท้องฟ้าเลย เป็นทริปที่มีความสุขมากจริงๆ

[ DAY 3 ] 24.12.59

ตื่นเช้ามาสัมผัสแสงแรกของวันใหม่ จิบกาแฟริมน้ำ เป็นช่วงเวลาสุขสุดๆ

แสงแรกของวันใหม่...หลังจากเมื่อวานติดใจการพายเรือครั้งแรก เช้านี้จึงชวนเพื่อนไปพายอีกรอบ

สำหรับวันนี้เราทานมื้อเช้าเสร็จ ช่วงสายๆ ก็นั่งเรือกลับขึ้นฝั่ง ก่อนกลับก็ไปแวะเขาสามเกลออีกครั้ง วันนี้อากาศดีฟ้าเปิดหลังจากที่เมื่อวานครึ้มฟ้าครึ้มฝนทั้งวัน เราก็ได้เห็นวิวภายในเขื่อนที่แตกต่างกัน บอกเลยว่าสวยไม่แพ้กัน

ไปละนะแพนางไพร

เมื่อวานเจอฝน วันนี้เจอแดด แต่ทั้งสองบรรยากาศนั้น วิวคือดีงามจริงๆ

เราบอกเวลาที่จะถึงท่าเรือไว้คุณลุงก็จะมารอรับ พอถึงก็โทรหา แล้วคุณลุงก็พาขึ้นไปถ่ายรูปสันเขื่อนอีกรอบ

เขาเทพพิทักษ์ : เขารูปหัวใจ

จากนั้นก็เดินทางเพื่อไปที่เขาเทพพิทักษ์หรือเขารูปหัวใจ ซึ่งเป็นทางผ่านไปสนามบินสุราษฯ

"ขนาดเขายังมีหัวใจ แล้วทำไมเราจะไม่มีล่ะ" ❤ ฮิ้ววว 555

หมดเวลาสนุกแล้วสิ....ได้เวลากลับกรุงเทพฯ แล้ว สำหรับทริป 3 วัน 2 คืน ของเราถือว่าเป็นทริปที่สนุก และมีความสุขมาก เป็นช่วงวันหยุดที่คุ้มค่ากับเวลาที่ใช้ไป คุ้มค่ากับราคาที่ใช้ซื้อความสุข และคุ้มค่าที่เราได้เดินทางไปสัมผัสว่าเมืองไทยน่าเที่ยวจริงๆ

Bye เมืองสุราษฎร์ธานี...สักวันคงได้กลับมาเยือนอีกครั้ง

สรุปค่าใช้จ่าย

- ค่าเครื่องบินดอนเมือง-กรุงเทพ 755 บาท/คน/ไป-กลับ

- ค่าเหมารถตุ๊กๆ นำเที่ยว 2500/5 = 500 บาท/คน >>ลุงกร 061-141-2619

- ค่าบ้านพักริมเขื่อน 1600/5 = 320 บาท/คน >> http://www.baanpakrimkuan.com/ โทร : 081-958-3133

- ค่าเหมาเรือไปแพนางไพร 2000/5 = 400 บาท/คน

- ค่าที่พักแพนางไพร (รวมอาหาร 3 มื้อ) 800 บาท/คน >>จองผ่านคุณอรุณ 081-085-1762 แพนางไพร+เรือ

- ค่าเข้าอุทยาน 40 บาท/คน

รวม ~ 2800 บาท/คน

Pichika.P

 วันพุธที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 16.49 น.

ความคิดเห็น