48 hr. in Chiang mai (เชียงใหม่ 2 วัน ก็เที่ยวได้)

สวัสดีครับเพื่อนๆทุกท่าน วันนี้จะมาแนะนำสถานที่เที่ยวและนั่งชิลในเชียงใหม่ แบบรวบรัดภายใน 48 ชั่วโมง สำหรับคนที่มีเวลาน้อยเช่นผม เนื่องจากผมบินไฟก์ดึกไปเยี่ยมแฟนที่เชียงใหม่ถึงสนามบินเชียงใหม่ก็ 4 – 5 ทุ่ม(ราคาตั๋วถูกดี แฮ่) ทำให้มีเวลาเหลือเที่ยวเชียงใหม่ไม่ถึง 48 ชั่วโมง แต่ไหนๆก็มาแล้วเลยขอให้แฟนขับรถพาเที่ยวหน่อย โดยจะเน้นไหว้พระเที่ยวชมวัด นั่งชิลร้านกาแฟ และหาของอร่อยๆทานเป็นหลัก โดยผมนำมาจัดเรียงสถานที่และช่วงเวลาใหม่ เพื่อให้สะดวกต่อการเดินทาง จะได้ไม่นั่งรถวนไปวนมา

วันที่ 1

ร้าน Rustic & Blue นิมมานซอย 7

เช้าวันแรกหาอาหารรองท้องก่อนออกตะลุยเชียงใหม่ ขอแวะเติมพลังที่ร้าน Rustic & Blue กับอาหารแนวฟิวชั่นและคลีนที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว อาหารมีให้เลือกหลากหลาย โดยเน้นที่อาหารฟิวชั่นที่มีผักสดเป็น่สวนประกอบหลัก
ร้านตั้งอยู่ที่ถนนนิมมานซอย 7 สามารถจอดรถได้ตามข้างมาง (ดูป้ายห้ามจอดวันคู่/คี่ ดีๆละ)

ร้านเปิดทุกวัน 08:30 – 21:00

Google Map

หน้าร้าน Rustic & Blue

บรรยากาศภายในร้าน Rustic & Blue

วัดเจดีย์หลวงวรวิหารและวัดพันเตา

Google Map

หลังจากเติมพลังยามเช้าเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางไปยัง วัดเจดีย์หลวงวรวิหารและวัดพันเตา ไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคล

วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร

วัดเจดีย์หลวงวรวิหารเป็นวัดเก่าแก่คู่เมืองเชียงใหม่ โดยได้รับการประกาศเป็นโบราณสถานสำหรับชาติ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2478 ภายในวัดมีสถานที่สำคัญ 2 แห่งคือ

1.วิหารหลวง

เจ้าคุณอุบาลีคุณปรมาจารย์ (สิริจันทะเถระ) และเจ้าแก้วนวรัฐเป็นผู้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2471 เป็นวิหารมี่มีความวิจิตรงดงาม ด้านหน้ามีบันไดนาคและซุ้มประตูที่แกะสลักลวดลายไว้อย่างงดงามตระการตา ภายในประดิษฐานพระอัฎฐารสเป็นพระประธาน หล่อด้วย ทองสำริด ปางห้ามญาติ โดยพระนางติโลกะจุดา ราชมารดาของพญาติโลกราช โปรดฯให้หล่อขึ้น เมื่อ พ.ศ. 1954 สมัยรัชกาลที่ 5

วิหารหลวง (วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร)

วิหารหลวง (วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร)

พระประธานภายในวิหารหลวง

2.พระธาตุเจดีย์หลวง

พระธาตุเจดีย์หลวง มีความสูงประมาณ 80 เมตร เมตร ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างประมาณด้านละ 60 เมตร ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ 20 ในที่สุดเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ในปีพ.ศ. 2088 ทำให้ยอดพระเจดีย์หลวงก็พังทลายลงมา เหลือให้เห็นดังสภาพปัจจุบัน

วัดพันเตา

Google map

หลังจากเยี่ยมชมและไหว้พระที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหารเรียบร้อยแล้ว เดินมาจากวัดแล้วเลี้ยวซ้ายจะมาถึงวัดพันเตา วัดที่มีอายุเก่าแก่ใกล้เคียงกับวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร โดยภายในเป็นที่ตั้งของพระวิหารหอคำหลวง และในทุกๆเทศกาลลอยกระทงทางวัดจะจัดงานจุดเทียนและลอยโคมยี่เป็งเป็นที่สวยงาม และถือเป็นหนึง่ใน Unseen Thailand เลยก็ว่าได้

ร้านคั่วไก่ นิมมาน

ร้านเปิดทุกวัน 09:00 – 20:30

Google map

หลังออกจากวัดพันเตา ท้องก็ร้องจ๊อกๆส่งสัญญาณว่าเวลาใกล้เที่ยง ให้รีบหาร้านข้าวประทังความหิวก่อนออกตะลุยเชียงใหม่กันต่อ งานนี้เจ้าถิ่นซึ่งก็คือแฟนผมพาไปฝากท้องที่ร้านคั่วไก่นิมมาน ถึงร้านจะชื่อคั่วไก่ แต่ก็มีอาหารให้เลือกหลากลาย อาทิ ปีกไก่ทอดน้ำปลา, ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่อบไข่กระทะร้อน, ยำเกี๊ยวกรอบกุ้งสด, ข้าวซอยเนื้อน่องลายตุ๋น, หมูสะเต๊ะโบราณ เป็นต้น

อ่างแก้ว (มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)

Google map

หนังท้องตึงหนังตาชักจะหย่อน ตกบ่ายเราสองคนไปพักผ่อนหย่อนใจ ถ่ายรูปเล่น นั่งรับลมสูดอากาศกันริมอ่างแก้ว ภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก่อนจะไปต่อกันที่ร้านกาแฟใกล้ๆกับวัดสวนดอก เพื่อรอถ่ายรูปวัดสวนดอกยามเย็น

The Barn Eatery And Design

ร้านเปิด (จ. – ส.) 10:00 – 01:00
อา. 10:00 – 00:00

Google map

ตอนเย็นวางแผนไว้ว่าจะมาถ่ายพระอาทิตย์ตกที่วัดสวนดอก โชคดีที่ใกล้กับวัดมีร้านกาแฟติดแอร์ให้นั่งรอ ที่นี้ขายเครื่องดื่มและเค้กเป็นหลัก ไม่มีอาหารมือหลักให้สั่งมาทาน เหมาะกับการมานั่งอ่านหนังสือและทำงาน โดยหลังร้านก็มีมุมเก๋ๆที่ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ให้ออกไปถ่ายรูปเล่นหรือจะเอาเครื่องดื่มิิกไปนั่งหลังร้านก็ได้

วัดสวนดอก (พระอารามหลวง)

Google map

วัดสวนดอกสร้างขึ้นในภายในเวียงสวนดอก ซึ่งเป็นเขตพระราชอุทยานในสมัยราชวงศ์มังราย โดยวัดสวนดอก ได้รับการประกาศเป็นโบราณสถานสำหรับชาติ วันที่ 8 มีนาคม 2478 ภายในวัดมีปูชนียสถาน-วัตถุ อาทิ พระเจดีย์ใหญ่ทรงลังกาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ กู่เจ้านายฝ่ายเหนือ และพระพุทธปฏิมาค่าคิง เป็นต้น

ร้านลาบไก่ นิมมาน

Google map

มาเมืองเหนือทั้งทีก็ต้องขอลองอาหารเหนือกันหน่อย ก่อนเข้าที่พักแฟนพาแวะร้านลาบไก่ นิมมาน เมนูแนะนำ ข้าวซอยไก่, ข้าวผัดแหนม, ผักเซียงดาผัดไข่, ลาบไก่, น้ำพริกอ่อง และแกงโฮะ

ONCE (Upon a Time) Boutique Home

ONCE (Upon a Time) Boutique Home เป็น Premium Bed & Breakfast ใจกลางเมืองเชียงใหม่ โดยใช้เวลาเดินจากโรงแรมสามารถเดินไปเยี่ยมชมวัดต่างๆในตัวเมืองเพียงแค่ 10 – 20 นาที ห้องพักมีให้เลือกทั้งแบบ Standard และ Deluxe ราคา 1,800 และ 2,900 ตามลำดับ โดยผมจองเป็นห้องแบบ Deluxe รวมอาหารเช้า ในราคา 2,900 บาท

โรงแรมตกแต่งได้สวยงาม ห้องพักกว้างขวางและสะอาด มีผ้าเช็ดตัว เสื้อคุม และอุปกรณ์อาบน้ำให้ครบคัน อาหารเช้ารสชาติอร่อย โดยเป็นแบบ alacarte สามารถเลือกอาหารได้ตั้งแต่ตอนเช็คอิน

วันที่ 2

วันนี้มีเวลาอีกนิดหน่อยในช่วงเช้า ก่อนจะขึ้นเครื่องบินกลับกทม.ในช่วงบ่าย โดยช่วงเช้าตื่นมาทานอาหารเช้าของโรงแรมหลังจากนั้นเช็คเอ้าท์แล้วไปนั่งจิบกาแฟ ทานเค้กกันต่อที่ No.39 cafe ก่อนปิดทริปนี้ด้วยการไปถ่ายรูปเล่นที่โครงการ "บ้านข้างวัด" โดยทั้ง 2 สถานที่อยู่ใกล้เคียงกันขับรถ 10 นาทีก็ถึง

ร้านNo.39 cafe

ร้านเปิด 10:30 – 20:00

Google map

ร้านกาแฟแบบ Self service มีสระน้ำขนาดค่อนข้างใหญ่อยู่กลางร้าน และมีบ้านเป็นหลังๆให้เลือกนั่งทั้งแบบห้องแอร์และกลางแจ้ง โดยการสั่งเครื่องดื่มและเค้กที่ร้านนี้หลังจากสั่งและจ่ายเงินแล้วให้ยืนรอรับของเลยเพราะต้องถือไปที่โต๊ะเอง

"บ้านข้างวัด"

โครงการเปิด 11:00 – 18:00 (ปิดวันจันทร์)

Google map

บ้านข้างวัดเป็นสถานที่ ฮิปๆ ที่มีมุมสงบๆให้นั่งอ่านหนังสือ มีแกลเลอรีโชว์ผลงานศิลปะ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านสปา ให้เลือกนั่งพักผ่อนหย่อนใจกันตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน โดยโครงการไม่เก็บค่าเข้าชมสถานที่ มีเพียงค่าบำรุงแกลเลอรี 10 บาท ถ้าเราต้องการเข้าไปถ่ายรูปภายในแกลเลอรี

เชียงใหม่เป็นเมืองที่เที่ยวเพียงแค่ 2 – 3 วัน ก็เที่ยวไม่ทั่ว เนื่องจากเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีที่เที่ยวหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นที่เที่ยวทางธรรมชาติ(อุทยานแห่งชาติต่างๆ) ที่เที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรม(วัดวาอารามต่างๆ) ที่เที่ยวสไตล์วัยรุ่น(ถนนนิมมาน) ที่เที่ยวเชิงเกษตรและอนุรักษ์(โครงการหลวง)

ครั้งต่อไปจะพาเที่ยวบ้านเกิดของผมและแฟน จังหวัดนครราชสีมา(โคราช) โดยใช้เวลา 48 ชั่วโมงกันครับ

Facebook: BackpackerGraphy
@BackpackerGraphy