"ผมรักการเดินทาง การเดินทางทำให้ได้พบเจออะไร มากมายที่ไม่ได้อยู่แต่ในกรอบสังคมเมือง"
นี่เป็นการเดินทางครั้งที่ 2 ที่มาที่เชียงคาน เนื่องจากเราชอบ ความเงียบสงบ เมื่อมีโอกาศจึงอยากมาอีกรอบรอบนี้อยากมาแบบ low cost จึงขอเริ่มจาก หัวลำโพงเลยละกัน โชคดีคือได้ขึ้นรอบตั๋วฟรี เวลา 2ทุ่ม45
เที่ยวนี้ไงปลายทางของเราคือ อุดรธานี อย่างว่าหละของฟรีใครบ้างจะไม่ชอบ555 นั่งอึดอัดสุดๆแต่ก็ต้องทนๆๆๆถถถถ555
ข้อดีของการนั่งรถไฟคือ ประหยัดแล้วก็ได้เห็นภาพแบบนี้ ส่วนตัวผมสดชื่นนะไม่รู้บ้าไปแล้วมั้ง5555
เวลา 8.00 ถึงสะทีโว้ยยยยย สถานี อุดรธานี แล้วพอเราลงมาก็จะมีพี่สามล้อมาลุมอย่างกะแมลงวันตอมขี้ พอพูดถึงขี้เราแม้งโคตรปวดเลย ถามพี่แกว่าไปห้องน้ำทางไหน แกบอกว่าให้แกไปส่ง บขส.ไหมไปอะไปอยู่แล้ว แต่ดูนิสนึงว่ากูปวดขี้5555 พอขี้เสร็จขอจัดไก่ย่างหน่อย ซื้อมาจากสถานีสวนกวาง
โคตรเยอะกูจะกินยังไงหมดวะเนี่ย เหลือบเห็นหมายุ ก็แบ่งๆกันกิน สรุปมีหมาเป็นเพื่อน(กิน) ในตอนนั้น555
พอทานเสร็จก็ นั่งสามล้อจากสถานีรถไฟ อุดรราชธานี ไป บขส.อุดร ราคา 100 บาท
จาก บขส.อุดร >เมืองเลย ให้ขึ้นรถคันนี้เลย ราคา 91 บาท ถูกกว่าสามล้อเมื่อกี้อีก ไกลก็ไกลกว่า 55 ช่างแม้งเหอะ555
พอมาถึง บขส.เมืองเลย ให้เดินหาคิวรถสองแถว เมืองเลย>เชียงคาน รอบนี้เรามาทันออกรอบ 12.50 น
มาแล้วโว้ยยย สิ่งที่รอคอยท่ามกลางความร้อนโคตรๆๆๆๆๆ
รถก็จะวิ่งกว่าจะถึงเชียงคานใช้เวลาประมาน 2 ชั่วโมงคือเหมือนรถแม้งคลานอะแล้ว ผมยืนห้อยท้านด้วยแม้มมมม555 สุดๆๆ ค่ารถ 35 บาท ถือว่าโคตรถูกเมื่อเทียบกับระยะทาง
มาสรุปค่าเดินทางมาเชียงคานกันหน่อย
> รถไฟจากหัวลำโพง-สานีอุดรราชธานี = ฟรี
>สามล้อ สถานีรถไฟอุดร-บขส.อุดร = 100 ฿
>นั่งรถบัสจาก บขส.อุดร สายอุดร-เลย = 91 ฿
>นั่งรถบัสจาก บขส.เลย สายเลย-เชียงคาน = 35 ฿
>ถึงสถานีเชียงคานสุดสาย แล้วนั่งสามล้อเข้าบ้านชางเคียง = 40 ฿
รวม = 226 ฿
แค่มีเงิน 226 ก็มาได้โถ่ววอย่าข้ออ้างเยอะหน่าาาา อิอิ
คือบ้านโคตรวินเทจโคตรชอบครับ พี่เจ้าของก็เป็นกันเอง ราคาห้องละ 550 สำหรับ2คน แต่ผมไปคนเดียวราคาก็เท่า2คน แอบบเซงแต่ถูกกว่าที่อื่น ที่เห็นๆก็600 กันทั้งนั้น
มีกาแฟขายด้วยนะ.....
หลังบ้าน
นี่ที่นอนเราอยู่ชั้น2 ไปคนเดียวแต่เตียงคู่ช้ำใจยิ่งนัก555
วิวข้างห้อง
นี่เปิดประตูระเบียงวิวนี้
ตกเย็นก็ไปเดินถนนคนเดิน หาอะไรกินซักหน่อย
ป้ายนี้ใครมาก็ต้องถ่าย ไม่รู้จะถ่ายเพื่อ555
ที่พักมีโคตรเยอะเดินหาเอาได้สบายๆช่วงนี้คนน้อย
อาทิตตกเเล้วเด้อออ
ใครมาที่นี่ถ้าไม่กินกุ้งแม่น้ำย่างถือว่าพลาดหนักมากๆๆๆ
เช้าวันที่2
เวลาประมานตี5 ได้นัดให้พี่สามล้อมารับไปภูทอก โดย่าโดยสารที่ตกลงกันไว้คือ 200 ให้รอรับด้วยโดยเดินทางประมานครึ่งชั่วโมง ก็ํถึง ภูทอก
โดยรถสามล้อจะจอดรออยู่ข้างล่างแต่ต้องมาซื้อตั๋วราคา25บาท ขึ้นไปโดยมีรถของชาวบ้านขับขึ้นไป จะไม่ให้นักท่องเที่ยวนำรถขึ้นไป
ไม่ได้ตั้งใจจะไปดูทะเลหมอกหรอกปลอบใจตัวเอง555 ดูพระอาทิตขึ้นโว้ยยยยย
แบบนี้ก็ได้หรอ ฮ่าๆๆๆๆๆ
ซึ่งหลังจากสูดอากาศอยู่ข้างบนประมาน 1 ชั่วโมงก็ลงมาที่พักเพื่อรรถทัวออกจากเชียงคานประมาน 1 ทุ่ม บรรยากาศก็อย่างที่เห็นคนแทบไม่มี
ปล.ขากลับกระผมขอนั่งรถทัวนอนเหยียดให้เต็มที่นะครับ555
>>>ใช้ไปเถอะครับชีวิตที่อยากจะทำอะไรเพราะชีวิตคนเรามันสั้น<<
สุดท้ายท้ายสุดนี้ ขอขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันเด้อ
ทริปหน้าพบกันใหม่
ติดตามการเดินทางครั้งต่อไปได้ทาง: https://www.facebook.com/Diary-Backpacker-11393172...
Diary Backpacker
วันเสาร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 13.24 น.