....มาถึงบทส่งท้ายของการเดินทางในทริปนี้แล้ว.... ไล่เรียงมาตั้งแต่ ตัวเมืองเชียงใหม่ มาปางมะผ้า เข้าแม่ฮ่องสอน ออกขุนยวม และเราจะจบทริปกันที่..อำเภอฮอด...
ถ้าพูดถึงอำเภอฮอด ที่เที่ยวที่ต้องนึกถึง ...ออบหลวง... ใช่ป่ะ!! แล้วที่หลับที่นอนหล่ะ จะนอนกันที่ไหนดี นั่นสิน่ะ......
เริ่มทำการบ้านอย่างหนักหน่วง กับการค้นหาที่พักในตัวเมืองฮอด จนได้มาเจอกับที่พักแห่งหนึ่ง ซึ่งมีรีวิวน้อยมาก ภาพธรรมชาติเพียงน้อยนิดที่ได้เห็น แต่กลับมีแรงดึงดูดได้อย่างมากมาย จนต้อง "กริ๊งกร๊าง" ไปจองที่นี่ไว้
...สวนป่าแม่แจ่ม บ้านเล็กในป่าใหญ่...
อันที่จริง สวนป่าแม่แจ่ม อยู่ในเขตอำเภอแม่แจ่ม เป็นสวนป่าขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ที่ปลูกต้นสักเอาไว้เพื่อเป็นที่เรียนรู้ระบบนิเวศ มีเนื้อที่รวม 6,932 ไร่ อยู่ห่างจากออบหลวง อ.ฮอด เพียง 20 กิโลเท่านั้น
เพราะฉะนั้น!! ที่นี่จึงเหมาะเหม็งมากๆ ที่เราจะพักกัน ก่อนออกตะลอนเที่ยวในวันรุ่งขึ้น...แต่ก่อนที่จะเข้าที่พัก ก็ขอเก็บที่เที่ยวระหว่างทางซะก่อน
ออกจากขุนยวม เราก็ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข108 กันต่อ โค้งของถนนสายนี้จะเป็นโค้งยาวและหักศอก ผิดกับสาย 1095 ที่จะเป็นโค้งสั้นๆแต่ถี่ เอาหล่ะ!!ใครชอบแบบไหนก็เลือกกันไป แต่ ณ.ตอนนี้ ขอทางตรงก่อนได้มั้ย!!
ในที่สุด เราก็เจอจุดพักโค้งกันแล้ว ต้องแวะหน่อยแล้ว ไม่ไหว ไม่ไหว!!... คอหอยโดนโจมตี 555+++
นี่เลย!! ทุ่งดอกบัวตอง ..ดอยแม่เหาะ.. อยู่ติดกับถนนสาย 108 เลย ถ้าใครผ่านมาทางแม่สะเรียง ก็แวะชมดอกบัวตองที่นี่ได้ ถ้าไม่อยากจะฝ่าดงโค้งไปถึงขุนยวม (ต้องเรียกดง เพราะโค้งเยอะมาก )
ความสวยก็ไม่แพ้กันหรอกน่ะ
ออกจากดอยแม่เหาะ ก็ขับมาเรื่อยๆ ก่อนถึงแยกที่จะเลี้ยวไปแม่แจ่ม(ขอโทดน๊า จำชื่อแยกไม่ได้ ฮือๆ) จะเจอ "สวนสนบ่อแก้ว" เขาเรียกกันว่า เกาะนามิเมืองไทย เลยน่ะ ไปดูหน้าค่าตากันหน่อยว่าเหมือน อะเป่า??...
เหมือนมั้ยไม่รู้ .. แต่รู้ว่าสนที่นี่สวยมากกกก
ออกจากเกาะนามิ เอ้ย!! สวนสนบ่อแก้ว มาไม่ไกลมากก็ถึงแยกที่จะไปแม่แจ่ม ถ้าพักสวนป่า ก็เลี้ยวไปทางนี้เลย ไปอีกประมาณ 15-16โล เวลานี้ก็ประมาณบ่ายสามโมง
กะไว้ว่าจะหาซื้อของกินไปนั่งปิคนิคกันที่ที่พัก แต่แล้ววว!!ตั้งแต่ขับรถออกมาจากสวนสน ก็มิมีร้านรวงขายอาหารเลย จะมีก็แต่ ถนน โค้ง ป่า และก็...สิบล้อ!!
เอาว่ะ!! เดี๋ยวให้ไปถึงที่พักก่อนแล้วค่อยขับมาที่ตัวเมืองฮอดก็ได้ (นึกในใจ) แต่จนแล้วจนรอด... ยิ่งขับรถไปเรื่อยๆ ทำไมรู้สึกว่าไกลจัง ไม่มีแม้กระทั่งป้ายบอกทางไปสวนป่า หลงซะล่ะม้างงง!!
แต่ในที่สุด!! ฟ้าก็ประทานร้านค้าข้างทางมาให้ 555++ มีพวกเครื่องดื่ม ไก่ย่างขาย เอาหล่ะ!! ถามทาง!!
ไปทางนี้แหละถูกแล้ว ไม่ได้หลงหรอก เลยโค้งนี้ไป เขาลูกนู้นหน่ะ เห็นม่ะ?? ลุงร้านค้าบอก....สรุป!! พอเลี้ยวเข้ามาทางแม่แจ่มก็ตรงอย่างเดียว ผ่านป่า ผ่านโค้ง ก็ไม่ต้องสน 555+++ มาถูกทางแล้ว
พอได้มาถึง ว้าว!!! คิดไม่ผิดจริงๆ ที่เลือกพักที่นี่ ตามเส้นทางที่ผ่าน แทบไม่มีอะไรเลย แต่พอเข้ามาในสวนป่า สิ่งที่ได้เห็นและสิ่งที่ได้รับ มันวิเศษที่สุด ไม่ได้เขียนเกินจริง!!! แต่ในความรู้สึกมันได้แบบนี้จริงๆ
ภายในสวนป่าแม่แจ่ม มีบริการบ้านพักหลังเดี่ยวหลายหลังเชียว ใครที่ต้องการความสะดวกสบายที่นี่ก็มีให้น่ะจร๊ะ!! ทั้งแอร์ ทีวี ตู้เย็น ครบ!!
แต่หากต้องการความชิล เลือกห้องนี้เล้ยยยย!! "บ้านวิวหมอก" ราคา 800 บาท
บ้านหลังน้อยๆ ของเราคืนนี้!! ไม่มีแอร์ ไม่มีทีวี มีแต่ทิวเขาเป็นฉากเบื้องหน้า กลางคืนดวงดาวก็ส่องสว่างอยู่เต็มท้องฟ้า ความหนาวเย็นมาพร้อมกับความเงียบยามค่ำคืน และเมื่อพระอาทิตย์สาดแสงยามเช้า น้ำค้างหยดลงพื้นหญ้า ลมก็พัดพากลิ่นอายความสดชื่นมามอบให้
มองจากในห้องนอน....แล้วแบบนี้ยังต้องการอะไรมากมายไปกว่านี้อีก
มาถึงเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ที่เล่าว่าเย็นนี้ยังไม่รู้จะกินอะไร 55++ มาถึงเจ้าหน้าที่บอกว่า แม่ครัวอยู่น่ะค่ะ เย็นนี้จะทานอะไรมั้ยเพราะเราไม่ได้แจ้งมาว่าจะทานมื้อเย็น เหมือนสวรรค์โปรด .. ตอบทันที ทานค่ะ!!
ตอนจองห้องพัก เจ้าหน้าที่จะถามเราว่า รับอาหารมั้ย!! อาหารเช้าคนละ100บาท ส่วนอาหารเย็นคนละ 150บาท ...ตอนจองมั่นใจว่ามื้อเย็นจะไม่รับ เลยขอรับแต่มื้อเช้า ... เหมือนโดนแกล้ง 555++ ระหว่างทางไม่มีของขาย แต่...ก็โชคดีที่เจ้าหน้าที่ใจดี และคุณแม่ครัวยังไม่กลับบ้าน
ถ้าไม่มีอะไรกินจริงๆ ก็เล็งๆร้านลุงไก่ย่างไว้ล่ะ ถึงแม้จะไกลอยู่ แต่ก็ยังใกล้กว่าตัวเมืองฮอด
อยากบอกว่า ... อร่อยมาก
หมดเวลาอาหารเย็นแล้ว ไปนอนดูดาวก่อนน่ะ
..........................................
สวัสดียามเช้า....
เปิดประตูห้องออกมา ก็ต้องรีบกลับเข้าไปใหม่ .. หยิบตัวช่วยก่อน.. ผ้าคลุมไหล่!! อากาศเย็นๆไม่ถึงกลับหนาว มีลมพัดโชยนิดๆ
อากาศบริสุทธิ์มาก....สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ช้าๆ โอโซนแบบนี้ ไม่ได้มีทั่วไปตามท้องตลาดน่ะจ๊ะ!! แต่ที่นี่มีให้!!
เดินเล่นอยู่พักใหญ่ ก็ได้เวลาทานมื้อเช้าแล้ว อิอิ!!
อาหารเช้าที่นี่ ดูดีเชียว!! ข้ามต้มที่เห็นในถ้วยใหญ่ๆ สำหรับ 2 คน น่ะนั่น อย่าถามว่าหมดมั้ย 5555+++.....จุ๊จุ๊!! ไม่บอก!!
ต้องอำลาสวนป่ากันแล้ว แต่ไม่ลาจากน่ะจร๊ะ ถ้ามีแพลนมาแม่แจ่มเมื่อไหร่ ไม่พลาดที่จะกลับมาแน่..บ้านเล็กในป่าใหญ่....
เอาหล่ะ!! ไปเที่ยวกันต่อ ... จากสวนป่าแม่แจ่มไปอุทยานแห่งชาติออบหลวงก็ประมาณ 20กิโล
ไฮไลท์ของที่นี่ คือ สิ่งนี้...หินสองก้อนที่มีลักษณะคล้ายกำลังจูบกัน เป็นสิ่งที่ธรรมชาติรังสรรค์ความงดงามนี้ขึ้น ด้านล่างจะเป็นช่องที่มีลำน้ำไหลผ่าน ...ซึ่ง ออบหลวง หมายถึงช่องแคบหินขนาดใหญ่
แต่ที่ออบหลวงนี้ไม่ได้มีแค่สิ่งนี้สิ่งเดียวที่น่าสนใจ น่ะจร๊ะ!! ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติสั้นๆ ให้ได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ภายในอุทยานอีกด้วย เราจะพลาดได้งัย!! จริงมั้ย ลุยเลย!!...
หลุมฝังศพสมัยโลหะตอนปลาย(สำริด) ในหลุมมีกระดูกมนุษย์เพศหญิง 1โครง สภาพไม่สมบูรณ์
ภาพนี้ คือ หินแกรนิต
เดินตามทางมาเรื่อยๆ ไม่ร้อนน่ะ ต้นไม้เยอะ ระหว่างเดินมากันแค่2คน ก็หวิวๆเหมือนกัน แต่มีป้ายบอกเส้นทางตลอด เดินสบายๆ สัญญาณโทรศัพท์ก็มี อุ่นใจได้เยอะ!! 555++
จุดตรงนี้จะเป็นภาพเขียนสี ของมนุษย์โบราณ
ตลอดเส้นทางจะมีป้ายเตือนว่าอย่าเดินออกนอกเส้นทางเป็นระยะๆ เพราะงั้นเราต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ตรงนี้เรียกว่า ตาน้ำ
ก่อนขึ้นมาถึงจุดชมวิวจุดนี้ ต้องมีการออกแรงปีนป่ายหิน ขึ้นมาข้างบนบ้างเล็กน้อย
เดินมาเรื่อยๆ ก็จะถึงจุดสุดท้าย คือบ่อพักซุง
ระยะทางในการเดิน 1500เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 2ชั่วโมง แวะพักตามจุดชมวิว ระหว่างเดินเหมือนไม่นานน่ะ แต่พอเหลือบมองนาฬิกา โห!! นี่ทางมันไกลขนาดนี้หรือนี่
เราเดินลงไปพักเหนื่อยริมลำน้ำดีกว่า แต่ห้ามลงเล่นน้ำน่ะ น้ำแรงและเชี่ยวมาก
ถ้าได้มาที่นี่ ลองเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติดูน่ะ สนุกๆ ...ออกจากออบหลวงก็เดินทางกลับกรุงเทพ...
จบแล้วน่ะจร๊ะ!! สำหรับการเที่ยวรอบเป็นวงกลมเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน สนุนสนาน! เฮฮามากมาย!
อาจมีสาระบ้าง ไม่ได้สาระบ้าง ก็อย่าว่ากันเน้อ!! แต่ทุกอย่างที่เขียนลงมันคือความทรงจำที่ดี ที่เราอยากเล่าให้ฟัง ปล.ไม่เคยถามว่ามีใครอยากฟังมั้ย แต่อยากเล่า 555+++
เข้าไปอ่านเล่าเรื่องเที่ยว ได้ที่ตรงนี้น่ะจร๊ะ http://toonnstory.blogspot.com
เข้าใจแล้วหล่ะ!! ว่า...บางครั้งความสุขก็ไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทางเพียงอย่างเดียว แต่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างทางก็เป็นได้....ซึ่งเราก็ได้พบเช่นกัน...
ขอให้ได้พบความสุขจากการเดินทางในทุกๆครั้งน่ะค่ะ..
ขอบคุณน่ะค่ะ... ที่แวะเวียนเข้ามา
...... เจอกันใหม่ทริปหน้าน่ะเธอๆ
บ๊ายบาย!!!
การเดินทางครั้งใหม่
วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 17.17 น.