ระนอง เป็นจังหวัดที่ผมคิดมาโดยตลอดว่าเป็นจังหวัดทางผ่านสู่การท่องเที่ยวของจังหวัดทางภาคใต้ ไม่คิดว่าระนองจะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายขนาดนี้ ไม่ว่าเป็นจะน้ำตกเอย มีบ่อน้ำพุร้อน มีภูเขาหญ้า แกรนแคนย่อน เกาะต่างๆ ฯลฯ แถมยังสามารถข้ามไปเกาะของพม่าได้อีกด้วย เกาะที่ใกล้ที่สุดสามารถเดินทางโดยเรือใช้เวลาเพียง 5-10 นาทีเท่านัั้น นั่นก็คือเกาะสองนั่นเอง ส่วนเกาะอื่นๆที่สามารถไปเที่ยวได้อีก เช่น เกาะค๊อกคอมหรือเกาะหัวใจมรกต เกาะฮอร์สชูหรือเกาะเกือกม้า เกาะย่านเชือก เกาะตาฟุ๊ก เกาะมังกร และทริปนี้ผมจะพาไปเกาะ Nyaung Oo Phee หรือภาษาไทยเรียกว่าเกาะนาวโอพี สำหรับการเดินทางนั้นเราไม่สามารถเหมาเรือไปเองได้ต้องจองทัวร์เท่านั้น ในทริปนี้ผมเลือกใช้บริการของ Loveandaman เช่นเคย เพราะยังประทับใจในบริการของทัวร์นี้มาก เอาล่ะเดี๋ยวเรามาเริ่มการเดินทางของเรากันเลย

ผมเดินทางจากสายใต้ใหม่ โดยรถทัวร์ของสมบัติทัวร์ เป็นรถVIP 32 ที่นั่ง ราคา 403 บาท รถออกประมาณ 20.50 น. ตรงเวลามาก รถออกปุ๊บก็จะมีอาหารว่างแจกเป็นขนมกับน้ำผลไม้ ระหว่างทางประมาณตี1 จะมีแวะให้ทานข้าวต้มด้วย คืนนี้เราจะเปลี่ยนบรรยากาศมานอนบนรถทัวร์กัน อิอิ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง ถึงบขส.ระนอง เวลาประมาณ 6 โมงเช้า

-สำหรับการเดินทางไประนองนั้นนอกจากรถทัวร์แล้วก็ยังมีเครื่องบินด้วย แต่มีแค่นกแอร์เจ้าเดียวเท่านั้น ราคาก็จะแพงเอาเรื่องอยู่ หรือใครจะขับรถส่วนตัวมาเองก็ได้

-รถทัวร์เจ้าหลักๆที่ไประนองก็จะมี สมบัติทัวร์ นวมิตรทัวร์ โชคอนันทัวร์ เลือกกันได้ แล้วแต่ชอบเลยครับ


Day 1...

ถึงบขส.ปุ๊บ ก็อาบน้ำแต่งตัว รอรถตู้ของ Loveandaman มารับ ปล.ก่อนวันเดินทาง 1 วันทาง Loveandaman จะโทรมานัดเราว่าจะขึ้นรถที่จุดไหน/กี่โมง แล้วตอนเช้าคนขับรถจะโทรมาหาเราอีกที เอ้อผมลืมบอกไปที่บขส.มีห้องอาบน้ำด้วยนะครับ ผมว่าสะดวกดีนะนั่งรถมาถึงปุ๊บอาบน้ำเที่ยวต่อได้เลย สำหรับการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆในจังหวัดระนองนั้น จะมีบริการของรถสองแถวไม้(ที่เราเห็นในรูป) จะมีเขียนบอกว่าไปจุดไหนๆบ้าง ใครที่ไปเที่ยวระนองก็ลองสอบถามกันดูครับ

8.00 น.ตรงรถตู้มารับที่บขส.มาส่งที่ท่าเรือประภาคาร ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็มาถึงท่าเรือ

ถึงปุ๊บอย่างแรกก็ลงมา check in รับริสแบนด์ ทำเอกสารผ่านแดนแล้วรอเรียกลงเรือ เราไม่ต้องทำอะไรเลยแค่ยื่นบัตรประชาชนให้ไกด์ ไกด์จัดการให้เราเรียบร้อย เราจะได้เป็นเอกสารผ่านแดนมา 1 ใบเอาไว้ยื่นก่อนลงเรือ **สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมมาคือ บัตรประจำตัวประชน อันนี้สำคัญมากห้ามลืมเด็ดขาด เพราะต้องใช้ทำเอกสารผ่านแดนแล้วก็สแกนก่อนลงเรือ ส่วนชาวต่างชาติก็ใช้พาสปอร์ตปกติ

ทาง Loveandaman จะมีอาหารเช้าแบบเบาๆ วันนี้เป็นแซนวิทกับน้ำผลไม้ กินลองท้องระหว่างรอลงเรือ ใครไม่อิ่มก็เพิ่มได้น๊า

ถึงเวลาไกด์จะเรียก ก่อนลงเรือต้องสแกนบัตรประชาชนก่อน เป็นการบอกว่าเราได้เดินทางออกไปนอกประเทศส่วนตอนกลับก็ต้องสแกนกลับด้วย ห้ามทำบัตรหายเด็ดขาด 555 รองเท้าก่อนลงเรือต้องถอดด้วย ไม่อนุญาตให้ใส่รองเท้าไปบนเกาะ

ป่ะ พร้อมแล้วลงเรือกันเลย เราต้องไปทำเอกสารผ่านแดนที่เกาะสอง ประเทศพม่ากันก่อน ถึงจะไปเกาะนาวโอพีได้

อากาศวันนี้ไม่เป็นใจเอาซะเลย แดดไม่มี ฟ้าครึ้มเหมือนฝนจะตกและได้ข่าวว่าเมื่อคืนมีฝนตกด้วย โคตรจะเศร้าใจ แต่เอาล่ะไหนๆก็มาแล้ว มองในแง่ดีคือไม่ร้อน แต่ก็ต้องยอมรับว่าน้ำทะเลอาจจะไม่ใสเท่าที่ควร


วันนี้นักท่องเที่ยวน้อยมาก มีเรือไปเกาะนาวโอพีแค่ 2 ลำ ผมไปลำที่ 2 คน น้อยมาก นั่งกันสบายเลย ชอบแบบนี้ คนน้อยๆแบบนี้ดี ถ่ายรูปสบายเลย

ถึงแว้วเกาะสอง จากท่าเรือประภาคารมาใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ก็มาถึงเกาะนี้ เราสามารถนั่งเรือมาเที่ยวได้นะ ถ้าจะนั่งมาเที่ยว ท่าเรือจะอยู่ใกล้ๆท่าเรือประภาคารที่เราเดินทางมาไกด์บอกว่าเสียค่าเรือกับเอกสารผ่านแดนประมาณ 150 เองมีเรืออกทุกชม.ไว้คราวหน้าเดี๋ยวมาลองบ้าง อิอิ มาถึงเราไม่ต้องลงจะมีเจ้าหน้าที่ทางฝั่งพม่ามารับเอกสารผ่านแดนไปทำให้เรา รอประมาณ 5-10 นาที ทีนี้ก็จะยิงยาวไปเกาะนาวโอพีกันเล๊ยยยย

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเราก็มาถึงจุดดำน้ำจุดแรก ตอนแรกไกด์บอกว่าจะดำน้ำ 2 จุด มาถึงจุดดำน้ำจุดแรก ไกด์ลงไปทดสอบเรียบร้อย ว่าสามารถลงดำน้ำได้ แต่ปรากฏว่าเรืออีกลำบอกว่าให้ไปดำที่จุดเดียวกันอีกที่นึง อดเลย TT ก่อนไปดำนึงอีกจุดก็จะมาส่งนักท่องเที่ยวที่ไม่ดำน้ำลงที่เกาะนาวโอพีกันก่อน แล้วจึงไปดำน้ำ


มาถึงจุดดำน้ำจุดที่สอง ก็เหมือนเดิมไกด์ลงไปทดสอบสภาพน้ำว่าสามารถดำได้หรือเปล่า แต่ขนาดไม่มีแดดน้ำยังใสขนาดนี้ เสียดายเหมือนกันถ้ามีแดดคงแจ่มว้าวแน่ๆ

ไกด์บอกว่าลงได้ รออะไรลุยกันเลยยยยยย

เค้าลงกันไปหมดล่ะ มัวแต่ถ่ายรูป ลงคนสุดท้ายเลย 5555 ทริปนี้เป็นการถ่ายใต้น้ำครั้งแรกของผมด้วย จะได้รูปหรือเปล่าไปดูกัน 5555

โดดลงน้ำ ตู้มมมม วันนี้คลื่นค่อนข้างแรงเอาเรื่องแต่ว่าพอดำได้สบายๆ สิ่งแรกที่เห็นปะการังเขากวางเยอะมากๆๆๆ เรียกได้ว่าเป็นทุ่งปะการังเขากวางเลยก็ว่าได้

อันที่เห็นเยอะๆอีกก็นี่เลยปะการังจาน

นี่เลยที่เค้าว่าเป็นทุ่งดอกไม้ทะเล บอกเลยว่าเยอะมาก แต่สงสัยอย่างนึงปลานีโม่มันไปหนาย 5555 ปกติมันจะชอบอยู่ตามดอกไม้ทะเลไม่ใช่หรอ มันไปแอบอยู่ตรงไหนน๊า จะเห็นก็แต่ปลาการ์ตูนอินเดียนแดง สีส้มๆอยู่ตามดอกไม้ทะเลเยอะมาก เอ้าไปต่อๆ

ผมถ่ายรูปไปหลายรูปเลยอยากลองถ่ายวิดีโอดูบ้าง ก็เลยว่ายไปเรื่อยๆ เห้ยยๆๆๆๆๆ ระหว่างนั้นผมเห็นตัวอะไรสักอย่าง ใหญ่ๆมันอยู่ในรู มันโผล่หัวออกมา เฮ้ยๆๆนี่มันเจ้าถิ่นนี่หว่า ปลาไหลมอเรย์ยักษ์ ผมนี่รีบปิดวิดิโอแล้วถ่ายภาพนิ่งทันที คือดีใจมากนึกว่าจะไม่เจอเจ้านี่ซะแล้ว

ตื่นเต้นมาก แลดูมันชอบถ่ายรูปนะ 555 มันไม่หนี แถมไม่เขิลกล้องด้วยอยู่ให้ถ่ายตลอด ถถ5555


ผมดำไปถ่ายใกล้ๆมันยิ้มให้กล้องด้วย เฮ้ยๆ ไม่ใช่ดิมันแยกเขี้ยวถ555555 แต่มันไม่หนีไปไหนเลยนะ มันน่ารักดีนะ 5555

เจอปลาอะไรไม่รู้อ่ะ สีเหลืองๆออกส้ม สีเด่นมาก

วามจริงปลาเยอะมาก แต่ผมว่ายตามมันไม่ทัน 555



ถ่ายมาได้เท่านี้ ปลาสวยๆเยอะมาก ไม่รู้ด้วยว่ามันชื่อปลาอะไร เอาเป็นว่ามันคือปลาทะเลนั่นแหละ 5555

เห้ยๆๆนี่มันปลาการ์ตูนหรือปลานีโม่ ขาวลายดำนี่ นึกว่าจะไม่เจอซะแล้ว เจอ1ตัวก็ยังดี 55555 โธ่ๆๆๆๆๆ ความจริงคนอื่นเค้าเจอกันนะ ไกด์ก็เรียกให้ไปดู แต่ดันไม่ไป 555

ใช้เวลาเลาดำน้ำประมาณ 45 นาที ไกด์เรียกขึ้นเรือ คราวนี้ก็จะมาเล่นหน้าหาดมาดาม เกาะนาวโอพีกันเลย

มาถึงเกาะประมาณเที่ยงนิดๆ ทาง Loveandaman ก็จัดไลน์อาหารไว้เรียบร้อยแล้ว หาอะไรกินได้เลย

มีขนม นมเนย ชา กาแฟ โกโก้ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ โอ้ยเยอะ 555

มีปิ้งย่างซีฟู๊ดด้วย งานนี้ไกด์ย่างกันเองเลย 555 มีปลาหมึกกับกุ้ง บอกเลยกุ้งตัวใหญ่มากกกก

เลือกของกินเสร็จก็มาหาที่นั่ง มีโต๊ะให้นั่งหรือใครจะไปนั่งหน้าหาดก็มีผ้ายางไปปู หรือใครจะเอาโซฟาลมไปนั่งก็ได้

ดูกุ้งดิตัวใหญ่จริมๆ

จัดมา 1 ชุด ส้มตำ ,ซีฟู๊ด ,ข้าว 1 กล่อง อย่างอิ่ม ถ้าไม่อิ่มก็เพิ่มได้เลย แต่แค่นี้ก็พุงจะแตกละ 5555

นั่งกินกันริมทะเล ท่ามกลางทะเลสวยๆน้ำใสๆ ฟินๆกันไปเลย อิอิ

กินอิ่มแล้วออกไปเดินเล่น สำรวจเกาะกันดีกว่า

วันอากาศครึ้มๆไม่มีแดดเลย แต่น้ำก็ยังใสมากๆๆๆ

เรือที่มาเกาะนาวโอพีวันนี้มีแค่ 2 ลำเท่านั้น

หาดมาดาม เกาะนาวโอพี มีชายหาดยาวมาก

อยากให้ดู บอกเลยว่าทรายที่นี่ขาวมาก ขาวแบบละเอียดดุจดั่งผงแป้งไอ้นี่ก็เวอร์อีก 555 แต่ขาวจริงจัง เหยียบไปนี่แบบ ทรายจะยุบตามรอยเท้าเราเลย นุ่มเท้ามากๆๆ

ผมเดินถ่ายรูปไปเรื่อยจนเกือบสุดหาด ตรงนี้จะมีหินเยอะ ทรายแถวนี้ออกจะหยาบหน่อยๆ

ทรายแถวนี้ออกจะหยาบๆหน่อยๆแต่ดูสวยไปอีกแบบ


มองกลับไปจากจุดที่เดินมา หาดค่อนข้างยาวทีเดียว

ลองถ่ายมุมแปลกๆดูบ้าง

มุมสวยๆ ที่ถ่ายรูปเก๋ๆบนเกาะนี้มีเยอะมากๆๆ แถมคนก็น้อยถ่ายรูปสบายเลย

ดูดิทรายขาวมาก

มันก็จะมือลั่นหน่อยๆอ่ะ 555 ท่ดดดดที

นี่เลยฮะ กล้องถ่ายใต้น้ำของเราในทริปนี้ Action Camera 4k ราคา 2440 บาทเท่านั้น+ทุ่นลอยน้ำ+แบต1ก้อน ส่วนชุดที่ผมซื้อจะเพิ่มไม้เซลฟี่กับแบตอีก 1 ก้อน ราคา 3050 บาท สำหรับผมราคาประมาณนี้ ในทริปแรกถือว่าโอเคมาก เพราะผมตั้งใจจะเอามาถ่ายใต้น้ำอย่างเดียว

เดินมาดูหาดอีกฝั่งนึงบ้าง ส่วนใหญ่คนจะอยู่กันแถวนี้ เพราะตรงนี้อยู่ใกล้ของกิน5555 ล่อเล่นๆ ตรงนี้น้ำใสมากๆๆๆ

จะเอาโซฟาลมมานั่งเก๋ๆริมชายหาดหรือจะไปดำน้ำหน้าหาดก็ได้ ความจริงผมก็เอาสน๊อคเกิ้ลลงมานะกะว่าจะลองดำดูเหมือนกัน แต่ปรากฏว่าขี้เกียจ55555 อยากเดินถ่ายรูปชิวๆมากกว่า

ลงรูปกันรัวๆเลย อยากให้ดูบรรยากาศรอบๆ จะมาคู่ มาเป็นแก๊งค์ มาเป็นครอบครัว ก็ฟินทั้งนั้น

นี่เป็นรูปทางฝั่งซ้าย หาดสวยมากๆ น้ำก็ใส มุมถ่ายรูปสวยๆเยอะเลย ถ้ามีนางแบบประจำตัวมานี่แจ่มเลย


ผมยังรู้สึกเสียดายนะ ถ้าฟ้าไม่ครึ้ม มีแดดออกซะหน่อย หรือถ้าอากาศปลอดโปร่งฟ้าสวยๆ ทะเลคงสวยกว่านี้มากๆแน่ ขนาดแค่ลองจินตนาการว่ามีแดดแจ่มๆ สะท้อนน้ำทะเลใสๆสีฟ้า ถ่ายรูปออกมาคงสวยไม่ธรรมดาแน่ๆ

ก่อนกลับผมก็ไปนั่งเล่นริมหาด เห็นคู่รัก 2 คู่นี้น่ารักดี เค้าเดินผ่านพอดีเลยถ่ายรูปไว้ ยังไงก็ขออนุญาตบุคคลในภาพด้วยนะครับ ^^ ผมนี่อิจฉาเลย อิอิ

เมื่อถึงเวลาบ่าย 3 โมงเย็นไกด์ก็เรียกขึ้นเรือ ถึงเวลาต้องกลับฝั่งกันแล้ว เวลาที่เราสนุกทำอะไรเพลินเวลามักผ่านไปเร็วเสมอเลยเนอะ ได้เวลาโบกมือลาเกาะนาวโอพี ไว้มีโอกาสเราคงได้เจอกันแน่นอนเพราะผมจะมาแก้ตัวใหม่ อิอิ สำหรับผมมองว่าเกาะนาวโอพีถือว่ายังดิบอยู่มากๆ ทะเลสวยมาก ทั้งบนบกและใต้น้ำ ผมว่าเป็นอีกเกาะนึงที่คนชอบทะเลและหลงรักการดำน้ำไม่ควรพลาดๆจริง แต่ค่าทริปอาจจะแพงไปนิดนึง5555 แต่รับรองว่าค่อนข้างคุ้ม

จากเกาะนาวโอพี ก็เหมือนเดิมมายื่นเอกสารผ่านแดนที่เกาะสอง แล้วก็กลับท่าเรือประภาคารใช้เวลาประมาณ 1 ชั๋วโมงกว่าๆ ถึงท่าเรือต้องสแกนบัตรประชาชนด้วยนะครับ เพื่อเป็นการบอกว่าเราได้กลับมาถึงฝั่งแล้ว จากนั้นก็นั่งรถตู้กลับที่พัก ผมจองที่พักที่บ้านชิโนไว้ คืนล่ะ 990 บาทรวมอาหารเช้าเพิ่มอีก 100 บาทรวมเป็น 1090 บาท/ห้อง/คืน ที่พักจะเป็นสไตล์ชิโนโปรตุกีส ออกจีนๆ ดูสวยงามแบบเรียบง่าย เป็นที่พักเปิดใหม่ เปิดยังไม่ถึง 2 เดือน ดีงามไปอีก

ที่นอนของเราในคืนนี้เป็นงาย โอเคใช้ได้เลย ห้องกว้างขวาง แถมห้องยังใหม่ๆ แอร์เย็นฉ่ำมาก

บรรยากาศยามค่ำคืน ตอนกลางคืนผมไม่ได้ออกไปเที่ยวไหน หาอะไรกินเสร็จก็กลับมานอนพัก เนื่องจากเหนื่อยมาทั้งวัน พรุ่งนี้ว่ากันใหม่ อิอิ

สวัสดี Day 2 วันนี้เราจะแว๊นมอไซด์เที่ยวเมืองระนองกันซะหน่อย เอ้อผมลืมบอกไปที่พักบ้านชิโนอยู่ตรงท่ารถสองแถวไม้ จะอยู่ด้านหน้าที่พักเลย ถ้าใครมาหลายคนสามารถเหมารถสองแถวเที่ยวได้ ลองสอบถามราคากันดูครับ ส่วนร้านเช่ามอไซด์ก็อยู่ไม่ไกลจากที่พักเดินไปประมาณ 100 เมตร มีให้เลือกระหว่างเกียร์ธรรมดากับเกียร์ออโต้ เกียร์ธรรมดา 200 บาท เกียร์ออโต้ คันละ 250 บาทโดยค่ามัดจำ 1000 บาท ใช้ได้ 24 ชั่วโมง เค้ามีหนังสือเที่ยวเมืองระนองให้ด้วย1เล่ม ไปแว๊นกันเลย



ที่แรกภูเขาหญ้า อยู่ห่างจากเมืองประมาณ 13 กม. ขับไปตามถนนเพชรเกษม จะอยู่ข้างทางเลยครับ อยู่เยื้องๆกับน้ำตกหงาว ส่วนของภูเขานั้นก็จะมีแต่หญ้าสีเขียวขึ้นอยู่ตามแนวภูเขาทั้งลูก จะมีทางเดินขึ้นไปด้านบนด้วย ชมวิวได้ 360 องศาเลย


ที่ต่อมาน้ำตกหงาว โดยจะเสียค่าเข้า 20 บาท สามารถนำบัตรค่าเข้าไปใช้ต่อที่บ่อน้ำพุร้อนพรรั้งได้ น้ำตกเหงาจะอยู่ตรงข้ามเยื้องๆกับภูเขาหญ้า เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากที่สูงสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล ข้างๆจะเป็นลำธารเล็กๆสามารถเล่นน้ำได้วันที่ผมไปน้ำน้อยมากๆ ถ้าเป็นช่วงฤดูฝนน้ำน่าจะเยอะกว่านี้ แต่อากาศข้างในเย็นสบายเลย ต่างกับข้างนอกมาก ผมลองเอามือจุ่มน้ำดู น้ำเย็นน่าเล่นมาก


มาต่อกันที่วัดบ้านหงาว อยู่ไม่ไกลจากภูเข้าหญ้า อุโบสถวัดนี้สวยงามมาก ภายในมีพระประธาน ชื่อว่าหลวงพ่อดีบุก ซึ่งหล่อด้วยแร่ดีบุก เป็นพระประธานที่หล่อด้วยแร่ดีบุกองค์แรกที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นที่เคารพกราบไหว้ของชาวเมืองระนอง


ที่ต่อมานี่เลยบ่อน้ำพุร้อนพรรั้ง อยู่ห่างจากตัวเมืองระนองประมาณ 5 กม.ขับไปทางถนนเพชรเกษมเช่นกัน แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 2 กม. ภายในจะมีบ่อแช่น้ำร้อนและลำธารธรรมชาติ ความจริงคือถ้าขับรถมาตามถนนจะเจออันนี้ที่แรกแต่ผมอยากไปภูเขาหญ้าก่อน เลยขับรถวนไปวนมาๆ 5555

ตรงนี้จะเป็นลำธารธรรมชาติ น้ำจะเย็นๆ

อันนี้เป็นบ่อแช่น้ำร้อน มี 2 บ่อ น้ำจะอุ่นๆๆ สามารลงแช่ได้

ที่ต่อมานี่เลย พระราชวังรัตนรังสรรค์ เป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์การเสด็จประพาสและประทับแรมของรัชกาลที่ 5 ,รัชกาลที่ 6 และรัชการที่ 7 ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขานิเวศน์ สร้างด้วยไม้สักและไม่ตะเคียน

ภายนอกสามารถเดินถ่ายรูปได้ แต่ภายในต้องเสียค่าเเข้า 50 บาทจะมีช่วงเวลาเป็นรอบ เสียดายผมไม่ได้เข้าไปดูภายใน

ภายในก็จะมีรูปหล่อเหมือน หลวงพ่อจันทร์ หลวงพ่อนุ้ย หลวงพ่อรื่น หลวงปู่ทวด หลวงพ่อเบี้ยว หลวงพ่อติ้ว หลวงพ่อลอย หลวงพ่อน้อย และหลวงพ่อบรรณ เป็นสถานที่อีกแห่ง ที่เป็นที่สักการะบูชาของชาวเมืองระนองรวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจังหวัดระนอง

ศาลหลักเมืองระนอง ไหนๆก็มาเที่ยวที่ระนองแล้ว ก็แวะไหว้ศาลหลักเมืองซะหน่อย

ที่ต่อมา อ่างเก็บน้ำคลองหาดส้มแป้น

ผมชอบที่นี่มากวิวสวย บรรยากาศ มีมุมถ่ายรูปเยอะ ที่สำคัญลมพัดตลอด เย็นสบาย น่าเอาเสื่อไปปูนอน 5555

ระนองแคนยอน อยู่เลยอ่างเก็บน้ำคลองหาดส้มแป้นเข้ามาประมาณ 3 กม. จะมีบ่อน้ำใหญ่ๆ มีปลาเยอะมาก สามารถซื้ออาหารปลาไปเลี้ยงปลาได้จะมีขายตรงนั้นเลย ถ้าเดินเข้าไปข้างในจะทางขึ้นบนเขาก็จะเป็นลักษณะเหมือนสันภูเขาหิน มีจุดชมวิวให้ถ่ายรูป


บ่อน้ำแร่ร้อนสวนสาธารณะรักษะวาริน มีบ่อพ่อ บ่อแม่และบ่อลูกสาว แล้วก็มีที่สำหรับให้แช่เท้า มีลำธารธรรมชาติไหลผ่านๆ มีสะพาน 2 แห่งให้ถ่ายรูปเก๋ๆ ข้างๆมีร้านอาหารพวกส้มตำไก่ย่าง

น้ำตกปุญญบาล อันนี้อยู่ค่อนข้างไกลจากตัวเมืองหน่อย พอดีผมลองขับมอไซด์ไป ไกลพอสมควร 5555 น้ำตกก็สวยอยู่น๊าแต่น้ำน้อยไปหน่อย ถ้ามาช่วงหน้าน้ำคงสวยกว่านี้

วิวข้างทางพอดีเห็นว่าสวยดีเลยแวะจอดถ่าย ความจริงยังมีอีกหลายที่ที่ยังไม่ได้ไป เสียดายเวลาหมด TT

หลังจากที่เที่ยวมาทั้งวัน ผมก็เอามอไซด์ไปคืนที่ร้าน แล้วก็นั่งวินมาบขส.ซื้อตั๋วกลับบ้าน ผมกลับรถทัวร์ของสมบัตรทัวร์เหมือนเดิม แต่ลองเปลี่ยนรถแบบ VIP 24 ที่นั่งบ้างราคา 627 บาท ส่วนคนที่ใช้ดีแทคมีส่วนลด 50 บาท/คน/เที่ยว จะมีวิธีกดสิทธิ์ที่หน้าเค้าเตอร์ต้องกดตอนซื้อตั๋ว รถอกประมาณ 20.50 น. จะถึงกทม.เช้ามื

ขึ้นมาบนรถอือหือ ดีงามไปอีก มีเบาะคู่ อีกฝั่งจะเป็นเบาะเดี่ยว ที่นั่งกว้างขวาง เบาะนุ่ม นั่งสบาย มีจอให้ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ แล้วแต่เราจะเลือกเลย มีหูฟังให้ด้วยน๊า ใช้เวลาเดินทางกลับประมาณ 9 ชั่วโมงถึงกทม.เป็นอันจบทริป"เที่ยวระนอง ลองทะเลพม่า ออกไปตามล่าเกาะนาวโอพี"

ยังไงผมก็ขอฝากรีวิวนี้ไว้ด้วยนะครับ แล้วก็ขอบคุณหนังสือ"เที่ยวระนอง"ที่พาผมไปเที่ยวแล้วก็ทำให้ผมได้รู้ข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยว ถ้าเกิดข้อมูลผิดพลาดประการใดผมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ต้องขอบอกว่าระนองเป็นจังหวัดที่ทำให้ผมหลงรักแล้วก็อยากกลับไปอีก ผมว่าเป็นอีกจังหวัดที่คนยังไปเที่ยวน้อย เหมาะแก่การพาครอบครัว พาแฟนมาเที่ยว หรือจะมาเป็นแก๊งค์ มาเดี่ยวก็ได้หมด ถ้ามีโอกาสเมื่อไรจะกลับไปอีกแน่นอน... ยังติดใจทะเลพม่า..ปีหน้าว่าจะไปอีก อิอิ แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าครับบ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ผมเอง : Sarun Sudnum

สอบถามข้อมูลเดย์ทริปกับ Loveandamanได้ที่ : Loveandaman

ที่พักบ้านชิโน : บ้านชิโน Sino mansion



อยากเที่ยวก็เที่ยว

 วันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 16.38 น.

ความคิดเห็น