ดีจ้าาาา . . . แมวน้ำ Seally-Go-Round รายงานตัว ครับพ้ม!!!

. . หายไปนานพอสมควร รอวันหยุดยาวๆ จะได้ออกเดินทางแบบยาวไป ยาวไป ยาวปายยยย . . .สงกรานต์นี้เลยขอออกเดินทางแบบ Road trip to South ขับรถจากพัทยา จุดหมายปลายทาง คือ - พังงา ภูเก็ต - และบริเวณใกล้เคียง ทริปนี้ จัดเต็มแน่นอน 4 วัน 4 คืน บันเทิงมากกกกก . . .จากการเที่ยวแบบขับรถเที่ยวครั้งนี้ทำให้รู้ว่า "สงกรานต์มาเที่ยวใต้เห๊อะ". . . เพราะคนไม่เยอะอย่างที่คิดจริงๆ เที่ยวสนุก เดินทางสบาย รถก็ไม่ติด อากาศก็ดี๊ดี ^^

ส่วนรีวิวของทริปนี้ขอพูดถึงที่แรกกันก่อน คือ #เกาะทุ่งนางดำ

. . . อะไรน้าาาา . . . Where is 'เกาะทุ่งนางดำ' เนี่ย ?

. . . หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน เกาะนี้อยู่ส่วนไหนของประเทศไทยกันฮึ

มาๆๆๆ . . . กระโดดขึ้นท้ายกระบะ (เค้าให้ขึ้นได้ยังง่ะ) แล้วตามแมวน้ำไปเที่ยว เดี๋ยวจะพาไป Explore . . . เกาะทุ่งนางดำ กันว่าที่นี่ มีดีอะไรนิ ^^

- ข้อควรระวัง : รีวิวนี้ค่อนข้างยาว รูปเยอะ เพราะแมวน้ำจะพาไปทั้งที่พักที่เกาะทุ่งนางดำ และทริปดำน้ำหมู่เกาะสุรินทร์และหมู่บ้านมอแกนครบทริปเลย อ่านเพลินๆกันไป . . . อ่านเสร็จปุ๊บล็อกวันเดินทางเลย ก่อนจะหมดซัมเมอร์^^


โดยจุดเริ่มต้นของการมาทุ่งนางดำเริ่มแรกเลย คือ

. . . อยากไปหมู่เกาะสุรินทร์กับหมู่บ้านมอแกน . . .

??? อ่าว!!! แล้วเกี่ยวไรกะทุ่งนางดำ ???

เหตุผลก็ คือ ' ท่าเรือ คุระบุรี ' เป็นท่าเรือที่ใกล้ที่สุดที่จะนำพาไป หมู่เกาะสุรินทร์และหมู่บ้านมอแกนนั่นเอง!!!

เพราะฉะนั้น เราจึงต้องหาที่พักที่ใกล้ท่าเรือคุระบุรีให้มากที่สุด เพื่อที่จะไปทันทริปดำน้ำที่ start ออกเรือตอน 9 โมงเช้าไงล่ะค้าบพี่น้องค้าบบ . . .

ดูจากแผนที่นี้ เห็นภาพง่ายดี (CR.เว็บของ The camp Resort)

Step ต่อไป . . .
. . . กรอก ตรงช่อง Search ของ Google ค้นหาที่พักแถวคุระบุรี ซึ่งมีไม่เยอะมาก เพราะคุระบุรีเป็นอำเภอไม่ใหญ่มาก จนได้พบกับ ชื่อ The Camp Resort ที่เกาะทุ่งนางดำ ใกล้ท่าเรือคุระบุรีสุดแล้ว เลยตัดสินใจจองอย่างไม่ลังเล . . .

แพคเกจที่จองตรงกับทาง The Camp Resort คือ ราคา คนละ 3,850 บาท
***ราคานี้ รวม ค่าที่พัก (เต๊นท์ริมทะเล) อาหาร 3 มื้อ บริการรับส่งที่ท่าเรือคุระบุรี พาเที่ยวรอบเกาะทุ่งนางดำ และทริปดำน้ำ 1 วัน ที่หมู่เกาะสุรินทร์และหมู่ บ้านมอแกน

จะซื้อแยกก็ได้ แต่ลองคำนวณดูแล้วแพงกว่า จ่ายเป็นแพคเกจนี่แหล่ะ สะดวก คุ้มค่ากว่าจ้าาา

การเดินทางมาที่ เกาะทุ่งนางดำ นี้ไม่ยากเลย ตั้งพิกัด Google Map มาที่ #ท่าเรือคุระบุรี จังหวัดพังงา

ถ้าขับมาจากกทม. มาเส้นระนอง เลยเขตจังหวัดระนองมานิดเดียวก็เจออำเภอคุระบุรีแล้ว

ที่ท่าเรือคุระบุรีนี้ เป็นท่าเรือหลักที่จะเป็นจุดที่เรือทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์เทียบท่ากันที่นี่เอง !!!!

ซึ่งนอกจากจะไปเที่ยวที่หมู่เกาะสุรินทร์แล้ว ยังเป็นจุดที่ไปยัง #เกาะพระทอง ได้อีกด้วย!!!!

ถ้าขับรถมาก็จอดตรงที่จอดรถตรงใกล้ท่าเรือได้เลย ^^

***ก่อนถึงท่าเรือคุระบุรี ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของ The Camp Resort ไว้ก่อน พี่เค้าจะส่งเรือมารับ****

บรรยากาศบริเวณท่าเรือคุระบุรี ซึ่งตอนที่ไปถึงดูครึ้มฟ้าครึ้มฝน แอบมีมองลอยจางๆ

จริงๆมันก็สวยงาม ธรรมชาติดีอ่ะนะ แต่กลัวใจลมฟ้าอากาศเหลือเกินว่า คืนนี้เรานอนเต๊นท์ฝนจะตกมั้ย . . . แล้วพรุ่งนี้ล่ะ จะไปหมู่เกาะสุรินทร์ฟ้าฝนจะเป็นใจรึเปล่า. . . รอลุ้นกัน ^^'

วันนี้มีอีกครอบครัวที่มาพักพร้อมแมวน้ำด้วย สมาชิกครบแล้วก็นั่งเรือเดินทางไปที่เกาะทุ่งนางดำกัน

ในแพคเกจของ The camp Resort นอกจาก จะมีที่พักและอาหาร 3 มื้อ (จริงๆคือ 4 มื้อแต่แมวน้ำไม่สะดวกรันตามโปรแกรมเค้าเลยได้ 3 มื้อ) และทริปดำน้ำไปหมู่เกาะสุรินทร์แล้ว ยังพาเที่ยวรอบเกาะทุ่งนางดำด้วย โดยจุดแรกหลังจากขึ้นเรือจากท่าเรือคุระบุรี จะไปแวะดู #ทะแลแหวกหนวดมังกร กันก่อน


- ทะเลแหวกหนวดมังกร -

ทะเลแหวกหนวดมังกร . . . เป็นทะเลแหวกซึ่งช่วงที่น้ำลดจะเป็นสันทรายยาว เป็นริ้วๆเหมือนเกล็ดมังกรเลย

ที่เค้าเรียกกันว่า 'หนวดมังกร' คือ เรื่องราวมีอยู่ว่า มีซินแสท่านนึง ที่เล็งเห็นว่าที่เกาะทุ่งนางดำนี้ฮวงจุ้ยไม่ธรรมดา มีลักษณะคล้ายหัวมังกร จึงเป็นที่มาของการตั้งวิหารเซียนแห่งที่ 3 (ซึ่งเดี๋ยวเราจะแวะไปดูกัน) โดยส่วนที่ตั้งวิหารเซียน คือ ส่วนของ ตามังกร แล้วจุดที่เป็นทะเลแหวกเส้นยาวๆนี้ก็คือ ส่วนของ หนวดของมังกร นั่นเอง

ดูมีที่มาตามตำรับตำรา ความเชื่อจีนขนาดนี้ ต่อไปที่นี่คงต้องฮิตในหมู่ชาวจีนแน่ๆ

ตอนไปฟ้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ฟ้าขาว เมฆเยอะมาก

ช่วงเวลาที่น้ำลง เราจะเห็นเป็นสันทรายชัดเจน ซึ่งทะเลแหวกนี้ถ้าน้ำลงสุดนี่สามารถเชื่อมเกาะทุ่งนางดำ กับเกาะระได้เลย ซึ่งระยะทางรวมนี่ประมาณ 3 กิโลเมตร เชียว เรียกว่า เดินไปถึงอีกฝั่งนึง ยังไม่ทันเดินกลับน้ำขึ้นก่อน ต้องว่ายน้ำกลับแหงมๆ 555

*** เราจะเห็นทะเลแหวกหนวดมังกรช่วงน้ำลง แต่ละวันเวลาน้ำลงไม่เหมือนกัน

แต่ถ้าจะให้สวยสุดจะเป็นช่วงราวๆ 14 -15 ค่ำ และ 1-3 ค่ำ น้ำจะลงมากสุดที่สุด สวยสุด ***

แต่เราดูในระนาบนี้ก็จะเห็นไม่ชัด ดูเผินๆอาจจะคล้ายๆ Sand Dune แทน ^^ 

ถ้าจะให้ดีต้องขึ้นบนที่สูง หรือใช้โดรนถ่ายก็จะเห็นเป็นริ้วๆ ชัดเจน

ด้านหลังตรงต้นไม้เขียวๆ คือ The Camp Resort ซึ่งทะเลแหวกนี้สามารถเดินจากที่พัก มาก็ได้ แต่อาจจะไกลนิดนึง ^^

เดี๋ยวขึ้นเรือหางยาวของเราลำเดิม กลับไปที่ท่าเรือเกาะทุ่งนางดำเพื่อขึ้นไปที่พักบนเกาะกัน ^^


เรือมาเทียบท่าที่เกาะทุ่งนางดำแล้ว จริงๆระยะทางจากท่าเรือคุระบุรี นั่งเรือหางยาวมาไม่น่าเกิน 10 นาที ใกล้ฝั่งมาก เอาจริงๆถ้าสร้างสะพานข้ามมานี่ขับรถมาถึงได้เลย

แล้วรถลีมูซีนสุดหรูมาจอดรอรับไปที่พักกันแล้ว 555. . . จริงๆแล้วพาหนะของเราในวันนี้ คือ กระบะที่ผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 มา แล้วต่างหาก ...ประตูคนขับนี่เอาเชือกดึงไว้อยู่ด้วย เก๋ป่าว ^^

เดี๋ยวเรานั่งคันนี้ไปที่พัก แต่ก่อนจะถึงแอบมีแวะเล็กๆน้อยๆรายทาง

ที่แรก ที่แวะกันก่อนเข้าที่พัก ก็คือ วิหารเซียน นี่เอง


- วิหารเซียน เกาะทุ่งนางดำ -

. . . รู้หมือไร่??? . . .

ที่เกาะทุ่งนางดำ มีวิหารเซียน ด้วยนะ . . .

คุ้นๆมั้ย ชื่อ ' วิหารเซียน '



จริงๆแล้วก็คือเจ้าเดียวกันกัับที่ วิหารเซียน แถวๆวัดญาณฯ พัทยา นั่นแหล่ะ ผู้อำนวยการสร้างเป็นท่านเด ียวกัน

แท้จริงแล้ว วิหารเซียน มีทั้งหมด 3 ที่ : พัทยา / เมืองจีน / แล้วก็ที่ ทุ่งนางดำ

เหตุผลที่เลือกที่นี่เป็นจุดยุทธศาสตร์ เพราะ ท่านอาจารย์สง่า ผู้สร้าง เล็งเห็นว่าะลักษณะของเกาะทุ่งนางด ำนี่คล้ายหัวมังกร ตามความเชื่อของจีน เป็นโลเคชั่นที่ดีงาม (ซึ่งก็มีทะเลแหลกเป็นหนวดมังกร ) เลยปักหมุดสร้างวิหารเซียนแห่งที่ 3 นี้ บริเวณตามังกร บนเกาะทุ่งนางดำนี้นี่เอง



ภายในมีอาคารที่ประดิษฐาน พระและเทพเจ้าต่างๆ แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี น่าจะราว 70% ได้ ซึ่งก็ไม่มีกำหนดแล้วเสร็จที่แน่นอน ทำไปเรื่อยๆ เพราะอาศัยงบการก่อสร้างที่ได้มาจากเงิน บริจาคด้วย

ที่ชั้น 4 นี่วิวดีมองเห็นทะเลด้วย

ฮวงจุ้ยดีดี๊ ด้านหน้าเป็นทะเล ด้านหลังเป็นภูเขา

เดี๋ยวไปเดินทางต่อไปอีกจุดนึงกัน


จุดต่อไปคือ

- บ่อน้ำสีฟ้าใส -

จุดบ่อน้ำใสนี้ ไม่ใช่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ แต่สามารถใช้ดื่มใช้กินบริโภคได้ ไม่งมงายด้วย
เพราะจุดนี้เป็นอ่างเก็บน้ำ ที่ใช้เป็นประปาให้กับชาวบ้านที่อาศัยบนเกาะทุ่งนางดำ ใสสะอาดมาก จนสะท้อนเป็นกระจกเหมือนที่จิ่วไจ้โกวเลย 555
คอนเฟิร์มว่าน้ำสะอาดจริงๆ ใช้อาบ ใช้แปรงฟันมาแล้ว เหมือนน้ำประปาเลย ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส เฝื่อนๆ ปะแล่มๆ เลยแม้แต่น้อย

ในขณะที่ลงไปดูบ่อน้ำสีฟ้า พลันเหลือบไปเห็น นกเงือก บนต้นไม้ กำลังหาผลหมากรากไม้กินอยู่

(ซูมหมดแม็กได้เท่านี้จริงๆ นกตัวไม่ใหญ่มาก ต้นไม้ก็สู้ง สูง)

นี่อาจจะเป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติบนเกาะทุ่งนางดำได้เป็นอย่างดี เกาะที่ใกล้ฝั่งแค่เอื้อม แต่มีความสงบและธรรมชาติที่สมบูรณ์อย่างไม่น่าเชื่อ


- ทุ่งหญ้าสะวันนา เกาะทุ่งนางดำ -

จุดสุดท้ายก่อนเลี้ยวเข้าที่พัก นั่นคือ ทุ่งหญ้าสะวันนา แห่งทุ่งนางดำ นี่เอง

เคยได้ยินว่ามีทุ่งหญ้าสะวันนาที่ เกาะพระทอง . . . ไม่คิดว่า ที่ เกาะทุ่งนางดำ ก็มีด้วยแฮะ
เห็นว่าเป็นต้นกระดุมทอง และกระดุมขาว ซึ่งจะออกดอกเป็นตุ่มเล็กๆ น่ารักๆ สีขาวสีเหลือง แต่ต้องมาช่วงเดือนตุลาคม ถึงจะสวยมีดอกให้ดู

ทำไมต้องเอาตัวเข้าแลกกับคาลาไมน์ด้วยไม่รุ . . . มันก็แอบคันอยู่นะเนี่ย

วันนี้มาถึงจุดนี้ตอนพระอาทิตย์หลบอยู่หลังเมฆพอดี เลยสีไม่ค่อยเหลืองทองอร่ามเท่าไหร่ สังเกตด้านหลังเป็นภูเขาทางฝั่งอำเภอคุระบุรีฝนตกมีหมอกลอยจางๆ วิวสวยธรรมชาติสร้างจริงๆ ^^


- THE CAMP RESORT -

ได้ฤกษ์งามยามดี ได้เข้าที่พักกันสักทีนะคร้าบบบบ. . . แวะตลอดทางเลย แหะๆ ^^

ที่พักของเราคืนนี้ ชื่อว่า The Camp Resort เป็นที่พักแห่งเดียวบนเกาะทุ่งนางดำ (ไม่รวมถึงโฮมสเตย์ของชาวบ้านนะ)

ที่พักที่นี่เป็นเต๊นท์ริมทะเล ที่เราสามารถนอนดูดาว ฟังเสียงคลื่นกันได้ทั้งคืน หรือ มาเป็นครอบครัวจะพักบนบ้านก็ได้ สะดวกกว่าเพราะใกล้ห้องน้ำ

เรามาดูห้อง Seaview ของเราดีกว่า นี่เลย หลังนี้ คืนนี้ เรานอนอยู่เต๊นท์เดียว ส่วนอีกครอบครัวนอนบนบ้าน แต่ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวมีพี่ที่รีสอร์ทมานอนเป็นเพื่อนเต๊นท์ถัดไป

ส่วนห้องน้ำ เป็นห้องน้ำรวมอยู่ด้านหลังบ้านพัก มีทั้งห้องอาบน้ำ และห้องสุขาแยกกัน มีหลายห้อง มาหลายคนไม่ต้องแย่งกัน หรือมาเป็นหมู่ขณะก็รอคิวไม่นาน

สิงสาราสัตว์ที่นี่เยอะแยะ ปล่อยอยู่กันอย่างอิสระ น่ารักมาก ทั้งครอบครัวห่าน น้องแมว แม่แพะกับลูกแพะ น้องลิง อู้ยยยย..เยอะแยะ ใครชอบความเรียบง่าย เงียบสงบ รักธรรมชาติ ที่นี่ถือว่าตอบโจทย์ ทีเดียวเชียว

นี่ก็ครอบครัวห่านดิน กำลังกินหญ้า แต่ถ้าเป็นครอบครัวห่านฟ้า เค้าให้กินยุง แต่ถ้าเป็นครอบครัวห่านคู่ เค้าว่าเป็นเสื้อยืด หืมมมมมมม....(ไม่ค่อยมีเพื่อนเล่นใช่มั้ยเราอ่ะ)

แม่แพะ กับลูกแพะที่เพิ่งออกมาลืมตาดูโลกได้ไม่กี่วัน สายสะดือยังไม่หลุดเลย :) น่ารักมากกกก. . .เห็นแล้วอยากเลี้ยงแพะเลย

มาดูที่หลับที่นอนของเราคืนนี้ดีกว่า มีความธรรมชาติสุดพลัง นั่นคือ เต๊นท์ริมเลของเรานี่เอง สภาพเต๊นท์อาจจะมีร่องลอยการผ่านฝนผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร แต่ภายในสะอาดสะอ้านน่าอยู่จ้าาาา

ก่อนเข้าไปในเต๊นท์ เหลือบเห็นกะละมังดินเผาและกะบวยวางอยู่หน้าเต๊นท์

อ๋อ. . .ก่อนเข้าเต๊นท์ นี่ต้องตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาตัวเองกันสักนิดใช่มั้ย

แอร๊ยส์. . . ไม่ใช่ ไม่ต้องชะโงก เพราะไม่มีเงาหัว . . .

แอร๊ยส์. . . เค้าเอากะบวยไว้ตักน้ำให้แขกดื่มต่างหากล่ะ

โอ๊ยยยย . . . จะบ้ากันไปใหญ่ล้าวววว . . .พอเห้อะ เลิกเล่นได้ยัง เหนื่อย

. . . แมวน้ำ แม่บอกลูกกี่ครั้งแล้ว ว่าไม่ให้เล่นอะไรเลอะเทอะแบบนี้ เลิกปล่อยมุขแล้วตักน้ำล้างเท้าล้างทรายออกก่อนเข้าเต๊นท์ ไปนั่งกอดอกหันหน้าเข้ามุมเงียบๆไป

ภายในเต๊นท์แยกห้องนั่งเล่นกับห้องนอนเป็นสัดส่วน เต๊นท์ใหญ่อยู่สบาย ไม่อึดอัด มีเสริมฐานเต๊นท์ให้สูงขึ้นจากพื้น เวลาฝนตกจะได้ไม่ต้องนอนเตียงน้ำกันนะฮาฟฟฟ...

แต่ถ้าเกิดวันไหนฝนตกหนักจริงๆ ก็จะเรียนเชิญขึ้นไปนอนห้องโถงบนบ้านแทนจ้า

ที่นอนในเต็นท์เป็นที่นอนหนานุ่มอย่างดี นอนสบาย ไม่เจ็บหลังเหมือนนอนเต็นท์ทั่วไป อากาศช่วงกลางคืนก็เย็นๆไม่ร้อนเลย มีพัดลมอีกตัว หลับสบายยยย...

ขอบคุณแสงอาทิตย์ที่โผล่มาให้ชื่นใจช่วงแดดร่มลมตกพอดี๊ ช่วงนี้นั่งพักชิลๆ หายใจทิ้ง ดูวิว ชมธรรมชาติ

นั่งวาดรูปเล่นในเต๊นท์ตอนแสงเย็นๆ รู้สึกสงบ Feel Goooood ^^

ไม่อยากจะอวดว่ารูปที่วาดสวยแค่ไหน . . . เพราะจริงๆแล้ว . . . ไม่ได้วาด 555

จริงๆ จัดพร็อพอุปกรณ์เครื่องเขียนมาครบมาก แต่ไม่มีเวลาวาด กลัวแสงหมด อดถ่ายรูป แหะๆ ไว้ถ่ายรูปแล้วไปวาดตามรูปเอาแล้วกัน . . . ว้ายยย!!! แกมันศิลปินตัวปลอมนี่หน่า

โชเฟอร์ที่ขับยิงยาวมาจากหัวหิน ขอพักแปรป

นอนไกวเปลชมวิวทะเลเย็นq

ช่วงที่ไปน้ำลงเยอะเลย ชายหาดที่นี่ไม่ขาว และน้ำก็ไม่ใสมาก อาจจะไม่ค่อยน่าเล่นเท่าไหร่ แต่ฟีลบรรยากาศธรรมชาตินี่มาเต็มอยู่แล้ว


แสงเย็น อบอุ่นๆ กับ ครอบครัว (คนอื่น)

ครอบครัวนี้พกหน้ากากโดรนมาด้วย . . . ถ่ายเห็นเค้าบ้างมั้ยเอ่ยยยย^^

ตอนมาถึงก็นึกว่าฟ้าฝนจะไม่เป็นใจซะแล้ว วันนี้คงไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ตกแน่ๆ เพราะตอนอยู่ที่ทะเลแหวกหนวดมังกรนี่ครึ้มมาเชียว เห็นว่าเมื่อวานตกจัดหนักมาแล้วด้วย

แต่ที่ไหนได้ ช่วงเย็นวันนี้ก็ได้เห็น แสงทไวไลท์สวยๆที่ทุ่งนางดำจนได้ . . . เย่!!!

สาธุ . . . พรุ่งนี้อย่าตกเลยน้าาาา ไหว้ล่ะ พรุ่งนี้เค้าจะไปดำน้ำ

สีสวยจัง ^^

ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว หิวมากกกก...มื้อล่าสุดนี่แวะซื้อซาลาเปาทับหลี ก่อนเข้าตัวเมืองระนอง นู่นแหน่ะ เย็นนี้มีอาหารอะไรให้แมวน้ำหม่ำบ้าง

สักพัก พี่ๆเค้าเอามาเสิร์ฟให้ถึงหน้าเต๊นท์เลย

เห็นอาหารแล้วก็ต้องร้อง . . . ตู้วหู้ววววว์ !!! เยอะไปมั้ยคะพี่

มื้อเย็นของเราวันนี้จัดเต็ม ที่เห็นทั้งหมดนี่สำหรับ 2 ท่าน นะฮาฟฟฟฟ. . . .
ข้าวอีก 1 โถ ผลไม้อีก 1 จานใหญ่ อาหารรสชาติกลางๆไม่จัดมาก ทานได้สบายๆ^^

ตักข้าวเลยสิรออะไร ทัพพีในมือนี่สั่นไปหมดล้าววว . . .

ถ้ามากลุ่มใหญ่เค้าจะมีปิ้งBBQริมหาดด้วย แต่วันนี้อยู่กัน 2 คน มีอาหารเท่านี้ ก็คิดซะว่ากินกัน(จน)ตาย(ไป ข้างนึง)เนาะ 555
โอ่ยยยย...เคลื่อนไหวตัวลำบากเหลือเกิน อิ่มจุก
นอนดีกว่าาาาา...เอิ่กกกกกก

คืนนี้เราจะหลับไปพร้อมเสียงคลื่น และพระจันทร์ที่ส่องสว่างเหนือเต๊นท์ของเรา

จันทร์เจ้าขา ไม่ขอไรมาก. . .พรุ่งนี้ขอฟ้าใสๆแดดดีๆนะเจ้าคะ zzzZZZZ.....


Morning . . .จ้าาาาาา . . . ยามเช้าอันเงียบสงบ

Morning Call เช้านี้ ไม่ใช่เสียง จากพนักงานที่ฟร้อนท์ โทรมาปลุก . . .แต่เป็นเสียงคลื่น เสียงนก เสียงแมว เสียงห่าน เสียงลูกแพะ และแสงแดดที่แยงตา
ธรรมชาติส่งสัญญาณมาปลุกให้ ตื่นขึ้นมาเพื่อจะบอกว่าาาา . . . นี่ๆ เธอๆ ตื่นมาดูฟ้าใสๆสิ อากาศดีขนาดนี้ one day trip ไปหมู่เกาะสุรินทร์ กับหมู่บ้านมอแกนของเธอ แจ่มใส แน่น้อนนนน...

เดี๋ยวเราเก็บข้าวของอาบน้ำอาบท่า แล้วกินข้าวเช้า ก่อนที่เราจะไป one day trip หมู่เกาะสุรินทร์กัน

อาหารเช้าง่ายๆ ข้าวผัดทะเลกับผัดซีอิ๊ว

ชากาแฟ บริการตัวเองเลยจ้า

อิ่มแล้ว ได้เวลาออกเดินทางกันแล้ว . . .บ๊าย บาย The Camp Resort

นั่งรถประจำรีสอร์ทคันเดิมมาลงที่ท่าเรือ รอเรือที่ออกจากท่าคุระบุรีมารับ เป็นเรือสปีดโบ้ทลำใหญ่มาจอดรับที่ท่าเรือเกาะทุ่งนางดำเลย กวาดสายตาดูคร่าวๆ สมาชิกร่วมทริปเยอะใช้ได้เลยนะเนี่ย

แวะรับผู้ร่วมทริปเพิ่มอีกหน่อย ที่เกาะพระทอง เรือเข้าไปรับไม่ได้ พ่อหนุ่มเครางามคนนี้เลยต้องลุยน้ำมาขึ้นเรือเอง

เกาะพระทอง นี่ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยนะเนี่ย เป็นเกาะเงียบๆ ใหญ่กว่าเกาะทุ่งนางดำเยอะเลย แต่ธรรมชาติสวยงาม หาดสวยน้ำใสกว่าทุ่งนางดำ มีทุ่งหญ้าสะวันนาใหญ่กว่า และที่พักเยอะกว่าด้วย ส่วนมากคนที่มาพักจะเป็นชาวต่างชาติสัก 80-90% ตอนแรกก็กะว่าจะมาพักสักคืน แต่เรือที่จะไปเกาะพระทองค่อนข้างราคาแพง ถ้ามากันเยอะๆเกือบสิบคน ถึงจะคุ้มค่่าเรือเพราะต้องเหมาเรือเข้าไป มาแค่สองคนแบบแมวน้ำนี่คิดหนัก ^^' เลยขอบายไปก่อน

***แนะนำสำหรับคนมาเที่ยว เกาะทุ่งนางดำ และ เกาะพระทอง นี่ต้องเป็นคนที่รักสงบ ไม่ๆ ต้องเรียกว่า รักความสงัดดีกว่า รักธรรมชาติเข้าเส้นจริงๆ เพราะช่วงกลางคืนที่นี่เงียบมาก ไม่ได้มีกิจกรรมแบบที่ท่องเที่ยวกลางคืนแบบเกาะอื่น ใครชอบ nightlife ทั้งสองเกาะนี้ ไม่ถูกจริตแน่นอนจ้า ***

สมาชิกครบก็ยิงยาวไปหมู่เกาะสุรินทร์เลยจ้า ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สบายๆ

นี่คือเหตุผลว่ามาจากท่าเรือคุระบุรีถึงดีที่สุด บางคนนั่งเรือมาจากท่าเรือทับละมุ แถวเขาหลัก (ที่ปกติจะไปทริปที่สิมิลัน) มันค่อนข้างไกล มาจากคุระบุรี ใกล้สุดจ้า

จุดดำน้ำจุดแรก ใสมากกกกกกกกก....

ปะการังที่นี่อาจจะไม่อู้ฟู่มาก แต่น้ำใส ปลาก็มีความหลากหลายอยู่นะ

เด็กน้อยคนนี้เก่งมาก น่าจะราวๆ5 ขวบ แต่ Free diving ยั่งกะมีแม่เป็นโลมา ฝรั่งนี่เค้าเก่งเนาะ ว่ายน้ำคล่อง free diving ได้เกือบทุกคนเลย เหมือนเป็นสกิลที่ฝึกฝนกันทุกคนตั้งแต่เด็ก

. . . อายเด็กจัง ป้าเองว่ายน้ำยังไม่แข็งเล้ย . . .

/me สวมชูชีพแน่นๆ แล้วลอยคอ ตีขา ว่ายเกาะๆไกด์ไป

จากจุดดำน้ำจุดแรก เรือจะพาไปจอดเทียบท่าที่หมู่บ้านมอแกน


- หมู่บ้านชาวมอแกน - 

Moken Village

อยากมานานแล้ว วันนี้มีโอกาสได้มาซะที โชคดีจริงๆวันนี้อากาศแจ่มใส ทำให้ภาพหมู่บ้านกลางทะเลที ่ตัดกับสีฟ้าเทอร์ควอยส์ของน้ำทะเล ยิ่งทำให้ดูสดใส มีสีสันมีชีวิตชีวา

เด็กๆชาวมอแกนเล่นสงกรานต์กันด้วย เล่นไปเถอะหนู น้ำมีให้เล่นเหลือเฟือ ^^

"เรือก่าบาง" ลำสุดท้าย ที่สร้างขึ้นไว้เพื่อการอนุรักษ์
หลังจากโดนสึนามิเสียหายไปจนหมด

- สาระน่ารู้ -
(เรือก่าบาง เป็นเรือขุดเสริมกราบไม้ระกำ ใช้ใบเตยทะเลเย็บเข้าด้วยกันเป็นใบเรือและหลังคา มีรอยหยักเว้าที่หัวเรือและท้ายเรือ มีแจวลำละ 4 – 6 แจวเผื่อเวลาไม่มีลม มีเตาไฟภายในเรือ) เรือซึ่งเป็นทั้งบ้านและพาหนะเดินทางไปตามเกาะต่างๆเพื่อทำมาหากิน เก็บเปลือกหอย ,ปลิงทะเล ,รังนก ,ฯลฯ นำไปแลกเปลี่ยนอาหารและเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันกับบนฝั่ง)

ลงมาดูบ้านช่องของชาวมอแกนกัน

วิถีชีวิตของชาวมอแกนคงเปลี่ยนไปจากเดิมมาก บ้านที่เห็นนี้ก็น่าจะสร้างขึ้นใหม่หลังจากสึนามิ แต่ถึงจะเปลี่ยนไปยังไง ก็ยังนับว่ามีเสน่ห์ของความเป็นชาวยิปซีทะเลอยู่ดี

ส่วนมากเราจะเห็นเป็นผู้หญิงกับเด็กที่อยู่บ้านกัน ไม่ค่อยเห็นผู้ชายเลยแฮะ

โชคดีสุดๆ แดดดี ฟ้าสวยน้ำใส ขนาดวันนี้มาวันสงกรานต์ คนยังไม่แน่นมากเท่าไหร่ บอกแล้วไง สงกรานต์ลงมาเที่ยวใต้กันเหอะ

แอบเสียดาย ไกด์ให้เวลาเราอยู่ที่นี่น้อยเกินไป ยังถ่ายรูปไม่หนำใจเลย แต่ก็ดีใจที่ครั้งนึงได้มาเยือนที่หมู่บ้านมอแกนในวันที่ฟ้าเป็นใจด้วย


- อ่าวช่องขาด อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ -

จุดต่อไปจะไปแวะทานมื้อเที่ยงกันที่อ่าวช่องขาด เป็นอ่าวที่ เรือทุกทัวร์มาจอดแวะพักให้ลูกทัวร์ทานข้าว พักผ่อนกันตามอัธยาศัย

อาหารกลางวันเป็นแบบบุฟเฟต์ ทุกทัวร์กินเหมือนกันหมด ส่วนเครื่องดื่มแต่ละทัวร์จะมาตั้งโต๊ะบริการให้ลูกค้าตัวเองกัน

อิ่มแล้วก็นั่งเล่น เดินเล่นกัน หาดอีกฝั่งน้ำใสมากน่าเล่น

เห็นมีเพื่อนร่วมทริปบางคน ไม่กลับไปเกาะพระทอง หรือกลับฝั่ง แต่มานอนค้างที่นี่แทน

ที่อ่าวช่องขาดนี้เป็นที่ของอุทยานฯที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวมาพักค้างคืนได้ มีทั้งบ้านพักอุทยานและเต๊นท์ไว้ให้บริการ ห้องน้ำห้องท่าก็สะอาดใช้ได้ เพื่อใครอยากเสพธรรมชาติแบบกลางทะเล ที่นี่ก็น่าสนใจอยู่นะ

ได้เวลาออกไปดำน้ำอีก 2 จุด ที่เหลือแล้ว ไปต่อคร้าบบบบบบ

อีก 2 จุดที่เหลือนี่ก็สวยนะ จุดที่สองเห็นไกด์ว่าเป็น Nemo Paradise ขนาดนั้นเลยหรอ ไหนลองโดน้ำลงไปFinding Nemo หน่อยซิ

นี่ไง Nemo เต็มเลยยยย....

น่ารักโน้ะ ชูวีดูวา . . .จะพาเธอไปดำน้ำ ดูปลาการ์ตูน . . . (หน้าสิงโต นำโชคลอยมา)

ดงปลาการ์ตูนจริงๆ ด้วย แต่จริงๆมีปลาอีกหลายประเภทเลย จุดนี้ดูปลาเพลินดี ^^

มาถึงจุดสุดท้ายแล้ว จุดนนี้ก็น้ำใส ปลาเยอะพอสมควรแต่ไม่เท่าช่วงนีโมเท่าไหร่

ปลาวัวหน้าตาจิ้มลิ้ม น่ารักดีอ่ะ มีฟันกระต่ายด้วย^^

จุดดำน้ำที่หมู่เกาะสุรินทร์นี่ก็ใช้ได้เลย น้ำใสกิ๊ง ตอนแสงแดดส่องไปในน้ำ เป็นริ้วๆ สวยดี แถวนี้ก็มีปลาให้ดูเยอะพอสมควร

แต่ยังประทับใจแถว เกาะง่าม ชุมพร มากกว่านิดนึง แถวนั้นยังสมบูรณ์กว่านี้ ไปเมื่อ 5 ปี ที่แล้ว ฝูงปลานี่พุ่งมาเป็นเกลียวทวิสเตอร์เฮอริเคนเลย แต่มาที่นี่แล้วเจอปลาสวยๆ เยอะเท่านี้ก็นับว่าประทับใจมากแล้วล่ะ ^^

ก่อนกลับ มีการสานสัมพันธไมตรีเป็นแฟนต้ายูวฑูต กับหนุ่มเซอร์ชาวโปรตุเกสคนนี้เอาไว้ นางกล่าวว่า "ผมเดินทางมาคนเดียว เห็นยูแอบถ่ายรูปผมไว้ ช่วยส่งให้หน่อยได้มั้ย" จัดให้จ้ะพ่อหนุ่ม^^ . . . Hey, I just met you,And this is crazy,But here's my number,So call me, maybe!

จบทริปเรียบร้อย บางคนพักต่อที่อ่าวช่องขาด หมู่เกาะสุรินทร์ ส่วนที่เหลือ กลับเกาะพระทอง กับ เกาะทุ่งนางดำ และส่วนอิชั้นกลับบ้านเก่า เอ้ย กลับเข้าฝั่ง เตรียมเดินทางต่อไป ภูเก็ต

แวะส่งครอบครัวใหญ่ที่เกาะพระทอง เกาะนี้น่าสนใจถ้ามีโอกาสเราคงได้มาพบกันครั้งหน้านะ

กลับถึงฝั่งที่ท่าเรือคุระบุรีโดยสวัสดิภาพ จบ Day trip อย่างสวยงาม

(ภาพนี้คือซากเรือตั้งแต่สมัยสึนามิ)


ใครมีโปรแกรมอยากไปเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์และหมู่บ้านมอแกนที่ จ.พังงา แล้วอยากหาที่พักที่ใกล้ท่าเรือคุระบุรีที่สุด เพราะจะได้ไปทันเวลาที่เรือออกไปทริป ก็ลองดู The Camp Resort ไว้เป็นอีก 1 ตัวเลือก เป็นที่พักสำหรับคนอยู่ง่าย กินง่าย รักความสงบ รักธรรมชาติ นอนเต๊นท์ริมหาด หลับไปพร้อมเสียงคลื่น แพคเกจที่พักรวมค่าทริปไปหมู่เกาะสุรินทร์ด้วยจ้า

รายละเอียด 2 วัน 1 คืน

- ผู้ใหญ่ 2 ท่าน ท่านละ 3,850 บาท เด็กต่ำว่า 12 ปี 2,600 บาท

- รวมค่าที่พัก + อาหาร 4 มื้อ เช้า 1 กลางวัน 2 เย็น 1 + พาเที่ยวรอบเกาะทุ่งนางดำ + ทริปดำน้ำหมู่เกาะสุรินทร์

รายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้ที่ www.thungnangdamisland.com

Facebook: The Camp Resort

Tel: 087-280-3702, 02-584-6815

. . . เดี๋ยวเก็บของขึ้นรถ แล้วเดินทางยาวๆไปภูเก็ตต่อจ้า

จะว่าไป ภูเก็ตนี่ก็เด็ด เด็ดยังไงเดี๋ยวไว้มาเล่าให้ฟังใหม่นะคร้าบบบบ ^^


ฝากเพจแม่ครัวแมวน้ำ Seally-Go-Round : https://www.facebook.com/seallygoround/

กดไลค์แล้วตามไปเที่ยวไปกิน ไปทำอาหารกันกับแม่ครัวแมวน้ำนะจ๊าาาาาาาา...

Seally-Go-Round

 วันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 18.29 น.

ความคิดเห็น