สวัสดีครับ วันนี้ผมนาย “ภรรยาหา สามีใช้" มีรีวิวร้านอาหารมาฝากกันอีกแล้วครับ โดยคราวนี้ผมจะเปลี่ยนบรรยากาศพาไปร้านอาหารแบบง่ายๆ กินจานเดียวแล้วอิ่ม......แต่ถ้าใครอยากจะกินหลายจานก็ไม่ว่ากันครับ ><


สำหรับร้านที่ผมจะพาไปในครั้งนี้นั่นก็คือ “ร้านเอลวิส สุกี้" ซอยยศเสครับ โดยการเดินทางสำหรับคนที่ขับรถมานั้นอาจจะงงๆ และลำบากนิดนึง เพราะแถวๆ นั้นมันจะเป็นถนน one way ครับ โดยพิกัดการเดินทางไปร้านคร่าวๆ สำหรับคนที่ขับรถไปเองก็คือหากเราขับรถมาจากถนนพระราม 1 ผ่านมาบุญครองแล้วก็โลตัสพระราม 1 มาเรื่อยๆ เราจะเจอสะพานยศเส พอลงสะพานยศเสแล้วให้เราเลี้ยวซ้ายไปทางโรงเรียนเทพศิรินทร์ แต่ก่อนจะถึงโรงเรียนเทพศิรินทร์ เราจะเห็นธนาคารกสิกรไทยอยู่ด้านขวามือ ให้เราเลี้ยวขวาเข้าซอยที่อยู่ข้างๆ ธนาคารกสิกรไทยได้เลยครับ (ตรงนี้แนะนำเลยนะครับว่า หลังจากที่เราขึ้นสะพานยศเสแล้ว เราอย่าไปอยู่เลนซ้ายสุดนะครับเพราะพอหลังจากเราเลี้ยวซ้ายแล้ว เราจะต้องรีบเลี้ยวขวาเข้าซอยทันทีครับ ถ้าใครอยู่เลนซ้ายสุดอาจจะเลี้ยวขวาไม่ทันได้)


หลังจากที่เราเข้าไปในซอยยศเสแล้วก็ให้เราเริ่มหาที่จอดรถได้เลย โดยพยายามส่องๆ มองที่ข้างทางเอาไว้ เราจะเห็นคนที่คอยดูแลหาที่จอดรถให้ จากนั้นเราก็เปิดกระจกรถถามเค้าได้เลยว่ามากินสุกี้ต้องจอดรถที่ไหน เดี๋ยวเค้าจะหาที่จอดรถให้โดยมีค่าใช้จ่ายในการจอดรถ 20 บาทต่อคันครับ พอเราจอดรถเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ให้เราเดินต่อไปเรื่อยๆ จนเกือบถึงถนนพลับพลาไชยจากนั้นเราก็เจอร้านหน้าตาแบบนี้อยู่ทางซ้ายมือของเรา


ร้านเอลวิสสุกี้ จะเป็นร้านขนาด 1 คูหาเล็กๆ ที่มีพวกกุ้ง หอย ปู ปลาและคนทำอาหารอยู่ที่หน้าร้าน ส่วนพื้นที่นั่งนั้นจะมี 2 ที่ ที่แรกก็คือภายในร้านตามรูปบนโดยจะมีโต๊ะเล็กๆ อยู่ 4-5 ตัว ค่อนข้างแออัดหน่อย กับอีกที่นึงจะอยู่เยื้องๆ กัน อันนี้จะมีโต๊ะราวๆ 10 ตัวได้ แบ่งเป็นในห้องแอร์ แล้วก็ outdoor โดยวันนี้ผมกับภรรยาได้นั่งฝั่งตรงข้ามร้านร้าน ตรงโซน outdoor ครับ


เมนูของที่นี่จะมี 5-6 หน้า แบ่งเป็นสุกี้, ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่, อาหารจานเดียว, อาหารทะเล, ของกินเล่น แล้วก็ของหวานกับเครื่องดื่ม โดยรวมๆ แล้วราคาอาหารจะอยู่สูงกว่าร้านอาหารจานเดียวตามข้างทางอยู่ซักหน่อย คือราคาจะอยู่ในระดับเดียวกับร้านอาหารติดแอร์ที่ไม่ได้พรีเมี่ยมมากนัก


สำหรับเมนูของผมในวันนี้ก็จัดตามนี้ครับ

• สุกี้รวมมิตรน้ำ (80 บาท)

• ทูลหัวหมู (100 บาท)

• ปลาหมึกย่าง (220 บาท)

โดยปลาหมึกย่างนั้นเค้าจะคิดราคาตามน้ำหนัก ซึ่งเท่าที่ผมเคยกินบางทีก็มีตัวใหญ่ๆ ที่ราคาถึง 300 บาทต่อตัวเลยครับ


ผมนั่งรอไม่นานอาหารก็เริ่มทยอยมาเสิร์ฟ เริ่มจากจานแรกสุกี้รวมมิตรน้ำ ชามใหญ่ดีนะครับ สมกับราคา 80 บาทอยู่ โดยภายในชามจะมีกุ้งและปลาหมึกกรอบอย่างละหนึ่ง มีเห็ดอีกนิดหน่อย ส่วนหมูกับเนื้อนี่จะมีเยอะหน่อย รวมๆ แล้วรสชาติอร่อยถูกปากดีเหมือนเคย หมูและเนื้อนุ่มดีครับ ^^


จานถัดมาก็คือทูลหัวหมู ลักษณะของมันก็คือสุกี้แห้งที่ไม่มีเส้นครับ มีเฉพาะผักกับหมู รสชาติโดยรวมๆ โอเค เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากกินแป้ง แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าหมูที่ให้มาในจานนั้นแอบน้อยไปหน่อยและเมื่อเทียบกับสุกี้ชามแรกแล้ว สุกี้ดูจะคุ้มกว่ายังไงก็ไม่รู้ @_@


ปิดกันด้วยจานสุดท้าย อันนี้รอนานหน่อย นั่นก็คือปลาหมึกย่าง โดยจานที่ใส่มานั้นจะมีการติดราคาให้เราเห็นชัดเจนเลยว่าจานละกี่บาท จะได้ไม่มีปัญหาในตอนคิดเงิน


ขนาดของปลาหมึกผมว่าใหญ่สมราคาดีนะครับ ในด้านความสดก็ถือว่าดี สอบผ่าน เป็นเมนูที่ผมมาที่นี่แล้วมักจะไม่พลาดที่จะสั่งทุกครั้ง แถมบางครั้งผมก็สั่งกลับไปกินต่อที่บ้านด้วยครับ อ้อ....น้ำจิ้มมันจะมี 2 แบบนะครับ อันนึงจะเป็นซีฟู้ดส์ค่อนข้างเผ็ด ส่วนอีกอันจะออกหวานๆ คล้ายๆ กับน้ำจิ้มปลาหมึกบด


เอาล่ะ หลังจากที่ผมกินปลาหมึกย่างเสร็จ ผมก็ทำการคิดเงิน ซึ่งค่าใช้จ่ายในมื้อนี้ก็คือ 414 บาท แบ่งเป็นค่าอาหาร 400 บาท แล้วก็ค่าน้ำและน้ำแข็งอีก 14 บาท แต่ยังครับ ยังๆ.....อุตส่าห์มาถึงยศเสทั้งทีถ้ามากินแค่นี้ก็คงเหมือนมาไม่ถึง ดังนั้นหลังจากกินอาหารคาวแล้วเราก็ควรไปจัดของหวานอย่าง “ไอติมหม้อไฟ" กันต่อดีกว่า แต่ก่อนที่จะไปกินนั้นเรามาสรุปเกี่ยวกับร้านเอลวิสสุกี้กันก่อนดีกว่าครับ


วันที่รับประทาน : วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม 2560

ช่วงเวลา : 19.00 – 20.00 น.

จำนวน : 2 คน


รสชาติอาหาร : ถือว่าอร่อยและสอบผ่านครับ โดยเฉพาะสุกี้และปลาหมึกย่าง เป็นเมนูที่ผมมาทีไรต้องสั่งทุกครั้งเลย


ความหลากหลายของอาหาร : ถือว่ามีความหลากหลายพอควรครับ เพราะนอกจากจะมีสุกี้, ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ และก็อาหารจานเดียวแล้วก็ยังมีพวกอาหารทะเลให้เราเลือกกินอีกหลายรายการ


ความสะอาดของร้าน : ด้วยทำเลที่ตั้งของร้านคือค่อนข้างคับแคบและอยู่ติดกับถนนเลย ดังนั้นต้องยอมรับว่าความสะอาดคงไม่ได้เนี้ยบหรือดีมาก แต่ถ้าเทียบกับมาตรฐานร้าน Street Food ทั่วๆ ไปก็ถือว่าโอเคครับ ทางร้านก็พยายามดูแลความสะอาดให้อยู่ในเกณฑ์อยู่


การบริการของพนักงาน : รวดเร็วดี คงเพราะส่วนหนึ่งมีพนักงานหลายคนด้วย ดังนั้นแม้ว่าลูกค้าจะเยอะนั่งเต็มทุกโต๊ะ ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าเค้าจะบริการช้าแต่อย่างใดครับ


ความสะดวกของการเดินทาง : เป็นทำเลที่ผมว่าออกจะไม่สะดวกกับคนที่ขับรถไปซักเท่าไหร่เพราะเป็นถนน one way หลายช่วง และหาที่จอดรถยาก โดยเฉพาะคนที่ไปครั้งแรก แต่ถ้าเคยไปแล้วก็น่าจะคล่องขึ้นครับ และสำหรับคนที่ใครที่ไม่สะดวกขับรถไปแถวนั้นก็พอจะมีรถเมล์ผ่านบ้าง แต่ถ้าเอาสะดวกสุดในความคิดเห็นผม ผมว่าตุ๊กๆ หรือ Taxi ดีสุดครับ


ความคุ้มค่า : เรื่องนี้อาจจะต้องแยกเป็นรายการๆ ไป ตัวสุกี้ผมว่าสมเหตุสมผลดีครับระหว่างรสชาติ ปริมาณแล้วก็ราคา ส่วนทูนหัวหมูนี่แอบคิดว่าเนื้อหมูมันน้อยไปหน่อย ถ้าได้เพิ่มอีกนิดน่าจะโอเค T___T ส่วนปลาหมึกย่างนั้น โอเคเลยครับ ตัวโต ใหญ่ สะใจ คุ้มราคาดี


สรุป : หากคุณเป็นคนชอบทานสุกี้ อาหารทะเลปิ้งย่าง และไม่รังเกียจ Street Food ร้านนี้เป็นร้านนึงที่ผมว่าหากมีโอกาสผ่านไปแถวนั้นควรไปลองครับ หรือถ้าไปถึงหน้าร้านแล้วรู้สึกไม่ถูกชะตาก็เลี้ยวไปร้านอื่นแทนก็ได้ แถวนั้นมีร้านอาหารอยู่ติดๆ กันเยอะเลย แถมน่ากินหลายร้านเลยครับ


เอาล่ะครับ ทีนี้เรามาดูร้านไอติมของเรากันดีกว่า ร้านไอติมหม้อไฟยศเสนั้นเป็นร้านขนาด 1 คูหาเช่นเดียวกัน พิกัดร้านอยู่ข้างๆ กับตำแหน่งที่ผมนั่งกินสุกี้อยู่แค่ไม่กี่สิบก้าวเท่านั้น โดยไอศกรีมของที่นี่จะเป็นไอศกรีมโฮมเมดและมีหลากหลายรสชาติเลย ที่เด่นๆ หน่อยก็จะเป็นโคตรนม. ยาคูลท์ปีโป้, กระทิงแดงวอดก้า แล้วก็เบียร์ ครับ ซึ่งหากใครไม่เคยทานมาก่อนสามารถให้พนักงานที่ร้านแนะนำรสชาติคร่าวๆ แล้วก็ขอชิมได้ครับ


ราคาไอศกรีมนั้นจะมีตั้งแต่ลูกละ 30 บาท, 35 บาท แล้วก็ 40 บาทครับ โดยเราสามารถสั่งแยกมากินเป็นลูกๆ ถ้วยใครถ้วยมันก็ได้ หรือจะรวมเป็นถ้วยเดียวก็ได้ และพิเศษสุดๆ ที่เป็นไฮไลท์ของร้านก็คือหากสั่งตั้งแต่ 7 ลูกขึ้นไป ทางร้านจะใส่รวมเป็นหม้อไฟสุดอลังการให้ครับ ซึ่งตอนที่ยกมาเสิร์ฟนั้นดูเก๋และถ่ายรูปกันสนุกดีครับ


หมายเหตุ : ภาพไอติมหม้อไฟตามรูปด้านล่างนี้ ผม save มาจาก internet ไม่ได้ถ่ายเองนะครับ เพราะวันนั้นผมไปกัน 2 คน กินกันถึง 7 ลูกไม่ไหวจริงๆ


สำหรับไอศกรีมที่ผมกินในวันนี้ก็ได้แก่ ยาคูลท์ปีโป้, กระทิงแดงวอดก้า แล้วก็ชาเขียวครับ รสชาติโดยรวมทั้ง 3 รสถือว่าอร่อยและสอบผ่านสำหรับผมกับภรรยา โดยยาคูลท์ปีโป้นั้นเป็นรสโปรดผม ส่วนกระทิงแดงวอดก้าเป็นรสโปรดของภรรยาผมอยู่แล้ว มาทีไรต้องสั่งตลอด รสชาติของมันก็ตามชื่อเลยครับ ถ้าให้จินตนาการรสชาติง่ายขึ้นมาหน่อยก็ต้องบอกว่ารสชาติของมันนั้นเหมือนกับร้านเครื่องดื่มที่ทำเมนูนี้ขายเลย แต่จะมาในรูปแบบของไอศกรีม ส่วนชาเขียวนั้นรสชาติเข้มดีแต่ไม่ขมครับ


ในส่วนการละลายตัวของไอศกรีมนั้นถือว่าละลายค่อนข้างช้า ทำให้รสชาติแต่ละลูกไม่ไปผสมปนเปกัน และเราไม่ต้องรีบกินครับ


เอาล่ะครับ สำหรับบทสรุปของร้านไอติมหม้อไฟยศเสนั้น ผมขอสรุปสั้นๆ ง่ายๆ ตามนี้เลยครับว่าเป็นร้านไอศกรีมโฮมเมดที่อร่อย ราคาไม่แรง มีรสชาติแปลกๆ เยอะ พนักงานที่ร้านเอาใจใส่ดี ช่วยแนะนำรสชาติและเปิดโอกาสให้เราลองชิมได้ตามสบาย แถมยังมีความเก๋ตรงที่หากสั่งเกิน 7 ลูกทางร้านจะเสิร์ฟเป็นหม้อไฟที่ถ่ายรูปเก๋ๆ ไปอวดเพื่อนๆ ได้ ส่วนข้อด้อยของร้านนี้ก็คือตำแหน่งที่ตั้งร้านอาจจะเดินทางไปยากนิดนึง หาที่จอดรถยาก แล้วก็บางเวลาคนจะเยอะมาก จนจำนวนโต๊ะที่มีอยู่ไม่พอ ต้องยืนรอต่อคิวซักพักครับ ^^


ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้ หากผมรีวิวขาดตกบกพร่องประการใดต้องขออภัยด้วยและการรีวิวนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมจากวันที่ไปใช้บริการเท่านั้น แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการหรือรสชาติที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ


สำหรับใครที่ชอบการรีวิวของผม ก็สามารถไปติดตามหรือแนะนำข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ https://www.facebook.com/amazingcouples


แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ


ความคิดเห็น