ทะเลสาป Kawaguchigo , Saiko , Shojiko และ Motosuko เป็นทะเลสาปส๊๋ในห้าของทะเลสาปที่มีจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวกัน การเดินทางจาก Shinjuku สามารถนั่งรถไฟหรือรถบัสมาลงที่สถานีรถไฟ Kawaguchigo การเที่ยวชมรอบๆทะเลสาป Kawaguchigo และทะเลสาป Saiko สามารถใช้บริการ Kawaguchigo Sightseeing Bus and Saiko Sightseeing Bus (Red Line and Green Line) ได้ครับ ส่วนทะเลสาป Shojiko และ Motosuko ให้ใช้บริการ Nurusawa / Shojiko / Motosuko Sightseeing Bus (Blue Line) หรือเช่ารถขับจะสะดวกมากกว่า
คลิ็กที่นี่เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่
การเที่ยวรอบๆทะเลสาปในครั้งนี้เราใช้เวลาสองวัน โดยวันแรกจากที่พัก Kawaguchigo station Inn ซึ่งอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ เราเดินไปรับรถที่เช่าขับที่ศูนย์โตโยต้าแล้วขับไปเที่ยวทะเลสาป Saiko แวะเที่ยว NARUSAWA ICE CAVE , WIND CAVE แล้วไปทะเลสาป Shojiko และ Motosuko หลังจากนั้นเราไป Fujisengen Shrine และ Oshino-Hakkai ก่อนกลับมาที่ทะเลสาป Kawaguchigo วันที่สองเราวางแผนไป Chureito Pagoda ตอนเช้าแล้วมานั่งรถบัสไป Kachi Kachi Ropeway และ The Kawaguchiko Music Forest แต่เนื่องจากช่วงสายๆของวันมีเมฆบังภูเขาไฟฟูจิ เราจึงเปลี่ยนแผนไป Fuji-Q Highland แทน ก่อนเดินทางกลับ Shinjuku ในตอนเย็น
ตอนเช้า 05:30 น. วันนี้อากาศดี อุณหภูมิ 1.6 องศา ถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิที่สถานี Kawaguchigo Station มาฝาก
กลับเข้าโรงแรมเตรียมตัวลงมารับประทานอาหารเช้าเวลา 07:30 น. ระหว่างรออาหารออกไปถ่ายรูปไว้อีกรอบ บรรยากาศตอนเช้ายังไม่มีคนเหมาะสำหรับการถ่ายรูปนะ ตู้ขบวนรถไฟหน้าสถานี จุดถ่ายรูปวิวฟูจิที่เห็นจาก facebook ของที่พัก
ได้เวลารับประทานอาหารเช้าแล้ว สำหรับคนที่ไม่ได้จองอาหารเช้าไว้แนะนำให้ซื้อเตรียมไว้ก่อนครับ ตอนเช้าหาอาหารรับประทานยาก ร้านยังไม่เปิดกัน
หลังอาหารเช้า เราออกเดินไปรับรถที่เช่าไว้ที่โตโยต้า สาขา Kawaguchi Lake Station รุ่น Compact รับรถเวลา 08:00 คืนรถเวลา 18:00 น. ได้รถยี่ห้อ Vitz ขับเที่ยวทั้งวันแล้วมาเติมน้ำมันเต็มถังคืนที่ปั๊มติดกับที่เช่ารถครับ
เราเปิด map แล้วขับรถไปทะเลสาป Lake SAIKO กันก่อน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 20 นาที แต่ขับออกมาได้ประมาณ 2 กม. เนลนึกขึ้นได้ว่าลืมกระเป๋าไว้ในห้องน้ำที่บริษัทรถเช่า จึงต้องขับกลับไปใหม่ โชคดีที่ของอยู่ครบ
วิ่งมาถึงบริเวณ Boat Rental Service เห็นป้าย Lake SAIKO จอดถ่ายรูปกันก่อนครับ
จาก Boat Rental Service ขับรถเลียบทะเลสาปมาจอดถ่ายรูปที่ร้าน Soba Noodle Shop (彩呼亭)
จากร้าน Soba Noodle Shop (彩呼亭) ขับไปจนสุดทะเลสาปจะเป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิของทะเลสาป SAIKO
แผนที่แสดงจุดจอดรถและเส้นทางที่ขับจาก Boat Rental Service มาจอดถ่ายรูปที่ร้าน Soba Noodle Shop (彩呼亭) แล้วไปจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิริมทะเลสาป SAIKO (จุดสีแดง)
หลังจากนั้นเราวางแผนไป ICE CAVE และ WIND CAVE ซึ่งป้อนข้อมูลเข้า GPS หรือ iPad ไม่มีข้อมูลอยู่เลย แผนที่ที่เตรียมมาก็ไม่ละเอียดพอ เราขับรถไปเรื่อยๆ มองหาป้ายบอกทาง โชคดีที่พบแผนที่ระหว่างทาง จึงจอดรถลงไปดู
จุดที่เราจอดรถเป็นจุดชมนกชื่อ SAIKO WILD BIRDS' FOREST PARK จุดนี้เห็นภูเขาไฟฟูจิด้วย
ขับรถไป NARUSAWA ICE CAVE (ถ้านั่ง Retro Bus มาลงต้องเดินเข้าไปอีกประมาณ 800 เมตร) ที่นี่เราเลือกซื้อตั๋วแบบ Combine ราคา 500 เยน สามารถเที่ยวได้ทั้ง ICE CAVE และ WIND CAVE เจ้าหน้าที่จะฉีกตั๋วของ ICE CAVE ไว้ และให้ส่วนของ WIND CAVE กลับมา
สถานที่นี้มีรองเท้าและหมวกให้บริการด้วยครับ เพราะมุดถ้ำอาจโดนหินหรือน้ำแข็งตีหัวได้
พร้อมแล้วไปเที่ยวกันเลย เดินเลาะตามทางมาเรื่อยๆจนถึงปากถ้ำ
จากรูปบ่งบอกว่าถ้ำแห่งนี้เป็นที่เก็บน้ำแข็ง มีการตัดแบ่งน้ำแข็งและขนส่งโดยม้าไปถวายเจ้าเมือง
เข้าไปภายในถ้ำระวังศีรษะกันด้วยครับ
กลับออกมาแวะเข้าร้านขายของที่ระลึก ได้อุดหนุนเสื้อไปหนึ่งตัว 2,000 เยน น้ำแร่แบบมี gas และไม่มี gas อย่างละขวด
หลังจากนั้นก็ขับรถไป FUGAKU WIND CAVE ชื่อป้ายไม่เหมือนกับในแผนที่ ขับรถวนสองรอบกว่าจะเจอ เราต้องจอดรถไว้ริมถนนแล้วเดินเข้าไปครับ ร้านบริเวณที่จอดรถ
เดินตามทางเข้าไปประมาณ 200 เมตร
ถึงปากถ้ำแล้วเดินลงไปได้เลย ระวังลื่นกันด้วย
At one time, silkworm eggs and tree seeds were kept in this storage area. Cave storage was used for cocoons and seeds up until around 1995. The natural refrigeration kept high-quality seeds fresh and improved their budding.
เดินเที่ยวเสร็จ ขับรถไปทะเลสาบ LAKE SHOJI กันต่อ
เลี้ยวเข้าถนนหมายเลข 358 แวะเข้าไปถ่ายรูปกันก่อน
อากาศช่วงสายๆวันนี้ไม่เต็มใจ มีเมฆมากและมีฝน อดเห็นฟูจิซังเลย ขับรถต่อไปยัง LAKE MOTOSUKO ระหว่างทางฝนตก จึงแวะกินข้าวที่ร้านบริเวณทางเข้าทะเลสาบ อาหารร้านนี้ให้เยอะมากครับ คุ้มราคา
หลังกินข้าวฝนเบาลงมากจนหยุดตก จึงขับรถเที่ยวรอบ Lake Motosuko แต่ไปได้ไม่รอบ เนื่องจากทางปิด (หิมะปิดทาง) จึงต้องขับย้อนไปอีกด้าน เพื่อไปจุดถ่ายภาพด้านหลังแบงค์พันเยน ณจุดนี้ GPS ติดบ้างไม่ติดบ้าง อาศัยป้ายอย่างเดียว
จุดถ่ายภาพด้านหลังแบงค์พันเยน เมฆเต็มเลย ไม่เห็นฟูจิซัง
ภาพที่คาดหวังไว้
ภาพที่ถ่ายได้จริง
เราเดินทางต่อไป Oshino-Hakkai โดยขับรถย้อนกลับทางเดิม วิ่งไปทางทะเลสาบ Yamanakako ระหว่างขับไปเห็นป้าย Fujisengen Shrine แวะเข้าดูหน่อยดีกว่า จอดรถฝั่งตรงข้ามแล้วเดินผ่านทางหิมะที่ยังละลายไม่หมดเข้าไป เข้าไปถึงแล้วถึงรู้ว่า มีทางให้นำรถเข้าไปจอดใกล้ๆ ด้วย
ออกจาก Fujisengen Shrine ขับรถหา Oshino-Hakkai มองป้าย Oshino แล้วขับตามป้ายไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงจุดที่มีป้าย Oshino-Hakkai ซึ่งสามารถไปได้ทั้ง 2 ทาง เราเลือกขับตรงไป แต่ยิ่งขับไปก็ไม่เจอทางเข้าซักที คิดว่าหลงแน่ๆ เลย จึงจอดรถ น้องที่มาด้วยลงไปถามทาง คนญี่ปุ่นเขาดีมากๆเลยครับ เราขับรถเลยมาตั้งไกล เขาขับรถพาเรามาถึงที่เลย เกรงใจจริงๆ ยังไม่ทันได้กล่าวขอบคุณ เขาก็กลับกลับไปแล้ว จากจุดที่เราจอดรถเราเดินเข้าไปประมาณ 100 เมตรก็ถึงครับ น้ำใสจริงๆ
บ่อน้ำใหญ่กลางหมู่บ้าน วันนี้เมฆบังภูเขาไฟฟูจิไม่เห็นเลยครับ
ศาลเจ้าหลังหมู่บ้าน Oshino-Hakkai เส้นที่ขับรถผ่าน
ขับรถกลับมาที่ Kawaguchigo ยังพอมีเวลาเหลือ ตัดสินใจขับดูรอบทะเลสาบ Kawaguchigo ซักหน่อย ระหว่างที่ข้ามสะพานข้ามทะเลสาบภูเขาไฟฟูจิ โผล่ฐานออกมาให้เห็นหน่อยแล้วก็หายไปอีกแล้ว เมื่อข้ามสะพานขับรถเลี้ยวขวา จะหาที่จอดรถไม่มีเลยเต็มหมด จะไปจอดหน้าโรงแรมก็มีพนักงานโรงแรมเดินมา จึงต้องขับย้อนกลับไปอีกฝั่ง จะมีที่ให้จอดเยอะ หรือขับไปทางขึ้นเรือ หรือ Ropeway ก็มีที่จอดรถครับ วันนี้ Ropeway ปิดให้บริการ อดเลย
17:30 น. ขับรถไปเติมน้ำมันและคืนรถแล้วเดินกลับมากินข้าว เดินดูระหว่างร้านอาหารที่สถานีรถไฟ กับร้านตรงข้ามสถานี ใกล้ๆ ที่พัก เราตัดสินใจเลือกร้านใกล้ที่พัก อาหารของร้านนี้อร่อยสู้ร้านเมื่อกลางวันไม่ได้เลย แต่คนก็มากินกันเยอะ คงเพราะหาร้านกินยาก กลับเข้าที่พัก เดินดูด้านล่างมีห้องพักผ่อนเล่นอินเตอร์เน็ตและมีบริการ ชา กาแฟ ตลอด 24 ชม.
คืนนี้นอนก่อนครับ พรุ่งนี้เช้าเราจะไปถ่ายรูปฟูจิกันที่ Chureito Pagoda ตอนบ่ายไป Fuji-Q Highland กัน
ตามไปเที่ยวกันต่อเลยครับ https://th.readme.me/p/9700
Wit Sil
วันพฤหัสที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.52 น.