มาพักผ่อนโรงแรมในเมืองกรุงอัพเดทชีวิตแนวไลฟ์สไตล์กันบ้างค่ะ หลังจากเดินทางออกต่างจังหวัดเป็นว่าเล่น

โรงแรมในเมืองกรุงก็มีให้เราได้เลือกมาพักผ่อน สัมผัสอีกหนึ่งบรรยากาศชิลๆ กันบ้างนะ

เรามาพักผ่อนกันที่นี่ 1 คืนเมื่อ 30 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมาค่ะ

ข้อดีของการเข้ามาในเมืองกรุงในช่วงวันหยุดยาวคือ ถนนโล่ง รถน้อยมาก ในขณะที่วันหยุดยาวคนพากันออกต่างจังหวัดเยอะ

เรานี่แหละ ถือโอกาสมานอนในกรุงซะเลย ข้อดีของวันหยุดยาวเมืองกรุงก็มีนะเออ ^^

Mandarin Hotel Bangkok - Managed by Centre Point

โรงแรมแมนดาริน กรุงเทพฯ

ซึ่งเป็นโรงแรมเก่าแก่แถวสามย่าน และในเดือนตุลาคมนี้จะมีอายุครบ 52 ปี เกือบจะรุ่นๆ พ่อแม่เราแล้วนะคะ อิอิ

คือแบบว่าดูไม่ธรรมดากันเลยจริงๆ ภาพนอกมองเข้ามาดูจากสายตาเราก็ว่าธรรมดาๆ แต่พอเข้ามาเห็นภายใน

ทำให้เราได้เปิดโลกทัศน์อีกด้านหนึ่งที่เกินความคาดหมายได้เหมือนกัน




โรงแรมแมนดาริน กรุงเทพฯ ในภาพที่เราไปเจอมาในวันนี้ บ่งบอกได้เลยว่า อายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ

เพราะที่นี่มีการปิดปรับปรุงครั้งใหญ่ในปี 2012

และเปิด Grand Opening ปีใน 2013 ค่ะ (บริหารงานโดย Centre Point)

ที่นี่มีห้องพักมากถึง 374 ห้อง มี 2 Room Type ในอนาคตอันใกล้เห็นว่าจะเพิ่มเป็น 5 Type

ส่วนในตอนนี้จะเป็น Deluxe & Grand Suite ราคาเริ่มต้นห้อง Deluxe = 2,800.- พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่านค่ะ

รีเควชเลยค่ะอาหารเช้าที่นี่อร่อยมากกกกก มีอาหารแนวไทยๆ เยอะด้วย เราชอบอาหารไทยจึงปลื้มมากเป็นพิเศษ

ที่ไม่ได้เอาใจชาวต่างชาติมากเกินไปนะ 555 ฟิตเนส สปา สระว่ายน้ำ คลาสสิคมาก

ห้องพักดีไซน์เค้าเก๋ตามสมัยนิยมมากค่ะ มองไม่ออกหรอกนะว่าอายุโรงแรมเกิน 50 ปีมาแล้ว


นอกจากนี้เรายังพบความไฮเทคของระบบการจัดการด้วยคีย์การ์ด และความไฮเทคของห้องน้ำอีกด้วย

แบบว่าทุกช่วงเวลาการพักผ่อนที่นี่เต็มไปด้วยความสบายใจ และผ่อนคลายจริงๆ

เพราะภายในโรงแรมจะเงียบสงบ แม้จะอยู่ติดถนนใหญ่สายสำคัญของเมืองกรุงก็ตาม

ว่าแล้วก็ตามไปเช็คอินกับเรากันได้เลยค่า

MANDARIN HOTEL BANGKOK

662 Rama IV Road, Bang Rak, Bangkok, 10500 Thailand.

Phone: (662) 238-0230 Fax: (662) 237-1620 Email: [email protected]



เวลาเช็คอินตามปกติค่ะ 14.00 น. และเช็คเอาท์ 12.00 น.ของอีกวัน เข้าไปดูเวปไซด์ของโรงแรม เห็นบอกว่า

หากจองผ่านเวปโรงแรม สามารถเลทเช็คเอาท์ ได้ถึง 15.00 น. ด้วยนะเออ เริดเนอะ ชอบตื่นสายๆ อ่ะ อิอิ

มีมุมบริการอินเตอร์เน็ตให้เล่นด้วยที่ Lobby

ณ เวลานี้เรามาถึง ราวๆ บ่ายโมงค่ะ ขอไปทานข้าวก่อนดีกว่า

ที่ห้องอาหารครัวหลวง



ห้องอาหารครัวหลวงจะอยู่โซนทางเข้าหน้าโรงแรมค่ะ หากใครเจาะจงมาทานข้าวอย่างเดียว ก็สามารถจอดรถไว้ภายในโรงแรมได้เลย

มีที่จอดรถเพียงพอ สะดวกอย่างมาก

เอาราคาอาหารมาบอกกันก่อนค่า

ร้านครัวหลวง

- lunch 370.- ส-อา และวันหยุดมา 4 จ่าย 3

- dinner 290.- จ่ายผ่ายบัตรเครดิต KTC มา 2 จ่าย 490.-



อาหารจะมีให้เลือกหลากหลายค่ะส่วนมากเป็นอาหารไทย มีเยอะมาก

ข้อดีคือมีเติมตลอด ราคานี้พร้อมน้ำดื่ม และกาแฟชานมเย็นด้วย พร้อมของหวาน และผลไม้ต่างๆ

ขนมหวานแบบไทยๆ ก็มีด้วยนะ ตอนเราไปได้ชิม กล้วยบวชชีด้วย อร่อยเฟอร์ ^^


ช่วงปิดเทอมเราพานายแบบหนุ่มตัวน้อยของเรามาด้วย กินข้าวเก่งมาก

กินเยอยะมาก ความสุขของเค้าเลยแบบนี้ 555

เมื่อทานข้าวเสร็จทำอะไรกันต่อน้าาาาาา

ช่วงเวลา Relax กันค่ะ แบบว่าแดดร่มลมตกพักผ่อนภายในโรงแรมแมนดาริน กรุงเทพฯ กันหน่อย

ว่ายน้ำกันเหอะ เด็กๆ ชอบ


สระว่ายน้ำที่นี่ ติดกับ Lobby ค่ะ ความสูงอยู่ระดับ 130 cm. ค่ะ ไม่มีสระเด็กนะคะ เป็นสระน้ำระบบเกลือ

แต่หนุ่มน้อยของเราก็เล่นสบายเพราะสูงปริ่มๆ น้ำอยู่แล้ว


มาที่นี่เลยแฮปปิ้ไปตามๆ กัน กับรอยยิ้มของเค้า

ชั้นเดียวกับสระว่ายน้ำก็มีฟิตเนสด้วยนะคะ เป็นห้องฟิตเนสที่สวยงามมาก

ตั้งแต่ที่เราเคยเห็นมา โซนตรงกลางมีชุดเฟอร์ฯ โซฟาให้นั่งพักสวยได้ใจไปเลย

พร้อมมีเทรนเนอร์คอยอำนวยความสะดวก และแนะนำเครื่องเล่นต่างๆ แต่เราก็ไมไ่ด้ใช้บริการ

เครื่องออกกำลังกายที่นี่เหมือนเดิม เสียดายๆ 555



กลับเข้ามายังห้องพักของเรากันจ้า ห้องพักของเราอยู่ขั้น 4 ค่ะ

โรงแรมแมนดาริน กรุงเทพฯ ตอนนี้มีห้องพัก 2 แบบนะคะ ห้องของเราคือ Deluxe Room ค่ะ เปิดเข้าไปเล้ยยย


โทนสีสว่างภายใน ไม่แคบและไม่กว้างมากค่ะ เลือกใช้กระจกเงาติดผนังบางจุดเพิ่มความกว้างในห้องพักด้วยนะ

ภายในห้องพักมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาตรฐานค่ะ มีเตาไมโครเวฟให้อุ่นอาหารด้วย เรานี่มาไม่เคยได้ใช้เลย อิอิ

ชอบ รอยยิ้ม และเตียงนุ่่มๆ นอนสบายไม่ปวดหลังก็โอเคแล้ว ที่นี่




สิ่งที่เราชอบ ในโรงแรมแมนดาริน กรุงเทพฯ คือระบบการจัดการด้วยคีย์การ์ดค่ะ

สะดวกด้วยคีย์การ์ดใบเดียว ตั้งแต่เช็คอินที่จะใส่ข้อมูลของผุ้เข้าพัก ไว้ในคีย์การ์ดทั้งหมด

ใช้ใบเดียว ทั้งเปิดลิฟท์ แตะเข้าห้องพัก ตลอดจนแตะบัตรทานอาหารเช้า ชอบตรงนี้แหละค่า

จากเดิมๆที่เราเคยเห็นประจำคือ ต่อให้มีคีย์การ์ดใช้เปิดลิฟท์หรือห้องพักก็ตาม ระบบเดิมยังใช้คูปองกระดาษสำหรับห้องอาหารเช้าอยู่นะ

หรือไม่ก็ต้องมีพนักงานมาคอยจดห้อง จดเบอร์ บางทีเดินมาตั้งไกล ลืมเอากระดาษคูปองห้องอาหารมาอีก 555

แต่ที่นีเก๋ไก๋เลยค่า ข้อมูลทั้งหมด ถูกป้อนไว้ในคีย์การ์ดใบเดียว !


สิ่งที่เราชอบยังไม่หมดแค่นี้นะคะ ระบบสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำด้วยค่ะ ชักโครกอัตโนมัติ

ซึ่งหนุ่มน้อยของเรายังไม่เคยสัมผัสแบบนี้ พอเรามาสอนการใช้งาน เค้ายิ้ม และชอบใจใหญ่เลย

แม้ไม่มีสายชำระ ให้น้ำกระเด็นเลอะเปื้อนพื้น แต่มีระบบเซ็นเซอร์ในชุดสุขภัณฑ์ที่นี่ก็ชนะเลิศอย่างสวยงามค่ะ


มาๆ มาชมอีกห้องหนึ่ง ของ โรงแรมแมนดาริน กรุงเทพฯ ค่ะ

Grand Suite ห้องนี้ขนาดกว้างกว่า แยกห้องนั่งเล่น ครัว และห้องนอนอย่างชัดเจน

โดยเฉพาะมุมครัวนี่ถือว่ากว้างมากเลยนะคะ


มีมุมห้องนั่งเล่น และโต๊ะทานอาหารพร้อมๆ

ตกแต่งห้องพักโทนสีขาวสบายตา



ภายในห้องนอน เตียงคิงส์ไซด์กว้าง 6 ฟุตค่า เปิดม่านหน้าต่างมองเห็นวิวตึกกรุงเทพหน่อยๆ อิอิ

ลงมาเดินเล่นดูแสงยามเย็นใน โรงแรมแมนดาริน กรุงเทพฯ กันต่อ

ก่อนที่เราจะเดินออกไปทานข้าวข้างนอก มีร้านอาหารใกล้ๆแถวนี้เยอะนะ เพราะติดกับมูลนิธิร่วมกตัญญูสาขาวัดหัวลำโพง

เรามีโอกาสได้ไปบริจาคและทำบุญโลงศพที่นั่นเป็นครั้งแรกด้วย กลับมาเหงื่อท่วมตัว 555




อีกมุมหนึ่งสวยๆ สงบๆ ของโรงแรมแมนดาริน กรุงทพฯ คือห้องสปาค่ะ ชื่อว่า LET'S RELAX SPA

จัดตกแต่งด้วยไม้ให้โทนสีอบอุ่นเป็นอย่างมาก เห็นแล้วชอบการตกแต่งแบบนี้ คือใช่เลย

แต่เราไม่ได้ใช้บริการนะคะ และไม่รู้เรทค่าบริการสปาที่นี่

แบบว่าห้องเค้าตกแต่งสวยดีจึงขอเข้ามาเก็บภาพให้ชมกันเฉยๆ ค่า ^^



ตัดฉับมายังมือเช้ากันนะคะ เป็นสิ่งที่เราชอบจาก โรงแรมแมนดาริน กรุงเทพฯ อีกเรื่องหนึ่ง

นั่นคืออาหารเช้า มื้อเช้าของที่นี่หลากหลาย อร่อยมาก

ภาพห้องอาหารภาพล่างเรามาเก็บภาพตอนเย็นนะ พอมาตอนเช้าทุกโต๊ะ เต็มค่ะ

ต้องไปนั่งอีกฝั่งหนึ่ง แสดงให้เห็นว่า ลูกค้าเค้าเยอะจริงๆ ในวันนั้น



ไลน์อาหารจะจัดเรียงเป็นสัดส่วน มีเลือกให้ตักเยอะมาก

ไม่ว่าจะไทย หรือต่างชาติก็หาทานได้ง่ายมากค่ะ



แต่ที่เราชอบคือ ที่นี่จะมีอาหารไทยเยอะมาก เช่นผัดไทย ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ร้อนๆ

เช็ตข้าวต้ม และอาหารต่างๆ โดยมีพนักงานนำมาเติมให้ตลอด



และเด็ดสุดที่ชอบสุดๆ คิดว่าคนอื่นคงชอบด้วยนะ เพราะเอามาวางทีไรหลายสิบๆ ไม้จะหมดในพริบตา

นั่นคือ หมูปิ้งนมสดนี่แหละค่า หอม อร่อยมากๆ มีในไลน์อาหารมื้อเช้าที่โรงแรมแมนดาริน กรุงเทพฯ ด้วย อร่อย ชอบๆ

สรุปเมื่อได้เข้าพักที่นี่คือ เราชอบในส่วนของระบบการจัดการเรื่องคีย์การ์ด ห้องน้ำที่ทันสมัย อาหารบุฟเฟต์กลางวันในราคาที่ไม่แพงค่ะ

รวมทั้งอาหารเช้าด้วยที่ไม่ได้โฟกัสให้ชาวต่างชาติมากเกินไป แต่โฟกัสมาแบบไทยๆ เลยแบบนี้แหละชอบจริงๆ

แต่ก็มีข้อด้อยอยู่อย่างนะคือ ห่างจากสถานี BTS ค่อนข้างไกล

สำหรับคนที่เดินทางด้วย BTS ลงที่สถานีศาลาแดงและต้องต่อรถมายังโรงแรมค่ะ

แต่ก็สะดวกสำหรับคนที่มีรถส่วนตัว เปิด map แล้วขับตาม GPS เลยหาง่ายไม่หลงทางค่า



ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ

RinSa YoyoLive

 วันพุธที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.59 น.

ความคิดเห็น