เธอชอบทะเล ไปเที่ยวทะเลกับผมมาก็หลายที่ แต่เธอไม่เคยมาเที่ยวทะเลภาคใต้ฝั่งอันดามันเลย ครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกของผมและเธอ
ที่ได้มาเที่ยว จ.ภูเก็ต จากอานิสงค์โปรโมชั่นของสายการบินไทยแอร์เอเชีย บินไป – กลับในราคาที่ไม่แรงมากนัก
โดยผมทำการจองไว้ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปี ก่อนจองผมรู้แค่ว่า จ.ภูเก็ตทะเลสวย มีโรงแรมชื่อดังอยู่หลายที่และมีแหลมพรหมเทพ
จากนั้นผมก็เริ่มหาข้อมูลที่เที่ยว ที่ทาน ที่พัก จากห้องบลู ฯ นี่แหละ ว่าจ.ภูเก็ตมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง
นั่นคือจุดเริ่มต้นเป็นที่มาของการเดินทางในครั้งนี้

*** ขอออกตัวก่อนว่าค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดในครั้งนี้ ผมจ่ายเองทั้งหมด ยกเว้นค่าที่พัก
ที่โรงแรมเพียงแต่ลดราคาให้ผมลงครึ่งนึง และค่าทัวร์วันเดย์ทริป ลดให้ 400 บ. * 2 คน = 800 บ. เท่านั้นนะครับ ***


เช้าวันนี้ผมและเธอตื่นนอนกันตั้งแต่ 4.30 น. รีบอาบน้ำแต่งตัวขับรถออกจากบ้านตอน 5.30 น. เพื่อมาขึ้นเครื่องบินที่ดอนเมือง


ตอน 8.00 น. แง แง หนูยังง่วงอยู่เลยค่ะ

เราเดินทางไปกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย ได้ขึ้นเครื่องที่ประตู 51 ซึ่งผมเข้าใจว่าหลังจากที่ Pier นี้ถูกปิดมานานหลายปี


ก็น่าจะเปิดให้บริการอีกครั้งพร้อม ๆ กันกับที่สนามบินดอนเมืองเปิดอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 เพราะทุกอย่างถูกปรับปรุงใหม่หมดเลย

ที่ประตู 51 นี้เอง จะมีร้านขายของและจุดนั่งรอเครื่องบินของอินเด็กซ์ ให้ได้ใช้บริการกันด้วย บรรยากาศดี


เมื่อแรกผมก็ไม่กล้าเข้าไปนั่ง เพราะคิดว่าเค้ามีไว้ขายตั้งโชว์ แต่ไม่ใช่นะครับ

ผมเองมาขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองหลายครั้งแล้ว ก็เพิ่งจะได้ใช้ประตู 51 เป็นครั้งแรกนี่แหละ


มีมุมให้คุณหนูตัวน้อยไว้นั่งเล่นแก้เบื่อระหว่างรอเครื่องบินด้วย


Attention please. Thai airasia Flight FD3037 now bording a gate no.51 !!! a gate no.51 !!! Thank you.


เสียงพนักงานสวยสาวประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่อง เราต้องรีบไปต่อแถวแล้วล่ะ

นั่งชมวิวอยู่เพลิน ๆ นักบินก็เปิดสปีด เบรก เป็นสัญญาณบอกว่าอีกเดี๋ยวคงลดระดับลงจอดแล้ว


โค้งขวาบินเข้าหา way point เพื่อเข้าหัวสนามบินและร่อนลงตามแผนการบินที่วางไว้


จากนั้นเราไปรับรถที่ผมได้เช่าไว้กับบริษัทบั๊ดเจ็ด โชคดีได้อัพเกรดรถจากอีโค่คาร์ ที่ผมจองมาในครั้งแรก


เป็นซิตี้คาร์ ชื่อรุ่นซิตี้ซะด้วยสิ พร้อมประกันชั้น 1 และผมซื้อประกันรถหายเพิ่มอีกวันละ 54 บ.

กองทัพต้องเดินด้วยท้อง หลังจากรับรถแล้ว เราก็รีบบึ่งเจ้าฮอนด้า ซิตี้มายังร้านหมี่ฮกเกี๊ยนและปอเปี๊ยะ ลกเที้ยน ทันที


เพราะตั้งแต่เช้าเราสองคนยังไม่ได้ทานอะไรเลย

อยากสั่งอะไรก็เลือกเอาจากเมนูที่พนักงานเสิร์ฟพูดแล้วผมฟังไม่ค่อยรู้เรื่องนำมาให้ได้เลยนะครับ


ปอเปี๊ยะที่เธอลองสั่งมา โดยแป้งที่เค้านำมาห่อนั้นมีลักษณะเหมือนแป้งที่เราเอามาห่อทานโรตีสายไหมน่ะครับ


แปลกดีไม่เคยทานปอเปี๊ยะแบบนี้ รสชาติอร่อยดีเหมือนกันแต่เผ็ดนิดนึง


ต่อมาเป็นหมี่ฮ๊กเกี๊ยนต้มยำ ใส่ไข่ต้ม อันนี้ขอแนะนำเลย อร่อยครับ


ชามละ 50 บ. อาจจะแพงนิด แต่ไม่เป็นไร นาน ๆ มาที และเป็นเมืองท่องเที่ยวด้วย


อิ่มแล้ว มีแรงเดินทางต่อไปยังโรงแรมแล้วล่ะ ในที่สุดเราก็มาถึงโรงแรม คาลิม่า รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต


มาถึงปุ๊บคุณพนักงานก็นำน้ำใบเตยใส่แก้วเก๋ ๆ ทรงกระบอกเย็นชื่นใจมาให้ทาน พร้อมผ้าเย็นสำหรับไว้เช็ดหน้า


อร่อยดี อยากจะขอเพิ่มแต่เกรงใจคุณน้องพนักงาน


โรงแรม Kalima Resort & Spa Phuket ตั้งอยู่ที่หาดกะหลิม ไม่ห่างกันนักจากหาดป่าตอง


ตัวโรงแรมออกแบบสไตล์ไทยคอนเทมโพรารี่ คือร่วมสมัยไม่ไทยหรือไม่โมเดิร์นจนเกินไปนัก


และได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมที่สมควรเผยแพร่ (ภาคใต้) จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์อีกด้วย

ล๊อบบี้ของที่นี่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เป็นแบบโอเพ่นแอร์ สูง โปร่ง


แต่ในยามฤดูร้อนตอนเที่ยงก็รู้สึกจะอบอ้าวไปนิดนะครับ


เช้า ๆ ก่อน 8.00 น. นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวออกทะเลแบบ วัน เดย์ ทริป ก็จะมานั่งรอทัวร์มารับ


นั่งรอห้องพักอยู่เกือบชั่วโมง คุณน้องพนักงานก็นำคีย์การ์ดมาให้ ได้ขึ้นห้องแล้วจ้า


ห้องพักของผมในครั้งนี้เป็นแบบ ดีลักซ์ ซีวิว


ตัวโรงแรมไม่ติดทะเล แต่สามารถชมวิวทะเล ได้จากภายในห้องพักเลย


สำหรับคนรักทะเล วิวนี้ก็คงพอทดแทนชายหาดส่วนตัวได้นะครับ


ห้องน้ำก็มีอุปกรณ์ครบครัน สบู่ ยาสระผม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน มีให้แม้กระทั่งเข็ม - ด้าย


มีอ่างอาบน้ำให้ด้วย ฮูหยินของผมเธอชอบใจใหญ่ ดูเธอจะโปรดปรานไม่น้อย เพราะหล่อนแช่ตัวทุกคืนก่อนนอน


และนี่ เรน ชาวเวอร์ ของโปรดของผม เดี๋ยวคืนนี้จะยืนอาบให้สมใจ


ต่อมา ผมจะพามาชมห้องอาหารมาลิก้า เทอเรซ ซึ่งเป็นห้องอาหารหลักของที่นี่


ตั้งอยู่ชั้นที่ 6 ของโรงแรม มีลานกว้าง ๆ ด้านหน้าห้องอาหารสามารถจัดกิจกรรม จัดเลี้ยงต่าง ๆ ได้


เปิดให้บริการทั้งวันเป็นแบบ ออลเดย์ ไดน์นิ่ง


รวมถึงอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ก็จะใช้ห้องอาหารมาลิก้า เทอเรซนี่แหละ โดยเปิดให้บริการตั้งแต่ 6.30 น.


นั่งทานอาหารเช้าไป ชมวิวทะเล วิวภูเขาไป ช่วยเจริญอาหารดีนะครับ


อาหารเช้าก็มีให้เลือกทานหลายชนิด ไส้กรอกหมู ไก่ แฮม ข้าวผัด ขนมปังนานาชนิด


คอนเฟล็กและซีเรียลต่าง ๆ ผสมนมที่ผมชอบทาน


มีมุมก๋วยเตี๋ยวด้วย มาเป็นรถเข็นเลยได้บรรยากาศดี ผมลองสั่งเส้นเล็กน้ำ เนื้อเปื่อยมาทานก็อร่อยดีไม่ผิดหวัง


และยังเราสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกได้จากลานกว้าง ๆ หน้าห้องอาหารแห่งนี้อีกด้วย


มื้อเย็น ถ้าใครยังไม่มีโปรแกรมที่ไหน ลองขึ้นมาทานอาหารที่นี่นะครับ


โดยทางโรงแรมจัดบุฟเฟ่ต์อาหารชนิดต่าง ๆ สับเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัน เช่น อินเตอร์เนชั่นแนล ดินเนอร์


หรือพิซซ่า บุฟเฟ่ต์ และอาหารไทย บุฟเฟ่ต์ สนนราคาราคาท่านละ 690 บ.

แถมไวน์ 1 แก้ว ส่วนคุณหนูตัวน้อยคิดครึ่งราคา แต่เปลี่ยนจากไวน์เป็นซอฟท์ดริ้งแทน

บรรยากาศดี ๆ แบบนี้ นั่งทานอาหารชมวิวทะเลหาดป่าตองพร้อมกับชมพระอาทิตย์ตกกับครอบครัว


หรือใครมากัน 2 คนเป็นคู่รักก็ดูจะโรแมนติกไม่น้อย

ต่อมาผมจะพาไปชมสระว่ายน้ำของที่นี่กันครับ ชื่อว่า ทรีโอ้ พูลบาร์


ทรีโอ้ พูลบาร์ ตั้งอยู่บนเชิงเขาด้านหน้าชั้นที่ 2 ชองตัวโรงแรม


ด้วยความที่อยู่บนเชิงเขานี่เองทำให้เราสามารถมองเห็นทะเลหาดป่าตองและหาดกะหลิมได้เต็ม ๆ ตา


ทั้งวันไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็จะเห็นแขกที่มาพักมาใช้บริการกันตลอด ถึงแดดจะร้อนแต่คุณฝรั่งคู่นี้ก็ยังสู้ไม่ถอย


ก็ถือว่าเป็นสระว่ายน้ำที่สามารถว่ายน้ำและชมวิวทะเลแบบพาโนราม่าไปพร้อมกัน


ว่ายน้ำกันเพลิน ๆ หากใครหิวขึ้นมาก็สามารถสั่งอาหารเบา ๆ ทานเล่นรองท้องจากบาร์ริมสระน้ำได้เลย


วิวโรงแรมยามเย็นเห็นแล้วสบายใจจังครับ


เช้าวันนี้ผมและเธอจองทัวร์ วันเดย์ทริป ไปดำน้ำ เที่ยวเกาะพีพี อ่าวมาหยา เกาะไข่ กับทางภูเก็ต สกายทัวร์


เราสองคนต้องรีบทานอาหารเช้า เพราะรถตู้จะมารับตอน 7.45 น.

ก่อนลงเรือ จะมีพี่ไกด์มาบรรยายสรุปถึงการเดินทางและความปลอดภัยของเราในวันนี้


จากนั้นก็จะแบ่งนักท่องเที่ยวลงเรือตามสีของสติ๊กเกอร์ที่แปะกับเสื้อ โดยผมและเธอเป็นเพียงคนไทย 2 คนในทริปนี้


นั่งเรือมาได้พักใหญ่ พี่ไกด์ก็แจกหน้ากากสน็อกเกิล พร้อมอธิบายวิธีใช้ และบอกว่าเราจะจอดเรือตรงนี้


เพื่อให้ดำน้ำดูปลา ดูปะการังเป็นเวลา 30 นาที

ฮูหยินของผมเธอว่ายน้ำไม่เป็นก็ได้คุณพี่ทีมงานใจดี เอาห่วงยางมาให้เกาะพร้อมว่ายน้ำลากห่วงยางให้


นี่ไง โฉมหน้าคุณพี่ใจดี


จากนั้นเราแวะทานข้าวกลางวันกันที่เกาะพีพี อาหารเป็นกับข้าว 3 - 4 อย่าง แต่รสชาติฝรั่ง คือรสไม่จัด


ให้ตักทานราดข้าว ถ้าไม่อิ่มก็สามารถตักเพิ่มได้

คุณภาพอาหารดีใช้ได้เชียวแหละ ส่วนของหวานเป็นผลไม้


ทะเลภาคใต้ฝั่งอันดามันนี่สวยจริงนะครับ


และนี่คือโฉมหน้าเพื่อนซี้ร่วมทริปของผมและเธอ


ทั้งทริปสาวเจ้าไม่มีร้องงอแงคุณพ่อ – คุณแม่เลย


1 แชะ เป็นที่ระลึกกับเกาะพีพี เห็นร้อน ๆ แบบนี้พี่สู้ไม่ถอยนะคะ


พักทานข้าวได้ราว ๆ 1 ช.ม. พี่ไกด์ก็เรียกขึ้นเรือ เดี๋ยวเราจะไปอ่าวมาหยากันต่อ


ระหว่างทางที่ไปเค้าแวะให้ชมที่เก็บรังนกนางแอ่นด้วย

นั่งเรือต่อมาอีกประมาณ 45 นาทีก็ถึงแล้ว พระเอกของเรา อ่าวมาหยาครับ


เมื่อเรือแล่นมาถึงจุดนี้ก่อนเข้าไปในอ่าวมาหยา พี่คนขับเรือจะค่อย ๆ ขับเรือช้า ๆ ให้เราได้เห็นบรรยากาศรอบ ๆ


ถึงแล้วจ้า อ่าวมาหยา


ผมจะบอกยังไงดี คือมันสวยเหลือเกิน ของจริงสวยกว่าที่เห็นในภาพเยอะ แต่ผมมีความสามารถถ่ายภาพมาได้เพียงเท่านี้


คงเพราะวันนี้เป็นวันธรรมดานักท่องเที่ยวชาวไทยก็เลยน้อย


ผมและเธอเป็นคนไทยเพียงแค่ไม่กี่คนบนหาด นอกนั้นก็เป็นชาวจีน เกาหลี และฝรั่งนะครับ

แดดร้อน ยังไงก็หาครีมกันแดดดี ๆ ติดตัวกันมาซักนิดนะครับ


ต้องอาศัยชะง่อนเขาที่ยื่นออกมาหลบแดด


ก่อนนั่งก็เล็งซักนิดนะครับ ว่าที่ที่เราจะนั่งนั้น น้ำทะเลซัดเข้ามาไม่ถึง


นั่งเล่นชมวิวอยู่ได้พักใหญ่ เรือก็แล่นเข้ามารับ หลังจากที่ไปจอดรออยู่ไกล ๆ เราจะไปเกาะไข่กันต่อจ้า


เกาะไข่เป็นเกาะเล็ก ๆ มีเก้าอี้ชายหาดให้นั่งแต่เสียเงิน มีเรือเจ็ทสกีให้เช่า มีร้านอาหาร ขายอาหาร น้ำปั่น และไอติม


นักท่องเที่ยวสามารถดำน้ำดูปลาได้ที่ริมชายหาดนี้เลย


ส่วนใหญ่ก็จะเป็นปลาสลิดหินบั้งเขียวเหลือง และปลานกแก้วอีกนิดหน่อยนะครับ


ใครไม่ดำน้ำ จะสมัครนั่งเล่นแช่น้ำทะเลก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด ส่วนผมก็ได้แต่เดินหามุมถ่ายภาพไปตามเรื่อง


ใครร้อนอยากนั่งพักก็สามารถนั่งเก้าอี้ผ้าใบริมชายหาดได้นะครับ ผมจัดมาในสนนราคา 2 ตัว 150 บ.


และเธอลองสั่งน้ำมะพร้าวปั่นมาทานแก้วละ 100 บ. ไม่แพงมาก ราคาก็ดูสมเหตุ สมผลนะครับ


ระหว่างที่นั่งพัก พี่ไกด์ของผมนำแตงโม มาเสิร์ฟให้ลูกทัวร์ทานถึงเก้าอี้เลย ทัวร์เจ้านี้เค้าบริการดีนะครับ


เกาะไข่เป็นเกาะสุดท้ายในการเดินทางของเราในวันนี้


บ่าย 3 โมงครึ่งแล้ว อีกเดี๋ยวเราต้องกลับเข้าฝั่งกันแล้วล่ะ


ก่อนกลับพี่ขอชักภาพเป็นที่ระลึกกับเกาะไข่ซักนิดนะจ๊ะ


เราใช้เวลานั่งเรือประมาณ 30 นาทีก็ถึงท่าเรือ จากนั้นก็แยกย้ายขึ้นรถตู้กลับยังโรงแรม


เมื่อกลับมาถึงห้องพักก็พบว่าคุณแม่บ้านมาจัดห้องให้ใหม่


ไฮไลท์คงอยู่ที่ไฟจากหัวเตียงสีม่วง ๆ ฟ้า ๆ


คนออกแบบเค้าให้แสงสวยดีนะครับ คงจะล้อเอามาจากการให้แสงที่ล๊อบบี้


จากนั้นหลัง 20.00 น. เป็นเวลาที่โรงแรมลดราคาขนมลงครึ่งนึง


ไม่ต้องเดาว่าเธอจะไปไหม เจ๊ไม่พลาดรายการนี้แน่นอนครับ


ลิม่า ร็อค เป็นเหมือนบาร์นั่งดื่มแอลกอฮอล์ตอนกลางคืน


มีขนมเค๊กขายด้วย ก็อย่างที่บอก หลังจาก 20.00 น. เค้าจะลดราคาลงมา 50%


จากราคาชิ้นละ 100 กว่าบาท ลดลงเหลือ 50 บ. ก็ดูน่าสนใจน้อย


เค๊กช็อคโกแล็คของผม


อิ่มแล้วรีบเข้านอน พรุ่งนี้เราต้องกลับบ้านแล้ว แง แง ผมยังไม่อยากกลับเลย


วันนี้ผมทานอาหารเช้าเสร็จก็กลับมาเก็บของเช็คเอาท์ในราว 11.00 น. จากนั้นก็บึ่งเจ้าซิตี้


กะว่าจะแวะไปถ่ายรูปเครื่องบินที่หาดในยางซะหน่อย แต่หาทางไปจุดถ่ายภาพไม่เจอ

ก็เลยได้มาแค่รูปหาดในยางนะครับ เสียดายจัง

ต้องกลับแล้วล่ะ มีโอกาสจะมาใหม่นะจ๊ะ


การเดินทางตลอดเส้นทางท้องฟ้าแจ่มใสดี ทัศนวิสัยกว่า 10 ก.ม.


เธอจัดของที่ระลึกจากสายการบินเป็นนักบินกัปตันหมีมา 1 ตัว 350 บ.


บินระดับอยู่ได้ไม่นานเครื่องก็ลดระดับลงพร้อมกับเลี้ยวขวา อ้อมเข้าหัวสนามบินเพื่อร่อนลงทางด้านรังสิต


วันนี้จอดไกลหน่อย ได้จอดที่หลุมจอดระยะไกล ต้องนั่งรถบัสต่อเข้าไปยังอาคารผู้โดยสารขาเข้า


ค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ


เครื่องบินไป – กลับ 2 คน พร้อมโหลดกระเป๋า 15 ก.ก. 4000 บ.

โรงแรม 3 วัน 2 คืน 7000 บ. ได้ลดครึ่งนึงเหลือ 3500 บ.

รถเช่า 2 วัน พร้อมประกันชั้น 1 + รถหาย 1400 บ.

ทัวร์วันเดย์ทริป 1400 บ. ต่อคน * 2 2800 บ. ได้ลด 800 บ.

สรุปการเดินทางในครั้งนี้ของผมและเธอ


โรงแรมคาลิม่า รีสอร์ท แอนด์ สปา ตั้งอยู่ที่หาดกะหลิม แต่ด้วยความที่อยู่บนเชิงเขาสูง จึงทำให้สามารถ

เห็นวิวทะเลหาดป่าตองได้ทั้งหาด ใครอยากมานอนมองดูทะเลจากในห้องพัก จากสระว่ายน้ำหรือจะทานอาหารชมวิวทะเล

ชมพระอาทิตย์ตก ที่นี่ก็ดูจะตอบโจทย์ พนักงานทุกท่านตั้งแต่พี่ยามจนถึงพนักงานต้อนรับ

พนักงานห้องอาหาร แม่บ้าน ทุกคนดูมีอัธยาศัยที่ดี



ทะเลภาคใต้ฝั่งอันดามัน สวยจริงตามคำเล่าลือ หากใครมาเที่ยวภูเก็ตแล้ว ไม่มีโอกาสได้ออกทะเล วันเดย์ทริป

ไปเที่ยวอ่าวมาหยา สิมิลัน หรือเกาะตาชัย ผมถือว่าผิดอย่างแรง

ผมจองทัวร์มากับภูเก็ต สกาย ทัวร์ พี่ไกด์พร้อมทีมงานบริการดี เรือดี อาหารกลางวันไม่ผิดหวัง

ผมและเธอประทับใจ ไม่ใช่เพราะได้ส่วนลด หากมีโอกาสมาเที่ยวอีกก็คงใช้บริการเจ้าเดิม



เส้นทางใน จ.ภูเก็ต บางช่วงเป็นทางขึ้นหรือลงเขาติดกันหลายกิโลเมตร นักท่องเที่ยวที่ขับรถยนต์ไม่ชินทาง ควรระมัดระวังซักนิด

ค่าครองชีพที่นี่สูงพอควร นักท่องเที่ยวควรวางแผนการใช้เงินมาให้ดี



เพื่อน ๆ สามารถตามไปพูดคุยกันหรือชมภาพโรงแรมต่าง ๆ ที่ผมเคยไปพักได้

ในเฟสบุ๊คเพจ : https://www.facebook.com/Travel.Hotel.Resort/

เฟสบุ๊คส่วนตัวของผม Burachat Rengtean Naphattalung

หรือในเว็บบล็อก http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=lifeistravel



ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมรีวิวของผม หากรีวิวนี้มีข้อผิดพลาดประการใด

ผมขออภัยท่านผู้อ่านทุกท่านมา ณ ที่นี้ ขอบคุณครับ

การเป็นคนดีบางทีก็ปวดร้าว

 วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 10.48 น.

ความคิดเห็น