+ + + เมื่อฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา เอาทะเลมาวางไว้ตรงหน้าผม + + +



ทุก ๆ ครั้งเมื่อผมและเธอมีวันหยุดยาว ๆ ติดต่อกันหลายวัน กิจกรรมที่นึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ เลยก็คือการไปพักผ่อนยังโรงแรมและรีสอร์ทที่ติดทะเล โดยในครั้งนี้ออกจะพิเศษกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากผมมีโอกาสได้รับคัดเลือก จากโครงการค้นหานักรีวิวหน้าใหม่จากเพจเฟสบุ๊คพักสบาย เป็นตัวแทนไปถ่ายภาพและเยี่ยมชมโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา เพื่อประกอบการรีวิว โดยทั้งผมและเธอก็อยากมาพักที่โรงแรมนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย จึงเป็นที่มาของรีวิว SR รีวิวแรกของผม



+++ ขอออกตัวก่อนว่า ทุกอย่างที่ผมเขียนไม่มีการจัดฉากขึ้นให้เกินจริง หากเพื่อน ๆ เลือกที่จะทำตามแบบที่ผมทำ เพื่อน ๆ ก็จะได้รับในสิ่งเดียวกันกับที่ผมรีวิวนะครับ +++

วันนี้ตอนสายผมขับรถออกจากบ้าน ที่ จ.อ่างทอง ใช้เส้นทางถนนสายเอเชียหมายเลข 32 ต่อด้วยถนนมอเตอร์เวย์หมายเลข 7


ขับกินลมชมวิวข้างทางมาเรื่อย

แม้ว่าในบางช่วงถนนจะโล่งเพียงใดผมก็ไม่สามารถทำความเร็วให้เพิ่มขึ้นได้ เพราะมีเปอร์เซ็นต์เสี่ยงต่อการที่ศีรษะผมจะลั่นดังเฉี๊ยะ


นั่นคือจะมีฝ่ามือน้อย ๆ จากคนข้าง ๆ ฟาดลงมานั่นเอง

ผมก็ทำหน้าที่พลขับ ขับรถติงนังมาเรื่อย เธอก็หลับติงนังมาตลอดทางเหมือนกัน ก่อนเที่ยงไม่กี่มากน้อย


เธอก็ตื่นขึ้นมา พร้อมกับพบว่าฉันมาถึงแล้วจ้า โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา

โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา ตั้งอยู่บริเวณหาดพัทยาเหนือ อยู่ติดทะเล มีเพียงถนนเล็ก ๆ สาย 1 หรือถนนเลียบชายหาดกั้นไว้แค่นั้น


อยู่ใกล้กันกับวงเวียนปลาโลมา ถ้าใครมาวงเวียนนี้ถูกก็จะเห็นตึกของโรงแรมตั้งตระหง่านอยู่ใกล้ ๆ กัน

ตัวโรงแรมแบ่งออกเป็น 2 ตึก คือตึกหน้าซึ่งเป็นตึกแรกที่ถูกสร้างขึ้นมาก่อน เราเรียกตึกนี้ว่า ตึกเบย์ ทาวเวอร์


ส่วนตึกด้านหลัง เราจะเรียกว่าเอ็กเซ็กคิวทีฟ ทาวเวอร์นั่นเอง


การเช็คอินเพื่อเข้าพักจะแยกกันทั้ง 2 ตึก ใครพักตึกไหนก็ต้องไปเช็คอินที่ตึกนั้นนะครับ


โดยในครั้งนี้เราเลือกพักที่ตึกเบย์ ทาวเวอร์


ล๊อบบี้ของที่นี่ค่อนข้างใหญ่กินพื้นที่ของชั้น 1 - 2 ของโรงแรม ทำให้เมื่อเข้าให้มาแล้ว ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย ไม่อึดอัด


หากท่านใดเป็นสมาชิก IHG Rewards Club จะมีจุดลงทะเบียนเพื่อเข้าพักแยกออกมาต่างหาก ไม่ปะปนกับแขกทั่วไป


ซึ่งผมก็ขอแนะนำว่าหากมาพักพี่นี่แล้วก็ขอให้เสียสละเวลามาทำบัตรสมาชิกกันหน่อยนะครับ


ข้อดีของบัตรนี้อย่างแรกเลยคือสมัครฟรีไม่เสียเงินและมีสิทธิพิเศษหลายอย่าง


อย่างเช่นการได้ใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงฟรีในห้องพัก


และได้รับการเช็คเอ้าต์ที่ช้ากว่าปกติแต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขอัตราการว่างของห้องพักที่เหลืออยู่ด้วยนะครับ


ใกล้กันกับล๊อบบี้จะเป็นที่ตั้งของร้านเบเกอร์รี่ชื่อว่า Flow


มีขนมเค๊ก ขนมปัง กาแฟ น้ำปั่นต่าง ๆ รวมถึงแซนวิช ให้มานั่งทานกัน และมีคอมพิวเตอร์พร้อมเครื่องปริ๊นท์เตอร์


ให้ใช้ได้ฟรีอีกด้วยนะครับ

รวมถึงสามารถขอรหัสไวไฟจากน้องพนักงานมาใช้งานได้อีกด้วยครับ


ที่สำคัญอันนี้นำเหนอ 20.00 น. – 23.00 น. จะเป็นช่วงเวลาที่ลดราคาขนมเค๊กลง 50 % เหลือชิ้นละประมาณ 50 บ. ก็ดูน่าสนไม่น้อย


และแน่นอนเมื่อเจอของเซลล์แบบนี้เธอก็ไม่พลาดที่จะมาลองชิมกับเขาเหมือน เธอลองสั่งน้ำลิ้นจี่ปั่นและขนมเค๊กมาทานก็อร่อยดี


ไม่หวานจนเกินไป

ห้องพักของผมในครั้งนี้เป็นห้องพักแบบ โอเชี่ยนวิว คิง สวีท


โดยจะแบ่งห้องพักออกเป็น 2 ห้องด้วยกันคือห้องนั่งเล่นและห้องนอน


ถ้าครอบครัวไหนมีคุณหนูน้อย ตัวไม่โตมากก็ให้นอนที่โซฟาห้องนี้ก็ได้นะครับ


ใครที่ต้องหอบงานมาทำ ห้องนี้ก็ยังมีมุมทำงานเตรียมไว้ให้อีกด้วย


มาชมในส่วนของห้องนอนกันบ้าง


ต้องขอบอกว่า ฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา เค้ายกเอาทะเลมาวางไว้ตรงหน้าจริง ๆ ครับ


ระหว่างที่พักอยู่ในห้องไม่ว่าเราจะนั่งจะนอนตรงไหนก็สามารถชมวิวทะเลได้ตลอดเวลานะครับ


ส่วนหมอนยังก็มีให้เลือกอีกนะครับ ว่าจะใช้แบบ Soft หรือแบบ Firm โดยจะมีป้ายสีเขียวติดไว้


ฮูหยินของผมดูเธอจะลั่ลล้ามากนะครับ จิกตาสู้กล้องด้วย 5555


ขอชักภาพเป็นที่ระทึกคู่กันซักรูปนะครับ


มาชมห้องน้ำกันบ้าง มีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งอย่างชัดเจน


มีอ่างล้างหน้าให้ 2 จุด พร้อมกับกระจากเงาบานใหญ่ ถ้ารีบ ๆ ต้องใช้พร้อมกันจะได้ไม่ต้องแย่งกันนะครับ


นอนแช่ตัวไปชมวิวทะเลพัทยาเหนือไป


วิวดี ๆ แบบนี้เสียงฮูหยินของผมเธอพูดว่า ฟินนาเล่


มีเรนชาวเวอร์ของโปรดของผมด้วย เดี๋ยวคืนนี้จะยืนอาบให้สมใจ


คราวนี้เราลองออกมานอกระเบียง มาชมทะเลให้เต็ม ๆ ตากันบ้าง


จากจุดนี้เราสามารถเห็นอ่าวพัทยาตั้งแต่พัทยาเหนือโค้งยาวไปจนถึงเขาพระตำหนักได้เลยนะครับ


ถ้าเขาพระตำหนักคือจุดชมวิวที่พัทยาใต้ ที่นี่ก็คงเป็นจุดชมวิวที่พัทยาเหนือครับ


ทุกเย็นพอแดดร่มลมตก สระว่ายน้ำหลักของโรงแรมแห่งนี้ก็จะมากไปด้วยผู้คนที่มาใช้บริการ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่พลาดรายการนี้


ที่ตึกเบย์ ทาวเวอร์นี้จะมีสระน้ำอยู่ด้วยกัน 3 สระ


คืออยู่ชั้นที่ 4 ของตัวตึก 2 สระ แบ่งเป็นสระสำหรับผู้ใหญ่ และสระสำหรับเด็ก อีก 1 สระ อยู่ชั้น 1 ด้านหน้าโรงแรม


สระว่ายน้ำสำหรับเจ้านายตัวน้อย สีสันสดใส น่าจะถูกใจวัยใสนะครับ


ลองส่องเจ้าถิ่นกันหน่อย หน้าตาลูกพี่เอาจริงเอาจังมาก


กลับมาต่อที่สระว่ายน้ำหลักของโรงแรมแห่งนี้ออกแบบมาให้เรารู้สึกว่าเรากำลังว่ายน้ำอยู่ในทะเลนะครับ


และยังสามารถชมพระอาทิตย์ตกน้ำทะเลได้จากจุดนี้อีกด้วย


เธอก็เพลินกับการดำผุดดำว่าย ผมก็เพลินกับการเก็บภาพบรรยาศดี ๆ แบบนี้ไปเรื่อย


ใครที่ไม่มีโปรแกรมว่าจะไปทำกิจกรรมอะไรในตอนเย็น ผมแนะนำให้มาว่ายน้ำชมพระอาทิตย์ตกที่สระว่ายน้ำแห่งนี้นะครับ


หรือจะขึ้นมาชมพระอาทิตย์ตกจากระเบียงห้อง ใครที่มากัน 2 คนเป็นคู่รัก บรรยากาศดี ๆ แบบนี้ ผมขอแนะนำว่าไม่ควรพลาด


คงจะโรแมนติกน่าดูชมนะครับ

อีกไม่นานไข่แดงก็จะลับขอบฟ้าแล้ว กิจกรรมเครื่องเล่นต่าง ๆ ในทะเลก็เริ่มนำนักท่องเที่ยวมาส่งยังฝั่งตามเวลาที่มืดลง


ก่อนจะไปทานอาหารเย็น ผมขอนั่งชมแสงทไวไลท์ก่อนนะครับ วิวทะเลตรงหน้าเต็ม ๆ ตา


ผมและเธอพยายามเก็บบรรยากาศนี้ไว้ในความทรงจำให้ได้มากที่สุด อยากจะนั่งนิ่ง ๆ อยู่ตรงนี้กัน 2 คนไปนาน ๆ จัง


วิวทะเลฝั่งพัทยาเหนือและนาเกลือ เป็นวิวที่เรา 2 คนไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็น


มื้อเย็นของเราในวันนี้เรามาทานอาหารเย็นกันที่ Rooftop Bar ซึ่งอยู่ที่ตึก เอ็กเซ็กคิวทีฟ ทาวเวอร์ชั้น 25


เมนูของวันนี้ชื่อว่า โรแมนติก ซีฟู๊ด แพล็ทเตอร์


จะเสิร์ฟคู่กับขนมปังแผ่นโฮลวีตและไวน์แช่เย็นเจี๊ยบมาในถังน้ำแข็ง


หลังจากที่ขนมปังจานแรกมาเสิร์ฟไม่นานนัก มันก็มาอยู่ในมือเธอ นั่งเคี้ยวตุ้ย ตุ้ย อย่างเอร็ดอร่อย แล้วมีการมาบอกผมว่ากลัวอ้วน หูย ไม่ทันแล้วเจ๊


เธอส่งสายตาพร้อมแผ่รังสีอัมหิต ชี้หน้า คาดโทษผม ว่าจะเดี๋ยวโดนมิใช่น้อย


ค๊อกเทลแก้วนี้ผมสั่งเพิ่มมาต่างหาก มีแอลกอฮอล์นิด ๆ อร่อยดีครับ


เธอบอกว่าน้ำจิ้มซีฟู๊ดแซ่บลิ้นเหลือหลาย


และกุ้งสดมาก ขนาดทานเปล่า ๆ ไม่จิ้มน้ำจิ้มยังอร่อยเลยนะครับ


นั่งจิบไวน์เย็น ๆ ทานอาหารทะเล พร้อมนั่งดูพระอาทิตย์ตกกัน 2 คนก็โรแมนติกดีเหมือนกันนะครับ เฃิน เขิน


อิ่มแล้ว ลองมาชมวิวเมืองพัทยาจากความสูงของตึกชั้นที่ 25 กันบ้าง


จากจุดนี้นอกจากวิวทะเลยังสวยแล้ว วิวเมืองพัทยาในยามค่ำคืนก็งดงามไม่แพ้กันนะครับ


ส่วนด้านในอาคารจะเป็น Executive Club ให้บริการอาหารเช้า ขนม ผลไม้ ชาและกาแฟ ระหว่างวัน


สำหรับผู้เข้าพักชั้นที่ 20 ขึ้นไป

จริง ๆ แล้วแขกที่พักชั้นที่ต่ำกว่าชั้นที่ 20 ก็สามารถขึ้นมาใช้บริการได้ เพียงแต่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อสิทธิ์นี้


พร้อมทั้งจุดลงทะเบียนเข้าพักและคืนห้องพัก แยกส่วนออกมาจากแขกทั่วไปอีกด้วย ก็ถือว่าค่อนข้างสะดวก


อย่างเช่นวันอาทิตย์มีอัตราการเช็คเอ๊าท์ที่ค่อนข้างสูง ก็ช่วยให้เราไม่ต้องเสียเวลารอนาน

มาต่อกันที่ชั้น 6 ชองตึก เอ็กเซ็กคิวทีฟ ทาวเวอร์ จะเป็นห้องอาหารเช้าสำหรับแขกที่พักไม่เกินชั้นที่ 20


ชื่อห้องอาหาร East Coast Kitchen

และยังเปิดให้บริการทั้งวัน หลัก ๆ ก็เป็นเมนูประเภท A LA CARTE หรืออาหารตามสั่ง


บรรยากาศดี สามารถชมทะเลพัทยาจากห้องอาหารนี้ได้เลยนะครับ


+++ แต่สิ่งที่อยากจะแนะนำเลยก็คือ สิทธิ์คุณพ่อ-คุณแม่ + ลูก 4 คน อธิบายได้ว่า เมื่อคุณพ่อหรือคุณแม่มาทานอาหารที่ห้องอาหารนี้


โดยสั่งอาหารจากเมนูปกติที่มีไว้บริการอยู่แล้ว คุณพ่อหรือคุณแม่ 1 คนจะมีสิทธิ์ให้คุณลูกทานฟรีได้ 2 คน

เพราะฉะนั้น ถ้าคุณพ่อกับคุณแม่มาพร้อมกัน 2 คน ก็จะสามารถให้คุณลูกทานฟรีได้ถึง 4 คน

ซึ่งคุณลูกต้องอายุไม่เกิน 12 ปี นะครับ +++

โดยทางโรงแรมร่วมมือกับบริษัท Nutrition Australia คิดค้นจัดทำเมนูสุขภาพสำหรับคุณหนู


กล่าวคือ อาหารทุกอย่างจะเน้นเพื่อสุขภาพทั้งหมด ลดหวาน ลดเค็ม ลดความมัน เช่น เฟร้นช์ฟราย

ปกติเราใช้การทอดแต่เมนูนี้ใช้นึ่งหรือต้ม เป็นต้น ซึ่งคุณหนูสามารถเลือกทานได้อย่างไม่อั้นจากเมนูดังกล่าวรวมทั้งของหวานไอติมและน้ำปั่น

ผมว่าคุ้มสุด ๆ นะครับ

ตัวผมและเธอยังไม่มีเจ้าตัวเล็ก ก็เลยได้แต่สั่งข้าวตังมาทานเล่น


วันนี้ผมตื่นมาถ่ายภาพห้องอาหารเช้าตั้งแต่เช้าตรู่ ที่ห้องอาหาร จี ค่าเฟ่ ของตึกเบย์ ทาวเวอร์


ถ้าหากผมลงมาในตอนสาย เกรงว่าจะเป็นการรบกวนแขกท่านอื่น ส่วนเธอก็คงนอนอุตุน้ำลายไหลอยู่บนห้อง

ห้องอาหารเช้าของตึกเบย์ ทาวเวอร์จะอยู่ที่ชั้น 4 ซึ่งเป็นชั้นเดียวกันกับสระว่ายน้ำ


เวลามาใช้บริการก็ไม่ต้องใช้บัตรอะไรแสดง เพียงแค่บอกน้องพนักงานถึงหมายเลขห้องที่เราพักอยู่แค่นั้น


ที่นั่งภายนอกอาคารก็มีนะครับ เผื่อใครอยากจะนั่งรับลมเย็น ๆ ตอนเช้า หรือเฝ้าเจ้าตัวน้อยว่ายน้ำที่สระเด็ก


อาหารเช้าหลากหลายชนิด ไส้กรอกต่าง ๆ ขนมปัง คอนเฟล็ก ธัญญาพืช สลัดหรือของทานทั้งหลายที่มีให้บริการล้วนแต่ใช้ของที่มีคุณภาพดีทั้งสิ้น


สถานีไข่ก็ยังมีให้เลือกสั่งได้สารพัดไข่ตั้งแต่ ไข่ดาว ไข่กวน ไข่น้ำ ไม้เว้นแม้กระทั่งไข่ต้ม


ที่นี่อาหารเช้าค่อนข้างมีความหลากหลายเหตุผลเพราะทางโรงแรมมีแขกที่เป็นชาวต่างชาติหลายเชื้อชาติ


ที่ผมลองส่องดูก็เห็นจะกิมจิ ติ่มซำ-ซาลาเปา และอาหารสำหรับคนเชื้อสายแขก

คอนเฟล็กสำหรับผสมทานกับนมก็ยังมีธัญญาพืชให้ตักเพิ่มใส่จานแยกออกมาต่างหาก


และยังอุตส่าห์มีเม็ดทานตะวันอบแห้งให้เติมเพิ่มผสมได้อีก ส่วนนมก็มีให้เลือกอีก 2 แบบ คือนมถั่วเหลืองและนมพร่องมันเนย

ขอตัดมาที่ตอนบ่ายแก่ ๆ ผมและเธอมีนัดมาทำสปานวดเท้าที่ ที ทรี สปา ชั้น 5 ของตึกเบย์ ทาวเวอร์


ชื่อแพ็คเก็ตว่า Sparkling Foot Massage สำหรับ 2 ท่าน ซึ่งแพ็คเกตนี้ทางโรงแรมจะแถมไวน์ให้ 1 ขวด


เหตุผลคือเนื่องจากถ้ามีแอลกอฮอล์ในร่างกายขณะที่ทำการนวด จะทำให้เลือดไหวเวียนดีครับ

การนวดเท้าในเแพ็คเกตนี้จะไม่นวดในห้องจึงทำให้เราสามารถชมวิวทะเลอ่าวพัทยาจากจุดนี้ได้อีกด้วยนะครับ


ชอบความแรงแค่ไหนก็บอกกับคุณพี่ได้เลยนะครับ


หลังจากที่ผมให้เธอดูงานคุณพี่ที่นวดเท้าอยู่พักใหญ่ ผมก็มีคำสั่งให้เธอก็ทำแบบนี้ สบายจังเลยฮะ


นาน ๆ ผมจะมีอำนาจเหนือฮูหยินซักที ขอวางก้ามหน่อยนะฮ๊าฟฟฟ

อาหารเย็นวันนี้ผมและเธอมาทานกันที่ Terrazzo ร้านอาหารภายนอกอาคารบริเวณหน้าโรงแรมติดริมถนนสาย 1 เปิดขายอาหารสำหรับมื้อเย็น


สำหรับเมนูพิซซ่า อย่างแรกจะเสิร์ฟขนมปังให้ทานกับน้ำจิ้มเรียกน้ำย่อยกันก่อน


เมนูที่ไม่ควรพลาดเลยคือพิซซ่า โดยจะมีคุณเชฟทำให้ทานใหม่ ๆ ร้อน ๆ เลย เริ่มตั้งแต่ตีแป้งไปจนถึงเข้าตาอบ


สามารถสั่ง 2 หน้าในถาดเดียวได้ด้วยนะครับ แต่วันนี้ผมสั่งเป็นแบบหน้าเดียวคือหน้าต้มยำกุ้งหน้า ทำเก๋เป็นทรงวงรีน่าทานเชียว


ผักสลัดสีสันสดใส


สปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาทะเลของโปรดของผม เผ็ดไปหน่อยแต่อร่อย ถ้าเผ็ดน้อยกว่านี้อาจะไม่อร่อยแบบนี้ก็ได้นะครับ


ผมถามพนักงานว่าเผ็ดแบบนี้ชาวต่างชาติจะทานได้เหรอ น้องเค้าบอกว่าก่อนทำคุณเชฟจะถามก่อนว่าคนไทยหรือคนต่างชาติทาน


จะปรุงรสไม่เหมือนกันครับ

ก่อนที่ผมกลับบ้านผมแวะเข้าไปเยี่ยมชมคิดส์ คลับ


ภายในคิดส์ คลับ ก็จะมีเกมส์ X-BOX ให้เล่น รวมทั้งกิจกรรมงานประดิษฐ์สำหรับคุณหนูตัวน้อยทั้งหลาย


โดยกิจกรรมจะเปลี่ยนแบบไปทุกเดือน และเมื่อเด็ก ๆ ร่วมทำกิจกรรมแล้วก็จะมีใบประกาศให้อีกด้วย


พี่พนักงานกำลังเพ้นท์เล็บให้กับคุณน้อง


ภาพเหล่านี้ผมได้รับการอนุญาตจากผู้ปกครองของน้องแล้วนะครับ


คุณน้องคู่นี้เค้าเป็นพี่น้องกัน ดูทั้งคู่เค้าสดใส บริสุทธิ์ น่ารักดีจังเลย


แง แง พรุ่งนี้ผมต้องกลับบ้านแล้วหรือ ยังไม่อยากกลับเลย ใครมาเที่ยวแล้วเป็นแบบผมมั่ง


โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา เป็นโรงแรมขนาด 4 ดาว ตกแต่งสไตล์คอนเทมโพรารี่โดยอิงจากธรรมชาติพื้นถิ่น ก็คือทะเลนั่นเอง ตั้งอยู่บริเวณหาดพัทยาเหนือ มีห้องพักทั้ง 2 ตึกราว ๆ 600 ห้อง จัดเรียงห้องพักแบบก้างปลาทำให้ทุกห้องสามารถเห็นวิวทะเล สุดแท้แต่จะได้ห้องพักฝั่งวิวพัทยากลางโค้งยาวไปถึงเขาพระตำหนัก หรือฝั่งวิวพัทยาเหนือ – นาเกลือ


นักท่องเที่ยวจะมาเป็นครอบครัวมีลูกน้อย มาสวีตเป็นคู่รัก หรือจะมาทำงานประชุมสัมมนา ที่นี่ก็ดูจะตอบโจทย์ของคนทุกกลุ่ม


พนักงานทุกท่านตั้งแต่พี่ยาม เจ้าหน้าที่เช็คอิน ห้องอาหาร สปา คิดส์คลับ หรือทุกส่วนในโรงแรมมีอัธยาศัยที่ดี เมื่อแรกผมก็คิดว่าเพราะผมเป็น SR หรือเปล่า แต่หลังจากที่ผมลอบสังเกตดูพนักงานก็ปฏิบัติกับแขกท่านอื่นเช่นเดียวกับผม



สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำให้ปรับปรุงก็คือ การไม่มีสายชำระในห้องน้ำของตึกเบย์ ทาวเวอร์ อาจสร้างความขลุกขลักให้กับแขกที่มาพักบ้างเล็กน้อย แต่ที่ตึกเอ็กเซ็กคิวทีฟ ทาวเวอร์ นั้นมีแล้วนะครับ



หลังจากที่เมื่อต้นปีความหนาวทำให้คนไทยได้หนาวสั่นกันทั่วหน้า ตอนนี้หน้าร้อนเริ่มคืบคลานเข้ามาแทนที่ ถ้าเพื่อนสมาชิกยังไม่มีโปรแกรมไปพักผ่อนที่ไหน โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย......สวัสดีครับ



ปล.1 ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมรีวิวของผมนะครับ หรือจะตามไปพูดคุยกันได้ที่

ในเฟสบุ๊คเพจ : https://www.facebook.com/Travel.Hotel.Resort/

เฟสบุ๊คส่วนตัวของผม Burachat Rengtean Naphattalung

หรือในเว็บบล็อก http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=lifeistravel

ปล.2 หากรีวิวนี้มีข้อผิดพลาดประการใด ผมขออภัยท่านผู้อ่านทุกท่านมา ณ ที่นี้ ขอบคุณครับราคาห้องแต่ละวันจะไม่เท่านะครับ มันจะผันผวนตามจำนวนห้องที่เหลืออยู่ คงต้องเช็คจากหน้าเว็บโรงแรมได้เลยนะครับ บอกไปกลัวไม่ตรงครับ

การเป็นคนดีบางทีก็ปวดร้าว

 วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 10.51 น.

ความคิดเห็น