หลังจากครั้งแรกเมื่อนับย้อนหลังไปปีกว่า ๆ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ผมได้มีโอกาสมาเยือนโรงแรมเอวา รีสอร์ท แห่งนี้อีกครั้ง

ด้วยอานิสงค์ที่โรงแรมจัดประกวดภาพถ่าย ให้ผู้ที่เคยเข้าพักส่งภาพถ่ายความประทับใจเข้าแข่งขัน

จากผลการตัดสินผมรับได้รางวัลที่ 2 เป็นบัตรลดราคาที่พักลง 50% ในห้องพักทุกแบบ สุดแล้วแต่ผมจะเลือก

นั่นคือที่มาของการเดินทางของผมในครั้งนี้ หลังจากที่พักหลัง ผมได้มาเยือนเกาะช้างแห่งนี้บ่อยเหลือเกิน



+ + + ขอออกตัวไว้ก่อนว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ผมออกเงินเอง

นอกจากค่าที่พักที่เพียงแต่ผมได้ลดราคาลง 50% เท่านั้นนะครับ +++

หลังจากใส่บาตรเสร็จ เช้าตรู่ของวันนี้ผมรีบควบเจ้าความหวังของหมู่บ้านออกเดินทางทันที


กับระยะทางกว่า 4 ร้อยกิโลเมตร ผมก็มาถึงท่าเรือเฟอร์รี่ราว ๆ 11.30 น. จัดแจงรีบซื้อตั๋ว


จอดรถรอเข้าคิวให้เรียบร้อย ไม่นานนักเรือเฟอร์รี่ลำใหญ่ก็แล่นมาเทียบท่าพร้อมออกเดินทาง

วันนี้ฟ้าใส น้ำทะเลสีเขียว สวยน้อง ๆ ทะเลฝั่งอันดามันเลยนะครับ


หลังจากที่เลี้ยวขวาเมื่อออกจากท่าเรือ ขับรถตรงมาไม่นาน เจอป้ายนี้ไม่ผิดที่แน่ ผมรีบเลี้ยวเข้าไปทันที


โรงแรมเอวา รีสอร์ท เกาะช้าง ตั้งอยู่ในใจกลางของหาดไก่แบ้ ริมถนนสายหลักของเกาะช้าง


แบ่งโซนห้องพักเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ ฝั่งภูเขาและฝั่งทะเลโดยมีถนนสายหลักของเกาะช้างกั้นเอาไว้


โซนนี้เป็นโซนภูเขา ด้านหลังจะเป็นที่จอดรถ แต่ไม่ว่าจะพักฝั่งไหนก็ต้องมาเช็คอินที่ล๊อบบี้ฝั่งทะเลนะครับ


ล๊อบบี้เป็นแบบโอเพ่นแอร์ มีขนาดใหญ่ สูงโปร่ง กินพื้นที่ของตัวตึกถึง 4 ชั้นเลย


การตกแต่งจะใช้โทนสีขาว สีน้ำเงินและสีเทาดำทั้งโรงแรม


เรียบ ๆ แต่ให้ความรู้สึกที่ดูทันสมัยดีเหมือนกันนะครับ


มุมนั่งรอระหว่างลงทะเบียนเพื่อเข้าพัก


สามารถมองเห็นทะเลที่อยู่ไกล ๆ ผ่านสระว่ายน้ำจากล๊อบบี้ได้เลยนะครับ


ใกล้กันกับล๊อบบี้จะเป็นที่ตั้งของร้านเบเกอรี่เล็ก ๆ ชื่อเดอะทีส์


มีชนิดของขนมเค๊กให้เลือกทานไม่มากนัก


ส่วนใหญ่แขกของโรงแรมจะมานั่งเล่น นั่งรอเช็คอินซะมากกว่านะครับ


มองเห็นล๊อบบี้อยู่ไกล ๆ


ตัวโรงแรมออกแบบเป็นรูปตัว U


ฝั่งนึงจะเป็นตึกสำหรับห้องพักในแบบต่าง ๆ


อีกฝั่งเป็นห้องอาหารเช้าและบาร์ริมสระว่ายน้ำ


โดยมีสระว่ายน้ำสีน้ำเงินเข้มทอดยาวกั้นกลางเอาไว้


ตึกห้องพักแบบดีลักซ์ ริมสระว่ายน้ำ


เดอะรีเวอร์ บาร์เล็ก ๆ ริมสระว่ายน้ำให้บริการเครื่องดื่มและของว่าง


ว่ายน้ำเหนื่อย ๆ ขึ้นมาจิบอะไรเย็น ๆ ก็ดูจะเข้าท่าดีเหมือนกันนะครับ


ครั้งนี้ผมจองห้องพักมาในแบบดีลักซ์ ริมสระว่ายน้ำ มีขนาดกว้างมากมาย


ใส่เตียง 6 ฟุตเข้าไปแล้วยังเหลือพื้นที่อีกเยอะ


แม่บ้านปูเตียงไว้ซะตึงเชียว ไม่กล้านอนเลยผม


ห้องน้ำก็มีขนาดใหญ่ไม่แพ้กันพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ที่ฝาผนัง


มีการแยกส่วนเปียก ส่วนแห้งเอาไว้อย่างชัดเจน


ด้านขวามือเป็นโถนั่งชักโครก


ด้านซ้ายเป็นส่วนเปียกสำหรับยืนอาบมีเรนชาวเวอร์สุดโปรดของผมด้วย เดี๋ยวคืนนี้ผมจะยืนอาบให้สมใจ


สบู่ แปรงสีฟัน อุปกรณ์จุกจิก เตรียมไว้ให้ครบครัน


มาชมหาดทรายส่วนตัวของโรงแรมกันบ้าง ช่วงที่ผมไปพักชายหาดส่วนตัวของที่นี่ไม่สามารถลงไปเล่นน้ำทะเลได้นะครับ


เนื่องจาก ในช่วงประมาณกลางเดือนมีนาคม – กลางเดือนตุลาคมของทุกปีจะเป็นช่วงที่ลมใต้พัดเอาทรายบนชายหาดออกไป


จึงทำให้แขกที่เข้าพักช่วงดังกล่าวจะพบหินจำนวนมากบนชายหาด

สำหรับแขกที่เข้าพักช่วงเวลาดังกล่าว หากต้องการเล่นใช้หาดทรายขาว สามารถเดินเลียบชายหาดไปทางขวามือประมาณ 150 เมตร


ก็จะพบหาดทรายขาว

อย่างไรก็ตามสำหรับแขกที่เข้าพักช่วงประมาณปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนมีนาคมของทุกปีจะไม่พบหินจำนวนมากบนชายหาด เนื่องจากลมเหนือจะพัดเอาทรายกลับขึ้นมาไว้บนชายหาดเหมือนเดิม


ในช่วงเย็น กิจกรรมที่ผมแนะนำก็คือ การมาชมพระอาทิตย์ตกจากหาดทรายแห่งนี้


ท่านใดมากัน 2 คนเป็นคู่รัก บรรยากาศดี ๆ แบบนี้ ไม่ควรพลาดนะครับ


ภาพนี้ฮูหยินของผมเอง เธอนั่งทำมิวสิคฮะ


ในช่วงเวลา 17.00 น. – 18.30 น. เดอะแซนด์ บาร์ เล็ก ๆ ริมหาด เค้าจัดช่วง Happy Hour ซื้อเครื่องดื่ม 1 แถม 1


ฮูหยินของผมเธอลองสั่งน้ำมะพร้าวปั่นมาทาน ก็อร่อยดี สนนราคาก็อยู่ที่ลูกละ 150 บ.


แต่น้ำมะพร้าวปั่นนี้ ไม่อยู่ในเมนูแถม เค้าจะแถมเครื่องดื่มที่เป็นแก้ว ๆ เช่นน้ำแตงโมปั่นนะครับ


แสงทไวไลท์ตอนเย็นมาแล้วล่ะ


ลองมาชมภาพโรงแรมในช่วงทไวไลท์ก่อนค่ำกันยาว ๆ เลยนะครับ


ค่ำแล้ว ก็ยังเห็นนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาเล่นน้ำกันอยู่


ลองมองย้อนกลับไปที่ตึกหน้า ล๊อบบี้ของโรงแรมดูบ้าง


ห้องพักในแบบต่าง ๆ ได้ชมวิวสระว่ายน้ำ


มองกลับไปยังชายหาดโรงแรม


คุณนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินอนสบายใจเชียว


ภาพนี้ฝนตกใส่หน้าเลนส์ เป็นจุดเลย มาเห็นตอนที่มาอยู่ในคอมแล้ว เสียดายจัง


ห้องอาหารเดอะ ศาลา ร้านอาหารสำหรับมื้อค่ำและบาร์ริมทะเล


ให้บริการบาร์บีคิว อาหารทะเล ค็อกเทล ยามค่ำคืน


มีนักร้องและดนตรีให้ฟังด้วยนะครับ


บรรยากาศดี ช่วยเจริญอาหารนะครับ


ห้องอาหารเช้า เดอะสพูน


อยู่ริมสระน้ำใกล้ ๆ กันกับเดอะศาลา ห้องอาหารเย็นของโรงแรม


ไลน์อาหารเช้า ผมรู้สึกว่าจะไม่ค่อยหลากหลายเท่าไหร่นัก


แต่ก็มีทุกอย่างตามพื้นฐานที่โรงแรมระดับนี้ควรจะมีและไม่เคยปล่อยให้ของขาด


วันที่ผมไปเห็นมีที่แปลกตาก็คือขนมครกและก๋วยเตี๋ยวน้ำใสนะครับ


ขนมปังน่าทาน


มุมนมสด คอนเฟล็ก และน้ำผลไม้รสต่าง ๆ


สลัดผักของฮูหยินของผม


คอนเฟล็กใส่นมสดกับน้ำฝรั่ง


จานนี้ของผมครับ


ผลไม้ตามฤดูกาลต่าง ๆ ก็มีไว้บริการ


โรงแรมเอวา รีสอร์ท เกาะช้าง ออกแบบดี สวย เข้ามาแล้วผมไม่ค่อยอยากออกไปไหน


ตัวโรงแรมตั้งอยู่ในใจกลางหาดไก่แบ้ ติดริมถนนสายหลักของเกาะช้างห่างจากท่าเรือมาไม่กี่มากน้อย สะดวกและง่ายต่อการเดินทาง

นักท่องเที่ยวที่ไม่มีรถเป็นของตนเองก็สามารถเดินทางมาได้อย่างไม่ลำบากนัก ร้านรวงขายอาหารชนิดต่าง ๆ

ร้านสะดวกซื้อ 7-11 หรือโลตัส เอ็กเพรส ร้านเช่ารถจักรยานยนต์ มีอยู่มากมายใกล้ ๆ กับโรงแรม

อาจจะไม่คึกคักเท่าหาดทรายขาว แต่ก็ไม่เงียบจนรู้สึกเหงาแน่นอน

ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ผมได้กลับมาพักที่นี่ พนักงานทุกท่านตั้งแต่พี่ยาม แม่บ้าน พนักงานต้อนรับ

ก็ยังทำให้ผมรู้สึกประทับใจในการบริการเหมือนครั้งที่ผ่านมา

สิ่งที่อยากฝากให้ปรับปรุงก็คือ ไวไฟในห้องพัก ที่บางช่วงก็เล่นได้ บางช่วงก็เล่นไม่ได้ สลับกันไปทั้งวัน ตลอดช่วงเวลาที่ผมเข้าพัก


ขอลากันไปด้วยภาพนี้ กับสระว่ายน้ำในช่วงแสงทไวไลท์ก่อนค่ำ

เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปพูดคุยกันหรือชมภาพโรงแรมต่าง ๆ ที่ผมเคยไปพักได้


ในเฟสบุ๊คเพจ : https://www.facebook.com/Travel.Hotel.Resort/

เฟสบุ๊คส่วนตัวของผม Burachat Rengtean Naphattalung

หรือในเว็บบล็อก http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=lifeistravel

ขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมรีวิวนี้ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ผมขออภัยมา ณ โอกาสนี้ สวัสดีครับ

การเป็นคนดีบางทีก็ปวดร้าว

 วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 10.58 น.

ความคิดเห็น