ที่มาของทริปนี้คือไปได้ตั๋วโปรถูกๆจากเวป Expedia.co.thเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาเป็นเส้นทางบินไปรัสเซียโดยสายการบิน ยูเครน

โดยต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่เมืองเคียฟในราคาไป-กลับคนละ 9,475 บาทซึ่งก็ถูกเวอร์เลยกำหนดการคือวันที่ 12 - 17 มิ.ย.จึงเป็นที่มาของทริปนี้



หลังจากที่จองเสร็จก้ได้ชวนเพื่อนๆไปเที่ยวด้วยกันแต่ปรากฏว่าไม่มีใครกล้ามากะเราเลย

คนรอบข้างให้กำลังใจดีมากบอกว่าเมืองยูเครนเค้าสู้รบกันอยู่มั่งสายการบินห่วยมั่งชอบลองแพผู้โดยสารมั่งรัสเซียของแพงมั่งคนพูดอังกฤษไม่ได้มีแต่ภาษารัสเซียทำให้เที่ยวลำบากมากมั่งละป้ายมีแต่ภาษารัสเซียทั้งนั้นโจรผู้ร้ายชุกชุมมั่งเวลาเที่ยวต้องระวังให้ดีอาจเจอปล้นกันซึ่งๆหน้ามั่งขู่ไปขู่มาแม่ประนอมทำท่าจะไม่ยอมไปดื้อๆเลยทำให้เราเกือบจะทิ้งตั๋วไปแล้ว



แต่สุดท้ายก็ลองไปดูละกันปรากฏว่าผิดคาดมากทุกอย่างตรงกันข้ามกับที่หลายๆคนขู่มาเป็นยังไงเข้าไปติดตามอ่านกันดูนะครับ



ในรีวิวนี้จะเป็นการพาเที่ยวในเมืองรัสเซียตามสถานที่ต่างๆที่สำคัญและจะพยายามให้เห็นถึงค่าครองชีพของที่นั่นซึ่งก็ไม่ได้แพงมากมายอะไรเพื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนๆมาเที่ยวรัสเซียกันได้แบบไม่ต้องกลัวอะไร



ค่าใช้จ่ายต่างๆจะสรุปให้ตอนท้ายรีวิวนะครับ

ยังไงถูกใจชอบใจรีวิวช่วยกด+ ที่มุมล่างซ้ายมือด้วยนะครับเพื่อเพื่อนๆท่านอื่นจะได้เห็นรีวิวกันด้วยครับ



หรือคิดว่าข้อมูลน่าสนใจก็ช่วยกันแชร์ต่อๆเพื่อนเพื่อนๆได้รับชมกันทั่วหน้ากันคราบ...



ขอบคุณครับ



แม่ประนอม + เจมส์แบน 008 ตอนภารกิจลับเฉพาะเจอะกึ๋นรัสเซียนี่ครับที่มาของทริปนี้เราจองกับเวป Expedia.co.th พอดีได้ตั๋วโปรมาราคาถูกมากและยังมีทริปปารีสอีกนะที่จองได้มาในราคาตนละ 13000 ด้วยครับ

เมื่อได้ตั๋วแล้วก็แลกเงินติดตัวไป30,000 รูเปิ้ลเพื่อใช้ใน 5 คืนที่มอสโควก็ตกเงินไทย 20,100 บาทและสำรองเงินดอลล่าไปนิดหน่อยกันพลาด


เงินรัสเซียค่อนข้างจะหาแลกยากในไทยนะยังไงไม่ต้องกังวลพกดอลล่าไปก็หาแลกได้ง่ายๆตามสถานีรถไฟใต้ดินทั่วไปแถมเรทดีด้วยนะ

ทีแรกก็แอบกลัวว่าจะไม่พอเหมือนกันแต่ก็คิดไว้ว่าถ้าไม่พอก็กินแบบประหยัดหน่อยละกันแต่ผิดคาดนะเป็นไงเดี๋ยวค่อยๆดูกันนะครับ

แล้วก็โหลแอพรถไฟใต้ดินของรัสเซียไว้ในมือถือหน่อยเพราะสถานีรถไฟที่โน่นจะไม่มีภาาาอังกฤษเลยต้องมีแผนที่รถไฟใต้ดิน 2 ภาษาไว้ดูเปรียบเทียบแอพนี้ดีนะไม่ต้องเชื่อมต่อกับเน๊ตก็เปิดดูได้ลองโหลเก็บไว้ก่อนไปกันนะครับ


เวลาเปิดมาก็หน้าตาแบบนี้อันนี้จำเป็นมากครับแต่ถ้าใครสายตาดีๆจะปริ้นออกมาเป็น เอ4 พกติดตัวก็ได้นะ


สำหรับโทรศัพท์ เล่นเน็ตถ้าเปิดรอมมิ่งไปค่าเน็ตจะตกวันละ499 บาท + แวทซึ่งก็แพงน่าดูจริงตามนี้เลยครับ


สำหรับเราเล่นเน็ตเราไปซื้อซิมส์ที่โน่นยี่ห้อนี้ราคา 600 รูเบิ้ลหาซื้อได้ตามร้านขายมือถือทั่วๆไปเหมือนบ้านเรา


ซื้อแล้วก็ให้เค้าจัดการให้ต้องใช้พาสปอร์ลงทะเบียนด้วยนะ

ใช้ได้เท่าไหร่หรือโทรได้ยังไงอันนี้ไม่รู้เรื่องนะเพราะสื่อสารกันไม่รู้เรื่องรู้แต่ว่าอยู่โน่นทั้งหมด 6 วัน 5 คืนจนกลับมา

แชร์เน็ตกัน 2 คนยังไม่หมดเลย

สุดท้ายเลยก็ต้องหาที่พักเราก็จองกับ Expedia.co.th นี่แหละไปเห็นราคาโรงแรม Hilton ตกคืนนึงสามพันกว่าบาทเอง


เดี๋ยวรอดูต่อไปนะครับก่อนไปก็รองท้องที่เลาท์คิงส์พาวเวอร์ตุนกระเพอะไว้ก่อนเพราะไม่แน่ใจว่าบนเครื่องจะมีไรให้กินป่าวบินตั้ง 11 ชั่วโมงหิวตายแน่เลย

มีแต่คนบอกว่าสายการบินห่วยมาก

แล้วก็มาขึ้นเครื่องเครื่องออกตรงเวลานะ


สภาพภายในเครื่องครับบอกเลยไม่ได้ห่วยแบบที่คิดเลยนะเบอะหนาๆนั่งสบายไม่อึดอัดเลยสงสัยแบบว่าฝรั่งตัวใหญ่ๆเลยต้องทำเบอะหนาๆให้นั่งกันมั้ง


เมนูอาหารที่ขายครับสงสัยอยู่ว่าอันนี้มันโลคอส์หรือไงคงไม่มีอาหารให้ละมั้ง


ราคาก็เป็นปอนด์ซะด้วยดูแล้วก็แอบแพงเสียดายตังเหมือนกันและเราก็ไม่มีเงินยูโรด้วยมีแต่ดอลล่ากับเงินรัสเซีย


แต่บินไปได้ซักพักก็มีมาเสริฟอาหารครับโล่งอกไปเลย


อาหารอร่อยใช้ได้เลยนะไม่ได้แกล้งอวยนะ


ฟ้าสางใกล้ถึงละก็มีอาหารเช้าให้อีกทีครับ


อร่อยเลยละครับ


สังเกตุซองน้ำตาลกะเกลือนะ เป็นภาาษาไทยสงสัยมาจากครัวการบินไทยแน่เลยมิน่าละถึงถูกปากเรา


มาถึงสนามบินเคียฟแล้วขาไปเราต้องมาต่อเครื่องที่ 6 ชั่วโมง 20 นาที


ลุ้นๆน่าดูเลยว่าจะเป็นไงเลวร้ายแค่ไหนจะโดนบอมไม๊แต่เป็นไงดูเอาเองครับ

เห็นแล้วอยากแวะออกไปเที่ยวเมืองนี้มั่งจัง


ไวด์ขวดนี้ราคา 7 ปอนด์จากสนามบินนี้ไว้เอาไปกินที่รัสเซียถูกเนอะ


สนามบินสะอาดและดูใหม่จังเงียบๆชิวๆดีจังเรานอนหลับสบายเลยตอนรอต่อเครื่อง


อาหารในสนามบินก็ไม่แพงนะโค๊กกระป๋องอันนี้ 15 ยูเครนก็ประมาณ 23 บาทไทยเค้าไม่รับเงินดอลรับแต่ยูเครนอย่างเดียวหรือไม่ก็รูดบัตรเครดิตไปเลย


ได้เวลาเครื่องก็ออกตรงเวลานะ ใช้เวลาบินไปถึงมอสโคว 1 ชั่วโมง 35 นาที


เอาสนามบินเค้ามาให้ดูชิวๆดีนะ


บนเครื่องเที่ยวนี้ไม่มีอาหารให้นะครับเพราะบินแป๊ปเดียวเอง


แล้วก็มาถึงสนามบินมอสโควแล้ว

ที่สนามบินนี้ไม่ต้องกรอกบัตรเข้าเมืองนะที่ต.ม.เค้าจะปริ้นออกมาให้เลย แล้วให้เราเซ็นต์ชื่อ

พอผ่านต.ม.ออกมาแล้วก็เดินตามป้ายลูกศรชี้ ที่เป็นดาวแดงAeroexpress Train ก็คือรถด่วนเข้าเมืองละครับ


เดินไปเรื่อยๆครับดาวแดงอย่างเดียวเลยไม่หลงแน่ๆ


ถึงแล้วสถานีรถไฟเข้าเมือง


อันนี้หลายๆคนจะมาโดนหลอกก็ตรงนี้กัน

สังเกตุชายคนซ้ายมือที่มีป้ายห้อยคอเหลืองๆจะมีคนแบบนี้เข้ามาเสนอขายบริการแท๊กซี่

ไม่ต้องไปสนใจครับทำหน้าเก๋าๆไว้ตรงไปที่เครื่องขายตั๋วเลยซึ่งเรียงรายอยู่หลังป้ายแดงๆขวามือครับ

เจอแล้วไม่ต้องกลัวครับตู้ไม่กัดมันมีภาษาอังกฤษด้วยนะ


แล้วก็แตะเลือกภาษาอังกฤษตรงหน้าจอใครจะมาเสนอช่วยอะไรบอกโนอย่างเดียวไม่ต้องไปพูกกับเค้า


แต่ถ้าเค้าตื้อจะช่วยเราให้เดินออกห่างไปที่อื่นเลยไม่ต้องไปคุยเหมือนเราเค้าก็มาตื้อๆจะช่วยกดชวนไปแท๊กซี่เหมา

ผมก็หยุดแล้วเดินออกไปเลยไปยืนสูบบุหรี่ทำท่ารำคาญไม่คุยด้วยเค้าก็เห็นว่าเราเก๋าเลยไม่สนใจแล้ว

พอแตะปุ๊ปหน้าจอก็เปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษว่าเที่ยวละ 470 รูเบิ้ล


เลือกจำนวนที่ไป 2 ที่


แล้วก็ใส่ตังเข้าไป


ใส่เสร็จแล้วก็ต้องกด pay อย่ายืนงง(เดี๋ยวคนอื่นเห็นจะรู้ว่าเราไม่เก๋าซึ่งเราก็ยืนงงอยู่ซักพักเหมือนกัน 5555)


แล้วตั๋วก็ออกมาพร้อมตังทอน


เป็นไงครับซื้อง่ายๆไม่ต้องกังวลเหมือนเครื่องขายตั๋วทั่วๆไปเนอะตั๋วได้มาแล้วก็ออกเดินทางกันต่อครับ


เอาตั๋วสแกนบาร์โค๊ตแล้วประตูจะเปิดเข้าไปครับและตั๋วอย่าทิ้งอย่าทำยับนะเพราะต้องสแกนตอนขาออกอีกทีครับ


มองย้อนกลับไปตรงสนามบินครับจะได้เห็นภาพว่าสถานีรถไฟอยู่ตรงปีกด้านนอกของสนามบินครับ


รถไฟขบวนแดงแปร้ดเลยนะ


ภายในรถไฟนะนั่งกัน 45 นาทีก็ถึงตัวเมืองครับ


ถึงแว้วแล้วก็ไปต่อรถไฟใต้ดินกันครับ


อาคารสถานีรถไฟใต้ดินครับ


ที่นี่เค้าจะเรียกกรถไฟใต้ดินว่า เมโทรเวลาเดินหลงจะหาสถานีก็สังเกตุตัวอักษร M สีแดงหรือถ้าถามทางคนก็บอกว่าเมโทรคำเดียวแล้วเค้าจะบอกทางเราได้

คนที่นี่หน้าตาดูดุๆแต่ใจดีครับเราก็อาศัยถามตลอดๆเหมือนกันเพียงแต่สือสารกันไม่รู้เรื่องเท่านั้นเพราะเค้าพูดอังกฤษไม่ได้

หลายครั้งที่เราไปถึงสถานีที่เราจะไปเที่ยวไม่รู้ว่าจะออกทางออกไหนหรือเดินจากสถานีไปทางไหนก็อาศัยเซฟรูปมาไว้ในมือถือก่อน

แล้วเอารูปให้เค้าดูว่าจะไปทางไหน เค้าก็จะชี้บอกเราเลยบางครั้งกลัวเราหลงก็จะพาเดินไปให้จนเห็นเลยครับ

แวะซื้อซิมส์ที่นี่เลยพอดีเห็นบูธมือถืออยู่ก็เอารูปนี้ให้เค้าดูชี้ที่ราคา 600 ก็เป็นอันเสร็จ


พอดีมาถึงหิวก็เลยลองทานอาหารรัสเซียเป็นมื้อแรกที่สถานีนี้แหละ


ประมาณแนวๆข้าวแกงบ้านเรามีแบบนี้อยู่ทั่วๆไปราคาก็ดูไม่แพงนะคือคูณ 0.67


ก็สั่งมาเท่านี้ลองดูก็พอกินได้นะไม่น่าเกลียดก็หมดไปประมาณ 200 บาทไทย


อิ่มแล้วก็ตรงไปเมโทรกัน


แล้วก็ซื้อตั๋วก่อนที่ช่องขายตั๋วนะ


ราคาตั๋วที่นี่ขายเป็นเที่ยวๆนะถ้าซื้อเที่ยวเดียวจะ 50 รูเบิ้ลไปไหนก็ได้จนออกจากสถานี

แต่ถ้าซื้อจำนวนเที่ยวเยอะก็จะยิ่งถูกลงเราซื้อ 20 เที่ยวก็จ่าย 580 รูเบิ้ลก็ตกเที่ยวละ29 รูเบิ้ล ก็เท่ากับ 20 บาทไทยไปได้ทั่วมอสโคว

ถูกไม๊ละครับ

อ่อเวลาซื้อบอกเป็นภาษาอังกฤษเค้าจะไม่เข้าใจนะให้เอามือถือหรือเขียนใส่กระดาษตัวเลข 20 ให้เค้าดูแล้วเค้าจะพิมพ์จำนวนเงินใส่เครื่องคิดเลขให้เราดูครับง่ายๆแบบนี้แหละ จ้า

เวลาเข้าก็ใช้บัตรแตะไปแล้วเข้าทีละคนได้ไม่ต้องซื้อหลายใบคือแตะทีก็เข้าไปคนนึงแตะเข้าทีละคน


เวลาออกก็เดินออกเลยถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามเจ้าหน้าทีได้เลยมีอยู่ทุกจุดเลย

ภายในสถานีครับเรานั่งสายสีน้ำตาลไป 3 สถานีก็ถึงโรงแรมเราเลย


แล้วโผล่จากรถไฟใต้ดินออกมาเดินไม่ไกลก็โรงแรมเราเลย


ตามนี้เลยครับเห็นราคาไม่แพงใน Expedia.co.th เลยจองมานอนได้ 3 คืน คือวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์


แต่วันจันทร์ อังคารราคาโดดไปเกือบเท่าตัวเลยก็ต้องระเห็ดไปนอนโรงแรมเกรดต่ำลงมาหน่อยประมาณ 4 ดาวเพราะนอนต่อที่นี่ไม่ไหว

ขอเป็นเสี่ยแค่ 3 วันก็พอแล้วเนอะ อิ อิ

สนใจลองเข้าไปเช็คราคาที่นี่เลยครับ http://bit.ly/1LYPCSQ

อันนี้ต้องล่วงหน้ายาวนิดนะครับจะได้ราคาถูกลงมาเยอะเลยและต้องเป็นวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ถึงได้นอนหรูๆราคาถูกๆ


เหตุผลที่เพื่อนๆบอกมาเพราะมอสโควเป็นเมืองธุรกิจวันธรรมดาค่าโรงแรมเลยแพงครับ

ทำเลเป็นดีงามเลยครับอยู่ใกล้สถานีรถไฟถึง 3 สถานีเลยคือไปเซ็นต์ปีเตอร์สเบิรก์หรือไปเมืองซากอยก็ขึ้นรถที่แถวนี้หมดครับ


แล้วอย่าลืมปริ้นใบจองเป็นภาษาอังกฤษไปด้วยนะครับเผื่อขัดข้องทางเทคนิค


แล้วเราก็ลากกระเป๋าไปโรงแรมกัน


โรงแรงดูอลังจริงๆนะ


มาเช็คอินกันครับ


เหมือนอยู่ในวังเลยเนอะ


อันนี้แอบหลอนนิดๆเหมือนหนังผีเลยอะ


ไปดูที่ซุกหัวนอนสุดหรูกันครับ


อันนี้เพิ่งเข้าไปเช็คราคาตอนนี้ให้ถ้าจองพักเดือน ก.ค.ได้ราคานี้ถูกลงไปอีกนะ



เช็คอินแล้วฟ้ายังไม่มืดเลยทั้งๆที่ 3 ทุ่มเข้าไปแล้ว (พระอาทิตย์ตกประมาณสี่ทุ่มกว่าและพระอาทิตย์ขึ้นตอนตี 4 ครึ่ง)


ไปสำรวจซื้อขนมและหาไรกินรอบๆโรงแรมดีกว่า

อันนี้ซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างใกล้โรงแรมเราครับ


ผลไม้ไม่ได้ซื้อนะเพราะยังไงบ้านเราต้องถูกกว่าแน่นอน


อันนี้เนยชีสครับถูกกว่าบ้านเราเยอะเลย


สี่สิบกว่าบาทครับถูกกว่าบ้านเราเยอะเลยต้องจัดมาฉลองซะหน่อยแล้ว


แซลม่อนสดชิ้นโตๆครับ


อันนี้ก็ถูกครับเอามากินกะซีสเมื่อกี้สุดยอดเลยนะ


น้ำส้ม 1.5 ลิตรประมาณ 11 บาทเองอะ


เบียร์ถูกกว่าโค๊กนะเพราะโค๊กตกแล้วขวดละ 50 รูเบิ้ลแบบนี้ซดเบียร์ดีก่าเนอะ


วอดก้าตั้งขายกันราคาพอๆกะเหล้าขาวเมืองไทยเลยนะ


อันนี้ไซร์นี้เมืองไทย 20 บาทที่นี่คูณแล้วตก 15 บาทเองนะ


เอามาให้ดูแค่นี้พอเป็นไอเดียว่าค่าครองชีพเป็นไงดูๆแล้วเราว่าพอๆกะเมืองจีนนะ(ถ้าค่าเงินยังเป็นแบบนี้อยู่ 0.67 บาท/1 รูเบิ้ล)อยู่จนห้างปิด 4 ทุ่มก็เดินกลับโรงแรมเลยได้ภาพทไวไลท์ของ 3 สถานีรถไฟมาให้ดูกันครับว่าเมืองเค้างดงามมากจริงๆ


อันนี้โรงแรมเราจ้า


แซลม่อนชิ้นโตๆเมื่อกี้ก็มาโซ้ยที่โรงแรมจ้า


มื้อหรูๆราคาประหยัดในห้องนอนโรงแรมหรูๆฟินอย่าบอกใครเชียวนะ


ตื่นเช้ามาอีกวันภารกิจวันนี้ต้องไปสำรวจจตุรัสแดงครับ


จัตุรัสแดง (รัสเซีย: Красная площадь, Krásnaya plóshchad)

เป็นจัตุรัสกลางเมืองของของกรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย

จัตุรัสแดงมีขนาดกว้าง 70 เมตร ยาว 695 เมตร มีขนาดพื้นที่รวม 23,100 ตารางเมตร

จัตุรัสแดงอาจถือได้ว่าเป็นจัตุรัสกลางกรุงมอสโกและทั้งประเทศรัสเซียเพราะถนนสายสำคัญทุกสายของกรุงมอสโกจะวิ่งตรงออกจากจัตุรัสแดงแห่งนี้ นอกจากนี้ จัตุรัสแดงยังเป็นสถานที่ตั้งของมหาวิหารเซนต์เบซิล และหลุมฝังศพของวลาดิมีร์ เลนินอีกด้วย

จากโรงแรมขึ้นรถไฟไปลงสถานีนี้ครับแป๊ปเดียว


เดินโผล่ออกมาตรงห้างเลยก็เลยแวะทานอาหารเช้าในร้านนี้แหละไม่ได้แนะนำให้มากินนะแต่เอามาให้ดูว่ามันไม่ได้แพงและก็อร่อยด้วย


เมนูนี้น่ากินนะแต่มันยังเช้าอยู่คงไม่ไหวอะ


อันนี้เมนูอาหารเช้าเลย


ตามนี้เลยจ้า


หน้าตาเหมือนไข่กะทะแถวอุดรเลยแต่กะทะเค้ามาเป็นแบบจานร้อนจริงๆ


สงสัยไข่กะทะบ้านเราคงถูกเผยแพร่มาจากรัสเซียแน่เลย

ค่าเสียหายทั้งหมดครับอร่อยได้นะราคาไม่แพงแต่คงตามรอยยากเพราะไม่รู้จะบอกพิกัดยังไง


เอาเป็นว่ามาให้ดูค่าครองชีพละกันว่ามาเที่ยวนี้ไม่ต้องเขียมมากกินอยู่แบบสบายๆได้ในราคาไม่แพงนะ

กินอิ่มแล้วก็โผล่ออกมาตรงนี้เลยครับ


ห้างสรรพสินค้ากุมครับห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย


มาเดินดูในห้างกัน


อันนี้เหมือนน้ำจรวดเมืองไทยนะมีใส่โซดาเหมือนกันเลย


500 ซีๆ 50 รูเบิ้ลน้ำล้วนๆนะไม่มีน้ำแข็งปน


บรรยากาศในอดีตครับดูขลังจริงๆ


จุดต่อไปเราไปชมมหาวิหารไฮไลท์ของที่นี่กันครับ



มหาวิหารเซนต์บาซิล (อังกฤษ: Saint Basil's Cathedral; รัสเซีย: Собор Василия Блаженного)

เป็นอาสนวิหารของศาสนจักรออร์โธดอกซ์รัสเซีย ตั้งอยู่ที่จัตุรัสแดง กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย

สร้างโดยซาร์อีวานที่ 4 หรือซาร์อีวานผู้โหดร้าย เพื่อฉลองชัยชนะเหนือพวกมองโกลที่กรีธาทัพมาเมืองคาซาน เมื่อปี ค.ศ. 1552

ผลจากชัยชนะครั้งนี้ทำให้รัสเซียสามารถรวมชาติได้เป็นปึกแผ่น จึงสร้างมหาวิหารแห่งนี้ขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1555



มหาวิหารเซนต์บาซิลมีรูปทรงที่ไม่เหมือนโบสถ์อื่น คือมีโดม 8 โดมล้อมรอบโดมที่ 9 ที่อยู่ตรงกลาง ทำให้อาคารมีรูปทรงแปดเหลี่ยม ด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียโบราณอันได้รับอิทธิพลมาจากไบแซนไทน์ที่เป็นโดมทรงหัวหอมกับสถาปัตยกรรมที่เรียกกันว่ารัสเซียนกอธิก หอคอยสูงรูปกระโจมเป็นอิทธิพลจากยุโรปตะวันตก

ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงกลายเป็นหอคอยสูงรูปแท่งเทียนกำลังลุกไหม้บนปลายลำเทียน ส่งความโชติช่วงชัชวาลย์เป็นเครื่องบูชาเทพเจ้าบนสวรรค์

มหาวิหารนี้ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อปอสต์นิค ยาคอฟเลฟ (Postnik Yakovlev) และด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมจึงทำให้มีเรื่องเล่าสืบต่อกันว่า ซาร์อีวานที่ 4 ทรงพอพระทัยในความงดงามของมหาวิหารแห่งนี้มาก จึงมีคำสั่งให้ปูนบำเหน็จแก่สถาปนิกผู้ออกแบบด้วยการควักดวงตาทั้งสอง เพื่อไม่ให้สถาปนิกผู้นั้นสามารถสร้างสิ่งที่สวยงามกว่านี้ได้อีก

การกระทำในครั้งนั้นของพระเจ้าอีวานที่ 4 จึงเป็นที่มาของสมญานามอีวานผู้โหดร้าย (Ivan The Terrible)[1]

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ข้างในจัดเป็นพิพิธภัณท์นะครับค่าเข้าคนละ 350 รูเบิ้ลก็ไม่ได้แพงอะไรแต่ถ้าไม่เข้าก็ไม่ได้พลาดอะไรนะครับ


แบบว่าเข้าไปดูไรก็ไม่รู้เรื่องครับแต่ถ้ามีไกด์อธิบายด้วยก็จะดูน่าเข้ามากเลยครับ

แต่ไงเราก็ซื้อตั๋วเข้าละครับได้เอารูปมาให้เพื่อนๆได้ดูกัน


ไหนๆก็เสียตังเข้ามาแล้วทำดูไปหน่อยนะครับ อิ อิ


ยอดโดมจากด้านในครับ


จริงๆแล้วภานในก็สวยงามเหมือนกันนะแต่ถ้าไม่เข้าก็อย่างที่บอกว่าไม่ได้พลาดอะไรครับ


อันนี้ถ่ายจากชั้นบนในวิหารครับมุมสวยดีครับ

เสร็จแล้วก็ออกมาเดินเล่นอีกหน่อยชมความงามของจตุรัสแดงให้เต็มตา


มาเจอคนไทยมาเที่ยวด้วยแหละมาไฟล์เดียวกันบังเอิญมาเจอกันที่นี่อีก


ขากลับก็ไปลงสถานีรถไฟที่เดิมอีกแต่ขอแวะกินข้าวเที่ยงร้านนี้ครับ


อันนี้แนะนำเลยจะมีหลายสาขาเหมือนๆกับพิซซ่าฮัทบ้านเราอยู่หลายๆที่ถ้าหิวแล้วเจอก้ทานได้เลยครับอาหารอร่อยราคาไม่แพง

โลโก้ตามนี้เลยครับ

ในร้านครับดูดีมีสกุลนะแต่แรกไม่กล้าเข้าครับพอเห็นโปรเลยก็ไม่เท่าไหร่นะ


โปรตามนี้เลย


เมนูมีภาษาอังกฤษด้วยนะเราสั่งสเต๊ค 699 รูเบิ้ลมานะพร้อมโปรโค๊ก+พิซซ่า 525 รูเบิ้ล


พิซซ่ามาละอร่อยเลยครับเรคคอเมนเลย


สเต็คมาแล้วเราสั่งแบบมีเดี่ยมทำมาสุกกำลังดีอร่อยมากนุ่มนิ่มจริงๆ


มื้อนี้ก็ตามเมนูเลยตกประมาณแปดร้อยกว่าบาท


อิ่มแล้วก็ไปหาซื้อของฝากกันที่ตลาดอิสไมลอฟสกี้Izmailovsky Marketซึ่งเป็นแหล่งขายของฝากราคาถูกเปรียบเหมือนๆจตุจักรบ้านเรา


เหตุเพราะว่าไปเห็นอะไรก็น่าซื้อไปหมดก็เลยกลัวว่าจะอดใจไม่ได้ต้องซื้อของแพงเลยขอแวะไปซื้อให้จบๆไปก่อน

จะอยู่นอกๆเมืองไปทางเหนือๆหน่อยแต่ไม่ไกลครับ

พิกัดครับพิมพ์คำว่าIzmailovsky Marketในอากู๋ก็จะออกมาเป็นแบบนี้ครับ


ออกจากสถานีแล้วเดินไปอีกประมาณ 1.3 ก.ม.ก็ถึงครับต้องไปให้ถึงก่อน 5 โมงเย็นนะครับไม่งั้นเค้าเก็บร้านแล้ว


ร้านแถวนี้ดูน่ากินมากนะ


ทนไม่ไหวมันหอมน่ากินมากเลยขอจัดชิวๆซักหน่อย


ก็มีแล้ม1 จานกับเบียร์ 1 ขวด 600 รูเบิ้ลแอบแพงไปนิดแต่อร่อยและความชิวสมราคาครับ

แล้วก็กลับโรงแรมจบภารกิจของวันนี้แบบเหนื่อยเหมือนกัน


เอารูปสถานีรถไฟมาฝากครับ

ของฝากที่ซื้อมาครับก็มีเท่านี่ที่น่าสนใจครับใครไม่มีเวลาเหลือถ้าไม่ได้มาตลาดนี้ก็ไม่ถือว่าพลาดอะไรนะครับ


วันถัดมาเราไปเที่ยวศาสนสถานเซอร์เกอเยฟ โปสาด แห่งเมืองซากอร์ส (Sergiev Posad = Сергиев Посад) กันครับ


ต้องนั่งรถไฟออกนอกเมืองประมาณ 70 ก.ม.

แวะกินอาหารเช้าก่อนนะ แบบซุ้มข้างทางหน้าสถานีรถไฟครับ


หน้าตาสถานีรถไฟครับ


ซื้อตั๋วกลัวพูดไม่ถูกก็เอาตัวหนังสือหรือรูปเมืองให้เค้าดูแล้วทำสัญลักษณ์ ไป-กลับแล้วก็ได้ตั๋วมาคนละ 304 รูเบิ้ลไป-กลับนะ


แล้วก็เอาตั๋วสแกนเข้าเหมือนเดิมแต่บนรถไฟจะมีนายตรวจมาตรวจอีกทีนะ


ข้างในมีหลายขบวนครับพยายามดูตั๋วยังไงก็ไม่รู้เรื่องก็เอาตั๋วให้คนเค้าดูแล้วก็ถามๆเอา


มีคนใจดีช่วยเยอะแยะครับไม่ต้องกลัว

ภายในรถไฟแอบโบนิดนึงแต่จะเอาอะไรกับค่ารถถูกๆแบบนี้เนอะ


แต่ก็นั่งพอสบายเหมือนกัน


นั่งไปก็สังเกตุป้ายตามทางละกันเผื่อเกินนั่งเลยไปจะกลับลำบากครับ


รถไฟขบวนเราโชคดีสุดสายที่เราไปพอดีเลยไม่เครียดเท่าไหร่แต่ก็อาศัยดูอากู๋แมพตลอดๆเพราะกลัวเลย


ออกจากสถานีเจอแม่ค้าขายน้ำแต่ไม่รู้ว่าน้ำอะไรเห็นคนซื้อเยอะๆเลยลองซื้อมาชิมดู


เอาแบบแก้วเล็กสุด 10 รูเบิ้ลได้มาแบบนี้ครับ


ปรากฏว่าคือเหมือนๆน้ำข้าวหมักอะครับไม่อร่อยไม่ชินเลย

ซื้อแล้วก็เดินตรงไปเรื่อยๆเลย(คือออกจากสถานีให้หันขวาแล้วเดินไปเรื่อยๆก็จะเห็นไกลลิบๆครับ)


จะเอารูปแล้วถามคนก็ดีนะจะได้ไม่เดินวนให้เหนื่อย

แล้วก็จะเจอแบบนี้สวยมากครับ

ก่อนถึงเห็นร้านนี้ดูท่าทางน่านั่งจริงๆดูหรูหรามากท่าจะแพงป่าวนะ


พอดูเมนูโอเลยครับร้านนี้แนะนำอย่างแรงเลย

คนดังมากินกันเพียบเลย


บรรยากาศในร้านครับ


นั่งกินวิวแบบนี้ครับอาหารหลักพันแต่วิวหลายพันเลยจ้า


มาดูเมนูกันครับมีภาษาอังกฤษด้วยนะเราสั่งแล้มตรง 860 ในเมนูครับ


หน้าตามาแบบนี้ครับอร่อยมากขอบอก


อีกจานเป็นเนื้อสไตล์รัสเซีย ตรง 790 ในเมนูครับ


หน้าตาแบบนี้ครับอร่อยมากเกินคาดหมายมากครับ


ลองดูเมนูไวด์ดูแก้วละ 200 รูเบิ้ลก็โอนนะไม่แพงสั่งมานั่งชิวดีก่า


มื้อหรูบรรยากาศฟินแบบนี้ทั้งอิ่มและอร่อยหมดไปไม่ถึง 1500 บาทไทยก็ราคาพาราก้อนเมืองบไทยเนอะคุ้มมากครับ


ถึงซะทีศาสนสถานเซอร์เกอเยฟ โปสาด Sergiyev Posad (Zagorsk) เมืองแห่งรัสเชียนออธอดอกซ์ ศูนย์รวมแห่งศรัทธาของชาวรัสเซีย


เข้าชมฟรีนะครับไม่เสียตัง


ชมรูปต่ออีกหน่อยนะครับแบบว่าสวยจริงๆเลยอยากให้ดูเยอะๆ


ภายในวัดซักหน่อยนะครับ


กลับจากเมืองซากอยเราก็ไปเที่ยวต่อกันโดยไปดูละครสัตว์รัสเซ๊ยที่โด่งดังกันครับ


ละครสัตว์ตั้งอยู่ที่สถานี Tsvetnoy Bulvarออกจากสถานีแล้วเลี้ยวขวาเดินไปนิดเดียวครับ

ควรเช็รอบและวันก่อนไปนะครับเพราะบางวันอาจไม่มีแสดงรอบแสดงตอน 1 ทุ่มครับ

ราคาค่าตั๋วมีหลายราคาแล้วแต่ใกล้ไกล

แล้วก็ไปรถไฟใต้ดินกันครับ


ถึงแล้วครับคนเพียบเลย


ไปซื้อตั๋วตรงประตูในรูปมุมขวามือล่างนะครับเข้าไปข้างในเลยเรายืนงงอยู่พักนึงเหมือนกัน


ได้ตั๋วราคา 1800 รูเบิ้ลมาเพราะตั๋วราคาต่ำกว่านี้ขายหมดแล้วทีหลังควรมาจองตั๋วล่วงหน้าหน่อยก็ดีนะ


ภายในครับคนตรึมเลย


เริ่มแสดงแล้วเค้าไม่ให้ถ่ายรูปครับเลยกดมาได้รูปเดียว


ดูๆไประวังนะครับเค้ามีพักครึ่งหลายคนไม่รู้กลับเฉยเลย


หลังจากจบละครสัตว์ตอน 3 ทุ่มแล้วก็ไปต่อที่ จตุรัสแดงเลยกะไปเก็บภาพสวยๆทไวไลท์ซักหน่อย


ก็นั่งรถไฟใต้ดินไปเนอะ

บรรยากาศตอนกลางคืนของตรงนี้สวยงามมากครับเราอยู่จนถึง 5 ทุ่มเลยก็ปลอดภัยดีนะไม่มีอะไรน่ากลัวเลย


ตามนี้เลยครับตื่นมาอีกวันหลังจากนอนที่ฮิลตั้นครบ 3 คืนแล้วก็หมดโปรแล้วละ


โรงแรมนี้เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวครึ่งละกันถ้าราคาวันธรรมดาก็จะถูกลงกว่านี้อีกครับ


และเราก็ได้อาศัย เวป Expedia.co.th จองมาอีกครับราคาตามนี้เลยโรงแรมนี้จะมีอาหารเช้าให้ทุกคนเลยครับก็ประหยัดไปได้เยอะเหมือนกัน

ตัวโรงแรมเราครับใหญ๋โตมโหราณเลยคล้ายๆแอมบาสเดอร์บ้านเราครับ


แผนที่จากฮิลตั้นมาครับโรงแรมนี้อยู่ใกล้กับพิพิธภัณ์ทอวกาศด้วยนะเดี๋ยวจะพาไปเที่ยววันสุดท้ายครับ


ไปดูห้องกันครับก็ธรรมดาๆนะเหมือนๆกะแอมบาสเดอร์บ้านเราครับ


เช็คอินเสร็จก็หิวอะซิครับ


พอดูราคาห้องอาหารในโรงแรมแล้วเห็นว่ารับได้ไม่แพงเลยทานในดรงแรมก่อนออกไปลุยข้างนอก

ก็ราคาตามในเมนูเลยครับอร่อยไม่แพงครับอันนี้เอามาให้ดูอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ที่ทางดรงแรมให้ทานในวันต่อๆมาครับก็โอเคครับอร่อยใช้ได้ประหยัดไปมื้อนึงเลย


อิ่มระไปเที่ยวกันได้แล้วครับ


มหาวิหารพระคริสต์ผู้ช่วยชีวิต Cathedral of Christ the Saviour (Храм Христа Спасителя)

THE RUSSIAN ORTHODOX CHURCHสร้างขึ้นเพื่อถวายพระ เกียรติแด่กษัตริย์อเลกซานเดอร์ที่ 1 ที่สามารถรบชนะนโปเลียนและกองทัพ ฝรั่งเศสได้ในสงครามปี 1812



การเดินทาง เมโทร สถานี Kropotkinskaya ออกมาจากสถานีจะเห็นโบสถ์เลยครับ

เข้าไปชมข้างในได้ครับไม่เสียตังแต่ไม่ให้ถ่ายรูป


เดินอ้อมไปด้านหลังวัดจะเจอซุ้มขายตั๋วล่องเรือด้วยนะคนละ 350 รูเบิ้ลล่อง 1 ชั่วโมง


เรือออกทุกชั่วโมงครับ


ซื้อตั๋วแล้วก็เดินข้ามสะพานไปตรงท่าเรือริมแม่น้ำเลย


ลำนี้ละครับ


แล้วก็นั่งชิวกันไปดูพระราชวังเครมลินวิวสวยๆกัน 1 ชั่วโมงครับถือโอกาสพักขาไปในตัว


ล่องเรือเสร็จสถานที่น่าสนใจของมอสโควอีกที่คือถนนอารบัด Arbat Streetเราจะไปเดินเล่นและหาไรกินกัน


การเดินทางก็ลงสถานีArbatskayaเลยออกมาก็เจอ

มาถึงพอดีหิวเลยและฝนตกพอดี คงต้องหาร้านกินแล้วหลบฝนด้วยแล้ว


แต่มองๆดูเมนูหลายร้านก็แพงเหมือนกันนะ ไม่ค่อยเหมาะกะแม่ประนอมเท่าไหร่

มาเจอร้านนี้ที่เรากินเมื่อวันก่อนนู้นที่จตุรัสแดงเลยเดินยืดอกซ่าเข้าไปเลยเพราะรู้ว่าราคาเราจ่ายได้สบายมากแถมอร่อยถูกปากด้วย


บรรยากาศในร้านก็ดูหรูพอๆกะร้านอื่นย่านนี้เหมือนกัน


ตามนี้เลยวันนี้แบบว่าไม่อยากกินพิซซ่าขอลองเมนูอื่นดูหน่อย


อันนี้ครับ 337 รูเบิ้ลอร่อยเกินราคาจริงๆ


จานนี้ติดใจจากเมื่อวันก่อนเลยขอสั่งอีกที


มีเดี้ยมเค้าสุกกำลังดีจริงๆไม่มีเลือดปนเนื้อสีชมภูนุ่มนิ่มดีจัง


เช้าวันต่อมาหลังจากทานอาหารเช้าฟรีที่โรงแรมแล้วเราก็ไปเที่ยวพระราชวังฤดูร้อนซาริซินนา กัน


การเดินทางลงที่สถานี TSARITSYNO (ЦАРИЦЫНО)ออกจากสถานีทางหัวขบวนรถไฟ เดินไม่ไกลก็จะถึงรั้ววังละ

จากตรงนี้เดินไปประมาณอีก 1.3 ก.ม.ก็จะถึงพระราชวัง


แวะชมในโบสถ์สวยๆก่อนนะ


ถึงแล้วใหญ่โตสวยงามมากครับ


ซื้อตั๋วเข้าไปชมภายในได้นะคนละ 350 รูเบิ้ล


ภาพในอดีตครับ


งดงามมากครับ


โครงสร้างสมัยก่อนครับ


แล้วก็กลับแล้วจ้า


ออกมาแบบว่าด้วยความหิวมากเจอร้านไหนก็เลยใส่เลย


เป็นร้านใกล้กะสถานีเมโทร


บรรยากาศแบบบ้านๆชาวรัสเซียเลยคุยกันไม่รู้เรื่องก็เลยไปถ่ายรูปป้ายโฆษณาหน้าร้านมาแล้วสั่งตามรูปเลย


แต่ที่ไหนได้ไม่จบนะครับเพราน้องนางถามว่าจะรับเนื้ออะไรแล้วก็เอาเมนูมาให้เราเลือกซึ่งเราก็อ่านไม่ออกบอกว่าบีฟๆเฑอก็ไม่ยอมเข้าใจ

เลยชี้มั่วๆเลยครับ อิ อิ

ได้มาจานแบบนี้เป็นเนื้อซี่โครงหมูอร่อยเหาะด้วยนะ


รูปนี้ก็เอาให้ดูครับ


เธอไม่ยอมอีกเหมือนกันเลยพยายามบอกว่าเอาให้เหมือนในรูปละกันปรากฏว่าน้องเค้าเป็นงงว่าในรูปมันคือหน้าอะไรกันแน่ 5555

ได้มาแบบนี้ครับความอร่อยจานนี้พอได้ครับแก้ขัดแบบสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง


ค่าเสียหายทั้งหมดครับมีเบียร์ครึ่งลิตรและโค๊ก 1 กะป๋องด้วยนะ


บ่ายวันเดียวกันนี้เราก็แวะไปเที่ยว พระราชวังเครมลิน Кремль дворец กันครับก็อยู่ตรงจตุรัสแดงนี่เองแหละ


แต่จะให้เดินไม่ไกลลงสถานีAlexandovskyจะไกล้สุดครับ

หน้าสถานีครับ

แล้วก็ซื้อตั๋วกันครับตนละ 500 รูเบิ้ล


เข้ามาด้านในแล้วครับ


ก็จะเป็นวัดมั่งพิพิฑภันท์มั่งข้างในไม่ให้ถ่ายรูปครับ


เดินดูซักพักก็ออกครับเราดูไม่มีไกด์ก็ไม่รู้อะไรครับ


แล้วเราก็เดินเรื่องๆออกมาทางจตุรัสแดง


มาเจอนายคนนี้เดินมาให้ถ่ายรูปเล่นด้วย


เล่นหลายแอ๊คเลย


ก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมใจดีจังนึกว่าคงเสียตังแน่แต่ก็กะว่าแค่ทิปให้ซักร้อยรูเบิ้ลละกัน


ที่ไหนได้พวกเรียก 500 รูเบิ้ลเลยเจ็บใจจริงๆเสียรู้จนได้

แล้วก็กลับโรงแรมนอนแล้วหลายวันเหนื่อยเกินแล้วละ


ตื่นเช้ามาวันกลับแบบว่าเที่ยวบินกลับตอน 5 โมงเย็น


ยังพอมีเวลาช่วงเช้าๆอยู่เลยมาเดินเล่นที่พิพิธภัณท์อวกาศเลยซึ่งก็อยู่ใกล้ๆโรงแรมเรานี่แหละ

มองจากโรงแรมเราก็เห็นยอดแหลมๆโน่นแหละครับ

ซึ่งก็อยู่หลังสถานีรถไฟนี่แหละครับ


เปิด 10 โมงเช้านะครับ


ค่าตั๋วคนละ 200 รูเบิ้ลค่ากล้องถ้าจะถ่ายรูปอันละ 230 รูเบิ้ล


ดูข้างในกันครับน่าสนใจดี


หลายอย่างน่าจะเป็นของจริงนะ


ก็พอแค่นี้เอาแค่เป็นไกด์นะครับรีวิวยาวเกินไปแล้วเดี๋ยวจะโหลดยากกันได้เวลาเที่ยงก็เช็คเอาท์แล้วไปสนามบินกันตามเส้นทางเดิมที่เหมือนตอนมา


สนามบินมอสโควตอนรอขึ้นเครื่องแน่นขนัดเลยครับไม่มีที่จะนั่งเลย


และก็สายการบินยูเครนที่ไม่ได้น่ากลัวและห่วยอบ่างที่หลายๆคนเข้าใจ


ขากลับแวะต่อเครื่องที่เคียฟแค่ ชั่วโมงครึ่งเอง


อาหารขากลับก็อร่อยใช้ได้เลย จ้า


ก็คงจะจบได้แล้วครับรีวิวเที่ยว 5 วันจบในตอนก็ยาวยืดเลย


สรุปค่าใช้จ่ายนะครับ


1 ค่าตั๋วเครื่องบิน19,490ต่อ 2 คนรวมโหลดกระเป๋าและอาหารแล้ว

2 ค่าโรงแรมที่ฮิลตั้น 3 คืน11,373

3 ค่าโรงแรม Cosmos 2 คืน4,537

4 ค่าใช้จ่ายจากเงินที่แลกไป 20000 หมื่นบาทปรากฏว่าใช้ไม่หมดนะครับเหลือกลับมาประมาณ 4,000 บาทก็คือใช้ไป 16,000 บาท

รวมทั้งหมด 2 คนก็ 51,400 บาทซึ่งก็เป็นการเที่ยวแบบสบายๆหิวเมื่อไหร่ก็กินเลย

แต่ถ้าเที่ยวแบบประหยัดกว่านี้ก็ได้นะงบก็จะถูกลงได้อีกเยอะเลย

ก็จะเห็นว่ารัสเซียน่าเที่ยวแค่ไหนและไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครๆว่าเลยแถมค่าเงินตอนนี้ก็ถูกลงเลยจ่ายไม่แพงแบบที่กลัวกัน

ก็หวังว่ารีวิวนี้คงเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆนะครับพยายามหาเหลี่ยมหามุมมาให้ได้เยอะที่สุดเพื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนๆไปเที่ยวกันแบบเราได้ง่ายๆกันครับ



สุดท้ายนี้ก็ต้องขอบคุณพันธทิพย์พื้นที่ดีๆที่ให้เราได้เก็บข้อมูลและศึกษาข้อมูลเพื่อการไปเที่ยวเองได้ง่ายๆและมาแบ่งปันกันให้กับเพื่อนๆต่อไป



ขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่ติดตามกันมาตลอดๆอแล้วมาเที่ยวรัสเซียกันนะครับ



จากแม่ประนอมนะจ๊ะ

แม่ประนอม

 วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.51 น.

ความคิดเห็น