วลีเด็ดที่ว่า "ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง" คงต้องค่อย ๆ เลือนหายไปแล้วนะครับ สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟในสมัยนี้ของคนไทย สืบเนื่องมาจากการที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เปิดให้บริการรถไฟรุ่นใหม่ใน 4 เส้นทางหลัก จำนวน 115 คัน ก็เป็นเช่นเคย ว่าเมื่อมีอะไรใหม่ ๆ มาให้ลองเราก็ต้องลองจริงไหมครับ และนี่ก็คือยานพาหนะอีกหนึ่งประเภทสำหรับนักเดินทางที่ชื่นชอบการเดินทางโดยเก็บเกี่ยวเรื่องราวจากดินแดนที่เดินทางผ่านไป
วันนี้ผมมีอะไรใหม่ ๆ กับการเดินทางกับทางรถไฟสายเดิม ..
การเดินทางเริ่มต้นจากเหตุการณณ์จำเป็นเร่งด่วน จึงทำให้ได้เดินทางกับขบวนรถไฟสายใหม่ล่าสุดของเมืองไทย .. อุตราวิถี .. กับขบวนรถด่วนพิเศษ 9 กรุงเทพ - เชียงใหม่ ซึ่งผมขึ้นจากสถานีรถไฟอยุธยา ปลายทางสถานีรถไฟศิลาอาสน์ (บ้านเกิดของผมนั่นเอง)
ส่วนใหญ่การเดินทางของผม ก็จะเดินทางคนเดียวอยู่เรื่อย ๆ นะครับ เพราะว่ามันได้อีกอารมณ์หนึ่ง ไม่ต้องมากังวลว่าผู้ร่วมเดินทางจะรู้สึกอย่างไร เราชอบอะไรเราก็ทำ มันจะรู้สึกดีกว่านะครับ ความคิดเห็นส่วนตัวนะ
ระหว่างรอก็หาเดินซื้อของไปเรื่อย ๆ พอดีตรงกับวันที่สลากรัฐบาลออกพอดี มีแม่ค้าใจดีแจกเครปฟรี ผมจึงได้รับแจกมาด้วย 1 ชิ้น ปล.แม่ค้ายังอายุน้อย แต่แจกฟรี จนกว่าจะหมดเพราะวันนี้เป็นวันลุ้นรางวัล บางคนคงจะหมดกับการลุ้น เค้าก็เลยแจกฟรี ผมว่าดีนะ เป็นคนคิดดีและก็ทำดีด้วย หาได้ยากยิ่งสำหรับยุคสมัยนี้
และแล้วรถไฟขบวน 9 ก็มาถึงสถานีรถไฟอยุธยาในเวลา 21.06 น. ผมก็พร้อมเดินทางไปเปิดประสบการณ์ใหม่ทันที
บริเวณด้านข้างขบวน จะมีการแจ้งเตือนเป็นตัวอักษรไฟสีขาว แจ้งเลขขบวน , คันที่โดยสาร , สถานีต้นทาง , สถานีปลายทาง เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับทราบ แต่ถ้าหากไม่ทราบก็จะมีผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลผู้โดยสารลงมารับเช่นกันนะครับ ไม่ต้องเป็นกังวลไป
มีประตูอัตโนมัติกั้นไว้และดูมีความปลอดภัยมาก การเดินเข้าประตู เราเพียงสัมผัสลูกศรสีเขียวเบา ๆ ประตูก็จะเปิดให้เราเข้าแล้วนะครับ ไม่ยุ่งยากเลย
ผ่านเข้ามาก็จะเป็นบริเวณที่นอนของเราแล้วครับ บริเวณด้านบนจะเป็นที่วางสัมภาระที่น้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัมนะครับ ส่วนด้านล่างจะเป็นชั้นนอนของผู้โดยสาร จากภาพจะเป็นขบวนชั้นที่ 2 นะครับ
สำหรับเครื่องอำนวยความสะดวกก็มีให้ครบครันนะครับ ทั้งกล้องวงจรปิด ที่สามารถใช้งานและดูแลความปลอดภัยได้ตลอดการเดินทาง รวมทั้งมีหน้าจอมอนิเตอร์สำหรับคอยแจ้งสถานีการเดินทางต่อไปคือสถานีอะไร สามารถเดินทางถึงเวลาประมาณเท่าไหร่ อุณหภูมิภายนอกเป็นอย่างไร เพื่อการเตรียมการสำหรับแจ้งผู้ที่จะมาคอยรับตนเองได้อย่างถูกต้อง
และสำหรับในบริเวณที่นอนของเราเองก็จะมีปลั๊กไฟสำหรับการชาร์ตแบตเตอรี่ หรือ อุปกรณ์ไอทีของผู้โดยสารพร้อมไฟใช้สำหรับเป็นแสงสว่างในการอ่านหนังสือระหว่างการเดินทางด้วยครับ
และสำหรับผู้เดินทางที่เป็นผู้พิการเองก็ไม่ต้องกังวลไปครับ ที่นี่มีบริการรองรับด้วยครับ เดินทางได้อย่างปลอดภัยหายห่วงครับ
ต่อมาก็เป็นในส่วนของห้องอาหาร จะมีขบวนตู้อาหารอยู่ 1 ขบวน บริเวณตอนกลางของขบวนรถไฟครับ ที่นี่ดูสะอาดมาก มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก อาหารจะเป็นอาหารประเภทนำมาเข้าไมโครเวฟแล้วรับประทาน ราคาไม่แพงครับ เครื่องดื่มก็มีบริการ จะมีแบบที่นั่งสำหรับบุคคลทั่วไป
นอกจากนี้ก็มีที่นั่งสำหรับผู้ผู้พิการด้วยครับ สะดวกสบายเช่นเดียวกัน
สำหรับเมนูอาหาร จะมีวางไว้ที่โต๊ะนะครับ ดูแล้วก็เดินไปสั่งอาหารได้ที่เคาท์เตอร์บริการพร้อมชำระเงิน แล้วก็นำมารับประทานได้ที่โต๊ะเลยครับ
สำหรับผมเอง มื้อนี้ขอจัดข้าวผัดแกงเขียวหวานไก่ไข่ดาวพร้อมกับโค้กครับ
นี่ไง อาหารของผม หน้าตาผ่าน รสชาติผ่าน บรรยากาศผ่าน โอเคอยู่นะครับ
ทานเสร็จก็ต้องเก็บทิ้งด้วยตนเองนะครับ เพื่อคนต่อไปจะได้มานั่งทานต่อครับ
หลังจากทานเสร็จแล้ว ก็ถึงคราวต้องพักผ่อนกันระครับ ที่นี่มีม่านกั้นให้ด้วยนะครับ แต่เนื่องจากแสงไฟที่สว่างมาก ทำให้การนอนอาจจะมีปัญหาบ้างนะครับ แต่หากเหนื่อยมาพอสมควรอย่างผมแล้วก็หลับได้สบายครับ
นอนหลับได้ไม่ถึง 3 ชั่วโมง เค้าก็พาผมมาถึงสถานีปลายทาง สถานีรถไฟศิลาอาสน์แล้วครับ ใช้เวลาเดินทางรวมทั้งสิ้นจากสถานีรถไฟอยุธยา ประมาณ 6 ชั่วโมง ถึงเวลาประมาณ 03.00 น. สะอาด ปลอดภัยแถมรวดเร็วไปอีก
การเดินทางคนเดียวมันก็จะดีดีหน่อยอะเนอะ ถ้าชอบการเดินทาง หากเคยไปกับกลุ่มเพื่อน ครอบครัวแล้ว ก็ลองหาโอกาสเดินทางคนเดียวดูบ้างนะครับ แล้วเราก็จะได้อารมณ์ไปอีกแบบหนึ่ง ซึ่งอาจจะทำให้คุณติดใจได้เช่นเดียวกันนะครับ
. . อุ ต ร า วิ ถี 2 0 1 7 . .
ขอขอบคุณข้อมูลจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย ครับผม
FreelyThailand
วันพฤหัสที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 11.06 น.