รีวิวตอน 1. แชร์ประสบการณ์ตกเครื่อง กระเป๋าหาย แถมรีวิวพร้อมที่พัก 1 คืน ที่กรุงเวียนนา ออสเตรีย

รีวิวตอน 2. ขอบฟ้านั้นอยู่หนใด เอ๊ะนั่นไงที่ "ลียง"

รีวิวตอน 3. One day ในวันดีดีที่เจนีวา (Geneva Switzerland)

*** รีวิวนี้ ผมเป็นคนเสียค่าใช้จ่ายและบริการเองทั้งหมด และเพื่อเป็นแนวทางในการเดินทางของหลายๆท่าน ผมเลยนำประสบการณ์ที่ผมได้รับมา รีวิว ครับ สำหรับรีวิวเต็มๆ ผมจะค่อยๆทยอยเขียนรีวิวให้ชมกันครับ

หากท่านต้องการสอบถาม พูดคุย กับผมมีอีกช่องทางนึงครับ https://www.facebook.com/littleduckinthefog inbox message มาคุยกับผมได้เลยครับ

มาต่อกันเลยนะครับ ขอเกริ่นนิดนึงนะครับ นี่เป็นเหตุผลหลักของทริปเลยที่พวกเราต้องการที่จะมาเมืองนี้ ผมวางแผนการเดินทางในทริปนี้ช่วงประมาณเดือน พฤศจิกายน 2016 ซึ่งหลายๆท่านคงรู้กันอยู่ว่าประชาชนคนไทยทุกคนต้องเจอกับเหตุการณ์ใดบ้าง ประกอบกับผมจองตั๋วเครื่องบินไปยุโรปอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้สรุป plan ที่แน่นอน ผมเลยแทรกแผนเที่ยวที่เมืองโลซานน์นี้เพื่อตามรอยฝ่าพระบาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทร์ มหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ไว้ในทริปนี้เลย

มาเริ่มต้นกันที่สถานีรถไฟ Geneve กันเลยนะครับ ผมเดินทางไปโลซานน์ด้วยรถไฟระหว่างเมือง โดยซื้อตั๋วจากตู้หน้าสถานีนั้นแหละครับ ค้นเมนูไปเรื่อยๆผมไปเจอ Package ไป - กลับ รวมตั๋ว transportation ที่โลซานน์ ประมาณ 50e หน่อยๆ (จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่) ผมเลยเอาอันนี้แหละ แต่ถ้า Fix เวลาเอาไว้แล้วแนะนำจองในเวป SBB.CH เลยนะครับ เลือกเมนู Super saver Ticket ราคาจะลดลง 50% เลยล่ะครับ แต่ไม่รวมตั๋ว One day pass ใน Lausanne นะครับ

เมื่อมาถึงสถานีโลซานน์ ผมนั่งรถไฟ (Metro) รถไฟใต้ดินแหละครับ ไปลงที่สถานี Sallaz แล้วเดินมารอรถประจำทางที่ป้ายสาย 42 ครับ (ที่นี่แต่ละสายมีจุดจอดรถที่ตายตัวครับ ไม่ต้องห่วงเลยว่าจะขึ้นคันไหน) รถมาเป็นเวลาครับ เราจะเดินทางไปโรงเรียนประถมที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร์ มหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เคยทรงศึกษาในครั้งทรงพระเยาว์ เมื่อขึ้นรถประจำทางสาย 42 แล้วให้ลงป้าย Rozavère นะครับ

เมื่อรถจอดที่ป้าย Rozavère แล้วให้เดินย้อนลงเข้ามานิดนึงนะครับ ก็จะเจอป้ายเข้าโรงเรียนเลย วันที่ผมไปเป็นวันอาทิตย์เลยไม่มีคนซักเท่าไหร่นะครับ

Ecole Nouvelle de la Suisse Romande (ขออนุญาติไม่สะกดไทยนะครับ เดี๋ยวผิด)

เดินเข้ามา 50 เมตรเราจะเจอกับรถโรงเรียน (น่ารักเชียวแหละ) อากาศดีมากๆครับ สูดหายใจเต็มปอดมาก

ภายในบริเวณโรงเรียน ที่ผมสังเกตุคร่าวๆมีอยู่ 3-4 ตึก รู้สึกร่มรื่นมากๆครับเอาความรู้สึกผมจริงๆ ณ ขณะนั้น ที่ผมยืนอยู่ตรงนั้น ผมคิดถึงภาพสมัยเก่าๆ สีขาวดำ มีเด็กๆวิ่งเล่นที่สนามเด็กเล่น ความรู้สึกขณะนั้น สร้างความปลื้มปิติให้กับผมจริงๆ ถึงแม้ในขณะนั้นไม่มีใครอยู่ในบริเวณนั้นเลย นอกจากเรา 4 คนเท่านั้น

นี่คือผลงานศิลปะของเด็กๆครับ ถึงจัดไว้ในห้องกระจกใส (เจ๋งอ่ะ)

และนี่เป็นหลักฐานเดียวคือ ป้ายสัญลักษณ์ ภปร. ที่ผมได้เห็นภายนอกโรงเรียนนี้ซึ่งเป็นหลักฐานว่า รัชกาลที่ 8 และ รัชกาลที่ 9 ของเราเคยทรงศึกษาที่นี่ ความรู้สึกตอนนั้นของผมคือ (น้ำตามันจ่ออยู่ตรงเบ้าตา) แม้กระทั่งขณะที่เขียนรีวิวอยู่ตอนนี้ น้ำตาก็จ่อตรงเบ้าตา อีกแล้ว

พอออกมาจากโรงเรียน ยังไงดี ด้วยความที่ว่า ถนนที่รถมาอ่ะ มันเดินรถทางเดียว (รึเปล่าไม่รู้) แต่ที่รู้คือ ไม่มีใครให้ถามเลย ฮ่าๆๆ พวกเราเลยเปิด Google Map และตัดสินใจเดินกลับไปที่สถานี Sallaz เลย เหมือนจะไกล แต่เดินจริงๆ อากาศมันดี ย้ำว่าดีมากๆ เดินไม่เหนื่อยเลย ไม่เกิน 20 นาทีก็ถึงครับ

ผมนั่ง Metro จากสถานี Sallaz มาลงที่ Riponne-M. Béjart เพื่อมาเดินเล่นที่ Palais de Rumine ถึงตรงนี้ผมอยากเข้าห้องน้ำมากๆ ประมาณว่าไม่ไหวแล้ว ด้านหน้าของ Palais de Rumine มีห้องน้ำนะครับ แต่.......มันเป็นห้องน้ำของพวกเล่นยานะครับ ในห้องน้ำมีที่ทิ้งเข็มด้วย น่ากลัวมากๆ แต่ต้องเข้า (ถ้าผมเข้าใจผิดแก้ให้ด้วยนะครับ) แต่ดูแล้วมันที่เล่นยาจริงๆ

ผมเดินย้อนลงทางลงเขามาทางขวามือของตัวปราสาท เพื่อหาของกิน บอกเลยว่าหายากมากๆ ที่ง่ายๆคือแพงสุดๆ พอดีว่าวันนั้นมีการแข่งขันจักรยานด้วย เลยมีร้านรถเข็นขาย ฮอทด๊อก ไอศครีม กับ เครปแค่สามร้าน ผมซื้อฮอทด๊อกอันละประมาณ 200 บาทไทยไป 1 อันประมาณที่ซื้อใน 7-11 บ้านเรานั้นแหละครับ

ผมเดินย้อนขึ้นมาทางเดิมแล้วขึ้นบันไดที่ Palais de Rumine เพื่อไป La Cathédrale de Lausanne

ผมเดินทางไปต่อที่สถานี Ouchy ที่ตรงนี้มันคือริมทะเล ท่านสามารถเดินเลียบชายฝั่ง อันย๊าวว ยาวว เพื่อชมบรรยากาศอันแสนจะโรแมนติก เย็นสบาย โค-ตร ฟิน บอกเลยวาเลอเลิศ

ดอกไม้มาเต็มๆ สวยจริงๆ บอกเลยว่าต้องมา

ยังไม่หนำใจ ให้เลยอีกรูป

เดินเลียบชายฝั่งมาเรื่อยๆ จะเจอ The Olympic Museum Le Musée Olympique แต่ผมขี้เกียจเข้าอ่ะครับ Museum นี่ไม่ใช่แนวผมอ่ะครับ ฮ่าๆๆ เดินมาเรื่อยๆจะเจอ Pavillon thaïlandais นี่คือจุดมุ่งหมายสุดท้ายใน โลซานน์ ของพวกเราครับ ศาลานี้ที่สร้างขึ้นเพื่อความสัมพันธ์ไมตรี ไทย - สวิตเซอร์แลนด์ และเพื่อน้อมรำลึกถึงสมเด็จย่า และ รัชกาลที่ 8 และ รัชกาลที่ 9 ของเราครับ

ลากันด้วยภาพบรรยากาศ แบบเนี้ย อย่างเงี้ย ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี ฮ่าๆๆ

สุดท้ายนี้ หากข้อมูลใดผิดพลาด ผมต้องขออภัยไว้ก่อนด้วยนะครับ หากสนใจหรือสอบถามอะไร สอบถามผมได้เลยครับ inbox หรือ like Fan Page ผมมาคุยกันได้ครับ https://www.facebook.com/littleduckinthefog ครับ

I am a Runner

 วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 21.24 น.

ความคิดเห็น