เป็นความรู้สึกดีดี ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง หรือเรียกว่าการค้นพบตัวเองอีกครั้ง

เมื่อได้มาพักแพ ที่กาญจนบุรี ที่มีชื่อว่า

Rayaburi Resort (รายาบุรี รีสอร์ท)

ระยะเวลาในการเดินทางกว่า 3 ชั่วโมงไม่ใช่น้อยๆ เลยนะคะ สำหรับเรามองว่าไกลเอาเรื่องเหมือนกัน

แต่เราพักแค่ 1 คืนเท่านั้น จึงรู้สึกว่ายังสุขไม่สุด ถ้าให้ดีคือ 2 คืนนี่และฟินของแท้แน่นอน

แค่เราพัก 1 คืน ความสบายใจ ความรู้สึกดีกับบรรยากาศรอบๆ ข้างก็ฟินสุดใจจริงๆค่ะ

เพราะนี่คือ การมานอนในแพครั้งแรกของเราด้วยล่ะ ซึ่งพอเปิดห้องพัก มายังระเบียงออกมาก็เจอน้ำในเขื่อนศรีนครินทร์

ที่เวิ้งว้างสุดตา ยิ่งมาหน้าฝน อากาศไม่ร้อน ฝนปรอยๆ ด้วย แต่ทว่าเรากลับไม่รู้สึกเซ็งหรือเบื่อเลย

เพราะในรีสอร์ทยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้เล่นกันสนุกๆด้วย คือการพายเรือคายัค ปั่นจักรยานน้ำ

และล่องแพไปยังเขื่อนศรี ลมเย็นๆ ปะทะหน้า แบบสบายอย่างที่สุด

ที่นี่สำหรับเรา จึงเป็นอะไรที่มากกว่าการเปลียนที่นอนเฉยๆ นะคะ

นั่นคือได้เปลี่ยนความรู้สึกของเราเป็นความชื่นชอบ ที่ได้มานอนแพแห่งนี้

เมื่อเรากลับออกมาทำให้เรานึกถึงที่นีได้อีก เพราะความรู้สึกนี้ไม่ธรรมดาสำหรับเราเสียแล้ว

รายาบุรี

บอกเลยค่ะว่า คุ้มค่าแล้วที่ได้มาเยือนสักครั้ง



การเดินทางของเราตามเส้นทางกูเกิ้ล map เนี่ย มาได้หลายทางเหมือนกันนะคะ เราปักจุดเริ่มต้นที่กรุงเทพเลยล่ะกัน

ใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ 3 ชั่วโมงกว่าๆ เผื่อเวลาไว้อีกเพราะมีแวะกินข้าวและเที่ยวรายทางด้วย อิอิ

สำหรับการเดินทางมายัง รายาบุรี กาญจนบุรี แห่งนี้เราว่าเดินทางด้วยรถส่วนตัวจะสะดวกที่สุดแล้วล่ะคะ

เพราะสถานที่ทำเลที่ตั้ง ไม่มีรถโดยสารสาธารณะวิ่งผ่าน เพราะเข้าเขตพื้นที่ส่วนตัวห่างจากถนนสายหลักค่อนข้างมากทีเดียว รายาบุรี รีสอร์ท กาญจนบุรี ตั้งอยู่บนเหนือเขื่อนศรีนครินทร์ ต.ท่ากระดาน อ. ศรีสวัสดิ์ ห่างจากตัวเมืองกาญ ราวๆ 1 ชั่วโมง

เมื่อเลือกที่จะมาพักผ่อนที่รายาบุรีแห่งนี้ แรกเริมเราไม่ได้คาดหวังอะไรนะคะ เพราะคิดว่าก็คงมานอนเล่น หรือเหมือนกับโรงแรมรีสอร์ททั่วไปนั่นแหละ

เพราะเราก็เดินทางพักโรงแรมรีสอร์ทต่างๆ มานับไม่ถ้วน แม้แต่จังหวัดกาญจบุรี เราก็เคยมาหลายครั้งด้วยเช่นกัน

แต่ทุกครั้ง คือเราไม่เคยได้มีโอกาสมานอนแพแบบนี้เลยค่ะ

ครั้งนี้จึงเป็นการนอนบนแพครั้งแรกของเราเอง มันต่นเต้นตั้งแต่เรานั่งผ่านแม่น้ำแควน้อยไหลผ่านและมีรีสอร์ทต่างๆ

ตั้งเรียงรายอยู่เยอะมาก และลุ้นให้ถึงรายาบุรีแห่งนี้เสียที


มาถึง รายาบุรี รีสอร์ทแล้วค่าาา มีคาเฟ่เล็กๆ ตกแต่งสวยงามและข้างๆ จะมีมิมาร์ทไว้บริการแขกที่พักด้วย

เผื่อลืมเอาไรมา มินิมาร์ทแห่งนี้ก็มีของทีต้องการให้ด้วยเช่นกันค่า

ไม่รอช้าขอเข้ามาสั่ง "ชานมเย็น" เครื่องดื่มที่เราโปรดปรานแก้วหนึ่งชิมๆ ดูหน่อย

ปรากฏว่ารสชาติอร่อยถูกปากเราน้าาา เพราะเราชอบแบบไม่หวานมาก กลางๆ พนักงานเค้าทำให้โดยไม่ได้ถามเราเลยว่าต้องการแบบไหน

แต่กลับได้รสชาติที่ถูกปากเราจริงๆค่ะ

แบบว่าเราน่ะคอชานมเย็นของแท้เลยแหละ รู้ว่าแบบไหนอร่อย อันนี้ไม่ได้โม้นะ ถึงได้บอกไงว่า นี่คือเครื่องดื่มประจำตัวเราไปเสียแล้ว อิอิ

ร้านกาแฟเล็กๆ น่ารัก ยังมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ให้เช็คอินกันด้วยจ้าาาา


ว่าแล้วนางแบบคนสวยก็ไม่รอช้ากับมุมมหาชนของร้านกาแฟแห่งนี้ด้วยค่ะ


เดินไปเช็คอินตรง Lobby กันนะ



ภายใน Lobby ของรายาบุรี ตกแต่งด้วยไม้กับสีสลับไม้ประดับ

คร่าวๆ ดูมีอายุหน่อยๆ นะคะ ทราบมาว่า ที่นี่เปิดให้บริการปรมาณ 9 ปีแล้วค่า

พอเราโพสเช็คอินที่เฟสบุ๊คหน่อยมีเเพื่อนๆ มาคอมเม้นต์ว่า เคยมาแล้วบ้าง

จองห้องไม่ค่อยจะว่างบ้างล่ะ แสดงว่า ที่นี่ค่อนข้างจะเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวกันเยอะอยู่นะคะ

เรานี่แหละเพิ่งเคยได้มาไง อิอิ


มี Welcome drink เย็นๆ ชื่นใจให้ด้วยค่า

หลังจากที่เราเช็คอิน เอกสารการเช็คอินด้วยบัตรประชาชน และกรอกข้อมูลพื้นฐานด้วยนิดหน่อยและรับกญแจห้อง พร้อมกันบัตรทานอาหารเช้าค่ะ

ป่ะ เข้าห้องพักกันค่าา อยากพักผ่อนบ้างแล้ว



ที่พักเราคืนนี้เลือกแบบนอนแพค่า ห้องพักของรายาบุรีมีด้วยกัน 5 Typeด้วยกันค่ะ ราคาเริ่มต้น 1800+ พร้อมอาหารเช้า

แบบห้องพักคือ

– Raya River View

– Raya Island Suite >> เราได้ห้องพักประเภทนี้ล่ะจ้า

– Raya Lake View

– Raya Island

– Raya Hillside

ถามว่า 5 แบบแตกต่างกันยังไง เมื่อสอบถามพนักานแล้วได้ความว่า มีทั้งห้องพักบนฝั่ง ห้องพักที่เห็นวิวหลายๆ แบบ

และเป็นแบบบ้านพักอีกด้วยค่า รวมทั้งสิ้น 79 ห้อง

เราเดินลงมาที่แพล่ะน้าาาจะมีห้องพักซ้ายขวา ตรงกลางจะเป็นลานกว้างๆ สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ ค่ะและเป็นทาเรือ ท่าน้ำด้วย

ซ้ายขวาห้องพักก็ต่างกันด้วย สอบถามมาแล้วว่า อยุ่บนแพเหมือนกัน แต่ขนาดห้องพักต่างกันค่า


มีจักรยานน้ำให้เช่าด้วยนะคะ ชั่วโมงละ 100 บาท เราไม่ได้มาปั่นเล่นอ่ะ เพราะดูท่าจะปั่นจนเมื่อย 555

แต่เราสนใจที่อยากพายเรือคายัคนู้นแหน่ะ เมื่อสอบถามรายละเอียดมาแล้ว คือลูกค้าที่มาพักที่รายาบุรีแห่งนี้

สามารถพายเรือคายัคได้ฟรีๆในชั่วโมงแรก โดยสามารถไปมัดจำไม้พาย 200 บาทที่ Lobby ได้เลยค่ะ

และหากพายเรือเสร็จแล้วเอาไม้พายไปคืนก็จะได้เงินมัดจำคืน ส่วนใครจะเล่นต่อในชั่วโมงที่ 2-3 ก็จะเสียค่าเชาต่อ 100 บาท

แต่เราว่านะไม่เกินชั่วโมงเดียวนี่ก็สลายแคลลอรี่ได้ไปเยอะแล้วล่ะ 555

นี่เล้ยๆ รายาบุรี กับบรรยากาศตอนเย็นหน้าฝน มีละอองหมอกให้เห็นในเวลานี้อีกต่างหาก ฟินเนอะ


ทางเดินไปยังหัองพักต่างๆ บนแพค่ะ เนื่องจากบนแพวัสดุก่อสร้างทุกอย่างต้องเบา เห็นฐานที่ลอยน้ำเป็นถังขนาดใหญ่

และห้องพักก็เรียงรายกันเป็นแถวเดียวด้วย เวลาเดินจะมีเสียงด้วยนะคะ

เราว่าถ้าต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบที่ใครเดินผ่านหน้าห้องพักได้ยินเสียงเหล่านี้ก็ระบุจองห้องพักด้านในๆ สุดค่า

ส่วนเราน่ะ ได้ห้องพักด้านในสุดอยู่แล้ว



เปิดเข้าห้องพักมาก็มานั่งเป็นนางเอกมิวสิคเลยจ้าาาาา

หลังระเบียงเหล่านั้น เห็นน้ำในเขื่อนสวยๆ เต็มๆ ตา เรามาช่วงหน้าฝน

ไม่หวังหรอกพระอาทิตย์สวยๆ หรือช่วง Sunset

เพราะแค่นี้เราก็ฟินแล้ว


ห้องน้ำในตัวพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันค่ะ

มีไดร์เป่าผมให้ด้วย แยกโซนแห้งโซนเปียกออกจากกัน ม่านกระจกในห้องอาบน้ำนั่น

ตอนแรกก็เข้าใจว่าเลื่อนได้นะ แต่พอเข้าไปใช้เป็นม่านระจกติดตายค่า

ยามเย็นวันนี้ ที่รายาบุรี กับช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนของเรา



บอกเลยค่ะว่า บรรยากาศแบบนี้น่ะ กรี๊ดมากกกก เราชอบ

จินตนาการไปว่า ถ้ามากับเพื่อนหลายๆ คนที่สนิทๆ กัน จองห้องพักติดๆ กันนี่คงสนุกอย่างมาก

เพราะระเบียงห้องพักเชื่อมติดกันทั้งหมดสามารถเดินเข้าหากันได้ด้วย

แต่วันนี้เรามาพักวันธรรมดาค่ะ ลูกค้าบนแพนี้ไม่เยอะ แบบนี้แหละเค้าเรียกว่า วันธรรมดาน่าเที่ยว

ก็เท่ากับว่า เราแทบจเหมาๆ แพฝั่งนี้เกือบทั้งหมดเลยว่าได้ อิอิ



โคตร คลู และโคตรชอบในบรรยากาศในช่วงเวลานี้จริงๆ

แต่อยากบอกนะคะว่า ถ้ามาช่วงอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน้าฝน จะได้เห็นพระอาทิตย์ตกด้วย มุมนี้จะเป็นมุมที่โรแมนติกที่สุดอีกต่างหาก

โอ้ววววว ฟินจริงๆ ค่า




เราพักผ่อนนอนเล่นที่ห้องจนหนำใจแล้ว ก็เดินขึ้นไปที่ด้านบนบกกันต่อค่า

จริงๆ มีลิฟท์ให้ด้วยนะคะ แต่เป็นระยะสั้นๆค่ะ เพราะยังไง ก็ต้องได้เดินบันไดต่ออยู่แล้ว เราจึงเดือกเดินขึนลงดีกว่า

ถือว่าได้ออกกำลังกายในยามนี้ไปด้วย



มีมุมเก๋ๆ จุดไหนที่จะโพสท่าถ่ายรูปได้ เราก็จะไมปล่อยให้ว่างเปล่าอย่างเด็ดขาด 555

จัดการซะ นางแบบ ข้อดีของการมาเดินมาจุดนี้คนเดียวแต่อยากได้ภาพตรงนี้ เปิด app ในมือถือและกดชัตเตอร์ผ่านมือถืออีกครั้ง

โดยวางกล้องไว้บนขาตั้งกล้อง แค่นี้แหละค่าก็ได้มุมสวยๆ ของรายาบุรี ไปครอบครองแล้ว เย้




แสงเย็น ยิ่งสวย และยิ่งมีเสน่ห์จริงๆ ค่า เราชอบได้อีกกกกก




เข้ามาภายใน Lobby และส่วนของร้านอาหาร มาแอบส่องมุมเครื่องดื่ม และคออกเทลของรายาบุรี

แต่เราไม่ได้ลิ้มลองไรหรอก นอกจากโค้ก อิอิ

ทางเข้าห้องอาหารมีป้ายเมนูรายการอาหารแนะนำด้วยน้า

ก่อนที่เราจะมาที่รายาบุรี เราก็เสิจหารีวิว ของคนเข้าพักก่อนหน้าที่เขาได้เขียนไว้

หลายปากหลายเสียงบอกว่า อาหารที่ครัวรายาบุรี อร่อยด้วย ฮ้าาา แบบนี้้ต้องไปลิ้มลองกันหน่อยแล้ว




ก่อนจะลงมือทานอาหาร ทำไรก่อนดีน้าาาาาา

นี่เลยค่ามาดูเมนูบนโต๊ะอาหารของเรากันค่ะ ว่าเด็ดแค่ไหน มีเมนุแนะนำจากทางรายาบุรีด้วย

พร้อมกับบรรยากาศชิลๆ มองลงไปเห็นวิวเขือนและแพ แสงสีระยิบระยับเบื้องล่าง

ประเดิมรายการแรกเป็นน้ำพริกมะขามพร้อมผักจิ้มสารพัดจัดมาได้น่าตาดีมาก



ตามด้วยต้มยำกุ้งแม่น้ำมะพร้าวอ่อน เราชอบเมนูนี้เป็นทุนเดิมอยู่ด้วย รอบนี้น้ำใส ถูกปากถูกใจเราเมื่อตักใส่เนื้อมะพร้าวนี่แหละ ฟินค่ะ อิอิ

ผัดผักรวมกุ้งสด เค้าจัดจานมีหัวใจเก๋ๆ ด้วยนะเออ

ปลาสามรสตัวโตมากกกกกก จานนี้ไม่หมดค่ะ เพราะเยอะจริงๆ

เมนูสุดท้ายเราสั่งเพิ่ม ปีกไก่ทอดเกลือ ทอดมาร้อนๆ ได้อร่อยมาก เราชอบ

สรุปว่าราายการอาหารที่รายาบุรี รีสอร์ท กาญจบุรีแห่งนี้เราให้ผ่านค่าาา

มาการรันตีเพิ่มให้อีกหนึ่งเสียง

เพราะเหมาะ และสะดวกอย่างมากสำหรับแขกที่มาพักที่นี่ไม้ต้องออกไปหาทานที่ไหนแล้ว เพราะค่อนข้างไกลจากสถานที่ด้านนอก

การสั่งทานอาหารที่รีสอร์ทจึงเป็นตัวเลือกที่โอเคสุด ยิ่งหากมีเมนุอร่อยๆ เหล่านี้รวมด้วย ยิ่งเพิ่มความสบายใจมากขึ้นไปอีกนะเออ


ตัดมาที่แสงเช้าตรู่ ในยามเช้า เรากะว่าตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นเสียหนอ่ย

แต่ฝนตกปรอยๆค่ะ 555 นอนต่อก็ได้เนอะ อิอิ



ช่วงเวลาของการพักผ่อนของเราคือการทำตัวสบายๆ ค่ะ ไม่รีบร้อน และไม่รีบเร่ง

เพื่อที่จะให้เราได้ซึมซับกับบรรยากาศสถานที่แห่งนั้นได้มากที่สุด

หากเรารีบเร่ง รีบร้อนไรมากเกินไป เราจะสนุกกับมันได้เอย่างไร ว่ามั้ย

เช้านี้เราจึงมาทานอาหารเข้าสายๆ หน่อย แต่ก็อยู่ในเวลาที่ทางรีสอร์ทกำหนดไว้นะคะ คือไม่เกิน 10.00 น.

ตามด้วยโปรแกรมวันนี้เรามีนัดล่องแพไปชิลๆ บนเขือนศรีฯ กันจ้า


ไลน์อาหารเช้าในส่วนเครื่องดื่มจะให้บริการตัวเองค่ะ

แต่ถ้ามาช่วงวันหยุดหรือวันที่มีคนเช็คอินเยอะ ทางรีสอร์ทจะจัดไลน์อาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟต์ให้นะคะ

แต่สำหรับเราช่วงที่ไปคือจะมีเมนูให้เลือกเลยว่าจะทานเป็น ABF หรือชุดข้าวต้มดี

แน่นอนอยู่แล้วว่า มือเช้าของเราเลือกเป็นข้าวต้มหมูจ้า เพราะอิ่มท้องได้มากกว่า



ตามด้วยสลัดผักและผลไม้ตามฤดูกาลสองรายการนี้จะมีให้กับลูกค้าทุกคนอยู่แล้วนะคะ โดยไม่ได้สั่งเพิ่มค่ะ

แค่นี้มือเช้าสำหรับเราก็อิ่มได้ที่

ไปไหนต่อดี ไปหาความตื่นเต้นเล่นซะหน่อย อิอิ



นี่เล้ยยย มาพายเรือคายัคกันค่ะ อยากบอกว่าเป็นครั้งแรกของเราด้วยนะ เราไม่เคยพายเรือคายัคมาก่อน

เดิมจะได้พายหลายที หลายครั้งแล้วก็ไม่พายซะงั้น มาครั้งนี้เห็นน้ำบนเขื่อนนิ่งๆ มาาาาาค่ะ ขอลอง

ลองครั้งแรกก็ช่างกล้า ลืมใส่เสื้อชูชีพด้วยซะงั้น 555


แต่บอกได้เลยนะว่า เราติดใจ สนุกมาก ชอบมาก ตื่นเต้นดี

แต่ถ้าได้มีโอกาสอีก ขอพายคนเดียวนะ แบบว่าจะได้แก้ปัญหาด้วยตัวเองในการพายไปแต่ละจุด

และบังคับทิศทาง และตัดสินใจด้วยตัวเองแบบนี้แหละชอบ


โปรแกรมต่อไปที่ไม่ควรพลาด้วยประการทั้งปวงค่า นี่เล้ยๆ

ล่องแพบนเขือนศรีฯ ในบรรยากาศสุดชิล




เป็นแพของรายาบุรี รีสอร์ท พร้อมคนขับแพด้วย ขนาดสองชั้น

เรียกว่าบรรจุคนได้หลายสิบคนเลยนะคะ แต่เรานี่ ดูดิ เหมาแพ 555

แพขับเคลื่อนแล่นไปบนเขื่อนศรีใช้เวลาไปกลับ ราวๆ 1 ชั่วโมง ไม่เร่งไม่รีบ

ขับได้สบายๆ ปะทะกับลมเย็นๆ นี่โคตรชิล

การล่องแพเป้นหนึ่งในโปรแกรมของรายาบุรีนะคะ อ้อมีเป็นแบบแพ็คเก็จสำหรับที่พักด้วย

แบบว่ามาพัก 2 วันหนึ่งคืน ก็จะรวมบริการนี้เข้าไปอีก หรือจะซื้อเพิ่มตอนเข้าพักก็ได้ค่ะ คนละ 300 บาท


คนละ 300 บาทก็จะมีอาหารว่างบนแพ พร้อมเครื่องดื้มให้เราเลือกอีกด้วยน้า น้ำแข็งหิ้วมาเป็นกระติกๆ เลย แนะนำว่ารวมๆ กันมากับเพื่อน กับครอบครัวสนุกฟินแน่นอนค่า



ลุงคนขับแพก็ใจดี คุยสนุก เล่าเรื่องนั่นนี่ให้ฟัง

และบอกด้วยว่าชวงเวลาที่สวยที่สุดของการล่องแพคือข่วงเย็น ก่อนพระอาทิตย์ตกค่ะ

ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่โรแมนติกได้อีก

ส่วนใครจะมา Relax หรือทำมิวสิคเพลงดังๆ เฮฮาบนแพนี้ก็ได้ไม่ว่ากัน สนุกแน่ๆ เรามั่นใจ อิอิ

เก็บไว้เป็นความทรงจำอีกหนึ่งแห่ง หนึ่งสถานที่ที่เราได้มาพักครั้งนี้

มีโอกาสคงได้ไปพักอีกแน่นอนค่ะเพราะรู้ตัวเองแล้วว่าชอบแบบนี้ ^^

รายาบุรี กาญจบุรี สถานที่พักสุดชิล ชื่นชอบบรรยากาศดีดีแบบนี้ ประทับใจและอยากบอกต่อจริงค่ะ


www.rayaburiresort.com

หรือโทร. 02 316 3577, 02 317 1274-5

Line id: rayaburi



ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ



RinSa YoyoLive

 วันพฤหัสที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 10.38 น.

ความคิดเห็น