ทริปนี้เกิดได้ เพราะ ราคาตั๋วโปรนำ และเอาแต่ใจ จริงๆ นะ ด้วยว่าช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ ยังไม่มีทริปไปไหน มันจะรู้สึกแปลกๆ เราต้องใช้วันหยุดยาวให้คุ้มค่า สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ ที่บอกมาทั้งหมด ก็หาเรื่องเที่ยวนั่นเอง แฮะๆ ... ยังไงละ เมื่อมีเปิดบินเส้นทางบินใหม่ ดอนเมือง - เฉิงตู ตามประสาสายการบินเมื่อเปิดบินเส้นใหม่มักจะออกราคาตั๋วโปรโมชั่น เอาใจคนมีฐานะ(ยากจน)อย่างเราๆ ไม่คิดอะไรมากจองตั๋วไว้ก่อนแล้วค่อยหาที่เที่ยว ได้ราคาไปกลับคนละ 4,500 บาทโดยประมาณ บินลงเฉิงตู มณฑลเสฉวน มีที่เที่ยวแยะเลย ว่าแล้วแนวร่วมว่าไง ตามกันไปแบบไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวไหน และใช้งบประมาณเท่าไหร่ ก็ยังจะไปด้วย ฮาๆ ทริปนี้ก็เลย #เอาแต่ใจ ^_^

ได้ตั๋วบินกันแล้ว ซักพักที่เที่ยวก็จะตามมา ย่าติง ผุดขึ้นมาในทันใด Road trip กันดีมั้ย ยาวๆ 10 วัน ตัดสินใจปักหมุดปลายทางที่นี่ละ อุทยานย่าติง หรือ Yading หรือ 亚丁国家保护区

แต่ด้วยว่าปลายทางไกลมากจากเฉิงตูไปก็เกือบพันกิโลเมตร และสูงจากระดับน้ำทะเลเกือบ 4 พันเมตร ก็เลยต้องแวะเที่ยวและพักค้างคืนเมืองระหว่างทางไปเรื่อยๆ ใช้เวลา 3 วัน 3 คืน ปรับสภาพร่างกายไปด้วย สบายๆ ชิลๆ

คีย์เวิร์ดออกมาแล้ว ตามเส้นทางถนนหมายเลข G318 ผ่านเมืองต่างๆ ตามนี้ เลือกเลยอยากพักค้างเมืองไหน ตามเวลาที่เราเดินทางไปถึง ค่ำไหนนอนนั้น แบบไปจองกันหน้างาน

Chengdu - Ya'-an - Luding - Moxi - Hailuogou - Kanding - Xinduqiaozhen - Litang - Daocheng - Riwa, Shangri-La - Yading

ปะๆ ตามไปเที่ยวด้วยกันเลยค่ะ

เนื่องจากไฟล์ทบินถึงเฉิงตูตี 2 เวลาจีน รถที่เราเหมาไว้ ซึ่งเราติดต่อและเหมาไว้ก่อนเดินทางแค่ 3 วัน แฮะๆ เค้าจะมารับและเดินทางได้ 6 โมงเช้า ก็ต้องนอนรอที่สนามบินซิคะ หาทำเลกันได้ตามชอบใจ จากนั้น 6 โมงเช้าก็เริ่ม Road trip ของพวกเราได้

เป้าหมายของช่วงแรกก่อนจะไปให้ถึงย่าติง ที่ อุทยานธารน้ำแข็งไห่โหลวโกว (Hailuogou Glacier Park) เมืองมอซี Moxi ซึ่งเป็นเมืองที่กำลังพัฒนาและสร้างให้เป็นเมืองท่องเที่ยว พักค้างคืนของนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปเที่ยวไห่โหลวโกว

ระหว่างทางแวะจอดเข้าห้องน้ำ และเป็นจุดชมวิว ขอบอกว่าเส้นนี้ถือว่าวิวสวยมาก ดูเพลินๆ

เห็นเส้นถนนคดเคี้ยวแล้วมึน แต่ไหวอยู่

จากสนามบินเฉิงตู มาที่เมือง Moxi ระยะประมาณ 300กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางและแวะประมาณ 8 ชั่วโมงได้ เมืองนี้คือเมืองที่ตั้งของอุทยานไห่โหลวโกว คนขับพาไปพักที่ใกล้ทางเข้าอุทยาน ที่พักคนขับก็ช่วยหาให้ในงบที่เราบอกไว้และยอมรับกันได้ เราจะพักราคาเฉลี่ยที่ห้องละประมาณ 150หยวน (RMB) หรือประมาณ 750 บาท ซึ่งก็หาไม่ยากนะคะ ที่พักเยอะ ช่วง low ด้วยละ

มีเวลาช่วงเย็นก็เดินเที่ยวในเมือง Moxi กันก่อน

ร้านขายของชำ สังเกตุให้ดีนะคะ เมืองในหุบเขาแบบนี้ มีชุดว่ายน้ำขายจริงจังเลยอ่า ฮาๆ

มาถึงจีน ก็ไม่ควรพลาดปิ้งย่าง

อันนี้ชิ้นใหญ่ไปไม่กล้ากิน

เราสั่งชิ้นเล็กกินละกัน เริ่มต้นไม้ละ 5 หยวน นะ (รึป่าว จำไม่ค่อยได้ อิอิ)

อีก 1 เมนูห้ามพลาด มะเขือยาวเผาโรยด้วยเครื่องเทศ อร่อยๆ

ชามนี้ประมาณก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา เลือกได้ว่าจะใส่เนื้อหมู เนื้อวัว จามรี แอบกินอาหารที่มีความมันตั้งแต่มื้อแรกๆ แต่เดี๋ยวก็มันส์ 555+

เช้าๆ ก็รีบไปไห่โหลวโกว เพราะกลัวนักท่องเที่ยวจะเยอะ ซื้อตั๋วเข้าเที่ยวและตั๋วรถบัส คนละ 165หยวน

จากแผนที่ เราต้องนั่งรถบัสจากประตูทางเข้าไปจุดขึ้นกระเช้าขึ้นไปดูธารน้ำแข็งไห่โหลวโกว นั่งรถประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง

ถึงจุดขึ้นกระเช้าเคเบิ้ลคาร์ หรือใครไม่อยากนั่งกระเช้า ก็เดินประมาณ 5 หรือ 3 กิโลเมตรก็จะเห็นวิวธารน้ำแข็งแล้วนะคะ และมีบริการแบกหามพาไปได้ แต่เราไม่ เรานั่งกระเช้าดีกว่า เก็บแรงไว้ๆ อิอิ

บริเวณนี้ห้องน้ำสะอาด ลบภาพห้องน้ำจีนไปเลยค่ะ เป็นห้องน้ำที่ได้เรท AAA ไม่กล้าถ่ายห้องน้ำมาให้ดู แต่สะอาดจริงๆ นะ

จากนั้นไปขึ้นกระเช้า คนละ 150 หยวน ไปกลับ มาถึงจุดนี้ค่าเข้าสถานที่ก็แพงแล้วอะ แต่ยังยิ้มได้ :)

นั่งกระเช้าผ่านธารน้ำแข็ง แต่หมอกเยอะมาก

พอเห็นธารน้ำแข็ง เนื่องด้วยดินสไลด์มาทับ เลยจะเห็นน้ำแข็งเป็นสีแบบนี้

ถ่ายรูปสนุกสนาน

ก็มาถึงจุดชมวิว แบบว่าฟ้าไม่ค่อยเปิด ได้แค่นี้เนอะ ตรงซ้ายนั้นคือธารน้ำแข็ง ที่ได้ชื่อว่าเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุด

ไห่โหลวโกว อยู่ที่เมืองหลู่ติ้ง (Luding) มณฑลเสฉวน ห่างจากเฉิงตูประมาณ 300 กิโลเมตร เกิดจากลำธารที่มีน้ำแข็งเคลื่อนตัวละลายจากด้านตะวันออกของภูเขาก้งก่า (Mt.Gongga) ที่มียอดเขาความสูง 7,556 เมตรจากระดับน้ำทะเล ธารน้ำแข็งที่ละลายก็จะไหลลงสู่แม่น้ำโม่ซีเหอซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำต้าตู้เหอ มีธารน้ำแข็งใหญ่เล็กประมาณ 110 กว่าสาย สายที่ใหญ่ที่สุดกว้างประมาณ 1,100 เมตร ดูเหมือนน้ำตกน้ำแข็งที่ไหลเชี่ยวลงมาจากท้องฟ้าอย่างน่าอัศจรรย์

มีความสูง 3,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล

ซักพักฟ้าเปิดแป๊บนึง รีบลั๊ลล๊าถ่ายรูป อิอิ

เดินเที่ยว ข้างบนนี้ก็จะมีวัดอยู่ ขอบอกว่าบนนี้หนาวมากกก

หิมะยังหนาอยู่

พื้นยังเป็นน้ำแข็งอยู่บ้าง

หมุนกงล้อขอพร ตามความเชื่อชาวธิเบต

หินสีแดง

ธงมนต์ เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของความนับถือและศรัทธาของชาวทิเบต

ได้เวลากลับ ไปผจญภัยเมืองต่อไป คือ Xinduqiaozhen อ่านว่า ชินตูเฉี่ยว

ระหว่างทางไปชินตูเฉี่ยว ผ่านจุดชมวิวเขา Zheduo ที่สูง 4,298 เมตรจากระดับน้ำทะล เริ่มสูงขึ้นมาเรื่อย

ระดับที่ความสูงแค่นี้ พวกเรายังไม่มีอาการแพ้ที่สูงกันเลย

แล้วเราก็มาถึงมืดค่ำที่เมืองชินตูเฉี่ยว ได้โรงแรมที่ติดถนนทางผ่านพอดี มาช่วงนี้ก็ดีนะคะค่าโรงแรมถูกด้วย คนไม่เยอะ

เช้าก็เดินทางกันต่อ ระหว่างผ่านเริ่มเปลี่ยนสภาพ จาทกี่เคยเห็นต้นไม้เขียวๆเยอะแยะ จากนี้ไปเริ่มโล้นๆ และเห็นภาษาทิเบตจากพื้นที่ภูเขา

ที่เจอได้บ่อย แก๊งปั่นจักยาน นับถือจริงๆ อืดและทนมาก เก่งสุดๆ ที่ปั่นมาได้ไกลขนาดนี้

จุดนี้คนขับแนะนำให้จอดดูวิวถนนด้านล่าง และถ้าอยากเข้าห้องน้ำ ก็หามุมกันเองนะ เข้าข้างทางก็สบายใจกว่าด้วย ^_^

นั่นไงถนนที่เราไต่ขึ้นมา โค้ง สวย เข้ารูปดีจัง ดูแล้วเมาโค้งตาม

เจอคนปั่นจักรยาน ก็ทักทาย หนีห่าว กันไป ยังไหวอยู่ๆ

นอกจากคนปั่นจักรยานแล้ว ยังมีคนเดินอีกด้วย เก่งมากที่สุด

ไปอีกซัก 2 ชั่วโมง ถึงจุดชมวิวอีกที่ จอดให้แวะเข้าห้องน้ำ

แล้วไปกันต่อ สภาพแวดล้อมจะเป็นแบบนี้นะ สวย เพลินๆ

จอดแวะก็ได้ถ่ายรูปเรื่อยๆ

หนุ่มน้อยน่ารัก

จอดปั้มก็ได้อีก

ระหว่างทาง ก็แวะจุดชมวิว Haizi Mountrain สูง 4,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล

จุดนี้จอดรถริมถนนแล้วเดินนิดหน่อย

พริ้วๆ สวยๆ กันไป

เห็นวิวสวยงามประมาณนี้

ฟ้าแจ่มๆ

ไปกันต่อค่ะ คืนนี้เรานอนกันที่เมือง Daocheng เมืองนี้ก็ถือว่าสูงค่ะ บางคนเริ่มมีอาการแพ้ที่สูง ปวดหัว เราต้องรีบพักผ่อน พรุ่งนี้ไปถึงย่าติงแล้วค่ะ

จากเมือง Daocheng ระหว่างทาง

ระหว่างทางแวะจุดชมวิวอีก Bowa Mountain สูง 4,513 เมตร จากระดับน้ำทะเล

จากเมือง Daocheng ประมาณ 4 ชั่วโมง ก็ไปถึงเมือง Riwa, Shangri-La ซึ่งเป็นเมืองใกล้กับอุทยานย่าติง คืนนี้เราหาที่พักที่เมืองนี้ 3 คืน เพื่อเข้าเที่ยวย่าติง 2 วันให้หนำใจกับที่เดินทางมาไกล 3 วัน แล้วติดตามตอนต่อไปฉบับเที่ยวย่าติงนะคะ เดินทางไกล ระยะทางไม่ใช่ปัญหา ขาและใจจะพาไป ^_^

#เอาแต่ใจไปย่าติง

สำหรับตอนต่อไป Yading Nature Reserve เพราะ เอาแต่ใจไปย่าติง คลิกอ่านต่อได้เลยค่ะ https://th.readme.me/p/12111

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ตามไปพูดคุยกันได้ที่ Fanpage เที่ยวแล้วยัง กับ มิตรภาพ : www.facebook.com/welikejourney

ติดตามรีวิวอื่นๆ ได้ที่ https://th.readme.me/id/lingple

#welikejourney #เที่ยวแล้วยัง #เที่ยวแล้วyoung

Email : [email protected]

IG : lingple