แสงแรกที่ไหนสวยที่สุด? มีน้องร่วมทริปยิงคำถามใส่ขณะที่เราเดินเล่นในเมือง
ไม่มีแสงที่สวยที่สุดในความคิดเรา เพราะ 2 เหตุผลคือ หนึ่ง เราไปมายังไม่ครบทุกที่ทั่วโลก และ สอง สวยที่สุดยังไม่มี เพราะไปทุกที่ ก็สวยต่างกัน ความสวยไม่ได้ขึ้นกับแสงแรกของวันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ขึ้นกับบริบทรอบข้างต่างหากที่ทำให้มันยิ่งสวย
ถ้าจะให้ตอบแบบวิชาการ หน่อย ๆ (เคยไปดูมาในคลิปของ ขุนเขา) ก็ต้องตอบว่า สมองเราทำงานง่ายมาก สมองจะ คัดเลือกให้เราเห็นแต่สิ่งที่เราFocus ลองดูไหมว่าเป็นไปอย่างที่เค้าว่ากันมาหรือไม่
อุปกรณ์การทดลองมีไม่มากเลย แค่กระดาษ 1 แผ่น ปากกา 1 ด้าม เตรียมพร้อมแล้วยัง..... เอาล่ะคราวนี้ลองเพ่งไปที่วิวสักที่หนึ่ง หรือ พื้นที่บนโต๊ะทำงานบริเวณนึงก็ได้ เอาล่ะ หาพื้นที่ที่ต้องการมองได้แล้วนะ ทีนี้ลองมองหาทุกอย่างที่เป็นสีเขียวในบริเวณที่คุณต้องการมอง เอาล่ะ.... ได้ยัง นับถอยหลัง 10 9 8 7 .... 3 2 1 หมดเวลา!
ทีนี้ ก้มหน้าลงมาที่กระดาษ แล้วลอง List สิ่งของที่เป็น"สีดำ" ที่คุณเห็นมาให้หมด ..... ใช่ "สีดำ" คุณอ่านไม่ผิดหรอก นั่นไง! งงเด้ งงเด้ ใช่ คุณไม่ได้สังเกตไงว่าของสีดำมีอะไรบ้าง แต่คุณมั่นใจว่ามันมีอยู่ใช่ไหมล่ะ
เห็นไหมล่ะ เรา Focus อะไร สมองจะพาเราไปเจอสิ่งนั้น ดังนั้น ถ้าเราFocus ที่ความสุข สมองเราก็จะพาเราไปพบ ไปเจอ ไปเห็น แต่ความสุข .... ชีวิตเรามันง่ายๆ แค่นี้
แย่ละ เขียนมาตั้งยาวยังไม่ได้ลงรูปอะไรเลย ขออวดรูปยามเช้าของ Innsbruck ก่อนนะ

ถนนที่วุ่นวาย สถานที่ท่องเที่ยวที่มีแต่นักท่องเที่ยว ตอนนี้มันมีแค่เรา ...
รถรางที่พาเราขึ้นเขาหน้าตาเป็นแบบนี้ และมาทุก ๆ 15 นาที แต่ละสถานีก็จะมีที่เที่ยวที่น่าสนใจแตกต่างกัน

น่าแปลกที่ แดดเช้าบนกูเขาที่มีแต่หิมะ กลับให้ความรู้สึกอบอุ่น ไม่หนาวเท่าที่อยู่ในเมือง และ ไม่ร้อนเท่าที่ตาเห็น มิน่ามีคนมาอาบแดดที่ Innsbruck กันเยอะเหลือเกิน แดดไม่ทำให้ร้อน และ หิมะไม่ทำให้หนาว จริงๆ
ขณะที่เราประชาชนตาดำ ๆ ชาวสยาม กำลังนั่งกระเช้าลงไปสถานีข้างล่าง ตอนที่เรามองลงไปที่พื้นด้านล่างถ้าพิจารณาให้ดี ๆ จะเป็นเส้นทางคดเคี้ยวหลายซับหลายซ้อน พับไป พับมา ถ้าเอานิ้วถ่างภาพเบื้องหน้า แล้วขยี้ตาพร้อมกับตบหน้าตัวเองแรง ๆ จะเห็นว่ามีคนขี่จักรยาน และ กำลังเดินขึ้นเขา!

กว่าจะถึงเมือง แวะเที่ยวเล่นเป็นชั่วโมง
ถนนคนเดินเริ่มมีคน ร้านรวงเริ่มเปิด มีร้านขายอาหาร ขายของชำร่วย ขายเสื้อผ้า ขายของHandmade ซึ่งก็มีเหมือนเมืองอื่น ๆ ทั่ว ๆ ไป แต่มีหนึ่งร้านที่น่าสนใจ ร้านที่มีน้ำสารพัดสี และการจัด Display ที่สามารถลากเราจากริมถนนให้เดินเล่นในร้านได้
การพบกันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ..... คุณเชื่อแบบนี้ไหม
เรื่องมันเกิดจาก เราแวะทานข้าวที่ร้านเล็กๆ ริมถนน ที่เลือกทานร้านนี้เพราะเค้าจัดโต๊ะอยู่ริมถนนได้ฟิลลิ่ง การกินข้าวข้างทางของเมืองไทยชะมัด เราเลยลงมติว่าเลือกร้านนี้เลยเล้วกัน หลังจากสั่งอาหาร เราได้มีโอกาสคุยกับคุณลุงเจ้าของร้านในรูป "Mr. Inthal" ทันทีที่เค้ารู้ว่าเรามาจากเมืองไทย สารพัดจังหวัดถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นหัวข้อในการสนทนา แววตาคุณลุงดูมีความสุข และ เป็นประกายทุกครั้งที่เล่าถึงภูเก็ต เชียงใหม่ อยุธยา...
Mr. Inthal ผู้ชายในรูปข้างบน คือ คนที่บอกว่าเค้าคือคนไทย เค้ารักเมืองไทย รักอาหารไทย รักทุกอย่างที่เป็นของไทย การที่เราได้พบกัน เค้ารู้สึกว่า เค้าได้กลับบ้าน.... การพบกันไม่ใช่เรื่องบังเอิญจริงๆ
เราร่ำลาพร้อมกับธรรมเนียมของวัยรุ่นนั่นคือ การแลก FB และสัญญาว่าเราจะเจอกันอีก ที่ไหนสักแห่งที่เมืองไทย .... เราต้องรีบไปแล้ว รถShuttle ที่จะไป Swarovski รอเราอยู่ที่หน้าสถานี
"เฮ้ย ! .... ทำไมสถานีไม่มีคนเลยวะ มีแค่เราเองหว่ะ" ใครคนนึงในกลุ่ม โพล่งขึ้นมา สายตาทั้ง 4 คู่สอดส่ายหาสิ่งมีชีวิตอื่นโดยรอบ....ไม่มี อากาศรอบๆ ดูเงียบ และเย็นผิดปกติ เราจะมานั่งรออย่างสงบเสงี่ยมไม่ได้แล้ว เราเริ่มเดิน ๆ ๆ ไปรอบๆ จนเจอพนักงานขายที่เลิกงานออกมา 1 คน ถามได้ใจความว่า อ๋อ ช่วงนี้ รถเลิกเร็ว รถรอบสุดท้ายคือ 19.05 คุณไม่อ่านตารางเวลาตอนคุณมาถึงเหรอ เค้าจะขึ้นป้ายบอกเวลารถเที่ยวต่อไป (ซึ่งสำหรับเรา คือ เที่ยวสุดท้าย) ที่ป้ายรถ .... กรรม
เราจะกลับไปเมือง Innsbruck ได้ยังไง พนักงานสาวชี้มือไปยังที่ไกล ๆ ที่สายตาของทั้ง 4 คน ไม่สามารถมองเห็นปลายทางได้ เธอบอกว่า เดินออกจากที่จอดรถไป ประมาณ 2 km นะ ยูจะเจอป้ายรถเมล์ รถรอบต่อไปน่าจะประมาณ 20.30 .... ถ้ายูพลาด รถเมล์มีชั่วโมงละครั้งนะ อย่าพลาดนะ ..... คร่ะ มหกรรมการเดินเท้าอย่างไม่รู้ทิศรู้ทางก็เกิดขึ้น ณ บัดนาว
มีรถเบนซ์มารับ จ่ายค่าเสียหายคนละ 5 Euro เพราะมีบัตร Innsbruck Card เลยลดราคาได้ ... ค่ารถเมล์ 200 บาท เบา ๆ
Habitat PoM
วันพฤหัสที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.36 น.