Chiangmai Day1 : ดอนเมือง-สนามบินเชียงใหม่-โรงแรม B2 Nimman Santitham-Steak meet love-โจ๊กสมเพชร Chiangmai Day2 : ก๋วยจั๊บน้ำข้น(อุนเสาวรีย์สามกษัตริย์)-ไหว้ครูบาศรีวิชัย-พระธาตุดอยสุเทพ-เจดีย์เจ็ดยอด-กินข้าวในม.เชียงใหม่-ขันโตกดินเนอร์-วอร์มอัพ-ไก่ทอดเที่ยงคืน
Chiangmai Day3 : ข้าวซอยเสมอใจ-Flying Squirrels-คั่วไก่นิมมาน-กระหรี่หมี่เตี๋ยว-ถนนคนเดินวัวลาย-Myst (เมย่า) Chiangmai Day4 : บุฟเฟ่ต์ขนมจีนบ้านเจ็ดยอด-Chiangmai zoo aquarium-The Bistrorante-TCDC(เชียงใหม่)-Miyazaki(เมย่า)-สนามบินเชียงใหม่-ดอนเมือง


Chiangmai Day3 : ข้าวซอยเสมอใจ-Flying Squirrels-คั่วไก่นิมมาน-กระหรี่หมี่เตี๋ยว-ถนนคนเดินวัวลาย-Myst (เมย่า)


เช้าวันนี้ตื่นมาแบบเพลียๆ เพราะเมื่อวานไปเที่ยว Warm up café แล้วกลับดึกไปหน่อย แล้วผมก็หิวมากๆ ด้วย จากแผนที่วางไว้คือ มาถึงเชียงใหม่ยังไงต้องชิม "ข้าวซอย" แน่นอน

ผมก็หาข้อมูลร้านข้าวซอยร้านดังที่อยู่ไม่ไกลโรงแรมมากนัก ก็ได้ชื่อของร้าน "ข้าวซอยเสมอใจ" มา

ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยที่ต้องแยกไปจากถนน super highway หาไม่ยากครับพอเราขับเข้าซอยไปจะเจอรถจอดอยู่หน้าร้านเต็มเลย เราก็จอดริมถนนตามเค้าแล้วก็เข้าไปนั่งสั่งอาหารได้เลยครับ

เมนูของร้านนี้จะแปะไว้ที่กำแพง มีอาหารหลากหลายทั้งข้าวซอยที่เป็นเมนู signature ของร้าน มีทั้งข้าวซอยหมู,เนื้อ,ไก่ รวมถึงหมูสะเต๊ะก็เป็นเมนูขายดี


ผมสั่งข้าวซอยหมู และ หมูสะเต๊ะมาชิม จากประสบการณ์ของผมซึ่งไม่เคยกินข้าวซอยมาก่อนเลย ถือว่าเป็นรสชาติที่กินได้

ผมไม่ได้รู้สึกอร่อยขนาดนั้น แต่เข้าใจอาจจะเป็นอาหารที่ถูกปากของคนท้องถิ่นที่นี่ ถ้าถามว่าให้ทานอีกได้มั้ยก็ทานได้นะครับ หมูสะเต๊ะก็ทานได้ครับ ไม่ได้มีความพิเศษอะไร

รวมๆ ผมว่าร้านนี้ไม่ได้มีความพิเศษอะไร ถ้ามาเชียงใหม่อีกครั้ง อาจจะลองชิมข้าวซอยเจ้าอื่นดูบ้าง แต่ถ้าใครยังไม่เคยชิมร้านนี้มาลองชิมได้

ไปทำกิจกรรมต่อที่ "Flying Squirrels"

ทานข้าวซอยเป็นมื้อเช้าเสร็จแล้ว เราก็ต้องกลับมาพักที่โรงแรมเพื่อให้อาหารย่อยซัก 1 ชั่วโมงก่อนจะมีรถตู้จาก Flying Squirrels มารับ การเดินทางจากตัวเมืองออกไปที่ ต.บ้านปงไคร้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง


พอไปถึงเราเลือกได้ว่าจะทานอาหารที่ทางบริษัทจัดให้ก่อนหรือหลังทำกิจกรรมก็ได้ อาหารจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ เมนูหลักจะมีแค่ 3-4 อย่าง เมนูที่ผมได้กินก็คือ มัสมั่นน่องไก่ และ ผัดผัก นอกจากนั้นยังมีผลไม้และชากาแฟบริการฟรี


นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเล่นกิจกรรมนี้มากกว่าครึ่งเป็นชาวจีน ผมก็ถามพี่ที่เป็นสตาฟว่าทำไมคนไทยไม่ค่อยมาเล่น เค้าบอกว่าคนไทยไม่ค่อยกล้าเล่น หลายๆ คนกลัวความสูง


ฐานกิจกรรมของ Flying Squirrels ที่นี่มีทั้งหมด 32 ฐานมีทั้งการโหนสลิงจากต้นไม้ต้นนึงไปอีกต้นนึง มีทั้งเดินบนเชือกที่ผูกโยงไว้จากต้นนึงไปอีกต้น เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับผมในการเล่นกิจกรรมแบบนี้

โดยวันนึง Flying Squirrels จะมีทั้งหมด 5 รอบ เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเช้า แต่ละรอบใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง รวมทานข้าวด้วย ถ้ารวมการเดินทางไปกลับด้วยก็ประมาณ 4 ชั่วโมง

กิจกรรมนี้ยังสามารถทำให้เราปลดปล่อยความกลัว และชนะในตัวเองได้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นการสร้างความกล้าอีกอย่างหนึ่ง

พอรถของ Flying Squirrels กลับมาส่งพวกเราถึงโรงแรมก็หิวอีกแล้ว และมีหลายร้านเหลือเกินที่พวกเรายังไม่ได้ไปชิม ทำให้เราต้องตัดสินใจว่าเราจะชิมร้านละนิดละหน่อย จะได้ชิมหลายๆ ร้าน


เริ่มต้นที่ร้านแรก "คั่วไก่นิมมาน" ตั้งอยู่ในซอย นิมมานฯ 17 ข้างๆ ร้าน Iberry เจ้าดังที่เป็น landmark ของเมืองเชียงใหม่

เมนูของร้านนี้ก็มีมากมายหลายสิบ แต่ที่เห็นทุกโต๊ะต้องสั่งก็คือ "คั่วไก่ห่อไข่" และ "คั่วทะเลห่อไข่" ผมสั่งมาเลยครับ สองเมนูที่บอกนี่แหละเป็น Signature ของร้าน

รสชาติดีมาก อร่อยถูกปากมากๆ เส้นนุ่ม ผัดกันเข้าเนื้อมากๆ เสิร์ฟมาบนกระทะร้อนยิ่งได้ฟีล กินคู่กับซอสพริกซักนิดอร่อยสุดๆ (ตอนนี้เขียนอยู่ยังอยากกลับไปกินเลยครับ)


หลังจากนั้นไปชิมร้านที่สองต่อ อยู่ซอยข้างๆ กันเลย "กระหรี่หมี่เตี๋ยว" อยู่นิมมานฯ ซอย 15 ร้านเป็นแนว Food truck ตั้งอยู่กลางซอย (ข้างๆ ร้าน Steak meet love ที่มากินคืนวันแรก)

อาหารร้านนี้จะมีเมนูไม่เยอะ เน้นไปที่แกงกระหรี่ สิ่งที่เราเลือกได้คือ จะราดบนข้าวสวย, ข้าวซอย, หรือ บะหมี่ ส่วนเครื่องที่จินเราก็เลือกได้หลายอย่าง แต่ที่น่าสนใจคือ กระดูกหมูและหมูชาชู

มากันสามคนแต่ผมสั่งมาจากเดียว กะว่าจะกินแค่พอชิมๆ แล้วก็จะไปร้านอื่นต่อ แต่ชามเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้ผมและเพื่อนๆ อิ่มจนไปกินร้านอื่นต่อไม่ไหวแล้วครับ


ทุกๆ คืนวันเสาร์ ที่ถนนวัวลายจะมีถนนคนเดิน และผมก็ไม่พลาดที่จะไปเดินดูความเป็นเชียงใหม่ที่นี่ด้วย โดยปกติถนนคนเดินจะมีอยู่สองที่ ถ้าเป็นวันเสาร์จะมีที่ถนนวัวลาย แต่ถ้าเป็นวันอาทิตย์จะมีที่ถนนคนเดินท่าแพซึ่งผมยังไม่เคยไปถนนท่าแพ แต่เค้าบอกว่าใหญ่กว่าถนนวัวลายนะครับ

ถนนคนเดินวัวลายก็มีวัฒนธรรมหลากหลายให้เราดู อาหารบางอย่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเมืองเชียงใหม่ ข้าวของเครื่องใช้หรือแม้แต่ของฝากก็มีให้เห็นตามร้านที่ขายระหว่างทางเดิน แต่ที่ผมชอบที่สุดคือ ระหว่างทางจะมีการแสดง ร้องเพลงบ้าง วาดรูปเหมือนบ้าง ผมว่ามันเป็นเสน่ห์ของถนนคนเดินที่เชียงใหม่นี้

ผมแนะนำให้นักท่องเที่ยวมาเดินเล่นถนนคนเดินที่เชียงใหม่ไม่ว่าจะเป็นถนนวัวลายหรือถนนท่าแพ เพราะคุณจะได้เห็นวัฒนธรรมของเมืองเชียงใหม่อย่างแท้จริง


ปิดท้ายคืนนี้ที่ร้าน Myst (Maya) เป็นร้านนั่งชิวอยู่บนดาดฟ้าห้างเมย่า อยู่ในโครงการที่เรียกว่า Nimman Hill


บรรยาการด้านบนดีมาก มองลงไปเห็นวิวของถนนนิมมานทั้งเส้น อากาศเย็นสบายโดยเฉพาะในฤดูหนาว น่าจะได้บรรยากาศที่ดีมากจริงๆ

ร้านนี้มีความโดดเด่นที่ค๊อกเทล ค๊อกเทลที่นี่มีความหวือหวาทั้งเรื่องสีสันและรสชาติ ดั้งเดิมร้าน Myst สาขาแรกจะอยู่ที่ทองหล่อ และที่นี่คือสาขาที่สอง


หลังจากได้นั่งคุยกับทางเจ้าของร้าน คุณปิ่นเล่าให้ฟังว่าการตั้งราคาของสาขานั้นถูกกว่าสาขาทองหล่อเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนเชียงใหม่ที่มักจะชอบเมาได้แต่จ่ายไม่แพง ถ้าเปรียบเทียบคุณภาพ บรรยากาศ กับเงินที่จ่ายออกไปแล้ว ผมว่าร้านนี้ไม่แพงเลย และเป็น Landmark ที่ใครมาเที่ยวเชียงใหม่ควรจะมานั่งชิวที่นี่ซักคืนนึงก่อนกลับ


สำหรับวันนี้ขอตัวพักก่อน ก่อนที่พรุ่งจะต้องกลับกรุงเทพฯ แล้ว

Pongthorn Kaojai Laohavilai

 วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 09.12 น.

ความคิดเห็น