Chiangmai Day1 : ดอนเมือง-สนามบินเชียงใหม่-โรงแรม B2 Nimman Santitham-Steak meet love-โจ๊กสมเพชร Chiangmai Day2 : ก๋วยจั๊บน้ำข้น(อุนเสาวรีย์สามกษัตริย์)-ไหว้ครูบาศรีวิชัย-พระธาตุดอยสุเทพ-เจดีย์เจ็ดยอด-กินข้าวในม.เชียงใหม่-ขันโตกดินเนอร์-วอร์มอัพ-ไก่ทอดเที่ยงคืน
Chiangmai Day3 : ข้าวซอยเสมอใจ-Flying Squirrels-คั่วไก่นิมมาน-กระหรี่หมี่เตี๋ยว-ถนนคนเดินวัวลาย-Myst (เมย่า) Chiangmai Day4 : บุฟเฟ่ต์ขนมจีนบ้านเจ็ดยอด-Chiangmai zoo aquarium-The Bistrorante-TCDC(เชียงใหม่)-Miyazaki(เมย่า)-สนามบินเชียงใหม่-ดอนเมือง


Chiangmai Day1 : ดอนเมือง-สนามบินเชียงใหม่-โรงแรม B2 Nimman Santitham-Steak meet love-โจ๊กสมเพชร


สวัสดีครับก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวเองก่อนว่าผมเป็นใครและสไตล์การเที่ยวของผมนั้นเป็นแบบไหน


ชื่อผม Traveller's trade มาจากการที่ผมรักที่จะท่องเที่ยวและอยากเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้นไปพร้อมๆ กัน สไตล์การท่องเที่ยวของผมคือเน้นความคุ้มค่า ไม่ได้เน้นว่าจะต้องถูกหรือแพงที่สุด แต่เราดูคุณค่าของสิ่งที่เราได้รับเปรียบเทียบกับเงินที่เราต้องจ่ายออกไป ถ้าดูแล้วว่าอันไหนมันคุ้มค่าที่สุด ผมก็จะเลือกอันนั้นครับ


หลายๆ ครั้งผมเลือกที่จะจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าหลายๆ เดือนเพราะมันได้ราคาถูกกว่า และผมสามารถมั่นใจได้ว่าผมจะเดินทางได้ในวันนั้น หรือจองโรงแรมที่มีราคาไม่แพงแต่มีความสะดวกสบายเพียงพอกับสิ่งที่เราต้องการ นี่ก็คือสิ่งที่ผมมองหาในการจัดลงโปรแกรมของผม และรูปที่ผมใช้ถ่ายมาทั้งหมดนั้นถูกถ่ายและแต่งด้วยมือถือของผมเท่านั้นนะครับ

ทริปนี้เป็นทริปที่ห้าของปีนี้แล้วครับ ต่อจากกัมพูชา(เสียมเรียบ-พนมเปญ), ญี่ปุ่น(คิวชูเหนือ), เขาใหญ่, ชะอำ-หัวหิน การเดินทางแต่ละครั้งก็มักจะมีความประทับใจที่แตกต่างกันไป การมาเชียงใหม่ครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมได้เจอประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน ครั้งนี้ผมออกเดินทางในเดือนเมษายน อากาศค่อนข้างร้อน แต่ส่วนตัวผมอยากไปเชียงใหม่มานานแล้ว และช่วงนี้ก็มีเวลาว่าง ก็เลยเลือกที่จะไปเชียงใหม่ซัก 4 วันถึงแม้ว่าอากาศจะร้อนไปหน่อยก็ตาม


ช่วงเช้านกแอร์ส่งข้อความมาบอกว่า เครื่องจะมีการดีเลย์จาก 19.00 เป็น 20.00 น. ผมเริ่มต้นจากตึกสีลมคอมเพล็ก หลังจากตลาดหุ้นปิดตอน 16.40 น. ผมรีบไป MRT เพื่อไปลงที่สถานีจตุจักร พร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน แล้วต่อรถไปที่สนามบินดอนเมือง บอกเลยถ้าเครื่องไม่ดีเลย์นี่อาจจะไปไม่ทันแล้ว เพราะตอนเย็นแถวนั้นรถติดมาก ใครที่จะเดินทางหลังเลิกงานต้องเผื่อเวลาไว้เยอะๆ หน่อยนะครับ


การ Check-in ตั๋วเครื่องบินจะไปทำที่เคาเตอร์เลยก็ได้ หรือจะทำในเวปไซต์ก็จะง่าย เวลาไปถึงเคาเตอร์เราจะมีช่องพิเศษสำหรับคนที่ Check-in มาแล้วก็สามารถโหลดกระเป๋าได้เลย แถวนี้ก็จะสั้นกว่าแถวที่เพิ่งมา Check-in ที่นี่ ส่วนผมเลือกที่จะ Check-in ผ่านเวปไซต์ไปก่อนเลยครับ สำหรับ Nokair เราสามารถเลือกที่นั่งได้ฟรีและยังสามารถเอาสัมภาระขึ้นเครื่องได้ฟรี 15 กก. บนเครื่องก็จะมี Nokkanom คอยบริการบนเครื่องอีกทีนึง เป็นขนมปังชิ้นเล็กๆ และน้ำเปล่า



แอร์สายการบินนกแอร์ก็น่ารัก บริการดี พอถึงเชียงใหม่ พวกเราก็เรียกรถแดงเพื่อไปเอารถของเพื่อนที่ให้เรายืมสำหรับทริปนี้ ทริปนี้โชคดีไม่ต้องเสียเงินค่าเช่ารถ เห็นในสนามบินมีรถเล็กนั่ง3-4 คนให้เช่า คิดราคาวันละ 620 บาท ก็ถือว่าไม่ค่อยแพงเท่าไหร่ แต่เราโชคดีได้รถมาใช้ฟรี

หลังจากไปเอารถมาแล้วก็ขับรถเข้าโรงแรมก่อน เราพักที่โรงแรม B2 nimman santitham เป็นโรงแรมราคาประหยัด ราคาชั้น1-2 จะถูกกว่าชั้น 3-4 และช่วง Low ก็จะราคาถูกกว่าช่วงสงกรานต์ ผมจ่ายไปห้องละ 380 บาท ถ้าเป็นช่วงสงกรานต์ราคาจะขึ้นไปเป็น 580 บาท โรงแรมมีอุปกรณ์ให้ค่อนข้างครบ ทีวีมีเกือบ 60 ช่อง สบู่แชมพู ผ้าเช็ดตัวมีให้ ที่จอดรถก็มีเหลือพอให้จอดได้ตลอด แต่เสียอย่างคือห้องค่อนข้างเก่า พื้นที่เป็นไม้มีการชำรุด ประตูห้องน้ำมีการผุพัง ถ้าเทียบกับราคาแล้วถือว่ารับได้ ไม่แพงมากแต่นอนหลับสบาย พื้นที่อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวคืออยู่ใกล้ๆ นิมมาน, เมย่า, มช., สวนสัตว์เชียงใหม่, พระธาตุดอยสุเทพ สามารถเดินทางไปได้ไม่เกิน 10 นาที


เก็บของเสร็จเรียบร้อยยังไม่ได้กินอะไรเลย เลยออกไปหาอะไรกินที่ถนนนิมมานฯ ตั้งใจจะไปกินร้าน "กระหรี่หมี่เตี๋ยว" แต่ไปถึงก็ 23.30 น. เค้ากำลังเก็บร้านกันอยู่เลย แต่ร้านเสต็กข้างๆ ยังเปิดอยู่ ก็เลยลองชิมร้าน Steak meet love ข้างๆ แทน ตกแต่งจานมาน่ากินเลย เมนูมีเสต็ก พาสต้า มันบด ราคา Pork-chop ที่สั่งไปคือ 249 บาท หมูของร้านนี้ย่างมาดี ไม่เหนียวเกินไป รสชาติก็อร่อยดีแต่ไม่ได้ประทับใจมาก


ก่อนกลับโรงแรมเพื่อนต้องแวะไปเอาของที่ Warm-up café ผมลืมเอาบัตรประชาชนมาก็เลยยืนรออยู่ข้างนอก มีคนปูเสื่อนั่งเล่นกีต้าร์ร้องเพลงวางหมวกไว้ใส่เงินด้วย ก็แปลกๆ ดี แต่ผมชอบนะมันเป็นกันเองดี หลังจากเพื่อนออกมาแล้วก็ขับรถเล่นไปแถวๆ คูเมืองเจอร้าน "โจ๊กสมเพชร" ที่เปิด 24 ชั่วโมง เห็นว่าเป็นร้านดัง เราเลยลองแวะชิมโจ๊กร้านนี้หน่อย รสชาติก็เหมือนโจ๊กซอง เนื้อมันเนียนๆ แต่ก็ไม่ได้อร่อยมาก ที่ร้านนี้มีเมนูที่เป็นข้าวหน้าต่างๆ แล้วก็มีติ่มซำด้วย ถ้าใครหิวๆ หลังจากเที่ยวกลางคืน ร้านนี้ก็แวะมากินก่อนนอนได้

จบไปสำหรับคืนแรกที่เชียงใหม่ ยังมีโปรแกรมอีก 3 วัน จะไปเที่ยวที่ไหนบ้างต้องติดตาม หรือใครที่กำลังวาแผนไปเที่ยวเชียงใหม่ แต่ไม่รู้จะวางแผนยังไง ก็ลองเอาแผนที่ผมทำไว้ไปปรับใช้ได้

Pongthorn Kaojai Laohavilai

 วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.48 น.

ความคิดเห็น