วันหยุดยาวมาเยือนทั้งที่ ชีพจรก็ลงเท้าสิครัช อยู่เฉยๆ ม่ายร่าย ร่างกายต้องการเที่ยว ร่างกายต้องการเสียสตางค์ รออัลราย...ไปกันโล้ด คิดคิดสิครับ จะไปไหนดี ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก ก็มีอยู่ที่นึงมาสะกิดใจ นั่นก็คือ คือ สังขละบุรี นั่นเอง เป็นที่ที่อยากไปมากๆ หยุดยาวก็ไปสิครับ เก็บข้าว เก็บของ พร้อม ตัวพร้อม กายพร้อม ใจพร้อม และที่สำคัญสตางค์พร้อม...

Day 01 : วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560

08.00 เลิกงาน กลับห้อง เก็บข้าว เก็บของ ให้ครบ แล้วไป บ.ข.ส. ครับผม

09.40 รถเมล์หวานเย็นก็เคลื่อนตัวออกจาก บ.ข.ส.ด่านช้าง เพื่อมุ่งหน้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี หวานเย็นมาก รถตลอดทาง 555

12.30 ก็มาถึงกาญนะจ๊ะบุรี แล้ว รถจอดปุ๊บ ก็เดินหารถเพื่อไปสังขละบุรี การเดินทางไปสังขละบุรีในครั้งนี้ ผมเลือกรถเมล์หวานเย็นสาย กาญจนบุรี - สังขละบุรี นะครับ เอาให้มันสุดๆไปเลย ดื่มด่ำกับบรรยากาศ Slow life กันให้เต็มที่ไปเลย

13.00 เจ้าหวานเย็นก็ออกเดินทางเพื่อมุ่งหน้าสู่สังขละบุรี หวานเย็นมาก จอดตลอดทางเช่นเดียวกัน ร้อนบ้าง เย็นบ้าง ตามสภาพอากาศ และแล้ว

17.30 เราก็มาถึงสังขละบุรี ดูดชากันเลยทีเดียว นั่งรถมาเกือบ 5 ชั่วโมง Slow life มั้ยล่ะ Slow มากจริงๆ แต่ถือว่าคุ้มมากกับการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นวิวทิวทัศน์ข้างทาง บรรยากาศการเดินทาง สุดๆ จริงๆ ใครที่จะไปเที่ยวสังขละบุรี ผมแนะนำให้ลองขึ้นเจ้าหวานเย็นดูนะครับ รับรองจะติดใจนะจะบอกให้ 😋😋 เดินทางมาทั้งวัน ถึงสังขละบุรีแล้ว พี่วินก็มาต้อนรับอย่างทันที เราก็ไม่รอช้า รีบใช้บริการพี่เค้า ให้ไปส่งที่พัก ที่จองไว้กันดีกว่า คืนแรกผมพักที่ B.Hommstay นะครับ Check in เก็บข้าว เก็บของ ล้างหน้า ล้างตา เราก็แว๊นมอไซค์ไปสำรวจเส้นทางกันดีกว่า ที่แรกที่เราจะไปคือสะพานมอญนั่นเอง ไปดูพระอาทิตย์ตก และบรรยากาศยามเย็นกันซะโหน่ย

18.00 บรรยากาศยามเย็นบริเวณสะพานมอญ ที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตชาวมอญ และเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างบ้าน ต่างเมือง แต่มีเป้าหมายเดียวกัน ก็คือ สังขละบุรี นั่นเอง... 😍



บรรยากาศที่เห็นจากรูป บางครั้งมันก็ไม่เท่าเราเข้าไปสัมผัสเอง

แสงยามเย็นเป็นอะไรที่สวยมากๆ

พี่ครับ ทาแป้งมั้ยครับ ให้เท่าไหร่ก็ได้ครับพี่

ทาก็ได้เจ้าหนุ่มน้อย 😋😋

เด็กๆนั่งคุยอะไรกันน้าา...

เธอๆ ดูเรือรำนั่นสิ

เรือไปแล้ว ส่วนเรายังอยู่ตรงนี้นะ อะแฮร่

ความสวยงาม บรรยากาศสุดลูกหู สุดลูกตา สุดหัวใจ

Day 02 : วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2560

ผมบอกเลยนะครับว่าที่ที่เราจะไปเที่ยวไปเยือนในวันนี้ เด็ดๆทั้งนั้น รับรอง

ใช้เวลาตั้งแต่เช้ายันเย็น กายไม่แกร่งพอ สู้ม่ายไหวนะจ๊ะ จะบอกให้ 😀

สองแม่ลูกคุยรายกันน้า

07.00 อาบน้ำแต่งตัวไปใส่บาตรกันดีกว่า

ถามว่าง่วงมั้ย ง่วง

ถามว่าหนาวมั้ย หนาว

ถามว่าอยากไปมั้ย ก็ต้องปายสิ รอไร ตามอ้ายมา ตามอ้ายมาโล้ด มามา

คนเริ่มมากันแล้ว

จุดที่ 1 "สัมผัสบรรยากาศตอนเช้าบริเวณสะพานมอญ"

ที่เต็มไปด้วยหมอกปกคลุมทุกพื้นที่

ยิ่งดู ยิ่งสวย

ยิ่งดู ยิ่งสบายตา สบายใจ

ยิ่งดู ยิ่งสดชื่น

พระอาทิตย์จะขึ้นแล้ว

แสงสีทองออกส้มๆ เริ่มสว่าง

วิถีชีวิตเริ่มเคลื่อนที่

น้องเล่นดนตรี ร้องเพลง หาทุนเพื่อการศึกษา

เป็นภาพที่ชวนยิ้มมาก

ขอตั้งชื่อภาพว่า "ยิ้มสู้กล้อง"

จุดที่ 2 "ใส่บาตรตอนเช้าฝั่งมอญ"

การใส่บาตรจะเดินข้ามสะพานไปยังฝั่งมอญ ชุดอาหารใส่บาตรมีให้เลือกมากมาย สามารถซื้อได้เลยครับผม

เณรน้อยมาแล้ว

คนมาต่อแถวใส่บาตรกันแล้ว

ข้าวของพร้อมใส่บาตรแล้ว

เมื่อใส่บาตรเสร็จแล้วเราก็ต้องเดินหาอะไรกินสักหน่อย หิวม้วก เดินไปเรื่อยๆก็มาสะดุดอยู่หน้าร้าน สะดุดตานะ ไม่ได้สะดุดหกล้ม กลัวเป็นห่วง555

นั่นก็คือร้านโจ๊กนั่นเอง

ร้าน "โจ๊กนั่งยอง"

คนเยอะมากๆ ทั้งข้างนอก ข้างใน

และนี่ก็คือหน้าตาของ

"โจ๊กหมูธรรมดาไม่ใช้ไข่" ราคาเพียง 20 บาท เท่านั้น

รสชาติอร่อยถูกปากคนไทยแน่นอน

หน้งท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน ก็กลับไปนอนได้ แฮร่ ไม่ใช่ละ

เรามาเดินสำรวจตลาดเพื่อย่อยโจ๊กกันหน่อยดีกว่า

ทุกชีวิตเริ่มเคลื่อนไหว

เจ้าหมาน้อยประจำถิ่น

ของฝากสุดฮิต สุดฮอต ของฝั่งมอญ ที่ทุกคนต้องมาชิม แฮร่ มาซื้อซิ

บรรยากาศด้านล่าง ที่สามารถชมวิวสะพานมอญ และวิถีชีวิตรอบๆได้อย่าง 360 องศา ครับผม

วิวสะพานมอญได้ไม่ควรพลาดถ่ายรูปเป็นอันขาด

ท่าเรือสำหรับใครที่สนใจ เช่าเรือไปเที่ยวกันด้วยนะ

เรือพร้อมแล้ว เราพร้อมหรือยังที่จะไป

จุดที่ 3 "นั่งเรือชมโบราณสถาน เมืองบาดาล"



08.00 เก๊าก็ยังไม่ได้ขึ้นเรือ เพราะอะไร ก็เพราะว่ารอคนหารค่าเรืออะดิ ไปคนเดียวม่ายร่าย ตังค์ไม่พอ เดินเล่นแถวนั้นไปสักพัก ก็มีครอบครัว ครอบครัวนึง มากัน 3 คน ยาย แม่ และก็ลูกสาวสุดน่ารัก

คนพร้อม

เรือพร้อม

เราก็ไปกันดีกว่า

สองฝั่งแม่น้ำ เราก็ยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้อีกด้วย

สามารถเห็น "เจดีย์พุทธคยา" ได้อีกด้วย

จุดที่ 4 "วัดศรีสุวรรณ หรือวัดกระเหรี่ยง"

เป็นวัดของชาวกระเหรี่ยง ช่วงนี้น้ำจะเยอะมาก ไม่สามารถเห็นเต็มๆได้ ถ้าอยากเห็นเต็มๆ ต้องมาช่วง เมษายน น้ำจะลดพอดีครับผม

ล่องเรือมาจุดต่อไปนั่นก็คือ



จุดที่ 5 "วัดสมเด็จ"

จะตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ เป็นวัดที่ไม่ได้จมน้ำ แต่ถูกทิ้งร้างมานานเมื่อครั้งตอนย้ายเมืองสังขละบุรี ตอนสร้างเขื่อน

ธรรมชาติวาดภาพขึ้นมา อย่างธรรมชาติ

โบสถ์วัดสมเด็จ

ชมบรรยากาศรอบๆ กันก่อนที่จะไปจุดต่อไป

สวยใช่มั้ยล่า บอกให้มา มาแล้วคุณจะติดใจ

ล่องเรือหารัก หรือเปล่าน้า

จุดที่ 6 "วัดจมน้ำ หรือวัดวังก์วิเวการาม (เดิม)"



อดีตเป็นชุมชนของชาวมอญ ตั้งอยู่บริเวณจุดที่เรียกว่า "สามประสบ" ซึ่งเป็นที่มาบรรจบกันของแม่น้ำทั้ง 3 สาย นั่นก็คือ แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี

บรรยากาศภายใน

หันไปมองด้านบนบ้าง บางครั้งอาจจะเห็นอะไรใหม่ๆบ้างก็ได้

วิวรอดหน้าต่าง

ไหว้สาระขอพรพระ

มีดอกไม้ธูปเทียนบริการ ชุดละ 20 บาท

บรรยากาศวิวทิวทัศน์ รอบๆ สวยอีกแล้ว

พาหนะที่ทุกคนต้องพึ่งพา

ล่องเรือเที่ยวเกือบครบ แต่ยังไม่ครบทุกที ไว้คราวหน้าจะมาเก็บตกที่เหลือแน่นอน

เห็นน้องหมานอน เราก็อยากนอนบ้าง 555

ได้เวลาขึ้นบก ไปเที่ยวที่ต่อไปกันดีกว่า ตามอ้ายมาโล้ด

น้องๆ โดดน้ำโชว์ แล้วแต่พี่ๆ จะให้ ครับผม

วิถีชีวิตชาวมอญ

กินเหล้าไม่เมาแน่นอน

เพราะคอแข็ง

แฮร่

จุดที่ 7 "จุดถ่ายภาพสะพานมอญบนสะพานซองกาเลีย"

สะพานมอญอีกมุม ที่สวยที่สุด

จุดที่ 8 "จุดชมวิวทิวทัศน์"

สามารถมานอนกางเต็นท์ได้นะครับ มีห้องน้ำ ห้องส้วม พร้อม บริการฟรีทุกอย่าง ที่นอนยันที่จอดรถ ใครที่ไม่อยากพักพวกรีสอร์ต โฮมสเตย์ แนะนำเลยครับ อาจจะฟินก็เป็นได้

ชอบดอกไม้

สวยๆๆ

วิวอีกมุมของสะพานมอญ

ขับรถขึ้นมาตามป้ายบอกทางก็มาถึง

จุดที่ 9 "วัดวังก์วิเวการาม" วัดหลวงพ่ออุตตมะ นั่นเอง

มุมถ่ายรูปที่ทุกคนมาต้องห้ามพลาด



จุดที่ 10 "เจดีย์พุทธคยา"

มุมเจดีย์ที่สวยสง่า

หิวแล้ว แวะกินเตี๋ยวสักหน่อย



จุดที่ 11 "ร้านก๋วยเตี๋ยวหมู เจ๊พร" อยู่ตรงบริเวณหน้ากองร้อยนะครับ คนเยอะมาก

จุดที่ 12 "จุดลงเล่นน้ำ น้ำตกซองกาเลีย"



ทางไปด่านเจดีย์สามองค์ อยู่ตรงบริเวณสะพานแม่น้ำซองกาเลีย อ.สังขละบุรี ด้านในจะมีร้านค้าบริการมากมาย ร้านอาหารเอย น้ำรสชาติต่างๆเอย 555 แพรับประทานอาหารริมแม่น้ำเอย บริการเช่าห่วงยางเอย ห้องน้ำ ห้องส้วม ที่จอดรถ ทีครบครัน พร้อมต้อนรับทุกคนที่มาเยือนครับผม

วิวก็สวย น้ำก็เย็น น่าเล่น น่านอนแช่มากครับขอบอก

จุดสุดท้ายของค่ำคืนนี้



จุดที่ 13 "ถนนคนเดินสังขละบุรี"



เรื่องอาหารที่ถนนคนเดิน ว่ามีอะไรดี อะไรเด็ด ที่ไปแล้วต้องห้ามพลาด ด้วยผมจะทำแยกออกไปอีกทีนะครับ รอติดตามคอนเท้นใหม่ได้ในเร็วๆนี้นะครับ



แต่ตอนนี้ดูรูปน้องๆ ที่มาหาทุนการศึกษา โดยการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของชาวมอญ ให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้ชมกัน

ใครที่ไปเที่ยวอย่าลืมเข้าไปให้กำลังใจน้องๆกันนะครับ

น้องๆ น่ารักมาก ใครไปถ่ายรูปกับน้องๆได้นะครับ

งานศิลปะก็เจ๋ง

Day 03 : วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560

"วันแห่งการร่ำลา" สังขละบุรีแล้วสิน่ะ

มาแค่ 3 วันยังผูกพันที่นี่ได้ขนาดนี้ สัญญาว่าจะกลับมาหารอยยิ้มเหล่านี้อีกนะ

พี่จะเก็บรอยยิ้มอันบริสุทธิ์ของน้องๆไว้ในความทรงจำตลอดไป ❤❤



รัก สังขละบุรี

ตอนมา มาแลบ Slow life ตอนกลับ ขอกลับแบบเร่งรีบบ้าง แต่เหมือนไม่ค่อยต่างกัน555



ซื้อตั๋วรถตู้ สาย สังขละบุรี - กาญจนบุรี

รถออกเวลา 09.40

ถึงกาญจนบุรี ประมาณ 13.30 ใช้เวลาไป 4 ชั่วโมง เร็วกว่าเจ้าหวานเย็นชั่วโมงนึง



และนี่เป็นวิวข้างทางส่งท้ายทริป

"3 วัน 2 คืน สังขละบุรี ก็เหงาเหมือนกาญฯ เนาะเนาะ"



ขนาดวิวข้างทางยังสวยขนาดนี้ ถ้าคุณไม่ไปเยือนถือว่าพลาด พลาดมาก ถ้ามีโอกาสขอให้ @สังขละบุรี เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในทริปของคุณ

รับรองว่าจะไม่เสียใจแน่นอน

สุดท้ายขอบคุณเพจ @สังขละบุรี

ขอบคุณทุกคนที่คอยติดตามกันนะครับ

เจอกันใหม่ ในทริปหน้ากับ

วิ ศ ว ะ พ า เ ที่ ย ว

ขอบคุณครับ

Trip 04/60

(10/02/60-12/02/60)



ใครที่รัก

ใครที่ชอบ

สังขละบุรี

ช่วยกดโหวตรีวิวนี้หน่อยนะครับ

ขอบคุณมากๆๆ นะครับ



ติดตามเพิ่มเติมได้ที่เพจ : วิ ศ ว ะ พ า เ ที่ ย ว

https://web.facebook.com/Widsawaphatiew/?ref=bookmarks

คืนที่ 1 10/02/60

ที่พักคืนแรกเป็นกางจองล่วงหน้านะครับ เพราะช่วงเทศกาลกลัวไม่มีที่นอน ซึ่งจองล่วงหน้าก่อนแค่ 2 วัน กระทันหันไปมั้ย555 ดีนะยังว่างอยู่ นั่นก็คือที่

"B homestay"

อยู่ใกล้กับสถานีตำรวจสังขละบุรี

ห่างจากถนนคนเดิน 200 เมตร

ห่างจากสะพานมอญ ประมาณ 900 เมตร สามารถเดินไปหรือขับมอเตอร์ไซค์ไปได้

ที่พัก ไม่มีทีวี ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น

มีบริการ

-ฟรี wifi

-กาแฟ โอวัลติน แครกเกอร์ ให้รับประทานตลอด 24 ชั่วโมง

-มีผลไม้ตามฤดูกาลจากสวนของทางโฮมสเตย์ให้รับประทานอีกด้วย

-มีบริการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ วันละ 250 บาท เวลา 24 ชั่วโมง ค่าน้ำมันเติมเองนะครับ



ในส่วนของห้องพักมีทั้งแบบห้องแอร์ ห้องพัดลม และมีบริเวณกางเต็นท์ให้ด้วย

ซึ่งห้องที่ผมจองเป็นแบบห้องพัดลมห้องใหญ่ ราคา คืนละ 500 บาท นอนได้ 2 คน สามารถเสริมได้ประมาณ 2-3 ท่า



ใครสนใจสามารถติดต่อสอบได้ที่เบอร์ 094-0484548

Facebook: https://web.facebook.com/B.HomeStaySangkhlaburi/



เพิ่มเติม

เวลา check in : หลัง 12.00 น

เวลา check out : ก่อน 12.00 น



ปล. ในส่วนของราคาที่พักในช่วงเทศกาลวันหยุดจะแพงกว่าช่วงวันธรรมดา สามารถโทรสอบถามทางโฮมสเตย์ได้ครับผม



คืนที่ 2 11/02/60

คืนนี้พักที่ฝั่งมอญนะครับ ซึ่งบังเอิญโทรไปสอบถามแล้วป้าแกบอกว่างพอดี โชดดีไปสำหรับคืนนี้

"สมหมาย โฮมสเตย์" ที่พักฝั่งมอญ เป็นโฮมสเตย์ที่ไม่ไกลจากสะพานมอญ เดินประมาณ 2-3 นาที ก็ถึงแล้ว ถ้าไม่หลงไปที่อื่นนะ555

ที่โฮมสเตย์ ยังมีร้านอาหารแสนอร่อย ดูได้จากคนจะเยอะไปไหน

มีบริการ เรือนำเที่ยว

และยังสามารถสั่งชุดใส่บาตร ได้อีกด้วย



ในส่วนของห้องพัก จะมีทีวี เครื่องทำน้ำอุ่น มีห้องน้ำในตัว

ห้องพักจะมีทั้งห้องแอร์และก็พัดลม

ซึ่งห้องแอร์สามารถพักได้ตั้งแต่ 1-5 คนเลยนะครับ

คืนนี้ผมนอนห้องพัดลมครับ ไม่ต้องกลัวร้อนนะครับ อากาศเย็นมาก ห่มนวมสองผืนยังเย็นเลยอะ555 หนาวมาก

ซึ่งห้องแบบพัดลมสามารถพักได้ 2 ท่าน ราคาคืนละ 600 บาท



ใครสนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 089-0790969



เพิ่มเติม

เวลา check in : สามารถเข้าพักเวลาไหนก็ได้

เวลา check out : สามารถออกเวลาไหนก็ได้



ปล. ในส่วนของราคาที่พักในช่วงเทศกาลวันหยุดจะแพงกว่าช่วงวันธรรมดา สามารถโทรสอบถามทางโฮมสเตย์ได้ครับผม



สรุปค่าใช้จ่ายทริป "3 วัน 2 คืน สังขละบุรี ก็เหงาเหมือนกาญฯ เนาะเนาะ"

วิ ศ ว ะ พ า เ ที่ ย ว

 วันพุธที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.11 น.

ความคิดเห็น